Home Blog Page 4

“CP ISAN RUN FOR CHARITY 2025” CPF ชวนเดิน–วิ่งการกุศล สมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ ช่วย รพ.มทส.–รพ.เทพรัตน์ฯ

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โดย ชมรม CPF Running Club สานต่อเจตนารมณ์ “ทำดีเพื่อสังคม” ผ่านกิจกรรมเดิน–วิ่งการกุศล “CP ISAN RUN FOR CHARITY 2025” รวมพลังพันธมิตรและนักวิ่งสายบุญกว่า 1,800 คน ร่วมส่งต่อ “พลังแห่งการให้” นำเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย รวมทั้งสิ้น 903,100 บาท สมทบทุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ มอบให้แก่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา

พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยผู้บริหารจากโรงพยาบาลทั้งสองแห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ นายบุญเสริม เจริญวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ด้านบริหารกระบวนการธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ

รองผู้ว่าฯ นครราชสีมา กล่าวชื่นชมและขอบคุณซีพีเอฟที่จัดกิจกรรมดีๆ อย่างต่อเนื่องถึง 10 ปี กิจกรรมนี้ไม่เพียงส่งเสริมสุขภาพกายและใจของประชาชน แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคี และน้ำใจของคนไทยที่ไม่ทอดทิ้งกัน เป็นแบบอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน

“งบฯสนับสนุนจากกิจกรรมในครั้งนี้ จะถูกนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาพยาบาล ถือเป็นพลังจากทุกก้าวของนักวิ่งที่ส่งต่อความหวังและคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ป่วยในพื้นที่“ ผศ.พญ.นพร อึ้งอาภรณ์ รักษาการแทนผู้อำนวยการ รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าว

ด้าน นพ.ธีรพงศ์ โศภิษฐิกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา เสริมว่า การได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งพลังแห่งความห่วงใยที่ช่วยเสริมศักยภาพระบบสาธารณสุขไทย และช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการบริการอย่างทั่วถึง

นายบุญเสริม กล่าวว่า ซีพีเอฟ จัดกิจกรรม ‘CPF Run for Charity’ อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 เพื่อส่งเสริมให้พนักงานและประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงควบคู่กับการทำความดีเพื่อส่วนรวม ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เรารวมพลังนักวิ่งทั่วประเทศ รวมระยะทางกว่า 613,000 กิโลเมตร และมอบรายได้กว่า 17 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลในหลายจังหวัด สอดคล้องตามหลักปรัชญา ‘3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน’ ของเครือซีพี คือ ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร

บรรยากาศภายในงานเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความสุขและความสามัคคี นักวิ่งและกองเชียร์ร่วมสร้างสีสันแห่งรอยยิ้ม พร้อมเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพจากแบรนด์ในเครือซีพีเอฟ อาทิ ไข่ต้มพร้อมทาน ไส้กรอก ไก่ปรุงสุก CP หมูบดชีวาผสมไข่ผำ ไก่จ๊อห้าดาว นมเมจิ และขนมปัง รวมถึง Jerhigh & Jinny ที่มอบความสุขให้ทั้งนักวิ่งและเพื่อนสี่ขาอย่างอบอุ่น

กิจกรรม “CPF Run for Charity” ครั้งต่อไป เตรียมจัดขึ้น ณ จังหวัดสงขลา ในปีหน้า เชิญชวนทุกคนมาร่วมวิ่งเพื่อส่งต่อ ”พลังแห่งการให้“ ไปด้วยกัน.

สมุทรสาครโชว์ผลงาน 2 ปีกำจัดปลาหมอคางดำ 2.9 ล.ตัว ฟื้นสมดุลแหล่งน้ำพร้อมสร้างโอกาสให้ชุมชน

0

ประมงสมุทรสาครโชว์ผลสำรวจ “ปลาหมอคางดำ” ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนความสำเร็จของการบูรณาการทุกภาคส่วนภายใต้ 7 มาตรการจัดการปลาต่างถิ่นของกรมประมง ที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา สามารถกำจัดปลาหมอคางดำได้แล้วกว่า 2.9 ล้านตัว พร้อมเปลี่ยนเป็น “โอกาสสร้างรายได้และคุณค่าให้ชุมชนและสังคม” อย่างยั่งยืน

นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า จากผลสำรวจของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาคร ในเดือนกันยายน 2568 พบว่าปริมาณความหนาแน่นของปลาหมอคางดำเฉลี่ยทั้งจังหวัดลดเหลือ 19 ตัวต่อ 100 ตารางเมตร ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกของการฟื้นฟูระบบนิเวศในพื้นที่ และสะท้อนถึงพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน เกษตรกร และชาวประมงในพื้นที่ และยังเดินหน้าดำเนินการ 7 มาตรการโครงการควบคุมและกำจัดประชากรปลาหมอคางดำต่อเนื่อง ล่าสุดร่วมกับชุมชนปล่อยปลาผู้ล่ามุ่งตัดวงจรการแพร่กระจายปลาต่างถิ่น และสร้างความตระหนักและการมีส่วนร่วมของชุมชนตั้งแต่การแจ้งเตือน การจับ การนำมาใช้ประโยชน์ เพื่อให้ปลาหมอคางดำลดจำนวนลงจนอยู่ระดับที่ควบคุมได้

ประมงจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดสมุทรสาคร สภาเกษตรกรจังหวัดสมุทรสาคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หน่วยงานในพื้นที่ ประชาชน คณะครู บุคลากร ผู้ปกครอง และนักเรียนโรงเรียนบ้านแพ้ววิทยา (ตี่ตง) โรงเรียนบ้านดอนไผ่ (อุดม-สอางค์ อุ่นสุวรรณ) โรงเรียนวัดอ่างทอง โรงเรียนวัดบางยาง เข้าร่วมกิจกรรมปล่อยปลากะพงขาวขนาด 4 นิ้วขึ้นไปรวม 10,000 ตัวในแหล่งน้ำธรรมชาติทั้ง 4 จุดในอำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอกระทุ่มแบน โดยพันธุ์ปลาที่ปล่อยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ

การปล่อยผู้ล่าในแหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญช่วยตัดวงจรการแพร่พันธุ์ของปลาหมอคางดำ นายเผดิมกล่าวว่า “มาตรการนี้จะเกิดประสิทธิภาพต้องอาศัยความร่วมมือจากชุมชนให้ช่วยกันดูแล ไม่จับปลากะพงขาวในช่วง 3 เดือนแรก เพื่อให้ปลาได้ทำหน้าที่ผู้ล่าอย่างเต็มที่ และจับได้ต่อเมื่อปลากะพงขาวโตเต็มวัย เป็นการจัดการระบบนิเวศแบบพึ่งพาธรรมชาติ ซึ่งในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ประมงสมุทรสาครได้ปล่อยปลาผู้ล่าไปแล้วกว่า 3 แสนตัว มีทั้งปลากะพงขาว ปลาอีกง เป็นต้น และยังมีแผนปล่อยอย่างต่อเนื่อง”

ประมงสมุทรสาครยังเดินหน้ามาตรการอื่นๆ ทั้งการจัดกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” จับปลาหมอคางดำ ทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมทั้งในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาสามารถนำปลาหมอคางดำออกจากระบบนิเวศได้แล้วกว่า 2.9 ล้านตัว นับเป็นสถิติที่สูงสุดในประเทศ โดยมี จุดเด่นของการมีแนวร่วมที่ดีและเข้มแข็งทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน เกษตรกร และชาวประมง อาทิ โรงงานปลาป่นในพื้นที่ ได้แก่ โรงงานศิริแสงอารำพี โรงงานท่าจีนนำไปผลิตปลาป่น และชาวบ้านนำปลาไปแปรรูปเป็นอาหารบริโภคในครัวเรือน และจำหน่ายสร้างรายได้เสริม

อีกหนึ่งนวัตกรรมการจัดการ คือ โครงการ “ศูนย์การเรียนรู้ของเสียที่ไม่เสีย (Waste, not wasted)” ที่ประมงสมุทรสาครร่วมกับเกษตรกรอำเภอบ้านแพ้ว นำปลาหมอคางดำไปหมักเป็น น้ำหมักชีวภาพ สำหรับให้เกษตรกรในพื้นที่นำไปใช้ โครงการนี้ช่วยกำจัดปลาหมอคางดำออกจากระบบได้ถึง เดือนละกว่า 6,000 กิโลกรัม หรือปีละ 72,000 กิโลกรัม และเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกษตรกรนำไปใช้ปรับปรุงดินแทนปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นโครงการเพิ่มเติมต่อยอดจากความร่วมมือกับ การยางแห่งประเทศไทย กรมพัฒนาที่ดิน และหมอดินในพื้นที่ ในการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อส่งต่อให้เกษตรกร

อีกความร่วมมือในการแก้ปัญหาปลาต่างถิ่นเชิงสร้างสรรค์ คือโครงการ หมักน้ำปลาจากปลาหมอคางดำ ภายใต้แบรนด์ “หับเผยสมุทรสาคร” ที่ประมงสมุทรสาครร่วมกับ เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร และ ซีพีเอฟ เพื่อสร้างทักษะอาชีพให้ผู้ต้องขัง พร้อมเพิ่มมูลค่าให้ปลาหมอคางดำ นำไปสู่การเป็นผลิตภัณฑ์โอทอปของจังหวัดต่อไป

นอกจากการควบคุมและกำจัด ประมงสมุทรสาครยังให้ความสำคัญกับการ ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ โดยปล่อยพันธุ์ปลาพื้นถิ่น เช่น ปลาตะเพียน ปลาอีกง และกุ้งทะเลกว่า 7 ล้านตัว ลงในแหล่งน้ำธรรมชาติ

นายเผดิม กล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่แค่จำนวนปลาหมอคางดำที่ลดลง แต่คือพลังความร่วมมือของคนทั้งจังหวัด ที่เปลี่ยนปัญหาให้กลายเป็นพลังสร้างสรรค์ เพื่อคืนความสมดุลของระบบนิเวศและสร้างความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง”

AIS อัปเลเวลความปลอดภัยไซเบอร์ เปิดตัวบริการ “1185 แชะแล้วแชร์ แจ้งเบาะแส SMS หลอกลวง” ยกระดับความสะดวกให้ลูกค้าแจ้งเบาะแสมิจฉาชีพ

0

AIS เดินหน้าส่งเสริมความปลอดภัยไซเบอร์ให้ลูกค้าเอไอเอส เปิดตัวบริการใหม่ “1185 แชะแล้วแชร์ แจ้งเบาะแส SMS หลอกลวง” บริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถแจ้งเบาะแสมิจฉาชีพได้ง่าย แม่นยำ และรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถส่งภาพหน้าจอที่แสดงข้อความ SMS จากมิจฉาชีพไปที่ SMS หมายเลข 1185 ระบบจะตรวจสอบและแจ้งผลกลับภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมดำเนินการบล็อกข้อความมิจฉาชีพเหล่านั้นไม่ให้ส่งไปยังลูกค้าท่านอื่นๆ ได้อีก โดยแจ้งได้ฟรีไม่จำกัดและไม่มีค่าใช้จ่าย AIS ขอเชิญชวนลูกค้าร่วมกันแจ้งเบาะแสมิจฉาชีพ เพื่อรวมพลังสร้างเครือข่ายความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ปกป้องตนเองและผู้ใช้งานรายอื่นๆ ให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลักดันปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างแข็งแกร่ง

ลูกค้า AIS ร่วมแจ้งเบาะแส SMS มิจฉาชีพได้ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน เพียงกดบันทึกภาพหน้าจอ SMS ที่พบข้อความจากมิจฉาชีพ จากนั้นเข้าแอปพลิเคชัน SMS แล้วแนบภาพดังกล่าว ส่งไปที่เบอร์ 1185 โดยไม่ต้องพิมพ์ข้อความใดๆ เพิ่มเติม ระบบจะตอบกลับข้อความเพื่อเร่งตรวจสอบ ภายใน 1-2 วินาที และแจ้งผลลัพธ์กลับให้ทราบทาง SMS ภายใน 24 ชั่วโมง หากพบว่าเป็นข้อความจากมิจฉาชีพจริง ระบบจะทำการบล็อกข้อความและ Link URL ที่แนบมากับ SMS เหล่านั้นไม่ให้สามารถส่งต่อไปได้อีก พร้อมขยายผลปิด Sender Name และแจ้งไปยัง กสทช. และเครือข่ายปลายทางเพื่อปิดกั้นความเสี่ยงของลูกค้าทุกท่าน โดยสามารถดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/consumers/lifestyle/apps-and-services/aunjai-cyber/mms-1185

เมืองไทยยูนิตลิงค์ เปิดตัว mDesign เพิ่มทางเลือกใหม่ ‘จ่ายเบี้ยสั้น’ คุ้มครองชีวิตยาว พร้อมบริการบริหารพอร์ตฟรี

0

เมืองไทยประกันชีวิต เพิ่มตัวช่วยสร้างพอร์ตชีวิตของคุณให้เติบโตอย่างมั่นคง ด้วยประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign จ่ายเบี้ยสั้น 3-5-10 ปี รับความคุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี การันตีคุ้มครองชีวิตระหว่างช่วงเวลา  ชำระเบี้ย

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าตอบโจทย์การสร้างความมั่นคงเพื่อคนที่คุณรัก ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านประกันชีวิตและสุขภาพ ที่คอยเคียงข้างดูแลในทุกช่วงของชีวิต (Trusted Lifetime Partner) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign แบบชำระเบี้ย 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี ทางเลือกที่ไม่ต้องชำระเบี้ยนาน แต่คุ้มครองชีวิตถึงอายุ 99 ปี(1)

mDesign เป็นแบบประกันชีวิตควบการลงทุนที่พัฒนาขึ้นมาอีกระดับ ให้คุณสร้างความคุ้มครองชีวิตได้สูงเท่าที่ต้องการ ตอบโจทย์การสร้าง“หลักประกันก้อนใหญ่” ได้ด้วย “เงินก้อนเล็ก” สมัครได้ตั้งแต่อายุ 30 วัน – 75 ปี(2) เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 20,000 บาท ต่อปี(2) เลือกชำระเบี้ยประกันภัยได้ 4 แบบ คือ ชำระเบี้ยรายงวดถึงอายุ 98 ปี และแบบใหม่ชำระเบี้ย 3 ปี 5 ปี หรือ10 ปี ความคุ้มครองขั้นต่ำ 3 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลัก(2) เพื่อเพิ่มโอกาสนำเงินไปลงทุนมากขึ้น และไม่จำกัดความคุ้มครองชีวิตสูงสุด เบาใจได้ด้วยการการันตีความคุ้มครองชีวิต จำนวน 3 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลัก แม้มูลค่ากรมธรรม์จะเท่ากับหรือน้อยกว่าศูนย์ (Non – Lapse Guaranteed)(3) หมดกังวลด้วยทุนประกันชีวิตที่ปรับเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของเงินลงทุน พร้อมเพิ่มโอกาสการลงทุนที่มากกว่า ด้วยค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ที่ชัดเจน ไม่ซ้ำซ้อน และยังสามารถเลือกเพิ่มเติมความคุ้มครองสุขภาพและโรคร้ายแรงได้

ทั้งนี้ mDesign เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการวางแผนชีวิตเพื่อเป้าหมายที่ชัดเจน ด้วยระยะเวลาการชำระเบี้ยที่แน่นอน ต้องการความคุ้มครองที่สูง มีความเข้าใจเรื่องการลงทุน ต้องการความยืดหยุ่น สามารถเพิ่ม-ลดหรือหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัยได้ พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน เพื่อเตรียมพร้อมส่งต่อความมั่นคงด้วยประกันชีวิต

“mDesign เป็นประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกรับความคุ้มครองชีวิตได้สูง และยังสามารถจัดพอร์ตกองทุนรวมได้หลากหลาย เข้าถึงกองทุนคุณภาพที่บริษัทฯ ได้คัดสรรจาก บลจ.ชั้นนำ ทั้งยังมี MTL Portfolio Management บริการบริหารพอร์ตการลงทุนโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการลงทุน ที่จะดูแลการคัดเลือกกองทุนรวม กำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม ตลอดจนติดตามผลการดำเนินงาน รวมถึงปรับเปลี่ยนการลงทุนให้ทันตามสถานการณ์ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่มีเวลาบริหารพอร์ตการลงทุน ต้องการให้มีการติดตามพอร์ตการลงทุนยูนิตลิงค์ให้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บรรลุทุกเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นใจ” นายสาระ กล่าว

ลูกค้าที่สนใจประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign สามารถเลือกวางแผนความคุ้มครองชีวิตและการลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิต หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ โทร. 1766

AIS ฉลอง 35 ปี เสริมพลังว้าวต่อเนื่อง ลุ้นสิทธิ์จับรางวัล! เบอร์โฟร์เลขมงคล เบอร์สวยขั้นเทพ 8888 และ 9999 เอาใจสายมู เพียงใช้ AIS Points 1 คะแนน ลุ้นรับความเฮง! 5 รางวัล

0

เอไอเอส ฉลองครบรอบ 35 ปี ตอกย้ำความผูกพันและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศกว่า 51 ล้านราย แจกว้าวสะเทือนจักรวาลอย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ “AIS 1 POINT 12 WEEKS 12 WOW” โดยว้าวนี้เอาใจลูกค้าสายมูโดยเฉพาะ ลุ้นสิทธิ์จับรางวัล! เบอร์โฟร์เลขมงคล เบอร์สวยขั้นเทพระดับ VVIP ลงท้าย 8888 หรือ 9999 เป็นเบอร์มงคลคู่แท้ ถือเป็นเลขแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย เสริมอำนาจ วาสนา บารมี ที่สำคัญเบอร์โฟร์นี้ ไม่กำหนดแพ็กเกจขั้นต่ำในการใช้งาน มากถึง 5 เบอร์ 5 รางวัล ให้ลูกค้าเอไอเอสได้ร่วมสนุกและลุ้นเบอร์โฟร์เลขมงคลระดับพรีเมี่ยมได้แบบง่ายๆ เพียงใช้ AIS Points 1 คะแนน แลก 1 สิทธิ์ จับรางวัล ผ่านแอป myAIS ยิ่งแลกมาก ยิ่งมีสิทธิ์มาก! ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2568 – 23 ตุลาคม 2568 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://m.ais.co.th/9WHxlJxtG

เรื่อง Money กับคนรุ่นใหม่#3 ตอนที่ 5 – เส้นทางผู้ลงทุน

0

การเป็นผู้ลงทุนคุณภาพไม่ได้หมายถึงแค่การรู้จักวิธีการซื้อขายหลักทรัพย์เท่านั้น แต่คือการหาความรู้ ติดตามข้อมูลข่าวสาร เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท และลงทุนอย่างสุจริต ที่สำคัญต้องคิดถึงผลตอบแทนและความยั่งยืนของโลกและสังคมไปพร้อมกันด้วย โดยผู้ลงทุนคุณภาพรุ่นใหม่ต้องลงทุนอย่างรอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม และสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับตนเองและประเทศ

Money กับคนรุ่นใหม่ #3 จะชวนให้เห็นว่าแบบไหนที่เรียกว่าผู้ลงทุนคุณภาพ

เรียนรู้การลงทุน และ ติดตามเราได้ที่
INVESTORY Website: https://investory.setgroup.or.th
Line (Official Account) : @INVESTORYMuseum
SET Website: https://www.set.or.th
Facebook : / set.or.th
YouTube : / setthailand
TikTok: / set_thailand
Instagram : / set_thailand
Twitter : / set_thailand

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมเสวนาสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนอาเซียน ในงาน APAC Macro Quantitative Conference ที่ฮ่องกง

0

อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมเสวนาในหัวข้อ “ASEAN Emerging Market Liquidity and Considerations for Systematic Trading” พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียน ภายในงาน APAC Macro Quantitative Conference ที่จัดโดย J.P. Morgan เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มสภาพคล่องในตลาดเกิดใหม่ การพัฒนาโครงสร้างตลาดและเทคโนโลยี รวมถึงบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความยั่งยืนของตลาดทุนอาเซียน โดยมีผู้จัดการกองทุนเข้าร่วมงานมากกว่า 100 ราย ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568

นอกจากนี้ คณะผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้เข้าพบหารือกับกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Funds) และกองทุนภาครัฐรวมถึงผู้จัดการกองทุนจากฮ่องกง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกด้านแนวโน้มการลงทุนในไทย และเสริมสร้างความร่วมมือกับนักลงทุนสถาบันระดับโลกในการพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง

17 ตุลาคมนี้! ชวนชมศึกตัดสินนวัตกรรมแห่งปี 10 ทีมสุดท้ายโครงการ JUMP THAILAND HACKATHON 2025 ชิงถ้วยพระราชทานฯ และเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท

0

AIS ACADEMY ขอเชิญชวนเข้าชมและร่วมเป็นกำลังใจให้กับ 10 ทีมสุดท้ายของโครงการ JUMP THAILAND Hackathon 2025 จากผู้สมัครทั่วประเทศกว่า 295 ทีม โดยแต่ละทีมได้ผ่านการฝึกฝนและเวิร์กช็อปสุดเข้มข้นจาก AIS ACADEMY จนพร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นสู่เวที รอบ Demo Day เพื่อเผยโฉมนวัตกรรมที่จะเพิ่มโอกาสให้ผู้สูงอายุหรือคนพิการสามารถมีงานทำ มีรายได้ และความมั่นคงอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งใช้ศักยภาพและเทคโนโลยีร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยสู่อนาคตที่ดีกว่า มาร่วมเป็นสักขีพยานและส่งแรงเชียร์ไปด้วยกัน ในวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 ในงาน AIS ACADEMY for THAIs at LIFE FEST 40+ ณ @ centralwOrld PULSE ชั้น 7

สำหรับ 10 ทีมสุดท้าย โครงการ JUMP THAILAND Hackathon 2025 เตรียมประชันไอเดียสุดเข้มข้นเพื่อชิงรางวัลอันทรงเกียรติ ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท และรางวัล Popular Vote ที่สะท้อนพลังความคิดสร้างสรรค์จากหัวใจคนรุ่นใหม่ โดยทีมไฟนอลที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ได้แก่

  1. ทีม Teletubbies (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี)

กับนวัตกรรมที่ประยุกต์การใช้ระบบ IoT ในการช่วยให้ผู้สูงอายุทำงานด้านประมงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

  1. ทีมหม่าม้าส่งมาแข่ง (สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)

กับแพลตฟอร์มที่ช่วยสร้างงาน Data Annotation ให้ผู้สูงอายุ

  1. ทีม Jump to Global (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ & มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง & มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)

กับเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยแปลงงานฝีมือเป็นรูปภาพสร้างเรื่องราวขึ้นขายออนไลน์สร้างโอกาสให้กับผู้สูงอายุ

  1. ทีมตัวจี๊ดพร้อมจั๊มพ์ (สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)

กับเครื่องมือช่วยให้คนพิการทางการได้ยินสามารถไลฟ์ขายของได้

  1. ทีมไหว้วาน (สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)

กับแพลตฟอร์มจับคู่ผู้สูงอายุกับงานใกล้บ้าน

  1. ทีม Taste of Thai (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี & สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น & มหาวิทยาลัยรามคำแหง)

กับ Web Application เพื่อเชื่อมโยงผู้สูงอายุกับตลาดการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ผ่านกิจกรรมการทำอาหารไทย

  1. โปรเจคตามสั่ง PSU (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์)

กับแขนกลอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนพิการทางการเคลื่อนไหวสามารถทำงานได้

  1. ทีม DeafAbility (มหาวิทยาลัยมหิดล)

กับ Platform Upskill & Job Matching สำหรับคนพิการทางการได้ยิน

  1. ทีม Saan (มหาวิทยาลัยขอนแก่น)

กับแพลตฟอร์ม Online ขายของสำหรับผู้สูงอายุโดยรับสมัครจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือ

  1. ทีม Eye Touch (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย & มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)

กับเทคโนโลยีที่ช่วยในการฝึกอบรมและพัฒนาการนวดแผนไทยให้กับคนพิการทางการมองเห็น

 โดยทุกทีมต่างพร้อมปลดปล่อยศักยภาพด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งยุคปัญญาประดิษฐ์ เพื่อนำมาขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและคนพิการให้ก้าวสู่การมีงานทำ มีรายได้ และความยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 5 ท่าน ที่จะมาร่วมเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันและตัดสินผลงาน ดังนี้

·      คุณสนธยา บุณยภูษิต อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

·      คุณภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

·      ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษา สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

·      คุณมณฑา ไก่หิรัญ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

·      คุณวีรพล สวรรค์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท อีมิแน้นท์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับน้อง ๆ นิสิต นักศึกษา 10 ทีมสุดท้ายของโครงการ JUMP THAILAND Hackathon 2025 ในงาน AIS ACADEMY for THAIs at LIFE FEST 40+ วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 14.00 น. ณ @centralwOrld PULSE ชั้น 7 ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เพจ AIS Academy

เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ กสิกรไทย มอบความอุ่นใจพร้อมโปรโมชันคืนคุ้ม แก่สมาชิกเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด เพียงซื้อหรือชำระเบี้ยประกันภัย รับเครดิตเงินคืนสุดคุ้ม

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ตอกย้ำนโยบายการสร้างประสบการณ์ที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยการมอบโปรโมชันพิเศษ สำหรับผู้ซื้อหรือชำระเบี้ยประกันภัยของเมืองไทยประกันชีวิต ผ่านบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด 

โดยโปรโมชันนี้ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการวางแผนทางการเงินควบคู่กับความคุ้มครอง  ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ มอบทั้งเครดิตเงินคืนและคะแนนสะสมจากการใช้จ่ายที่เหนือกว่าบัตรทั่วไป โดยซื้อหรือชำระเบี้ยประกันภัยเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด รับความคุ้มค่าเหนือใคร ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 – 30 พฤศจิกายน 2568 นี้

ต่อที่ 1: รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10,000 บาท/ท่าน ตลอดรายการ

พิเศษ เฉพาะผู้ถือบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด รับเครดิตเงินคืน 0.25% จากยอดชำระเบี้ยประกันภัย แบบไม่จำกัดวงเงิน พร้อมรับเครดิตเงินคืนตามยอดใช้จ่ายต่อเซลล์สลิป ดังนี้

ยอดใช้จ่ายต่อเซลล์สลิปบัตรเครดิตวีซ่ากสิกรไทย รับเครดิตเงินคืนคะแนนสะสม เทียบเท่าเครดิตเงินคืน**พิเศษ บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด รับเพิ่ม 0.25% จากยอดใช้จ่าย***
15,000 – 29,999 บาท100 บาท600 – 1,199 คะแนน เทียบเท่า 60 – 119 บาท37 – 75 บาท
30,000 – 59,999 บาท200 บาท1,200 – 2,399 คะแนน เทียบเท่า 120 – 239 บาท75 – 150 บาท
60,000 – 99,999 บาท450 บาท2,400 – 3,999 คะแนน เทียบเท่า 240 – 399 บาท150 – 250 บาท
100,000 – 499,999 บาท750 บาท4,000 – 19,999 คะแนน เทียบเท่า 400 – 1,999 บาท250 – 1,250 บาท
500,000 ขึ้นไป4,000 บาท20,000 คะแนน เทียบเท่า 2,000 บาท
(กรณีรูด 500,000 บาท)
1,250 บาท (กรณีรูด 500,000 บาท)
1,000,000 บาทขึ้นไปเฉพาะบัตรเดอะวิสดอมกสิกรไทยและบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ดระดับ Pink Gold10,000 บาท40,000 คะแนน เทียบเท่า 4,000 บาท
(กรณีรูด 1,000,000 บาท)
2,500 บาท (กรณีรูด 1,000,000 บาท)

หมายเหตุ: จำกัดการรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10,000 บาท/ท่าน ตลอดรายการ เฉพาะบัตร THE WISDOM กสิกรไทย และบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ดระดับ Pink Gold จึงจะสามารถรับเงินคืน 10,000 บาทได้

 วิธีลงทะเบียนต่อที่ 1: พิมพ์ MTL [เว้นวรรค] หมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่ง SMS มาที่ 4545888

ต่อที่ 2: แลกรับเครดิตเงินคืน 10% ด้วย K Point ลูกค้าสามารถใช้คะแนน K Point เพื่อแลกรับเครดิตเงินคืนได้ 2 แบบ  โดยแบบที่ 1 ทุก 1,000 คะแนน = เครดิตเงินคืน 100 บาท  และแบบที่ 2  แลกเท่ายอดใช้จ่ายเพื่อรับเครดิตเงินคืน 10% ทั้งนี้ จำกัดการแลกสูงสุด 500,000 คะแนน/ท่าน ตลอดรายการ 

วิธีลงทะเบียนต่อที่ 2: พิมพ์ KIR [เว้นวรรค] หมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย [เว้นวรรค] จำนวนยอดใช้จ่าย (ไม่ใส่จุดทศนิยม) ส่ง SMS มาที่ 4545888

โดยทั้งโปรโมชันนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านการบริหารค่าใช้จ่ายและการสะสมคะแนนเพื่อแลกรับความคุ้มค่า สำหรับผู้ที่สนใจสมัครบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด สามารถศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์เมืองไทยประกันชีวิต www.muangthai.co.th หรือโทร.1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ K Contact Center 02-888-8888

AIS เปิดผลลัพธ์แคมเปญ“สัญญาณยืดเวลาโลก” ช่วยยืดเวลาโลก จัดการขยะE-Waste อย่างถูกวิธีกว่า 1,212,272 ชิ้น

0

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ในฐานะ HUB of E-Waste ผู้นำการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ตอกย้ำบทบาทองค์กรดิจิทัลเพื่อความยั่งยืน เดินหน้าสร้างพลังความร่วมมือครั้งใหญ่กับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เนื่องในวาระ 14 ตุลาคม ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ International E-Waste Day “วันขยะอิเล็กทรอนิกส์สากล” ในกิจกรรม “วัน อ.ว. อีเวสต์เดย์ ภายใต้แนวคิด Signal of Sustainable Future : สัญญาณยืดเวลาโลก เชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรับฟัง “สัญญาณจากโลก” และร่วมกัน “ยืดเวลาให้โลก” ให้น่าอยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา AIS และพันธมิตรได้ร่วมกันเก็บรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกวิธีได้ทั้งหมด 1,212,272 ชิ้น ช่วย “ยืดเวลาโลก” ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 556,573 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO₂e) หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้จำนวน 46,380 ต้น เป็นหลักฐานตอกย้ำถึงพลังความร่วมมือของประเทศไทยที่นานาชาติสามารถมองเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “AIS มุ่งมั่นขับเคลื่อนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด ‘การสร้างการเติบโตร่วมกันของคนและสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล’ เราจึงเดินหน้าเป็นศูนย์กลางการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย หรือ HUB of E-Waste เพื่อทำงานร่วมกับพันธมิตรกว่า 250 องค์กร ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ขับเคลื่อนภารกิจ ‘คนไทยไร้ E-Waste’ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อโลกกำลังส่งสัญญาณเตือนให้เราตระหนักถึงวิกฤติขยะอิเล็กทรอนิกส์ เราต้องร่วมมือกันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่ถูกวิธี เปลี่ยนเป็นพลังในการยืดเวลาให้โลกอยู่กับเราได้นานที่สุด โดยที่ผ่านมา AIS ได้ร่วมมือกับพันธมิตร และสมาชิกกลุ่ม Singtel จากหลากหลายประเทศ ร่วมกันสานต่อภารกิจแคมเปญระดับภูมิภาค “สัญญาณยืดเวลาโลก – Signals of Sustainable Future” เพื่อส่งเสริมการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน และสร้างแรงบันดาลใจในการตระหนักรู้ให้กับผู้คนกว่า 1.9 พันล้านคนทั่วโลก

และเพื่อต้อนรับวัน International E-Waste Day วันขยะอิเล็กทรอนิกส์สากล  AIS ขอประกาศว่าเราเก็บรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกวิธีได้ทั้งหมด 1,212,272 ชิ้น ช่วย “ยืดเวลาโลก” ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 556,573 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (COe) นับเป็นที่ประจักษ์ถึงศักยภาพและความร่วมมือกันระหว่างประเทศ นับจากนี้ AIS ก็ยังคงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง”

ภายในงานมีกิจกรรมไฮไลท์ด้วยการเชิญชวนพันธมิตร และลูกค้าชาว AIS SIAM ร่วมกิจกรรม “มาทิ้ง E-Waste” เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี  พร้อมบริการจากไปรษณีย์ไทย ที่มารับขยะ E-Waste ถึงที่ เพื่อส่งต่อให้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี (Zero E-Waste to Landfill) โดย AIS หวังว่าในอนาคตประเทศไทยจะมีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในพฤติกรรมของประชาชน และผลักดันสังคมให้เข้าสู่แนวทางการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ร่วมติดตามภารกิจยืดเวลาโลก และร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจในการดูแลโลกของเราไปด้วยกัน ได้ที่ https://www.facebook.com/ais.sustainability/?locale=th_TH