Home Blog Page 359

มูลนิธิจำนงค์ ภิรมย์ภักดี มอบเงินบริจาค 3.5 ล้านบาท ให้รร.ตำรวจตระเวนชายแดน

0

คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานมูลนิธิจำนงค์ ภิรมย์ภักดี (กลาง) เป็นประธานมอบเงินบริจาครวม    3.5 ล้านบาท ให้กับ รร.ตำรวจตระเวนชายแดนเทคนิคอาสา 1 อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และ รร.ตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อ.แม่ระมาด จ.ตาก เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารเรียน โดยมี พล.ต.ท.วิชิต ปักษา  (ที่ 3 จากขวา)  ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และ  พ.ต.ท.สวัสดิ์ คำภิรานนท์ (ที่ 5 จากขวา) รองผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 7 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมรับมอบ  เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.63

เอไอเอส ยกระดับโครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” สู่วาระแห่งชาติ

0

ผนึก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าชวนคนไทยทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) อย่างถูกวิธี พร้อมขยายจุดรับทิ้งทั่วประเทศ

รายงานข่าว จากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า บริษัท ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือในโครงการคนไทยไร้ E-Waste  เพื่อสร้างการตระหนักรู้ และการมีส่วนร่วมด้วยช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่าน 2 ความร่วมมือหลัก

  • ขยายจุดวางถังรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ ณ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด หรือ ทสจ. ทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี
  • ร่วมกับ อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม. เพื่อเป็นตัวแทนสื่อสาร สร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการจัดเก็บและทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้อง

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ปัจจุบัน ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ที่เป็นอุปกรณ์สื่อสารและ ICT จัดเป็นเป็นปัญหาใหญ่ของคนทั่วทั้งโลก โดยมีตัวเลขจาก The global E-Waste 2020 by the United Nation University and the United Nations Institute for Training and Research,
the International Telecommunication Union and the International Solid Waste Association ที่รายงานเมื่อปี 2562 ว่า ทั่วโลกมีปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ถึง 53.6 ล้านเมตริกตัน และมีการใช้งานต่อคนถึงคนละ 7.3 กิโลกรัม ซึ่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกได้รับการ recycle อย่าง ถูกวิธี เพียง 17.4% หรือ คิดเป็น 9.3 ล้านเมตริกตันเท่านั้น ในขณะที่ข้อมูลจากรายงานสถานการณ์ของเสียอันตรายจากชุมชนโดยกรมควบคุมมลพิษ ปี 2562 ประเทศไทยมีปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) อยู่ที่ 400,000 ตัน

ที่ผ่านมา เอไอเอสได้อาสาเข้ามาเป็นศูนย์กลางและจัดทำโครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” ขึ้น โดยมีเป้าหมายในการปลูกจิตสำนึกคนไทยให้เข้าใจและตระหนักถึงการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมในการกำจัด โดยจัดทำถังรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้สามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ซึ่งประกอบไปด้วย โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต, แบตเตอรี่มือถือ, พาวเวอร์แบงก์, สายชาร์จ, หูฟัง มาทิ้ง ได้ ณ จุดบริการของ AIS และจุดบริการของภาคีเครือข่ายซึ่งปัจจุบันมีแล้วมากกว่า 2,300 จุดทั่วประเทศ จากนั้นส่งต่อไปทำลายอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากลในรูปแบบของ Zero Landfill

ล่าสุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การสนับสนุน ร่วมเป็นอีก 1 ภาคีเครือข่ายหลัก ยกระดับภารกิจ คนไทยไร้ E-Waste สู่วาระแห่งชาติ ในการขยายจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) พร้อมร่วมบูรณาการส่งต่อองค์ความรู้และปลูกจิตสำนึกคนไทย ผ่านการทำงานของ อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม. ที่จะเป็นตัวแทนหลักที่เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศเพื่อสื่อสารเกี่ยวกับโทษภัยของขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste), ให้ข้อมูลการจัดเก็บและทิ้งอย่างถูกวิธี ตลอดจนส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งเอไอเอสต้องขอขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมกลุ่ม ทสม. ที่เห็นความสำคัญของโครงการนี้และร่วมสนับสนุนอย่างดี 

ปัจจุบันโครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” สามารถรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้จำนวนกว่า 6.3 ตัน โดยทางเอไอเอส ได้นำขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ที่เก็บรวบรวมได้จากจุดรับทิ้ง นำส่งให้กับ บริษัทเทส จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อกำจัดอย่างถูกวิธีด้วยกระบวนการ Zero Landfill (การจัดการขยะทำให้นำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ให้เกิดมูลค่าได้อีกครั้ง) ต่อไป

ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ประสบผลสำเร็จต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน/ประชาสังคม ภาคการศึกษา และภาคีเครือข่าย  ทั้งนี้ ทส. ดำเนินโครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” เพื่อรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ประเภทซากโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ต่อพ่วง ได้แก่ สายชาร์จ แบตเตอรี่ หูฟัง พาวเวอร์แบงก์ และนำไปจัดการอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยรายได้จากการรีไซเคิล จะนำไปมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนาต่อไป

ปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นในประเทศมีมากกว่า 400,000 ตันต่อปี แต่มีการเก็บรวบรวมและนำไปจัดการอย่างถูกต้องเพียง 500 ตัน ส่วนที่เหลือจะถูกเก็บไว้ตามบ้านเรือน ขายเป็นสินค้ามือสอง ขายให้รถเร่/ซาเล้ง นอกจากนี้ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในปี 2557 มีการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ในปริมาณประมาณ 900 ตัน อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 ปริมาณนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์มีมากกว่า 50,000 ตัน ทั้งนี้ ยังมีการตรวจพบโรงงานและสถานประกอบกิจการถอดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ดำเนินการอย่างไม่ถูกหลักวิชาการ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม จึงต้องมีการรวบรวมและนำไปจัดการอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ซีพีเอฟ ขนทัพอาหารคุณภาพ ร่วมงาน “พาณิชย์ลดกระหน่ำข้ามปี! New Year Grand Sale 2021”

0

รายงานข่าว เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดงาน “พาณิชย์ลดกระหน่ำข้ามปี! New Year Grand Sale 2021” ภายใต้โครงการ “พาณิชย์ ลดราคา! ช่วยประชาชน” ล็อต 8″ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยมี นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร และ นายสุจริต มัยลาภ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจการค้าในประเทศ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมต้อนรับที่บูธ CP FreshMart ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์

นายสุจริต มัยลาภ กล่าวว่า ซีพีเอฟได้นำนสินค้าคุณภาพมาตรฐานส่งออกและตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต มาจำหน่ายในงาน เพื่อลดภาระค่าครองชีพ แบ่งเบาภาระคนไทยช่วงวิกฤตโควิด-19 ให้เข้าถึงอาหารคุณภาพดี สด สะอาด อร่อย และปลอดภัยในราคาประหยัด โดยมีให้เลือกสรรมากกว่า 200 รายการ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ! ลดสูงสุด 72% ในร้าน CP FreshMart ทุกสาขาทั่วประเทศ

สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ ได้แก่ อาหารแช่งแข็ง อาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน อาทิ นักเก็ตไก่ 1 แถม 1 ราคา 69 บาท, หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ 1 แถม 1 ราคา 95 บาท, ซีพี สปาเก็ตตี้ 2 แพ็ก 99 บาท, ชิคเก้นริบ 2 แถม 1 ราคา 110 บาท, เกี๊ยวกุ้ง 2 แถม 1 ราคา 138 บาท, ซุปชาบูและน้ำสต็อก 45 บาท, ซุปผักแท้จากธรรมชาติ 100% CP Veg it UP เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ iMU, Fresh&Deep และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษ Happy New Year Set อาทิ ชุดของขวัญไข่แช่เย็น 199 บาท, ชุดของขวัญเพื่อสุขภาพ 219 บาท, อินโนวีเนส ชุดของขวัญเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ 269 บาท และชุด Happy New Year Basket 2021 เป็นต้น

ผู้ที่สนใจมาร่วมงานได้ที่บูธ CP FreshMart ตั้งแต่วันนี้-18 ธ.ค. 63 หรือที่ร้านซีพี เฟรชมาร์ท กว่า 350 สาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้ออาหารทาง E-Commerce ได้ถึง 3 ช่องทาง ได้แก่ แอปพลิเคชัน CP FreshMart ซึ่งดาวน์โหลดได้จากมือถือทุกระบบ, เว็บไซต์ www.cpfreshmartshop.com และสายด่วนฮอตไลน์ โทร.1788 โดยร้านจะจัดส่งอาหารให้ฟรีแบบไม่ขั้นต่ำในรัศมี 3 กิโลเมตร ให้ถึงมือผู้รับภายในเวลาอันรวดเร็ว นับเป็นการตอบโจทย์วิถีปกติใหม่ได้อย่างลงตัว ตั้งแต่วันนี้ – 28 ก.พ. 2564

ทิพยประกันภัย ร่วมสานต่อศาสตร์พระราชา ตามรอยเสด็จชลมารคครั้งแรกของรัชกาลที่เก้า

0

เยือนอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ วิถีชีวิตริมคลอง ล่องเรือ ชมหิ่งห้อย จ.สมุทรสงคราม

นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน), ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาดและประธานมูลนิธิธรรมดี กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และมูลนิธิธรรมดี นำคณะครูอาจารย์จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ กว่า 30 คน ร่วมกิจกรรมโครงการตามรอยพระราชา “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 11” ตามรอยเสด็จทางชลมารคครั้งแรก ของในหลวง รัชกาลที่ 9 เยือนอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ วิถีชีวิตริมคลอง ล่องเรือ ชมหิ่งห้อย จ.สมุทรสงคราม เพื่อเรียนรู้และถอดรหัสพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร

พร้อมทั้งศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอัมพวาและสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนชาวริมคลองที่เพียบพร้อมไปด้วยแหล่งเรียนรู้ทั้ง ภูมิสังคม และ เศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนสามารถนำไปต่อยอดและถอดบทเรียนสร้างนวัตกรรมด้านการเรียนรู้ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ต่อไป

อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ตำบลเล็กๆ ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นอาชีพการทำสวนผัก ผลไม้ การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว หรือเที่ยวตลาดน้ำที่ขึ้นชื่อ “ตลาดน้ำอัมพวา” ที่ยังคงสภาพวิถีตลาดนัดแบบชาวบ้านชาวสวนของชุมชนคนริมคลอง

นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จพระราชสมภพ ณ ตำบลอัมพวา พระองค์ทรงเป็นทั้งนักปกครอง นักปราชญ์ นักรบ และราชศิลปินของไทย รวมถึงเป็นเมืองของพระราชินีถึงสองพระองค์คือ สมเด็จพระอัมรินทรามาตย์ ในรัชกาลที่ 1 และ สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีในรัชกาลที่ 2

นางวิชชุดา ไตรธรรม กล่าวว่า “บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย มาเป็นหลักในการปฏิบัติ พร้อมทั้งสนับสนุนนวัตกรรมการศึกษาที่เป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญในการพัฒนาครูรวมถึงบุคลากรด้านการศึกษาอย่างยั่งยืน สู่เยาวชนไทยที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ จึงได้จับมือกับองค์กรภาคี จัดโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 ทิพยประกันภัยยังคงให้การสนับสนุนการเดินทางตามรอยพระราชาอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเห็นถึงความสำคัญทุกการเรียนรู้ และทุกศาสตร์ที่พระองค์ทรงถ่ายทอดให้พวกเรา รวมถึง ครู-อาจารย์ที่เข้าร่วมกิจกรรมนั้น สามารถช่วยเหลือประชาชนและสร้างสังคมแห่งความสุขที่ยั่งยืน ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่เข้าร่วมโครงการยังสามารถเป็นผู้คิดเองทำเองและสามารถอยู่กับสังคมได้อย่างพอเพียงและมีความสุขตลอดไป”

ทรีนีตี้ คว้ารางวัล Deal of the Year ด้านการระดมทุน จากงาน SET Awards 2020

0

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด รับรางวัลยอดเยี่ยม Deal of the Year ด้านการระดมทุน ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ให้กับ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) โดยมี คุณภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ (ซ้ายสุด) ประธานกรรมการ   บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้ง คุณชาญชัย กงทองลักษณ์ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้จำกัด และคุณสุธางค์ คนศิลป (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ร่วมรับมอบรางวัลจาก ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในงาน SET Awards 2020 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวารสารการเงินธนาคาร เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา

ธุรกิจหล่อลื่น โออาร์ คว้า 2 รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ปี 2563

0

รายงานข่าว เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2563 (The Prime Minister’s Industry Award 2020) ให้แก่ นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ และนายชุมพล สิริปูชกะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น โออาร์ ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต โดยรางวัลนี้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมให้มีคุณภาพมาตรฐาน และเสริมสร้างความพร้อมในการแข่งขันระดับสากล โดยธุรกิจหล่อลื่นของ โออาร์ ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นใน 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทการบริหารงานคุณภาพ และประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  โออาร์ และนายชุมพล สิริปูชกะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น โออาร์

นางสาวจิราพร เปิดเผยว่า โออาร์ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการองค์กรอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ สามารถติดตามและตรวจสอบได้ อีกทั้งยังเตรียมพร้อมกับทุกสถานการณ์ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพส่งถึงผู้บริโภค

ธุรกิจหล่อลื่น ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของ โออาร์ ที่ได้ดำเนินการมากกว่า 30 ปี ครองส่วนแบ่งตลาดในประเทศเป็นอันดับหนึ่งมาต่อเนื่องถึง 11 ปี และได้ขยายตลาดไปมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ได้มีการพัฒนาระบบบริหารงานคุณภาพ และการรวบรวมองค์ความรู้ ทั้งด้านต้นทุน เวลา และความปลอดภัย ตลอดจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังได้ปรับปรุงการบริหารจัดการกระบวนการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานให้มีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ การได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ โออาร์ ในการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวหน้า เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างยั่งยืน

ซีพีเอฟ ได้รับเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน เป็นปีที่ 6

0

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มอบโล่เกียรติคุณ สำหรับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2563 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) แก่ นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โดยซีพีเอฟได้รับคัดเลือกจาก SET ให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ภายในงาน SET AWARDS 2020

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า การได้เป็นหนึ่งในหุ้นยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ของซีพีเอฟ ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนที่ดีทางเศรษฐกิจและการเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ รายชื่อหุ้นยั่งยืนยังถูกใช้เพื่อเป็นเกณฑ์คำนวณดัชนี SETTHSI เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนพิจาณาลงทุนตามแนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืน ที่นำปัจจัยด้าน สิ่งแวดล้อม, สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) มาประกอบการตัดสินใจ

ซีพีเอฟ กำหนดกลยุทธ์ความยั่งยืนระยะยาวในการดำเนินธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์สู่ความยั่งยืน 3 เสาหลัก ประกอบด้วย อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ซีพีเอฟ ได้ร่วมรับผิดชอบต่อสังคมในหลายรูปแบบ เช่น การส่งมอบอาหารปลอดภัย ให้ประชาชนในประเทศไทยและประเทศที่ ซีพีเอฟ เข้าไปลงทุนอีก 16 ประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกันยังได้ยกระดับมาตรการป้องกันโรคในระดับสูงสุด เพื่อดูแลสุขภาพพนักงานทุกคนให้ปลอดภัยจากโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถส่งมอบอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภคทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้มีบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนทั้งสิ้น 124 บริษัท เป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET 114 บจ. และ mai 10 บจ. ซึ่งมาจากการเข้าร่วมตอบแบบประเมินความยั่งยืน ประกอบด้วยข้อคำถาม 19 หมวดครอบคลุมมิติเศรษฐกิจ (รวมบรรษัทภิบาล) สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นวัดผลในด้านกระบวนการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ประกอบด้วย การกำหนดนโยบาย การตั้งเป้าหมาย การนำนโยบายไปปฏิบัติ การวัดผลลัพธ์จากการดำเนินการ และการเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ซึ่งบริษัทที่ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนจะต้องมีคะแนนผ่านร้อยละ 50 ในทุกมิติ และผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด

ทิพยประกันภัย คว้ารางวัล สินค้าและบริการกลุ่มประกันยอดเยี่ยมแห่งปี

0

รายงานข่าว เปิดเผยว่า บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลเกียรติยศ ประเภทสินค้าและบริการกลุ่มประกันยอดเยี่ยมแห่งปี กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกันภัยไวรัสโคโรนา หรือ Covid-19 ในงาน “BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2020”

โดยรางวัลนี้ พิจารณาคัดเลือกจากสินค้าและบริการที่มีการวิจัยพัฒนาและการวางแผนการตลาดที่ดีเพื่อให้ได้สินค้าและบริการที่ดีเยี่ยม และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยผ่านการคัดเลือกขั้นต้นจากทีมบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิ จากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล การให้คะแนนโดยการโหวตจากประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ รางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของผู้บริหารและพนักงาน ทิพยประกันภัย ที่ได้นำเสนอ Product ที่ตรงความต้องการของลูกค้า ประชาชน และทันต่อสถานการณ์

พิธีมอบรางวัล จัดขึ้นที่โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า บางกอก โดยมีนาย ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธี และดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทิพยประกันภัย เข้ารับรางวัลดังกล่าว

บีทีเอส ปรับการเดินรถเตรียมรับ 7 สถานีเปิดใหม่ สายสีเขียว หมอชิต-คูคต

0

รายงานข่าวจาก บริษัท บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับรูปแบบให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อเตรียมความพร้อมเปิด 7 สถานีใหม่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วง หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 59 สถานีสายหยุด สถานีสะพานใหม่ สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ สถานีแยก คปอ. และสถานีคูคต ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป

โดยบริษัทฯ จะจัดรูปแบบการเดินรถ และแบ่งระยะเวลาการให้บริการเป็น 2 ช่วงหลักดังนี้

1. ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า ตั้งแต่เวลา 07.00 – 09.00 น. และช่วงเวลาเร่งด่วนเย็น ตั้งแต่เวลา 16.30 – 20.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ การให้บริการระหว่างสถานีหมอชิต (N8) ถึงสถานีสำโรง (E15) จะมีความถี่ระหว่างขบวน 2 นาที 40 วินาที ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสังเกตจากป้ายด้านหน้า และด้านข้างขบวนรถ เสียงประกาศบนชั้นชานชาลา ในขบวนรถ และจอประกาศบนสถานี

2. ช่วงนอกเวลาเร่งด่วนในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.30 น. และเวลา 20.00 น. จนถึงเวลาปิดให้บริการ ในวันเสาร์ และวันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รถทุกขบวนจะวิ่งตั้งแต่สถานีเคหะฯ ถึงสถานีคูคต โดยจะมีความถี่ 6 นาที 30 วินาทีส่วนการเดินรถไฟฟ้าสายสีลมนั้น รูปแบบและความถี่ในการเดินรถยังคงเหมือนเดิม โดยช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น จะมีความถี่ของการเดินรถ 3 นาที 45 วินาที

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส โทรศัพท์ 0 2617 6000 (ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 21.00 น.) Line official : bit.ly/2TUzZXH

AIS Fibre ตั้งเป้าขึ้น Top 3 ผู้นำอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไทย

0

ขึ้นแท่นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยอดเยี่ยมในเอเชีย-แปซิฟิกประจำปี 2020 กับรางวัล 2020 Asia-Pacific Fixed Broadband Service Provider of the Year การันตีโดย Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการวิจัยเชิงธุรกิจ

นายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส เปิดเผยว่า จากไลฟ์สไตล์คนไทยในยุคดิจิทัล ประกอบการการเผชิญสถานการณ์โควิด-19  ทำให้ความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเติบโตในอัตราเร่งสูงขึ้น เห็นได้จากภาพรวมการให้บริการของ AIS Fibre แม้เผชิญปัจจัยเสี่ยงจากโควิด-19 แต่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นทั้งในด้านรายได้และจำนวนลูกค้า โดยในไตรมาส 3 มีจำนวนลูกค้าฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เติบโตแกร่งเหนือตลาดซึ่งโตเพียง 1.2% ด้วยแนวคิด “เร็วกว่า ดีกว่า ง่ายกว่า” ครอบคลุม 3 ด้านเพื่อมอบประสบการณ์เน็ตบ้านคุณภาพให้คนไทย ประกอบด้วย

            – เร็วกว่า (Forward) นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดมาสร้างมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็วเป็นรายแรกและรายเดียวในไทยนับตั้งแต่วันเปิดให้บริการ ตั้งแต่การนำเทคโนโลยีไฟเบอร์แท้ 100% มาให้บริการ, เทคโนโลยี Dual Bandwidth แยก 2 เราเตอร์เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเล่นเกม, AIS Fibre WiFi6 Upgrade Kit อัปเกรดเครือข่าย Wi-Fi ในบ้านให้สปีดสูงขึ้น ใช้งานไม่มีสะดุด ลดสัญญาณรบกวน รายแรกในประเทศไทย พร้อมออกแพ็กใหม่กระแทกใจสายโปรกับ Power 4 Online Special Package แพ็กเน็ตบ้านแบบ BYOD ที่ให้ลูกค้าเลือกเราเตอร์ได้เองตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ

          – ดีกว่า (Better) ยกระดับการให้บริการที่เหนือกว่า สร้างมาตรฐานใหม่ของเน็ตบ้านรายแรกของไทย ให้การใช้งาน Wi-Fi ดีทั้งบ้าน ตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้งด้วย AIS Fibre MESH WiFi – เน็ตเร็ว WiFi แรง ครอบคลุมทั่วบ้าน พร้อมออกบริการเสริม AIS Fibre MESH WiFi รายเดียวในไทยที่ให้ลูกค้าสามารถเพิ่ม MESH WiFi ได้สำหรับทุกแพคเก็จ และยังมีบริการเหนือระดับกับ เอไอเอส ไฟเบอร์ กูรู สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าก่อนติดตั้ง สามารถใช้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

            – ง่ายกว่า (Simple) ให้ลูกค้าได้ใช้งานเทคโนโลยีทันสมัยได้ง่ายๆ อาทิ Speed Toggle ที่ลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ สามารถปรับสปีดอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตัวเอง รายแรกของไทย หรือการเปิดช่องทางติดต่อสื่อสารผ่าน AIS Fibre Line Connect ให้ลูกค้าทำรายการด้วยตนเอง และติดต่อง่ายกว่า ผ่านช่องทางออนไลน์ที่คุ้นเคย

ล่าสุด AIS Fibre ได้รับรางวัล 2020 Asia-Pacific Fixed Broadband Service Provider of the Year หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยอดเยี่ยมในเอเชีย-แปซิฟิกประจำปี 2020 การันตีโดย Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการวิจัยเชิงธุรกิจที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 50 ปี โดยเอไอเอส ไฟเบอร์ เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์รายแรกของไทยที่ได้รับรางวัลนี้ ทั้งยังได้คะแนนสุงสุดเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการอื่นๆ ในอีก 8 ประเทศของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

สำหรับปีหน้า 2021 เอไอเอส ไฟเบอร์ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพการบริการเพื่อมอบประสบการณ์เน็ตบ้านที่ดีที่สุดให้กับคนไทย ได้แก่ การขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มเติม ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทย อย่างตรงตามความต้องการจากการติดตามพฤติกรรมลูกค้าอย่างใกล้ชิด  เพื่อสนับสนุนไลฟ์สไตล์ดิจิทัลให้คนไทยเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตบ้านได้ง่ายกว่าเดิม รวมถึงขยายช่องทางจัดจำหน่ายร่วมกับเหล่าพันธมิตรชั้นนำ ทั้ง Telecom Shop และ None Telecom Shop  อาทิ Jmart, TG, Powerbuy, PowerMall, iStudio, .life, AIS Corner @ Family Mart, AIS Corner@Tops Daily, AIS Corner@Mini BigC และไปรษณีย์ไทย ให้ลูกค้าสมัครใช้บริการเอไอเอส ไฟเบอร์ได้อย่างง่ายดายและสะดวกกว่าที่เคย, การดูแลการใช้งานแบบ Proactive เกาะติดทุกปัญหาของลูกค้าอย่างใกล้ชิดแบบบ้านต่อบ้านด้วยเทคโนโลยีทันสมัย พร้อมแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีในแบบที่ลูกค้าไม่ทันรู้ตัว, การนำเสนอบริการและนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์คุณภาพสูงอันดับ 1 ของไทย และการมอบบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดี ด้วยบริการจากทีมช่างคุณภาพ กับโครงการ Certification FTTx Course and Workers for Advanced Wireless Network โดยร่วมมือกับสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสาร ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า และศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษ เฉพาะด้านเทคโนโลยีไฟฟ้ากำลัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายแรกในไทย อีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้คุณภาพงานติดตั้งที่ได้มาตราฐาน และมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย