AIS ปลื้ม “พอยท์เพย์” แบ่งเบาภาระค่าครองชีพคนไทย เผยคนละครึ่ง ดันยอดแลกคะแนนโต 3 เท่า ร้านค้าถุงเงินทะลุ 5 แสนร้านค้าทั่วไทย

รายงานข่าว เปิดเผยว่า จากความร่วมมือระหว่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS และ ธนาคารกรุงไทย เปิดตัวโครงการ “พอยท์เพย์” ที่ให้ลูกค้า AIS สามารถใช้คะแนนสะสม มาเป็นส่วนลดเงินสดได้กับร้านค้าถุงเงินที่อยู่ในระบบของธนาคารกรุงไทย ไปเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ผลตอบรับทั้งจากลูกค้าและร้านค้าถุงเงินเป็นจำนวนมาก นับเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันของลูกค้าและคนไทย อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายให้ร้านค้ารายย่อยเกิดรายได้หมุนเวียนอีกด้วย

ล่าสุด ภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง กับโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้การใช้จ่ายของลูกค้ากลับมาคึกคัก ส่งผลให้ยอดการแลกคะแนนของลูกค้าพุ่งกว่า 3 เท่า อีกทั้งยังเพิ่มร้านค้าถุงเงินจาก ร้านอาหารและเครื่องดื่มไปยังกลุ่ม ร้านขายของชำที่ตอนนี้มีจำนวนกว่า 500,000 ร้านค้าทั่วประเทศไทย นับเป็นการตอกย้ำเป้าหมายของโครงการที่มุ่งแบ่งเบาภาระของคนไทยและสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับร้านค้ารายย่อย โดยลูกค้าสามารถใช้สิทธิพิเศษแบบ 2 ต่อ คือการใช้คะแนนเอไอเอสพอยท์ไม่จำกัดยอดขั้นต่ำ ทุกๆ 2 คะแนน เท่ากับ 1 บาท ควบคู่ไปกับการใช้สิทธิคนละครึ่ง

นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล ผู้บริหารหน่วยธุรกิจดูแลลูกค้าและสิทธิประโยชน์ AIS กล่าวว่า พอยท์เพย์ เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการทำงานเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของคนไทย โดย AIS ยังคงทำงานร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย อย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมต่อร้านค้าถุงเงินให้เข้ามาเป็นร้านค้าที่ลูกค้า AIS สามารถนำคะแนนสะสมมาและแทนเงินสดใช้ชำระค่าสินค้าได้

ทั้งนี้ หลังจากโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ที่เริ่มให้ผู้บริโภคใช้สิทธิกันไปเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา มียอดการแลกคะแนนกับร้านค้าถุงเงินเพิ่มสูงขึ้นกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ จากคะแนนสะสมสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนไปยังร้านค้าเฉลี่ยเกือบ 10 ล้านบาท ในหนึ่งเดือน คาดการณ์ว่าภายในเดือนนี้จะมียอดการแลกคะแนนสะสมผ่านโครงการพอยท์เพย์สูงถึง 16 ล้านพอยท์ อีกทั้งวันนี้มีร้านค้าถุงเงินเข้าร่วมโครงการไปแล้วรวมกว่า 500,000 ร้านค้า ซึ่งได้ขยายประเภทจากร้านอาหารและเครื่องดื่ม ไปยังกลุ่มร้านขายของชำ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการใช้จ่ายของลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“โครงการพอยท์เพย์ไม่ใช่แค่การมอบสิทธิประโยชน์ หรือการสนับสนุนร้านค้ารายย่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นโครงการระยะยาวที่จะช่วยเป็นการแบ่งเบาภาระของลูกค้าในวันที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงเงินจากภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้งยังเป็นการช่วยพยุงกำลังซื้อของคนไทยให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบฟันเฟืองเศรษฐกิจต่อไปด้วยการใช้ศักยภาพด้านการเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลของ AIS อีกด้วย”