Home Blog Page 356

ซีพีเอฟ ส่งกุ้ง CP Pacific ให้นักรบเสื้อกาวน์สู้โควิดรอบใหม่ ตอกย้ำกุ้งไทยกินได้ปลอดภัย

0

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ได้มอบผลิตภัณฑ์กุ้ง CP Pacific จำนวน 300 กิโลกรัม ให้ทีมแพทย์-พยาบาล และบุคลากรทางแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ในสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่

กิจกรรมนี้ อยู่ในโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ มั่นใจกุ้งซีพี แปซิฟิก” ที่นอกจากจะช่วยเป็นเสบียงหนุนทัพนักรบเสื้อกาวน์ในการรับมือสถานการณ์โควิดรอบใหม่แล้ว ยังถือเป็นการตอกย้ำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์กุ้งของไทยมีความปลอดภัย ทุกคนสามารถรับประทานได้อย่างมั่นใจ

“สถานการณ์โควิดรอบนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ตลาดกุ้งและอาหารทะเล จึงอาจทำให้หลายคนวิตกกังวลกับการรับประทาน ซีพีเอฟเป็นหนึ่งในผู้ผลิตกุ้งชั้นนำของโลก ขอยืนยันว่าทุกคนสามารถบริโภคกุ้งปรุงสุกได้อย่างปลอดภัย ขอให้คลายกังวลและกลับมาบริโภคกุ้งกันตามปกติ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่กำลังได้รับผลกระทบจากการที่แหล่งจำหน่ายถูกล็อคดาวน์ด้วย” นายประสิทธิ์กล่าว

สำหรับ “กุ้งซีพี แปซิฟิก” ของบริษัทฯ เป็นกุ้งที่เลี้ยงด้วยระบบไบโอซีเคียวริตี้ (Biosecurity) และนวัตกรรม 3 สะอาด ควบคู่ไปกับมาตรการ GAP โดยบริษัทได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การเลี้ยงสัตว์น้ำตามหลักวิชาการให้กับเกษตรกร เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ปลอดภัย ปราศจากโรค และการปนเปื้อน ส่งตรงจากฟาร์มสู่โรงงานแปรรูปในพื้นที่ด้วยระบบขนส่งห้องเย็นที่ทันสมัย ลดการสัมผัสมือ ทำให้กุ้งสด สะอาด ปลอดภัย ไม่มีจากสิ่งปนเปื้อน ผู้บริโภคนำไปปรุงสุกด้วยความร้อนตามคำแนะนำของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญและโภชนากร และรับประทานได้อย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนับสนุนช่องทางการตลาดเพื่อจำหน่ายกุ้งจากฟาร์มถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ณ ร้านซีพี เฟรชมาร์ทและแม็คโคร ทุกสาขา เพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในภาวะวิกฤตโควิด-19 รอบใหม่นี้

ทิพยประกันภัย เตรียมความพร้อมดูแลลูกค้า รับมือโควิด-19 รอบใหม่

0

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ได้กระจายวงกว้างมากขึ้น และมีการแบ่งพื้นที่ควบคุมตามความเสี่ยงของการแพร่ระบาด ทิพยประกันภัยจึงได้ออกมาตรการป้องกันและรับมือทั้งในสำนักงานใหญ่ และสาขา รวมถึงหน่วยงานที่ต้องออกไปดูแลลูกค้า เช่น ทีม TIP Smart Assist มีการใส่หน้ากากป้องกันตลอดเวลา ล้างมือทำความสะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับตัวลูกค้าและพนักงานเอง รวมถึงในสำนักงานต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร มาตรการทำความสะอาดสถานที่ทำงาน การเว้นระยะห่าง (Social Distancing หรือมาตรการ Work Form Home และมาตรการรองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและพนักงาน ตลอดจนการให้บริการกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ให้เกิดผลกระทบในการให้บริการ

นอกจากนี้ ทิพยฯ ยังได้อัพเกรดความคุ้มครองประกันภัยไวรัส Covid -19 ให้ตรงตามความต้องการและคุ้มค่า พร้อมมอบส่วนลดพิเศษให้แก่ลูกค้าที่ต่ออายุกรมธรรม์ สำหรับลูกค้าที่สนใจทำประกันภัยไวรัสโควิด-19 สามารถดูรายละเอียดและทำประกันได้ที่ www.tipinsure.com หรือโทร 1736 , สำนักงานสาขาทั่วประเทศ , ตัวแทนและนายหน้า , ธนาคารออมสิน , ธนาคารกรุงไทย , ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (เฉพาะช่องทางออนไลน์) และร้าน 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ

รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน : มาวางแผนประหยัดภาษีกัน!!

0

ช่วงปลายปีอย่างนี้ มนุษย์เงินเดือนกำลังจ้าละหวั่น เลือกซื้อกองทุนเพื่อนำไปหักลดหย่อนภาษี ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วสามารถซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตลอดทั้งปี แต่เพราะไม่ได้วางแผนให้ดี จึงต้องมาวุ่นวายเอาตอนปลายปีซะทุกที!!

เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th หน้า “เงินทองต้องวางแผน” หัวข้อ “การวางแผนภาษี” บอกว่า การวางแผนภาษีคือการเตรียมการเพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน ในฐานะพลเมืองดีและใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ไปลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้น้อยลง

ดังนั้น การวางแผนภาษีที่ดี ควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีเงินได้ที่เราจะต้องเสีย และรู้จักใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้คุ้มค่า โดยหลักการวางแผนภาษี คือ รู้ประเภทของรายได้ รู้ค่าใช้จ่ายที่หักภาษีได้ รู้ค่าลดหย่อนเพื่อลดภาษี รวมถึงรู้วิธีการคำนวณภาษี และรู้ช่องทางการยื่นภาษี

มนุษย์เงินเดือนที่มี “รายได้” ประจำทุกเดือน หากมีรายได้เสริมจากจ๊อบอื่นๆด้วย ต้องวางแผนให้ดีว่าจะเลือกรับเงินเป็นประเภทไหน รับเป็นเงินเดือน หรือรับเป็นงานเหมา เพราะส่งผลต่อภาษีที่เราต้องจ่าย เพราะรายได้แต่ละประเภทจะหัก “ค่าใช้จ่าย” ได้ไม่เท่ากัน เช่น เงินเดือนหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ขณะที่รายได้บางอย่างสามารถหักค่าใช้จ่ายได้สูงกว่า เช่น ขายของชำ ซักอบรีด ร้านอาหาร หรือร้านตัดผม โดยเลือกหักค่าใช้จ่ายเหมา 60% ของรายได้ทั้งปี หรือเลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริงก็ได้

นอกจากนี้ ยังเอา “ค่าลดหย่อน” มาหักออกจาก “รายได้” ที่จะนำไปคำนวณภาษี ได้ด้วย เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท หักค่าลดหย่อน บุตร ได้อีกคนละ 30,000 บาท รวมถึงค่าลดหย่อนลูกกตัญญูที่เลี้ยงดูพ่อแม่อายุ 60 ปีขึ้นไป และไม่มีรายได้ ได้อีกคนละ 30,000 บาท

ที่สำคัญยังมีค่าลดหย่อนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการออมการลงทุนระยะยาวด้วย เช่น ดอกเบี้ยบ้าน, ค่าเบี้ยประกัน, เงินปันผลจากการลงทุนในหุ้น, เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, เงินประกันสังคม หรือเงินทำบุญบริจาค

ขณะที่เงินออมที่นำไปลงทุนในกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ภาษีต่างๆนั้น นอกจากจะช่วยให้ดอกผล งอกเงยขึ้นแล้ว ยังช่วยประหยัดภาษีได้อย่างมาก ยิ่งมีค่าลดหย่อนมาก ก็จะช่วยประหยัดภาษีได้มาก

อยากรู้ว่าต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ในเว็บไซต์หน้านี้จะบอก “วิธีการคำนวณภาษี” และยังมี “โปรแกรมวางแผนภาษี” ให้ทดลองกรอกข้อมูลเพื่อคำนวณดูว่าเราสามารถประหยัดภาษีได้มากแค่ไหน หากเราวางแผนภาษีโดยใช้สิทธิประโยชน์เหล่านี้อย่างเต็มที่!! แล้วเรื่องภาษีจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!!

ปิดท้ายขอแสดงความยินดีกับผู้อ่าน 100 ท่านแรก ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นที่มีต่อคอลัมน์ฯ รอรับของที่ระลึก แก้วน้ำเก็บความเย็น ลดโลกร้อน “Care the Whale” กันที่บ้านได้เลย และขอขอบคุณทุกความเห็นเพื่อนำไปพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น คลิกลิงก์ https://bit.ly/3mLyowY หรือสแกน QR CODE เพื่อตรวจสอบรายชื่อได้เลยค่า!!


ที่มา คอลัมน์ รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง โดย คุณนายพารวย หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

แม็คโคร ตรวจเข้มอาหารสดทุกกลุ่ม สร้างความมั่นใจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

0

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากกรณีการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ได้สร้างความตื่นตระหนกแก่ลูกค้าสมาชิกผู้ประกอบการและลูกค้าทั่วไป แม็คโครไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ดังกล่าว และได้ตรวจสอบ ติดตามข่าวสารการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด พร้อมตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการยกระดับมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด ตามแนวทางปฏิบัติของภาครัฐและวางมาตรการเสริมควบคู่เพื่อป้องกันในทุกมิติ โดยเฉพาะสินค้าอาหารสด อาหารทะเล ตลอดกระบวนการผลิตและจำหน่าย มุ่งเน้นคุณภาพความเป็นปลอดภัยจนกว่าสินค้าจะถึงมือผู้ประกอบการและผู้บริโภคเป็นสำคัญ 

“ในฐานะของผู้นำอาหารสด แม็คโคร ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยในอาหารและสินค้าที่จำหน่าย ตลอดจนสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน คู่ค้า ผู้บริโภค ชุมชน และสังคม โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้ แม็คโครยิ่งต้องเฝ้าระวังและคุมเข้มมาตรการต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการรับสินค้าและกระจายสินค้า กำหนดแนวปฏิบัติเร่งด่วนงดรับสินค้าอาหารทะเลที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ในส่วนของผู้ผลิตอาหารทะเลแช่แข็ง แม็คโครตรวจเข้มให้โรงงานยกระดับมาตรการป้องกันขั้นสูงสุด อาทิ เพิ่มความถี่การฆ่าเชื้อตลอดกระบวนการผลิตและอุปกรณ์บรรจุต่างๆ ทุกวัน ด้วยแอลกอฮอล์ 70% ครอบคลุมไปถึงพนักงานของคู่ค้าทุกราย ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด และเฝ้าระวังสุขภาพพนักงานอย่างสม่ำเสมอ” 

สำหรับมาตรการความปลอดภัยที่ศูนย์กระจายสินค้าแม็คโคร (DC) ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร และ วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แม็คโครยกระดับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่ศูนย์กระจายสินค้าเป็นประจำ ด้วยน้ำยาและรังสี UV ในบริเวณสำนักงาน ลานรับสินค้า ห้องบรรจุ และอุปกรณ์เครื่องมือทั้งหมดอย่างละเอียด พนักงานทุกคนของศูนย์กระจายสินค้า ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวด อาทิ สวมหน้ากากอนามัย วัดอุณหภูมิก่อนเข้าปฏิบัติงาน ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือทุกครั้งก่อนเข้าพื้นที่ รถขนส่งสินค้าทุกคันต้องผ่านการล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาที่บริเวณล้อรถ และจัดจุดเทียบส่งสินค้าที่บริเวณลานรับและกระจายสินค้า รวมถึงให้พนักงานและผู้ขนส่งสินค้าทุกราย ต้องกรอกข้อมูลในแบบสอบถามทุกเช้าก่อนเข้าพื้นที่ เป็นการตรวจสอบและติดตามข้อมูลการเดินทาง สำหรับการประเมินความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ทันท่วงที

ซีพี เฟรชมาร์ท ส่งมอบหน้ากากอนามัย ช่วยชาวตลาดยิ่งเจริญ สู้ภัยโควิด-19

0

นายณัฏฐชัย ถิรคุณพิสิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพี เฟรชมาร์ท ได้ส่งมอบหน้ากากอนามัย จำนวน 5,000 ชิ้นให้แก่ นายอริย ธรรมวัฒนะ เจ้าของตลาดยิ่งเจริญ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนที่มาใช้บริการในตลาด ถึงมาตรการป้องกันโรคอย่างปลอดภัย โดยมี นายสมบัติ วรสินวัฒนา ผู้อำนวยการเขตบางเขน พ.ต.ท.อนันต์ วรศาสตร์ รองกำกับป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลบางเขน พร้อมด้วยทีมเถ้าแก่น้อย สาขาวิภาวดี 64 ร่วมด้วย

“กิจกรรมนี้ เป็นไปตามนโยบายของซีพีเอฟ ในการส่งมอบอาหารปลอดภัยสู่มือผู้บริโภค ซึ่งนอกจากกิจกรรมในชุมชนแล้ว ในช่วงของการระบาดรอบใหม่นี้ บริษัทฯ ได้ช่วยส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ด้วยการนำกุ้งซีพี แปซิฟิก คุณภาพสะอาด ปลอดภัย สดส่งตรงจากฟาร์มมาตรฐานมาจำหน่ายให้ประชาชนโดยตรง โดยไม่ผ่านตลาดกลาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบริโภคอาหารทะเล”

สำหรับ เฟรชมาร์ท มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในระดับสูงสุดอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด ประกอบด้วย 1.ใช้น้ำยาทำความสะอาดร้านและจุดสัมผัส เช่น ประตู ตู้แช่สินค้า ตะกร้า เป็นประจำทุก 2 ชั่วโมง 2.พนักงานในร้านต้องล้างมืออย่างสม่ำเสมอ 3.พนักงานใส่หน้ากากอนามัยเวลาปฏิบัติงานในร้าน 4.พนักงานสวมถุงมือระหว่างปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการสัมผัสกับสินค้า 5.ทุกสาขาจัดเตรียมแอลกอฮอล์เจลให้ลูกค้าล้างมือก่อนเข้าร้าน 6.ร้านเตรียมถาดใส่เงิน และทำความสะอาดเหรียญและธนบัตรก่อนเก็บ 7.รณรงค์เรื่อง Social Distancing ให้ลูกค้ารักษาระยะห่าง ในการเข้าแถวชำระสินค้า 8.ส่งเสริมการจ่ายเงินผ่านระบบด้วย True Money Wallet และ 9.ซีพี เฟรชมาร์ท มีการบริการสั่งสินค้าออนไลน์และจัดส่งตรงถึงบ้านฟรีไม่มีขั้นต่ำ

นายสมบัติ วรสินวัฒนา ผู้อำนวยการเขตบางเขน กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ร่วมกับ ซีพี เฟรชมาร์ท ตลาดยิ่งเจริญ และ สน.บางเขน แจกหน้ากากอนามัยให้กับพ่อค้า แม่ค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของภาครัฐ

นายอริย ธรรมวัฒนะ กรรมการบริหารตลาดยิ่งเจริญ กล่าวว่า ตลาดยิ่งเจริญมีการตรวจคัดกรองตลาดอย่างเป็นประจำ เช่น การตรวจแผงค้า ขณะนี้ทางตลาดได้ขอความร่วมมือผู้ค้าอาหารสดจากทะเล ร่วมกักตัว 14 วัน พร้อมทั้งกำชับทุกร้านค้าปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การขนย้ายสินค้าจะต้องบรรจุใส่ถุงและใส่ตะกร้าที่สะอาด จัดให้เป็นระเบียบ พร้อมจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้บริการลูกค้าด้วย

เอไอเอส สนับสนุนระบบสื่อสาร ช่วยอสม./อสต. ในสมุทรสาคร ทำงานเต็มที่

0

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า จากสถานการณ์ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นนั้น บริษัทฯ ขอส่งความห่วงใยและกำลังใจให้แก่ทุกท่าน  พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์นี้และก้าวผ่านไปด้วยกันได้อย่างปลอดภัย

สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส

โดยในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ความเสี่ยงสูง และเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดนั้น นอกเหนือจากการดูแลเครือข่ายสื่อสารทั้งมือถือและไฟเบอร์ให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เต็มประสิทธิภาพแล้ว เบื้องต้น ยังได้สนับสนุนซิมการ์ดแบบเติมเงิน พร้อมด้วยประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อโควิด-19 ให้แก่กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว – อสต. ที่กำลังลงพื้นที่อย่างหนัก เพื่อให้สามารถติดต่อประสานงานระหว่างกลุ่มแรงงานต่างชาติกับโรงพยาบาล ,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสภากาชาด ในการติดตาม, คัดกรอง, เฝ้าระวัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้สำหรับในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ เอไอเอส ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน-อสม. ที่กำลังลงพื้นที่เฝ้าระวังการระบาดผ่าน แอปฯ อสม.ออนไลน์ เพื่อดูแลและสนับสนุนให้การทำงานผ่านแอปฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอย่างดีที่สุด

“ในฐานะภาคเอกชน เอไอเอส ขอเป็นตัวแทนขอบคุณอาสาสมัคร ทั้ง อสต.และ อสม.ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ซึ่งได้เสียสละอย่างยิ่งในการลงพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังแทนพวกเรา พร้อมยืนยันจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำระบบสื่อสารเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นจากสภาวะการระบาดของโควิด-19 อย่างสุดความสามารถ”

CPF มอบอาหารจากใจให้ทีมหมอและผู้ป่วยในสมุทรสาคร ร่วมต้านภัยโควิดรอบใหม่

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ นำผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยกว่า 55,000 แพ็ค ภายใต้โครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19 ช่วยชาวสมุทรสาคร” มอบให้แก่ทีมแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยในโรงพยาบาลสมุทรสาคร เพื่อเป็นกำลังใจและอำนวยความสะดวกให้บุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติหน้าที่ ได้บริโภคอาหารปลอดภัยอย่างเพียงพอ เพื่อทุ่มเทเวลาในการดูแลรักษาผู้ป่วยในช่วงการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่นี้ โดยมีนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายณัฐพล กาญจนีย์ ปลัดอำเภอเมืองสมุทรสาคร และนายแพทย์ อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ร่วมรับมอบ จากนายชัยวัฒน์ ปรีดิศรีพิพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และนายสุวิทย์ ประภากมล รองกรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ ณ โรงพยาบาลสมุทรสาคร

นายสุวิทย์ กล่าวว่า ซีพีเอฟ ร่วมส่งมอบอาหารปลอดภัยให้ทีมแพทย์และพยาบาลมาตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงต้นปี เพื่อเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทเสียสละปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจากความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนจะช่วยให้สมุทรสาครกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

โดยอาหารคุณภาพปลอดภัยที่นำมามอบครั้งนี้ ประกอบด้วย 7 เมนู ได้แก่ เกี๊ยวกุ้งซุปโชยุ เกี๊ยวกุ้งรสต้มยำ ราเมนโฮลวีท ข้าวน้ำพริกอกไก่ บะหมี่ไก่เทอริยากิ ข้าวผัดกระเทียมไก่สไลด์ และ ข้าวผัดกระเพราคลุก

นายสุวิทย์ กล่าวว่า ซีพีเอฟในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำ ได้ยึดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19ด้วยความเคร่งครัดมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเข้มงวดกับมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของการผลิตอาหารในทุกขั้นตอน มั่นใจได้ว่าสามารถส่งมอบอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภค พี่น้องประชาชนและแรงงานในจังหวัดสมุทรสาครในช่วงนี้ได้อย่างเพียงพอ

ด้านนายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับผู้ป่วยที่เป็นแรงงานต่างด้าว ที่ต้องได้รับการดูแลและการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม การส่งอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยแทนความห่วงใยและสะท้อนความเอื้ออาทรของคนไทยที่มีต่อแรงงานที่ร่วมอาศัยอยู่ในประเทศไทยไม่ว่าจะเชื้อชาติใด เพื่อที่ทุกคนจะก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

นอกจากนี้ สถานการณ์ระบาดของโควิดในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกุ้งไทย จึงขอเชิญชวนประชาชนช่วยกันอุดหนุนกุ้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ซึ่งได้รับการยืนยันจากแพทย์แล้วว่าสามารถบริโภคอาหารทะเลได้ตามปกติ และเน้นการปรุงให้สุกก่อนทาน เลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้

กรมประมง ชวนกินกุ้ง-ปลา ช่วยเกษตรกรไทยฝ่าโควิด-19

0

ซีพีเอฟ พร้อมช่วยขยายช่องทางจำหน่ายที่ ซีพี เฟรชมาร์ทและแม็คโคร

กรมประมง ร่วมกับ สมาพันธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จัดกิจกรรม “สัตว์น้ำมาตรฐานไทย สู้ภัยโควิด-19” นำผลผลิตคุณภาพดี สด สะอาด ปลอดภัย จากฟาร์มมาตรฐานมาจำหน่ายให้ประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริโภคอาหารทะเล ช่วยอุดหนุนเกษตรกรให้มีรายได้สามารถดำเนินกิจการได้ต่อเนื่อง หลังยอดขายลดจากโควิด-19 รอบใหม่

นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ จากตลาดกุ้ง-ปลาในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและได้ขยายวงกว้างไปยังพื้นที่อื่นๆ สร้างความไม่มั่นใจด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในการบริโภคสัตว์น้ำของประชาชน ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำ รวมถึงเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมงเป็นอย่างมาก

กรมประมง ขอยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในตัวของสัตว์น้ำแต่อย่างใด การนำผลผลิตสัตว์น้ำมาจำหน่ายในวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรได้ทันที และเป็นช่องทางให้ผู้บริโภคเลือกซื้ออาหารทะเลที่สด สะอาดและปลอดภัย จากฟาร์มเกษตรกรและผู้ผลิตที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี GAP (Good Aquaculture Practice) ของกรมประมง ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าปราศจากเชื้อโควิด-19 โดยจัดกิจกรรมที่ ลานโพธิ์ กรมประมง ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรเลือกซื้อสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและผ่านการผลิตที่ได้การรับรองมาตรฐาน ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำอย่างดี ปรุงสุกด้วยความร้อน และไม่ควรใช้มือสัมผัสสัตว์น้ำโดยตรงและใช้ถุงมือหรืออุปกรณ์ในการหยิบหรือตัก เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการปนเปื้อนและจากสุขอนามัยที่ดี จากการรับประทานและสัมผัสสัตว์น้ำ

นายมีศักดิ์ กล่าวย้ำ กรมประมง ให้ความสำคัญกับการควบคุมความปลอดภัยและสุขอนามัยในสินค้าสัตว์น้ำอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยมีการตรวจสอบแหล่งที่มาของสัตว์น้ำที่วางจำหน่ายก่อนถึงมือผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพและสุขอนามัยในกลุ่มเกษตรกร ชาวประมง และผู้ประกอบการ โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตาม เฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่การระบาดของโรคในฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและจากการทำประมง อย่างใกล้ชิด

นายไพโรจน์ อภิรักษ์นุสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจสัตว์น้ำ ซีพีเอฟ กล่าวว่า กุ้ง “ซีพี แปซิฟิก” ของบริษัทให้ความสำคัญกับการจัดการการเลี้ยงด้วยระบบไบโอซีเคียวริตี้ (Biosecurity) และนวัตกรรม 3 สะอาด ควบคู่ไปกับมาตรการ GAP และยังถ่ายทอดองค์ความรู้การเลี้ยงสัตว์น้ำตามหลักวิชาการให้กับเกษตรกร เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ปลอดภัย ปราศจากโรค และการปนเปื้อน ตลอดจนสนับสนุนช่องทางการตลาดเพื่อจำหน่ายกุ้งจากฟาร์มถึงมือผู้บริโภคโดยตรง เป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในภาวะวิกฤตโควิด-19 รอบใหม่

สำหรับผลผลิตกุ้ง “ซีพี แปซิฟิก” ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานกรมประมง ส่งตรงจากฟาร์มสู่โรงงานแปรรูปในพื้นที่ด้วยระบบขนส่งห้องเย็นที่ทันสมัย ลดการสัมผัสมือ ทำให้กุ้งสด สะอาด ปลอดภัย ไม่มีจากสิ่งปนเปื้อน ผู้บริโภคนำไปปรุงสุกด้วยความร้อนตามคำแนะนำของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญและโภชนากร รับประทานได้อย่างปลอดภัย สามารถเลือกซื้อกุ้งสด และอาหารทะเลคุณภาพดี ได้ที่ร้านซีพี เฟรชมาร์ท และแม็คโคร ทุกสาขา

“ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจ ว่า กุ้งซีพี แปซิฟิก และกุ้งที่จากฟาร์มเลี้ยงมาตรฐาน มีความปลอดภัยและผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากกรมประมงถูกต้องทุกขั้นตอน ผู้บริโภครับประทานได้อย่างปลอดภัย” นายไพโรจน์ กล่าว

ด้านนายบรรจง นิสภวาณิชย์ ประธานสมาพันธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย กล่าวว่า สมาพันธ์ส่งเสริมให้สมาชิกปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในระดับสูง และดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การผลิตปลอดภัยจากโรค

“สมาพันธ์ฯ ขอยืนยันว่ากุ้งไทยกินได้ปลอดภัย พี่น้องเกษตรกรยังคงยืนหยัดเฝ้าระวัง ป้องกันอย่างเข้มแข็ง ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า กุ้ง ปลา และอาหารทะเลไทย กินได้ ปลอดภัยแน่นอน และเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรให้อยู่รอดได้ในภาวะโรคระบาด” นายบรรจง กล่าว

ทั้งนี้ การผลิตกุ้งและสัตว์น้ำ มีการควบคุมทุกขั้นตอนการผลิต พนักงานและแรงงาน ปฏิบัติตามแนวทางป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มีความปลอดภัยในการผลิต 100% ส่วนการแพร่ระบาดที่จังหวัดสมุทรสาคร เป็นโรคที่เกิดจากคนสู่คนเท่านั้น ไม่ได้แพร่ไปยังผลิตภัณฑ์กุ้ง ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคใดๆ” นายบรรจง กล่าว

นักลงทุนวีไอ รุมสนใจ “สยามราชธานี” โชว์ศักยภาพธุรกิจไม่เคยขาดทุน

0
จิรณุ กุลชนะรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามราชธานี

“สยามราชธานี” เนื้อหอม 40 นักลงทุนหุ้นมูลค่า (VI) ขอเข้าพบเพื่อรับฟังข้อมูลทิศทางการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ด้าน “ซีอีโอ” โชว์ศักยภาพทำธุรกิจมา 43 ปี ไม่เคยขาดทุน ทุกวิกฤติคือโอกาส การเติบโตของธุรกิจ Outsource เดินหน้ารุก SO NEXT เป็น New S-CURVE ของธุรกิจ ตั้งเป้าจะสร้างรายได้ที่มีนัยสำคัญในอนาคต 

นายจิรณุ กุลชนะรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามราชธานี (SO) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นักลงทุนหุ้นมูลค่า (VI) กว่า 40 ราย ได้ขอ Company Visit เข้าพบเพื่อรับฟังข้อมูลการทำธุรกิจ รวมทั้งทิศทางการเติบโตของบริษัท โดยทีมผู้บริหาร SO ได้ให้ข้อมูลกับกลุ่มนักลงทุน VI ว่า บริษัทได้ทำธุรกิจการจ้างเหมาบริการครบวงจรชั้นนำระดับประเทศมากว่า 43 ปี โดยไม่เคยขาดทุนและทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ มักจะมีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ

แม้แต่วิกฤติโควิด- 19 รอบนี้ ช่วงแรกบริษัทจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่กลับสร้างโอกาสในการทำธุรกิจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบว่า มีหลายบริษัทติดต่อเข้ามาขอข้อมูลและใช้บริการ Outsource พนักงานจาก SO เพิ่มขึ้น เพราะหลายธุรกิจต้องมีการลดจำนวนพนักงาน เพื่อลดภาระต้นทุนระยะยาวของพนักงาน นอกจากนี้ยังให้ SO เข้าไปช่วยบริหารจัดการข้อมูล DATA ต่างๆ เพื่อรองรับการใช้ไอทีเทคโนโลยีในการทำงานมากขึ้น ส่งผลให้กำไรของบริษัทในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโตได้อย่างดี  มีกำไรสุทธิ 100.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.86 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 76.97 ล้านบาท  

และคาดว่าผลการดำเนินงานรวมทั้งปี 2563 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รายได้ของบริษัท มีโอกาสแตะ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนหน้ามีรายได้ราว 1,900 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้น  อยู่ในระดับ 17-18% ขณะที่ยังคงมีอัตราการต่อสัญญาใช้บริการของลูกค้ารายเดิมทั้งภาครัฐและบริษัทเอกชนมากกว่า 90% และมีลูกค้ารายใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องในทุกบริการ

ในปีหน้า บริษัทจะขยายบริการ และรุกธุรกิจใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ SO-NEXT คือ Data Solutions และ S-Next  ซึ่ง Data Solutions เป็นระบบจัดการข้อมูลและเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เราให้บริการจัดการข้อมูลและเอกสารหลายรูปแบบ  เช่น บริการคีย์ข้อมูล บริการงานสแกนเอกสาร และบริการบันทึกข้อมูลภาคสนาม เป็นต้น

ขณะที่ S-Next  คือบริการที่ลดความซับซ้อนในการทำงาน เช่น เรามีระบบ DIGIDOCS เป็นระบบบริหารจัดการเอกสารออนไลน์ ทำให้การทำงานเอกสารสะดวกยิ่งขึ้น ลดเวลาต้นทุนและค่าใช้จ่าย, ระบบ CARPOOL เป็นระบบจัดสรรทรัพยากรรถยนต์ในองค์กร ทำให้การทำงานเป็นระบบมากขึ้น และระบบ TIKTRACK เป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลการลงเวลาของพนักงานแบบเรียลไทม์ ทำให้ใช้งานง่าย และสามารถเช็คข้อมูลได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าหลายรายติดต่อเข้ามาให้ SO เข้าไปเป็นที่ปรึกษาในการปรับตัวสู่ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ

และที่สำคัญคือ SO กำลังพัฒนาบริการ HRM (Human Resource Management) การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลด้วยระบบดิจิทัล ซึ่งขณะนี้กำลังทดลองใช้กับลูกค้าหลังนำมาบริหารจัดการบุคลากรภายในบริษัท ได้ประสบความสำเร็จอย่างดีแล้ว โดยจะเห็นความชัดเจนในปี 2564

 “SO NEXT ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่เป็น New S-CURVE ของบริษัท ซึ่งตอบโจทย์ชีวิตและธุรกิจในยุค NEW NORMAL และ NEXT NORMAL ที่ดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตและการทำธุรกิจมากขึ้นในอนาคต เช่น การพัฒนาและให้บริการ HRM โดยบริษัทตั้งเป้าหมายว่า ใน 3-5 ปี ข้างหน้ารายได้จาก         SO NEXT จะเข้ามามีบทบาทในโครงสร้างรายได้รวมของบริษัทประมาณ 20% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ เพียง 5% ของรายได้รวม”

ทั้งนี้  สยามราชธานี ให้บริการธุรกิจ 4 ด้าน คือ 1.SO PEOPLE บริการบริหารจัดการด้านบุคลากร  เช่น ช่างเทคนิค พนักงานขับรถ พนักงานประจำออฟฟิศ 2.SO GREEN บริการดูแลภูมิทัศน์ จัดสวนขนาดใหญ่  3.SO WHEEL บริการรถยนต์ รถดัดแปลงให้เช่า และ 4.SO NEXT บริการบริหารจัดการงานบันทึกข้อมูล

ซีพีเอฟ ดูแลแรงงานทุกชาติ ไม่เลิกจ้าง ทุกโรงงานเข้ม ป้องกันโรคระบาดสูงสุด

0

นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ บริษัทยังคงแนวทางปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดสูงสุดของอย่างต่อเนื่อง และยกระดับมาตรการป้องกันเพิ่มเติมด้านสุขอนามัยส่วนบุคคลและโรงงานให้สอดคล้องกับมาตรการของรัฐ

พิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ จัดจ้างแรงงานทั้งไทยและต่างชาติตามกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เพื่อดูแลให้พนักงานทุกคนที่จัดจ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมายมีความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตและทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดี โดยเฉพาะแรงงานต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง บริษัทให้การดูแลเป็นพิเศษ ทั้งที่พักอาศัย รถรับส่งจากที่พักถึงที่ทำงาน พร้อมเร่งขจัดอุปสรรค “ความแตกต่างทางภาษา” เพื่อให้พนักงานทุกคนรับรู้ข่าวสาร เข้าถึงการคุ้มครองและสิทธิอันพึงได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันด้วยความเข้าใจ

“ซีพีเอฟให้ความสำคัญการบริหารจัดการแรงงานทุกเชื้อชาติอย่างเป็นระบบ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ส่งเสริมให้ทุกคนเคารพในความหลากหลาย มุ่งคุ้มครองให้แรงงานต่างชาติทุกคนดำเนินชีวิตด้วยความปลอดภัยในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในหอพัก ในโรงงาน รถรับส่ง ที่มีมาตรการควบคุมและการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) อย่างเข้มข้น พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือเรื่องอาหารให้พนักงานทุกคนในพื้นที่สมุทรสาคร” นางสาวพิมลรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ร่วมกับ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เปิดโอกาสให้แรงงานทั้งไทยและต่างชาติ สามารถแสดงความคิดเห็น ร้องเรียนและรับคำปรึกษาได้อย่างเสรีกับศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและรับฟังเสียงแรงงาน ที่ดำเนินการโดยมูลนิธิ LPN ซึ่งเป็นองค์กรกลางเปิดรับฟังข้อเสนอแนะจากแรงงานเป็นภาษากัมพูชา เมียนมา อังกฤษ และไทย ควบคู่กับจัดการอบรมให้แก่แรงงานผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้มีความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน กฎหมายแรงงาน มาตรการความปลอดภัยและการป้องกันโรค เพื่อพัฒนาศักยภาพของแรงงานต่างชาติได้มีความรู้ และเข้าถึงสิทธิตามกฎหมาย ตระหนักถึงสถานการณ์โรคระบาด ช่วยให้แรงงานมีความมั่นใจในการทำงานและดำเนินชีวิต และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคอย่างจริงจัง

ปัจจุบัน ซีพีเอฟ จัดจ้างแรงงานต่างชาติตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและประเทศเพื่อนบ้านว่าด้วยการจ้างแรงงานต่างด้าว (MoU) ประกอบด้วยกัมพูชาและเมียนมา ทำงานอยู่ในโรงงานของซีพีเอฟกว่า 9,000 คน ทุกคนได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ผ่านการจัดจ้างและคัดสรรอย่างโปร่งใส และเป็นธรรม ซี่งบริษัทฯ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน และการตรวจสุขภาพ รวมทั้งจัดหาหอพัก และรถรับส่งให้แรงงานต่างชาติที่เพียงพอ และมีมาตรการควบคุมการระบาดเคร่งครัด เพื่อให้แรงงานต่างชาติมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่แออัด และเดินทางมาทำงานด้วยความปลอดภัย นอกจากนี้บริษัทฯ ​ยังจัดให้มีล่ามประจำโรงงานคอยให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำกับแรงงานต่างชาติตลอดเวลา