Home Blog Page 372

ทิพยประกันภัย ส่ง “ประกันภัยไซเบอร์สำหรับองค์กร” รับมืออาชญากรรมไซเบอร์

0

ทิพยประกันภัย จับมือ ACIS รุก “ประกันภัยไซเบอร์สำหรับองค์กร” เตรียมความพร้อมรับมืออาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยประกันภัยไซเบอร์สำหรับองค์กรนี้ จะช่วยบริหารความเสี่ยง สร้างความมั่นใจให้องค์กรในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลหรือการบริหารจัดการจะอยู่บนระบบไอทีที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายต่างๆ พร้อมตรวจเช็ค IT Security จัดเตรียมผู้เชี่ยวชาญด้านไอที บริษัทกฎหมายชั้นนำ บริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ให้คำแนะนำเมื่อเกิดเหตุ

​ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ฐานข้อมูลต่างๆของบริษัทและองค์กรได้มีการเชื่อมต่อ กับระบบเครือข่ายภายนอกเพื่อให้ง่ายต่อการรวบรวม และมีความเสี่ยงต่อการถูกรุกรานจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้หากไม่มีระบบป้องกันที่ดี การบริหารจัดการเรื่องข้อมูล หรือแม้กระทั่งการบริหารความเสี่ยงในการทำประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองในด้านต่างๆที่จะช่วยลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น​การประกันภัยไซเบอร์ เสมือนเป็นผู้ช่วยในการจัดการในการเตรียมความพร้อม การป้องกันต่างๆ หรือหากเกิดเหตุแล้วองค์กรต้องดำเนินการอย่างไรบ้างเพื่อระงับหรือบรรเทาเหตุการณ์ ผู้ทำประกันภัยสามารถเข้าถึงหรือใช้บริการผู้เชี่ยวชาญด้านไอที บริษัทกฎหมายชั้นนำ บริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ที่เป็นพันธมิตรเพื่อขอคำแนะนำเมื่อเกิดเหตุ ทั้งยังให้ความคุ้มครอง เช่น ความเสียหายจากการหยุดชะงักของธุรกิจ อันเนื่องมาจากระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายล่มหรือถูกโจมตี รวมถึงความผิดพลาดซึ่งเกิดจากบุคลากรหรือตัวโปรแกรม , การสูญเสียข้อมูลและการกู้ข้อมูลกลับคืน เป็นต้น ฯลฯ

เครือซีพี ยกทีมลงพื้นที่ อ.ปักธงชัย และ อ.โชคชัย นครราชสีมา เร่งช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม

0

 

นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ นำทีมผู้บริหารของบริษัทในเครือ ลงพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนักใน อ.ปักธงชัยและอ.โชคชัย จ.นครราชสีมา โดยเครือซีพี ร่วมกับบริษัทในเครือ ได้แก่ บจ.เจียไต๋ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร บมจ.ซีพี ออลล์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น บมจ.สยามแม็คโคร บจ.ซี.พี.อินเตอร์เทรดและบจ. ซีพี รีเทลลิงค์ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,000 ถุง น้ำดื่ม 7-11 และน้ำดื่มทรู จำนวน 5,500 ขวด ข้าวตราฉัตร ขนาด 5 กิโลกรัม จำนวน 600 ถุง ข้าวไข่เจียว 300 ชุด ขนมเลอแปง กาแฟมวลชน และผ้าห่ม จำนวน 600 ผืน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ โดยมี นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ นายอำเภอปักธงชัย, นายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย นายอำเภอโชคชัย  เป็นตัวแทนรับมอบ ณ หอประชุม ที่ว่าการอำเภอโชคชัย จ.นครราชสีมา โดย อ.ปักธงชัย มีผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 200 ครัวเรือน และอ.โชคชัย มีผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 200 ครัวเรือน นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่มอบให้ครอบครัวผู้ประสบภัยบ้านปรางค์พระโค ต.กระโทก อ.ปักธงชัย อีกจำนวน 50 ครัวเรือน รวมมอบให้ผู้ประสบภัยกว่า 450 ครัวเรือน 

นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านประสานกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เครือซีพี ระดมสรรพกำลังของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือร่วมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในรูปแบบต่างๆ มาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยขอขอบคุณเจ้าหน้าที่รัฐ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนอาสาสมัครทุกหน่วยงาน ที่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตและกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติต่อไป ทั้งนี้ เครือซีพีในฐานะบริษัทคนไทย ที่ดำเนินกิจการโดยยึดมั่นในหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ คือประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประโยชน์ต่อประชาชน และประโยชน์ต่อองค์กร มาโดยตลอดระยะเวลา 99 ปี ซึ่งในภาวะที่ประเทศชาติประสบภัย เครือซีพีพร้อมเข้าร่วมสนับสนุนหน่วยราชการและทุกภาคส่วน ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ในทันที 

ในวันเดียวกัน นายสุภกิต พร้อมด้วยนายจรัสชัย โชคเรืองสกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ประสบภัยในอ.โชคชัย เพื่อมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนและส่งกำลังใจให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้ และเดินทางไปที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟ อ.โชคชัย เพื่อมอบถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ด้วย

ตลอดเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา เครือซีพี โดย บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ได้มอบความช่วยเหลือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและนายอำเภอเพื่อส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จ.นครราชสีมา ได้แก่ ไข่ไก่ 22,500 ฟอง ไก่ปรุงสุก 4,000 กิโลกรัม ไก่สด 600 กิโลกรัม เนื้อหมู 400 กิโลกรัม ไส้กรอกซีพี 360 กิโลกรัม ข้าวสาร 100 กิโลกรัม อาหารพร้อมทาน 100 ชุดและ น้ำดื่ม 32,760 ขวด

ด้าน  บมจ. ซีพี ออลล์ มอบน้ำดื่ม 3,000 ขวด และไข่ไก่ 3,000 ฟอง ให้กับศูนย์ช่วยเหลือประชาชน ณ สำนักงานเทศบาลเมืองเมืองปัก ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

ส่วน กลุ่มทรูร่วมบรรเทาความเดือดร้อนสถานการณ์น้ำท่วม อ.ปากช่อง และบ้านสะแกงาม อ.ปักธงชัย มอบน้ำดื่ม ซิมทรูและรหัสโทรฟรี เล่นเน็ตฟรี แก่ผู้ประสบภัย พร้อมส่งทีมวิศวกร ดูแลโครงข่ายตลอด 24 ชม. เพื่อให้บริการไม่สะดุด สามารถสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง

และ บมจ.สยามแม็คโคร มอบน้ำดื่มแก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม พร้อมร่วมฟื้นฟูร้านค้าโชห่วยในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีม และกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร (ข้าวโพด) เครือเจริญโภคภัณฑ์ มอบข้าวตราฉัตร ให้ผู้ประสบภัยใน อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา

ซีพี ออลล์ ชวน 4 ศิลปินวาดการ์ตูน สร้างรายได้ให้กลุ่มผู้พิการ 4 จังหวัด

0

*ซีพี ออลล์ ชวน 4 ศิลปิน คิ้วต่ำ-ซิบบิล-มุนินฺ-SIRI เปิดตัวโครงการ “จากความห่วงใยสู่การให้โอกาส” พัฒนาผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก ของขวัญปีใหม่ ช่วยสร้างรายได้แก่กลุ่มผู้พิการ 4 จังหวัด

นายประสิทธิ์ ฉกาจธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารออลล์ ออนไลน์ และเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินโครงการ “ซีพี ออลล์ จากความห่วงใยสู่การให้โอกาส” Giving Ambassadors: from “Care” to “Share” โดยประสานความร่วมมือไปยังศิลปินนักออกแบบคาแรคเตอร์และองค์กรคนพิการเพื่อร่วมกันพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตัดเย็บโดยกลุ่มผู้พิการ ให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นำมาสู่ยอดจำหน่ายที่เติบโต สนับสนุนการส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้แก่คนพิการอย่างยั่งยืน

โดยได้รับเกียรติจาก 4 ศิลปินนักออกแบบคาแรคเตอร์ ได้แก่ “ปั๊ม-อนุชิต คำน้อย” เจ้าของลายเส้นคาแรคเตอร์ “คิ้วต่ำ”, “แนน-ชนิดา ตันติยาพิทักษ์” เจ้าของลายเส้นคาแรคเตอร์ “ซิบบิล”, “เมย์-มุนินทร์ สายประสาท” เจ้าของลายเส้นคาแรคเตอร์ “มุนินฺ” และ “กวาง-สิรินาฏ สาย ประสาท” เจ้าของลายเส้นคาแรคเตอร์ “SIRI” ร่วมโครงการด้วยการออกแบบลายคาแรคเตอร์เพื่อนำมาผลิตผ้าแคนวาสและที่ห้อยกระเป๋า โดยบริษัทจะนำผ้าแคนวาสไปมอบแก่องค์กรผู้พิการ 4 แห่ง ได้แก่ สมาคมรวมใจคนพิการ จังหวัดอุดรธานี, ชมรมบูรณาการอย่างยั่งยืนคนพิการ ต.ปากโทก จว.พิษณุโลก, สมาคมคนพิการจังหวัดอ่างทอง และศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจะนำไปเย็บกระเป๋าผ้าตามแบบที่กำหนด เพื่อจำหน่ายเป็นของที่ระลึก ของขวัญปีใหม่ กระเป๋าพร้อมที่ห้อยกระเป๋าชุดละ 329 บาท (จำนวนจำกัดเพียง 800 ชุด) ที่ห้อยกระเป๋าอย่างเดียวราคา 129 บาท (จำนวนจำกัดเพียง 200 ชิ้น)

รายได้ทั้งหมดหลังจากหักค่าดำเนินการ มอบให้องค์กรคนพิการทั้ง 4 แห่ง โดยไม่ได้หักค่าใช้จ่ายในการผลิตผ้าแคนวาส และที่ห้อยกระเป๋า สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อสินค้าในรูปแบบพรีออเดอร์ผ่านช่องทาง อีคอมเมิร์ซของบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด ได้แก่ App.Shopat24, www.Shopat24.com, www.24Catalog.com, All Online ใน App. 7-Eleven และ Call Center All Online โทร.1371 ได้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน 2563

รายย่อยไฟเขียว ซีพีเอฟซื้อหุ้นธุรกิจหมูในจีน ติดปีกขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำ

0

**ผู้ถือหุ้นรายย่อยอนุมัติเข้าซื้อธุรกิจสุกรในจีน 99%

**เสริมซีพีเอฟเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสุกรชั้นนำในโลก

รายงานข่าวจากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทได้รับมติอนุมัติจากผู้ถือหุ้นรายย่อย 99% ให้บริษัทย่อยเข้าซื้อธุรกิจสุกรในประเทศจีน ส่งผลให้ขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมสุกรของโลก ผู้บริหารมั่นใจเป็นประโยชน์กับบริษัทและเสริมการเติบโตในระยะยาว

นายประสิทธิ์  บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า การเข้าซื้อกิจการสุกรในประเทศจีนครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดสุกรในประเทศจีนที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกเนื่องจากจำนวนประชากรที่มากและความนิยมในการบริโภคสุกรในประเทศสูง และมีแนวโน้มการเติบโตที่รวดเร็ว  ประกอบกับการเกิดขึ้นของโรค African Swine Flu หรือ ASF ในประเทศจีนใน 3 ปีที่ผ่านมา ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน การบริหารการเลี้ยงแบบรักษาไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่ดี  การมีลูกสุกรที่แข็งแรงและระบบการเลี้ยงที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพตามมาตรฐานจึงเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ ซึ่งซีพีเอฟได้ให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้มาโดยตลอด

ปัจจุบัน บริษัทมีธุรกิจสุกรใน 7 ประเทศ ทั้งไทย เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย เริ่มลงทุนในฟิลิปปินส์ และมีการร่วมลงทุนในรัสเซีย และล่าสุดในแคนาดา การที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยอนุมัติให้ซีพีเอฟเข้าไปในธุรกิจสุกรครบวงจรในจีน จะทำให้บริษัทก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสุกรของโลก   เนื่องจากปริมาณสุกรที่เลี้ยงในประเทศจีนเกินกว่าครึ่งเป็นผลผลิตจากเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเมื่อมีการระบาดของโรค ASF ทำให้เกิดความเสียหายสูง และยังมีโอกาสจะติดโรคอีกครั้งเมื่อกลับมาเลี้ยงใหม่ ส่งผลให้อุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง การเลี้ยงสุกรจะเป็นระบบสร้างคุณค่าร่วม ซีพีเอฟวางแผนการขยายธุรกิจด้วยการส่งเสริมเกษตรกรในการเลี้ยงด้วยมาตรฐานการจัดการที่ทันสมัยปลอดภัยจากโรค และต่อยอดด้วยการพัฒนาธุรกิจแปรรูปสุกรเพิ่มขึ้น ดังนั้น การที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้บริษัทย่อยของซีพีเอฟเข้าลงทุนในธุรกิจสุกรครั้งนี้ จะช่วยเสริมการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคต  

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิดที่ยังเกิดขึ้น เป็นสิ่งท้าทายสำหรับธุรกิจจากความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่น่าจะลดลง อย่างไรก็ตาม ซีพีเอฟได้ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานและในการผลิต บริหารค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ ประกอบกับในหลายประเทศที่ลงทุนนั้นยังมีการขยายพื้นที่การตลาด จึงคาดว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทน่าจะยังคงดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งหลังของปีนี้

ซีพีเอฟ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่สระแก้วและปราจีนบุรี

0

รายงานข่าว จากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทจัดส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยส่งมอบอาหารและน้ำดื่มบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดปราจีนบุรี

โดยมีนายวัลลภ ประวัติวงศ์ นายอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี รับมอบวัตถุดิบอาหารคุณภาพ สด สะอาด ปลอดภัย จากซีพีเอฟ ได้แก่ เนื้อหมู 200 กิโลกรัม ไข่ไก่ 3,000 ฟอง และน้ำดื่ม 3,000 ขวด เพื่อนำไปประกอบอาหารปรุงสุกถูกสุขอนามัย แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ใน 3 พื้นที่ ของอำเภอกบินทร์บุรี ประกอบด้วย ชุมชนตลาดเก่ากบินทร์ บ้านโนนฝาว ตำบลวังตะเคียน และบ้านปากน้ำ ตำบลบ่อทอง รวม 345 หลังคาเรือน โดยมี พนักงานซีพีเอฟจิตอาสา ลงพื้นที่ส่งมอบอาหารในครั้งนี้

ส่วนที่จังหวัดสระแก้ว ซีพีเอฟ ลงพื้นที่ ส่งมอบเนื้อหมูและน้ำดื่ม เพื่อนำไปประกอบอาหารแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยชาวสระแก้ว ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระแก้ว อำเภออรัญประเทศ และอำเภอโคกสูง โดยมี นายณัฏฐพงศ์ สุขวิสิฏฐ์ นายอำเภอเมืองสระแก้ว รับมอบเนื้อหมู 300 กิโลกรัม และน้ำดื่ม 3,600 ขวด นายพงศ์พิเชษฐ์ พงษ์นาค รักษาการนายอำเภออรัญประเทศ รับมอบเนื้อหมู 100 กิโลกรัม และน้ำดื่ม 1,200 ขวด และ นายประพิศ ญาณปัญญา นายอำเภอโคกสูง รับมอบเนื้อหมู 100 กิโลกรัม และน้ำดื่ม 1,200 ขวด

ทั้งนี้ ดร.วันชัย ไพเราะ นายก อบต.โนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ได้กล่าวขอบคุณ ซีพีเอฟ ที่เห็นความสำคัญและให้การช่วยเหลือประชาชนที่เผชิญปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ติดชายเเดนประเทศกัมพูชา การเดินทางลำบากเพราะบางเส้นทางถูกตัดขาด การสนับสนุนอาหารในครั้งนี้ จะช่วยเป็นกำลังใจให้แก่ชาวบ้านได้ต่อสู้กับสถานการณ์น้ำท่วมให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

ก่อนหน้านี้ ซีพีเอฟ ได้ส่งมอบ น้ำดื่ม เนื้อหมูสด เนื้อไก่สด ไส้กรอก เนื้อไก่ปรุงสุก และไข่ไก่ เพื่อนำไปประกอบอาหารปรุงสุกถูกสุขอนามัยพร้อมรับประทาน แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยที่เดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อำเภอปักธงชัย อำเภอโชคชัย และอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

สิงห์อาสา เดินหน้าอบรมสร้างอาชีพ เปิดสอนกราฟิกดีไซน์ให้ผู้สนใจฟรี

0

สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จัดอบรมหลักสูตร Office skills “กราฟิกดีไซน์เบื้องต้น”  เป็นโครงการที่ 12 ของโครงการสิงห์อาสาอบรมสร้างอาชีพ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือด้านการผลิตดิจิทัลคอนเทนท์ให้แก่ประชาชนที่สนใจ ให้สามารถประกอบอาชีพที่สอดรับกระแสวิถีปกติใหม่ สร้างรายได้สู่ครอบครัวณ อาคารฝึกอบรม สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เมื่อวันที่ 24 – 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เนื่องจาก กราฟิกดีไซน์เบื้องต้น เป็นวิชาชีพด้านงานช่างที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน สามารถนำมาสร้างอาชีพเพื่อหารายได้ได้ เพราะนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ต้องมีการเว้นระยะห่างตามมาตรการของภาครัฐ ทำให้ผู้คนปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตไปอยู่บนดิจิทัลแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น กลายเป็นบรรทัดฐานการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ซึ่งวิกฤตในครั้งนี้ได้สร้างโอกาสให้แก่หลายสาขาอาชีพ  โดยเฉพาะอาชีพกราฟิกดีไซน์ ที่จะต้องออกแบบดิจิทัลคอนเทนท์ให้การสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มีความน่าสนใจ

ผู้เรียนจะได้รับการอบรมตั้งแต่หลักการออกแบบ การใช้สีและการสื่อความหมาย การเลือกใช้ตัวอักษรสำหรับงานออกแบบ การใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator ตลอดระยะเวลาการอบรมทั้ง 2 วัน ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ เพื่อให้สามารถทำงานได้ทันทีเมื่อจบหลักสูตร ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริม เนื่องจากภาคธุรกิจมีการปรับตัวไปอยู่ในดิจิทัลแพลตฟอร์มมากขึ้น บุคลากรที่สามารถออกแบบและสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนท์จึงเป็นที่ต้องการมากในยุคปัจจุบัน

ที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริเวอรี่ จำกัด ได้เร่งบรรเทาความช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายใต้โครงการสิงห์อาสาทั่วประเทศ ผ่านรูปแบบของการจ้างงาน สร้างรายได้ เป็นอาสาสมัครดูแลท้องถิ่นตนเอง ได้แก่  โครงการสิงห์อาสาสู้ไฟป่า โครงการสิงห์อาสาสู้ภัยแล้ง และโครงการสิงห์อาสาสู้ภัยน้ำท่วม รวมถึงรูปแบบการสร้างงาน สร้างอาชีพ ได้แก่ กลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านอาหาร ต่อยอดสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก กลุ่มทักษะวิชาชีพทางด้านงานช่าง และยังได้บริจาคเงินสนับสนุนการทำงานของบุคคลากรการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลหลัก 26 แห่งทั่วทั้งประเทศ ที่ทำงานด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกด้วย รวมเป็นมูลค่าการช่วยเหลือกว่า 200 ล้านบาท

เอไอเอส ครองตำแหน่งองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย 2 ปีซ้อน

0

นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล เอไอเอส และกลุ่มอินทัช เปิดเผยว่า เอไอเอส ได้รับรางวัล Best Companies to Work for in Asia 2020 หรือ องค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย จัดโดยนิตยสารเอชอาร์ เอเชีย (HR Asia) ของบริษัท Business Media International ประเทศมาเลเซีย โดยรางวัลนี้ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจตลอดการดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี ที่เอไอเอสให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนตั้งแต่ยุคแรกของการให้บริการมาโดยตลอด เพราะบริษัทเชื่อมั่นว่า พนักงานทุกคนคือส่วนสำคัญที่ทำให้เอไอเอสยังคงรักษาความเป็นเบอร์ 1 ได้จนถึงทุกวันนี้ โดยที่ผ่านมา ได้เน้นการจัดหลักสูตร ทั้ง Soft Skill และ Hard Skill ให้แก่พนักงานทุกระดับ เพื่อดึงศักยภาพของพนักงานมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตัวพนักงานเองและต่อองค์กร

ขณะเดียวกัน เมื่อโลกเข้าสู่สภาวะการเปลี่ยนแปลงในยุค Digital Disruption เอไอเอสได้ประกาศ Transform จาก Mobile Operator สู่การเป็น Digital Life Service Provider  มุ่งเน้นให้พนักงานมีความพร้อมปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เปลี่ยนไปผ่านหลักสูตรจาก AIS Academy โดยส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาตัวเองให้มี New Ability หรือขีดความสามารถใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์ม ชื่อ LearnDi  ให้พนักงานเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตลอดจนส่งเสริมและปลูกฝังวัฒนธรรม “FIT FUN FAIR” นั่นคือการมีสุขภาพที่ดี พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ทำงานด้วยความสุขและสนุก คิดบวก รวมถึงมีความเท่าเทียมของโอกาสที่ส่งมอบให้กับพนักงานทุกคน  ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การพิจารณารางวัลในครั้งนี้อีกด้วย

ทั้งนี้ รางวัล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2020 เป็นรางวัลที่ยกย่ององค์กรชั้นนำด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลในแขนงต่างๆ ให้เป็นองค์กรต้นแบบด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลของเอเชีย มุ่งเน้นการวัดระดับความผูกพันของพนักงาน ภายใต้หัวข้อ Total Engagement Assessment (TEAM) แบ่งเป็น 3 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย

1. การบริหารจัดการภายในองค์กรที่ดีเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน

2. การดูแลเอาใจใส่และสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในการทำงาน

3. การส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีมอย่างสร้างสรรค์

เครือซีพี รวมพลัง 38 ภาคีภาครัฐและเอกชน ลงนามความร่วมมือ “หมุนเวียน เปลี่ยนโลก”

0

เครือซีพี ตอกย้ำแนวทางทำธุรกิจควบคู่การสร้างความยั่งยืน รวมพลัง 38 ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ร่วมกับเครือข่ายความยั่งยืนแห่งประเทศไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน ภายใต้ความร่วมมือ “หมุนเวียน เปลี่ยนโลก”

เครือข่ายความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (TRBN) จัดพิธีลงนามเจตนารมณ์ร่วมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน ภายใต้ความร่วมมือ “หมุนเวียน เปลี่ยนโลก” โดยมีภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนรวม 38 แห่ง ร่วมลงนามผ่านระบบการประชุมออนไลน์ True Vroom เพื่อผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นจริง และบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นระบบและยั่งยืน บนพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจและการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มอัตราการรีไซเคิล ลดปริมาณขยะสู่บ่อฝังกลบ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในวงกว้างต่อไป โดยมี นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เป็นผู้แทนเครือฯ ร่วมลงนาม

นายจอมกิตติ เปิดเผยว่า เครือซีพี โดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือฯ ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจควบคู่กับการสร้างความยั่งยืน โดยประกาศ 2 เป้าหมายที่ท้าทายคือ การทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Zero Carbon) และการจัดการขยะให้เป็นศูนย์ (Zero Waste) ภายในปี 2573 หรือ 10 ปีข้างหน้า โดยมีนโยบายประยุกต์ใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญต่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ทำให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด รวมถึงการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ตลอดห่วงโซ่คุณค่า

นอกจากนี้ เครือซีพียังผลักดันการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มสัดส่วนการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ รวมถึงการจัดการและเพิ่มมูลค่าของเสียหรือน้ำเสียให้เปลี่ยนมาเป็นพลังงานในทุกกลุ่มธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวรอบสถานประกอบการ เพื่อช่วยดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ด้วย ทั้งนี้ เครือซีพีกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรงและทางอ้อมต่อหน่วยการผลิตและลดการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิตลง 25% และ 15% ตามลำดับ เทียบกับปีฐาน 2558 ภายในปี 2568

การลงนามความร่วมมือโครงการหมุนเวียนเปลี่ยนโลกครั้งนี้ เพื่อร่วมดำเนินโครงการบนพื้นที่แยกปทุมวัน-ราชประสงค์ เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 โดยมีเป้าหมายจะรวบรวมวัสดุใช้แล้วที่สะอาดและแห้งเข้าระบบการรีไซเคิลให้ได้ไม่น้อยกว่า 500 ตัน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการนำไปใช้ใหม่ของแต่ละองค์กร

ออมสิน ปลดล็อกสภาพคล่องผู้ประกอบการ ออกสินเชื่อ “SMEs มีที่มีเงิน”

0

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ออกสินเชื่อใหม่ล่าสุด “สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน” ช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ได้ออกสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ ที่เน้นช่วยลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้ประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อช่วยกลุ่มฐานราก หรือ Soft Loan ช่วยเหลือ SMEs กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจประมง รวมไปถึง SMEs ทั่วไปที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมาก ที่ประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจภายใต้ความยากลำบาก แต่ยังไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินตามมาตรการก่อนหน้านี้ได้ เพราะติดปัญหาธุรกิจขาดรายได้และมีภาระหนี้เดิม จึงจำเป็นต้องหันไปพึ่งการกู้นอกระบบรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะวิธีการ “ขายฝากที่ดิน” ที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญการถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงมาก วงเงินกู้ต่ำกว่าราคาประเมินมาก และมีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องสูญเสียที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม

เพื่อเป็นการปลดล็อกให้ SMEs ได้มีทางออกท่ามกลางวิกฤติรุนแรงครั้งนี้ ธนาคารออมสินจึงออกสินเชื่อใหม่ “สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน” ที่มีแนวคิดในการเป็นตัวเลือกที่ยุติธรรมแก่ผู้ประกอบการ ให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่เป็น SMEs สามารถใช้โฉนดที่ดินมาเป็นหลักประกันการกู้เงิน วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปเสริมสภาพคล่องให้กับกิจการ หรือนำไปไถ่ถอนจากสัญญาขายฝากที่ทำไว้ โดยธนาคารจะพิจารณาให้กู้ได้สูงถึง 70% ของราคาประเมินที่ดินของราชการ ไม่พิจารณาภาระผู้กู้และไม่วิเคราะห์รายได้ คิดอัตราดอกเบี้ย 5.99% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และผู้กู้สามารถนำเงินต้นมาไถ่ถอนที่ดินคืนได้เมื่อพร้อม ภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์มีความผ่อนคลายและธุรกิจมีความเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว ก็จะมีความสามารถในการชำระหนี้คืนตามกำหนดเวลา จากเงื่อนไขผ่อนปรนให้ลูกค้าได้กู้ง่าย ๆ จึงเชื่อว่าสินเชื่อ SMEs มีที่มีเงิน จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถประคับประคองธุรกิจเดินหน้าต่อท่ามกลางความยากลำบากได้

สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 หรือจนกว่าวงเงินจะหมด โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ยื่นขอสินเชื่อได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th หรือติดต่อที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ.

สถาบันปัญญาภิวัฒน์ จับมือกรมส่งเสริมการเกษตร พัฒนาบุคลากร สร้างผู้นำเกษตรยุคใหม่

0

** กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เดินหน้าโครงการความร่วมมือ เน้นพัฒนาบุคลากรภาคการเกษตร รวมทั้งบุคลากรทั้งสองฝ่าย หวังให้เกิดการพัฒนาบุคลากรภาคการเกษตรในอนาคตที่มีองค์ความรู้ ทักษะในการประกอบอาชีพการเกษตรอย่างต่อเนื่อง

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ร่วมกับ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เพื่อสร้างความร่วมมือในการผลิตและพัฒนากำลังคนทั้งในระดับปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา ให้สอดคล้องกับการพัฒนากำลังคนภาคการเกษตร ส่งเสริมสนับสนุนการบูรณาการร่วมกันในการพัฒนาเด็ก และเยาวชน ยุวเกษตรกร เกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer และ Smart Farmer รวมทั้งพัฒนาบุคลากรทั้งสองฝ่าย โดยเป็นการแบ่งปันทรัพยากรบุคลากร นักศึกษา นักวิจัย นักวิชาการ วัสดุอุปกรณ์ และข้อมูลการส่งเสริมการเกษตรซึ่งกันและกัน

สำหรับการพัฒนาบุคคลากรทางการเกษตรของกรมส่งเสริมการเกษตรนั้น มีการดำเนินการอย่างระบบบต่อเนื่องในทุกระดับผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม ตั้งแต่เยาวชนโดยผ่านกระบวนการพัฒนายุวเกษตรกร ปัจจุบันมียุวเกษตรกร จำนวน 5,292 กลุ่ม จำนวนสมาชิก 121,121 ราย ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็นผู้ประกอบการ โดยพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็น Young Smart Farmer สู่ผู้ประกอบการเกษตรรุ่นใหม่ ปัจจุบันมี Young Smart Farmer จำนวน 13,051 ราย รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer ที่มีความรู้อย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม นำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการผลิตและการตลาด ปัจจุบันมี Smart Farmer จำนวน 1,101,650 ราย ซึ่งการร่วมมือกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาบุคลากรที่มีองค์ความรู้ และประสบการณ์เพิ่มขึ้นในทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ การลงนามในบันทึกข้อตกลงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร กับ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลกรภาคการเกษตรให้ขยายผลออกไปในวงกว้าง และประสบผลสำเร็จลุล่วงตามจุดประสงค์ที่วางไว้ และนำไปสู่การพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืนต่อไป.