Home Blog Page 158

ออมสิน เอาใจลูกค้าสายกรีน ปล่อย “สินเชื่อบุคคล GSB Go Green” สำหรับติดตั้งโซลาร์เซลล์ – ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

0

“? สินเชื่อบุคคล GSB Go Green
✨ สำหรับเพื่อติดตั้ง Solar Cell หรือ Solar Rooftop
✨ สำหรับซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) / รถยนต์ไฮบริด (Hybrid) / รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า / ติดตั้ง EV Charger
✨ ซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5

? ดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุด 1.99%* ต่อปี (นาน 3 เดือนแรก)
? ผ่อนต่ำแสนละ 199* บาท/เดือน (นาน 3 เดือนแรก)
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 – 30 ธันวาคม 2566

จุดเด่น
  • เพื่อติดตั้ง Solar Cell หรือ Solar Rooftop ติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
  • เพื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) รถยนต์ไฮบริด (Hybrid) หรือรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
  • เพื่อซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่ช่วยประหยัดพลังงาน
  • ดอกเบี้ยพิเศษ คงที่ 1.99% นาน 3 เดือนแรก
  • ผ่อนต่ำแสนละ 199 บาท/เดือน นาน 3 เดือนแรก

?? อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม > https://bit.ly/3MRSR2l
หรือสมัครได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา

⚠️ เงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

CPF เจ๋ง กวาด 17 รางวัล ‘สุดยอดรสชาติอาหารระดับโลก’ จากเบลเยียม

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ คว้ารางวัล “สุดยอดรสชาติอาหารระดับโลก ประจำปี 2023” หรือ Superior Taste Award 2023 จำนวน 17 สินค้า ครอบคลุมทุกหมวด ทั้งกลุ่มของสดและอาหารพร้อมรับประทาน จากสถาบันชั้นนำของโลก International Taste Institute ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยปี 2023 มีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลกมากกว่า 2,000 รายการ เข้ารับการประเมินรสชาติอย่างเข้มข้น ซีพีเอฟ ในฐานะผู้นำด้านอาหารและส่งเสริมการบริโภคเพื่อสุขภาพที่ดี ได้รับรางวัลระดับ 3 ดาวจาก “ไก่เบญจา” “ไส้กรอก ซีพี” “กุ้งสด ตราซีพีแปซิฟิก” “เกี๊ยวกุ้ง ซีพี” และ “นักเก็ตและเกี๊ยวซ่า” เนื้อจากพืชแบรนด์ MEAT ZERO สะท้อนถึงความทุ่มเทในการพัฒนาสินค้าตามมาตรฐานสากล สะอาด ปลอดภัย และมีรสชาติอร่อย ถูกใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง

อนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด ด้านการตลาด ซีพีเอฟ

นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด ด้านการตลาด ซีพีเอฟ กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่ได้รับรางวัล Superior Taste Award 2023 ถึง 17 สินค้า ครอบคลุมทุกหมวด แสดงให้เห็นว่า ซีพีเอฟ มีความโดดเด่นในเรื่องการพัฒนารสชาติหรือความอร่อยซึ่งเป็นหัวใจของอาหาร และยังเข้าใจรสชาติที่ถูกปากผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย หลากหลายเชื้อชาติต้องการเป็นอย่างดี โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยพัฒนาอาหารจนได้สินค้าที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้สามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เช่น เกี๊ยวกุ้ง ที่โด่งดัง ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และในแถบเอเชีย เช่น จีน สิงคโปร์ และฮ่องกง

สำหรับ “ไก่เบญจา” หรือ Benja Chicken จาก U FARM เป็นเนื้อไก่สดแบรนด์แรกของไทย ที่คว้ารางวัล Superior Taste Award มาครองได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ด้วยนวัตกรรมของซีพีเอฟ ที่คัดสายพันธุ์พิเศษนำมาเลี้ยงด้วยซูเปอร์ฟู้ดอย่าง ข้าวกล้องและเมล็กแฟลกซ์ ทำให้เนื้อไก่มีสีชมพู หอม นุ่ม และรสสัมผัสฉ่ำกว่าเนื้อไก่ทั่วไปถึง 55% ปลอดสาร ปลอดภัย ไม่ใช้ฮอร์โมน และไม่มียาปฏิชีวนะ 100% ตลอดการเลี้ยงดูอยู่ ซึ่งได้การรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก NSF

“ไส้กรอกไก่ ซีพี” เริ่มต้นจากการคัดสรรวัตถุดิบเนื้อสัตว์คุณภาพดีเต็มชิ้น ไม่ผสมแป้ง ผ่านกระบวนการผลิตอัตโนมัติแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่การจัดเก็บวัตถุดิบ การระบุข้อมูลด้วยระบบ RFID (Radio – Frequency Identification) สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน พร้อมระบบรมควันแบบปิด ที่มีเทคโนโลยีจำกัดสารทาร์ช่วยกรองควันคุณภาพดีมาอบไส้กรอก จึงเชื่อมั่นว่า ไส้กรอก ซีพี สะอาด ปลอดภัย ถูกหลักอนามัย และมีรสชาติอร่อย

“กุ้งสด ตราซีพีแปซิฟิก” เลี้ยงด้วยระบบ CPF Combine Model ภายใต้แนวทาง 3 สะอาด ประกอบด้วย พื้นบ่อสะอาด น้ำสะอาด และลูกกุ้งสะอาด ช่วยให้กุ้งอยู่สบาย กินอาหารได้ดี มีอัตราการเติบโตที่ดี รวมถึงใช้โปรไบโอติกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง ลดความเสี่ยงการเกิดโรค โดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เนื้อกุ้งมีความสด รสชาติหวาน เนื้อแน่น จากนั้นแปรรูปมาเป็น “เกี๊ยวกุ้ง ซีพี” กุ้งตัวใหญ่คัดพิเศษ ห่อด้วยแป้งเกี๊ยวแผ่นบาง ทานคู่กับน้ำซุปใสที่หอมกลมกล่อม รสชาติที่ใครได้ลองต้องติดใจ

ส่วนอาหารทานเล่น นักเก็ตและเกี๊ยวซ่า เนื้อจากพืชแบรนด์ “MEAT ZERO” ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารซีพีเอฟ หรือ CPF RD Center มุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาเนื้อทางเลือกร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกหลายประเทศเป็นเวลามากกว่า 2 ปี โดยใช้นวัตกรรม PLANT-TEC จนได้เนื้อจากพืชที่สมบูรณ์แบบ ทั้งลักษณะ รสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัส ที่อร่อยอย่างเนื้อ การันตีรสชาติด้วยรางวัล Superior Taste Award ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน

นอกจากนี้ ยังคว้ารางวัลระดับ 2 ดาว ได้แก่ ไข่ไก่สดโอชา U FARM, ไส้กรอกอกไก่พริกไทยดำ แบรนด์ CP FI-IT และ หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ ส่วนรางวัลระดับ 1 ดาว ได้แก่ หมูชีวา U FARM, ซีพี ชิกเก้นริบออลีน, ไก่ฮารามิ หมักสูตรต้นตำรับพร้อมปรุง ตราซีพี, ชาบูกริลล์รสกลมกล่อมพร้อมย่าง (ไก่ขึ้นรูปสไลซ์พร้อมย่าง) จาก ซีพี เมจิกเชฟ, ข้าวกะเพราไก่ ซีพี, ไส้กรอกสโมคกี้ไบท์ บีเคพี ขณะที่ ไส้กรอก ซีพี ชิกเก้นแฟรงค์, ไส้กรอก ซีพี ชิกเก้นแฟรงค์พริก รับรางวัล Superior Taste Award ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน

รางวัล Superior Taste Award จัดโดย International Taste Institute สถาบันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ร่วมมือกับสมาคมอาหารและเครื่องดื่มในยุโรป 15 แห่ง เพื่อทดสอบและประเมินรสชาติผลิตภัณฑ์ที่ต้องผ่านการผลิตมาตรฐาน มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมจากประสาทสัมผัสทั้งห้า โดยคณะกรรมการมืออาชีพ ซึ่งเป็นเชฟและซอมเมลิเยร์ชื่อดัง 200 คน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มให้โลกใบนี้เต็มไปด้วยของอร่อยและมีคุณภาพ

สิงห์อาสา – ม.ขอนแก่น รับมือเอลนีโญ ลุยสร้างแหล่งน้ำชุมชนเพิ่มในจ.มหาสารคาม

0
สิงห์อาสา ลงพื้นที่ในจ.มหาสารคาม สร้างแหล่งน้ำชุมชนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึง เนื่องจากการคาดการณ์ภูมิอากาศของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าปีนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะเอลนีโญ ที่ส่งผลกระทบให้เกิดภัยแล้งรุนแรง ทำให้หลายจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอีสานที่ส่วนใหญ่จะต้องใช้น้ำเพื่อการเกษตรอยู่ในสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ สิงห์อาสา จึงผนึกกำลัง คณะเกษตรศาสตร์ ม.ขอนแก่น ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สร้างต้นแบบแหล่งน้ำชุมชน บรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้าน ให้มีน้ำไว้ใช้ทั้งในช่วงหน้าแล้งและภาวะปกติ ควบคู่กับการนำรถน้ำออกให้บริการแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในภาคอีสาน

สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และบริษัท มหาสารคามเบเวอเรช จำกัด บริษัทในเครือฯ พร้อมด้วยเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 สถาบัน สร้างต้นแบบแหล่งน้ำชุมชนอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง ในโครงการ “สิงห์อาสาสร้างแหล่งน้ำชุมชนอย่างยั่งยืน” ด้วยการขุดบ่อเพื่อเป็นแหล่งน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการสร้างแหล่งน้ำชุมชนอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการนำรถน้ำออกให้บริการแจกจ่ายน้ำสะอาดให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนที่ โรงเรียนบ้านหนองแคนโนนงามโชคชัย ต.ห้วยเตย อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม ทั้งนี้ จะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งต่อไป

ผู้ช่วยศาสตราจารย์มัลลิกา ศรีสุธรรม อาจารย์สาขาวิชาปฐพีศาสตร์และสิ่งแวดล้อม คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า “กระบวนการเติมน้ำใต้ดินเป็นแนวทางที่จะช่วยแก้ปัญหาน้ำแล้งได้อย่างยั่งยืน การสร้างแหล่งน้ำชุมชนอย่างยั่งยืน จึงเป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำได้ โดยพื้นที่ที่เราเลือกในแต่ละครั้งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง มีน้ำไม่เพียงพอ โดยเราจะขุดบ่อในรูปแบบบ่อเปิดและบ่อปิด โดยบ่อปิดจะใช้วิธีขุดให้ลึกถึงชั้นบาดาลแล้วฝังท่อลงไป เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ดินโดยรอบ และบ่อเปิดจะเป็นแหล่งน้ำสาธารณะที่ทุกคนสามารถผันน้ำไปใช้ได้ตลอดทั้งปี ทำให้แหล่งน้ำดังกล่าวมีปริมาณน้ำที่เพียงพอให้กับคนในชุมชน ซึ่งทางคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ส่งเสริมความรู้ให้เกษตรกรปลูกพืชที่ยึดเกาะดิน ป้องกันน้ำหลาก ได้แก่ ต้นยางนาและไผ่ซางหม่นด้วย ทั้งนี้ ประชาชนควรติดตามสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างใกล้ชิด เตรียมตัวหาภาชนะเพื่อสำรองน้ำ หรือเตรียมขุดบ่อ ขุดสระ ไว้กักเก็บปริมาณน้ำฝนด้วย”

นายชาญชัย ทรัพย์มั่นคงทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท มหาสารคามเบเวอเรช จำกัด กล่าวว่า “บริษัท มหาสารคามเบเวอเรช จำกัด มีนโยบายที่ชัดเจนในการให้ความใส่ใจและดูแลสังคมรอบข้างมาโดยตลอด เพื่อดูแลพี่น้องชาวมหาสารคามและพื้นที่ใกล้เคียง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามแนวคิดและวิถีปฎิบัติที่เราได้ทำมาอย่างต่อเนื่องเพื่อ “องค์กร ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม มีความสุขร่วมกันอย่างยั่งยืน” สำหรับโครงการสิงห์อาสาสร้างแหล่งน้ำชุมชนอย่างยั่งยืนในครั้งนี้ เรามาช่วยสร้างแหล่งน้ำชุมชนเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ ทั้งในชีวิตประจำวันและใช้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งจากการทำงานร่วมกับ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำให้ทราบว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีภาวะฝนทิ้งช่วงจากสถานการณ์เอลนีโญ(El Nino) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งการสร้างแหล่งน้ำชุมชน จะช่วยให้ชาวมหาสารคามมีน้ำไว้ใช้ทั้งในฤดูแล้งและปกติอย่างยั่งยืน เมื่อมีน้ำพอกินพอใช้ก็จะสามารถต่อยอดไปสู่การสร้างรายได้ประกอบอาชีพได้

ตั้งแต่ปี 2564 สิงห์อาสาได้สร้างต้นแบบแหล่งน้ำชุมชน บรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านมาแล้วในพื้นที่ภาคอีสานหลายแห่ง และตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี สิงห์อาสาพร้อมด้วยเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 สถาบัน ได้ลงพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดให้กับชาวบ้าน ติดตั้งธนาคารน้ำสิงห์ ซึ่งเป็นแท้งค์น้ำให้ชาวบ้านได้มีน้ำใช้ ทำท่อประปาเพื่อใช้เป็นเส้นทางลำเลียงน้ำจากภูเขาเข้าสู่หมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกล และสร้างแหล่งน้ำชุมชน นำองค์ความรู้เรื่องการเติมน้ำใต้ดินมาสร้างแหล่งน้ำชุมชนและถ่ายทอดให้ชาวบ้าน เพื่อให้มีน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคอย่างยั่งยืน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องภาคอีสานได้เป็นอย่างดี โดยในครั้งนี้ ประกอบด้วย คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วยเครือข่ายสถาบันการศึกษา 16 สถาบันภาคอีสานที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยนครพนม, มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ,มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ, วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น และวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม

ออมสินจัดหนัก สลากออมสิน 2 ปี ลุ้นรางวัล 60 ล.

0

“☔️ ฤดูนี้ไม่มีร่มให้กาง มีแต่เงินล้านให้ลุ้น กับสลากออมสิน 2 ปี (ใบสลากและดิจิทัล) มูลค่ารางวัลรวม 60 ล้านบาท

? ลุ้นเพิ่มรางวัลพิเศษ มูลค่ารวม 30 ล้านบาท (รางวัลละ 3 ล้านบาท จำนวน 10 รางวัล)
? ลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท

รางวัลพิเศษ
หลักเกณฑ์รายละเอียด
เงื่อนไขการลุ้นรางวัลพิเศษ1. ต้องเป็นผู้ฝากสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี หรือสลากออมสินพิเศษ 2 ปี (ใบสลาก)ในระหว่างวันที่ 11 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2566 เท่านั้น2. ไม่จำกัดวงเงินรับฝากต่อราย
เงินรางวัลพิเศษรางวัลพิเศษ รางวัลละ 3 ล้านบาท จำนวน 10 รางวัลรวมเป็นเงินรางวัลทั้งสิ้น 30 ล้านบาทโดยกำหนดงวดและหมวดอักษรของรางวัลพิเศษ ทั้ง 10 รางวัล
การออกรางวัลพิเศษออกรางวัลจำนวน 1 ครั้งวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 จำนวน 10 รางวัล รวม 30 ล้านบาท
การรับเงินรางวัลพิเศษโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอน ในวันถัดจากวันที่ออกรางวัล

✨ ออกรางวัลพิเศษในวันที่ 1 ก.ค. 66
✨ บุคคลธรรมดาได้รับดอกเบี้ยและเงินรางวัลเต็ม ไม่เสียภาษี
✨ ถอนก่อนฝากครบ 6 เดือน หักส่วนลดตามอัตราที่ธนาคารกำหนด
✨ ต้องเป็นผู้ฝากสลากออมสิน 2 ปี (ใบสลากหรือดิจิทัล) ในระหว่างวันที่ 11 พ.ค. – 30 มิ.ย. 66 เท่านั้น

? รีบฝากเลยง่าย ๆ ที่ MyMo และ ธนาคารออมสินทุกสาขา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม > https://bit.ly/3MiPbqa
? เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

7 มิ.ย. “วันความปลอดภัยอาหารโลก” ซีพีเอฟ ชู ‘นวัตกรรม-รสชาติ’ ส่งต่อสุขภาพที่ดีเพื่อผู้บริโภค

0
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย มาใช้ในห่วงโซ่การผลิตอาหารตามมาตรฐานสากล ตรวจสอบย้อนกลับได้ สร้างหลักประกันโภชนาการที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภคและโลกอย่างยั่งยืน
นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์

นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด ด้านการตลาด ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ตระหนักดีถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และให้ความสำคัญในการเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพมากขึ้น ซีพีเอฟจึงศึกษาวิถีชีวิตและเทรนด์อาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกช่วงวัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีทั้งของผู้บริโภค ภายใต้หลักการสำคัญ 3 ด้าน คือ นวัตกรรม (Innovation) สุขภาพ (Wellness) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโลก (Planet) สอดคล้องกับแนวทาง “Food Standards Save Lives” ในวันความปลอดภัยอาหารโลก (World Food Safety Day 2023)

“ซีพีเอฟ คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้อาหารแต่ละคำที่รับประทาน นอกจากรสชาติอร่อย จะต้องมีคุณค่ามากกว่าอาหารทั่วไป ขณะเดียวกันยังมองหาโอกาสในการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกช่วงวัย และส่งเสริมการเข้าถึงอาหารทั้งในภาวะปกติและสถานการณ์วิกฤติ” นางสาวอนรรฆวี กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญตลอดกระบวนการตั้งแต่อาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ ไปจนถึงกระบวนการแปรรูปอาหาร อาทิ นำนวัตกรรมโปรไบโอติกพลัส (Probiotic Plus) มาใช้ในอาหารสัตว์ ยกระดับความปลอดภัยด้วยหลักการ Natural Prevention เสริมภูมิคุ้มกันให้สัตว์แข็งแรงตามธรรมชาติ ไม่เจ็บป่วยง่าย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยา โดยผลิตภัณฑ์ไก่สดปลอดสาร ตราซีพี ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน NSF ว่า ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะและไม่ใช้ฮอร์โมน เพื่อเร่งการเจริญเติบโต เลี้ยงดูอย่างพิถีพิถันภายในโรงเรือนระบบปิดที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย มีระบบป้องกันโรค 100% สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ สร้างความมั่นใจผู้บริโภคว่า อาหารปลอดภัย ไร้สารตกค้าง

ซีพีเอฟ ยังนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาอาหารทางเลือก อาทิ ‘MEAT ZERO’ ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช 100% ด้วยนวัตกรรม Plant–Tec เทคนิคการสร้างรสสัมผัสเสมือนเนื้อสัตว์จริง ปราศจากคอเลสเตอรอล มีโปรตีนและไฟเบอร์สูง รวมทั้งนวัตกรรมไส้กรอกอกไก่พริกไทยดำ แบรนด์ CP FI–IT รังสรรค์จากอกไก่คุณภาพ ที่นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อาหารที่ทันสมัยผนวกกับหลักโภชนาการที่ถูกต้องสร้างสรรค์สินค้าที่ดีต่อสุขภาพ ชูจุดเด่นโปรตีนสูง 20 กรัม เทียบเท่ากับไข่ขาว 5 ฟอง ไขมันและโซเดียมลดลง การันตีด้วยรางวัล “สุดยอดนวัตกรรมอาหาร” หรือ THAIFEX – Anuga Taste Innovation Show 2023 และรางวัล “สุดยอดรสชาติอาหารระดับโลก ประจำปี 2023” หรือ Superior Taste Award 2023 จากสถาบันชั้นนำของโลก International Taste Institute ประเทศเบลเยียม

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวทาง BCG (Bio-Circular-Green Economy) สู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) เพื่อร่วมบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ด้วยการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งบรรจุภัณฑ์อาหารพลาสติกสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ นำกลับมาใช้ซ้ำ และย่อยสลายได้ ตลอดจนพัฒนาสินค้าคาร์บอนตํ่า ซึ่งปัจจุบันมากกว่า 800 รายการ ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และกว่า 50 รายการ ได้ฉลากลดโลกร้อน จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. อาทิ ไข่ไก่เคจฟรี ไข่ไก่สดปลอดสาร

ความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรทุกมิติ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยของอาหารที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมกับรสชาติที่ถูกปาก ความสะดวกสบายในการรับประทาน ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟจะสร้างสรรค์และผลิตอาหารอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกช่วงวัย โดยมีบริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS ในกลุ่มซีพีเอฟ เป็นผู้ส่งมอบอาหารปลอดภัยแก่ผู้บริโภคทั่วโลก

เนื้อแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม บริโภคได้ปลอดภัย ปริมาณที่เหมาะสม

0
ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร จุฬาฯ แนะบริโภค ไส้กรอก แฮม โบโลน่า อย่างปลอดภัย ต้องมาจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน ที่สำคัญ รับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพที่ดีและร่างกายที่แข็งแรง

รศ.ดร.อินทาวุธ สรรพวรสถิตย์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูป อาทิ ไส้กรอก แฮม โบโลน่า คือ เนื้อสัตว์ที่นำมาผ่านขั้นตอนหรือกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้เนื้อแปรรูปที่พร้อมรับประทาน หรือสามารถนำไปทำให้สุกเพิ่มเติมก่อนรับประทาน โดยยังคงคุณค่าทางอาหารและประโยชน์ไว้ ทั้ง โปรตีน ซึ่งเป็นแหล่งของกรดอะมิโนที่ร่างกายจะนำไปใช้ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ไขมันที่ให้พลังงานกับร่างกาย ช่วยในการดูดซึมวิตามิน และสารอาหาร ไมโครนิวเทรียนท์ (Micronutrients) จำพวกวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ จึงถือได้ว่าผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูปเป็นแหล่งของสารอาหารที่ร่างกายต้องการ

ศ.ดร.อินทาวุธ สรรพวรสถิตย์

สำหรับวัตถุเจือปนอาหารที่จำเป็นต้องใช้ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป คือ ไนไตรท์ หรือเรียกว่ากลุ่ม ไนไตรท์ หรือ ไนเตรท โดยไนไตรท์จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นไนตริกออกไซด์ เมื่อจับกับเม็ดสีที่อยู่ภายในเนื้อสัตว์ เมื่อผ่านการให้ความร้อนจะกลายเป็นสีชมพูที่มีความเสถียร ที่สำคัญยังมีหน้าที่ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคโดยเฉพาะตัวที่เรียก คลอสตริเดียม โบทูลินัม ( Clostridium botulinum ) เชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคที่อันตรายมากหากมีการเจริญเติบโตในอาหารและสร้างสารพิษขึ้น หากไม่เติมไนไตรท์จึงมีโอกาสที่เชื้อจุลินทรีย์กลุ่มนี้จะเจริญเติบโตในผลิตภัณฑ์หากอยู่ในภาวะที่เหมาะสม

“มีข้อถกเถียงในแวดวงวิชาการว่า ไนไตรท์ มีโอกาสก่อตัวเป็นสารไนโตรซามีน (Nitrosamines) ที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้นั้น แท้จริงแล้วมีการศึกษาว่า ต้องใส่ไนไตรท์ในปริมาณที่มากพอถึงจะทำให้เกิดสารดังกล่าวได้ แต่ปริมาณที่ผู้ผลิตใส่ลงไปในเนื้อสัตว์ อยู่ในปริมาณตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่เกิน 80 มิลลิกรัม ต่อ 1 กิโลกรัมของผลิตภัณฑ์ ซึ่งในปริมาณเท่านี้ ส่วนมากจะเปลี่ยนไปเป็นสารไนตริกออกไซด์ และไม่สามารถไปทำปฏิกิริยากับโปรตีนแล้วทำให้เกิดสารก่อมะเร็งนี้ได้ หากอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารในปริมาณที่กำหนด จึงสามารถรับประทานได้ตามปกติ โดยเน้นรับประทานกับอาหารประเภทอื่นๆ ร่วมด้วยให้มีความหลากหลายเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ตามหลักอาหาร 5 หมู่ เกิดความสมดุล” รศ.ดร.อินทาวุธ กล่าว

นอกจากนี้ กระบวนการผลิตไส้กรอกที่มีราคาถูกและที่มีราคาสูงกว่า องค์ประกอบที่ใส่เข้าไปจะแตกต่างกัน โดยไส้กรอกราคาถูกจะใช้เนื้อสัตว์หรือโปรตีนราคาถูก อาจมาจากเนื้อสัตว์ติดกระดูกที่มีปริมาณโปรตีนน้อยและมีไขมันเยอะจึงทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง เมื่อนำมาผลิตไส้กรอก คุณสมบัติในการขึ้นรูปจะไม่ดีเท่ากับเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพดี จึงจำเป็นต้องเติมสารต่างๆ เข้าไปเพื่อให้แปรรูปได้ เช่น การเติมแป้ง ช่วยให้เกิดการขึ้นรูป ทำให้ลดต้นทุนในการผลิต และสามารถจำหน่ายในราคาที่ถูกได้ ดังนั้นหากเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการรับสารปนเปื้อนและมีอันตรายต่อผู้บริโภค

รศ.ดร.อินทาวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรฐานของผู้ผลิตที่บ่งบอกถึงความปลอดภัยสังเกตได้จากเครื่องหมายที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ เช่น เครื่องหมาย อย. เครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ เครื่องหมายที่บ่งบอกถึงความปลอดภัยต่างๆ อย่าง GMP และ HACCP โดยทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่รับประทานมีความปลอดภัย เลือกซื้อมารับประทานได้

ผู้บริโภคควรสังเกตวันที่ผลิตผลิตภัณฑ์ วันหมดอายุ และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากผู้ผลิตที่มั่นใจได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่จะก่อโรคอื่นๆ รวมถึงสารปนเปื้อน และวัตถุเจือปนที่เกินปริมาณมาตรฐานการผลิต ก็จะสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย

รู้เก็บรู้ออม : SET Social Impact GYM 2023

0

คอลัมน์ “รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน…สู่ความมั่งคั่ง” พูดถึงบทบาทของผู้ประกอบการในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม มาตลอดว่า นักธุรกิจคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากขึ้น มีการดำเนินธุรกิจในแนวทางเพื่อสังคม ตลอดจนความต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคม ไม่ได้มุ่งเพียงการแสวงหาผลประกอบการกำไรสูงสุดอย่างเดียว

เห็นได้จากจำนวนของผู้ประกอบการเพื่อสังคมคนรุ่นใหม่ในเครือข่าย SET Social Impact Platform ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน นอกจากการทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง เพื่อสร้างความร่วมมือ ผ่านโครงการต่างๆ เช่น Care the Bear, Care the Whale, Care the Wild ตลาดหลักทรัพย์ฯยังมีบทบาทด้านการสนับสนุนความรู้, แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนาหลักสูตรการเรียนเรื่องธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อสร้างผู้ประกอบการทางสังคมรุ่นใหม่ๆ

เช่นเดียวกับโครงการ “SET Social Impact Gym” ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) เพื่อแบ่งปันความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ทักษะการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจ จาก Coach ผู้บริหาร Top Executive ที่มาคอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้เรียนภายใต้แนวคิด Idea-to-I done

ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ ได้เรียนรู้ และปฏิบัติจริง เพื่อพัฒนาศักยภาพ และเตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างมั่นคง

และปีนี้ SET Social Impact GYM 2023 กำลังประกาศรับสมัครนักธุรกิจเพื่อสังคมที่ต้องการ GEAR TO SCALE อยากขยับขยายธุรกิจสู่ระดับ Growth Stage สร้างธุรกิจให้เติบโตแบบเข้มแข็งและยั่งยืน

สิ่งที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับอย่างแน่นอน คือ การปูความรู้ทักษะการทำธุรกิจ และการประเมินผลลัพธ์ทางสังคมอย่างยั่งยืนกับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิชั้นนำ, รับการโค้ชเพื่อพัฒนาแผนธุรกิจเสริมจุดแข็ง แก้จุดอ่อน แบบ one-on-one กับผู้บริหารระดับสูง บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลอดระยะเวลาของโครงการ 8 สัปดาห์

ตลอดจนการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ สร้างเครือข่ายกับนักธุรกิจเพื่อสังคมที่เข้าร่วมโปรแกรม, มีโอกาสต่อยอดธุรกิจในหลากหลายรูปแบบกับภาคธุรกิจ และเครือข่ายนักธุรกิจเพื่อสังคม อีกทั้งยังมีโอกาสเตรียมความพร้อมสู่เส้นทางระดมทุนในอนาคต

ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคมที่กำลังหรือมีแผนจะขยายธุรกิจ ต้องไม่พลาด รีบสมัครด่วนได้แล้วตั้งแต่วันนี้–30 มิ.ย. ส่วนกำหนดระยะเวลาโครงการ เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2566 และที่สำคัญ คือ เรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ!

สนใจ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.setsocialimpact.com หรือโทร.สอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายพัฒนาเพื่อสังคม 0-2009-9899, 0-2009-9601

คุณนายพารวย

ที่มา คอลัมน์ “รุูเก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน…สู่ความมั่งคั่ง” หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล “Education Achievement Awards” 4 ปีซ้อน

0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนางสาวอุมาพันธุ์ เจริญยิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รับรางวัล “Education Achievement Awards”     ปี 2022-2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยได้รับเกียรติจากนายสุรพล ทองทูลทรัพย์ ผู้แทนประจำประเทศไทย ของสถาบัน Limra Loma Asia /Pacific ให้เกียรติมอบรางวัล

รางวัล “Education Achievement Awards” ปี 2022-2023 เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรในการพัฒนาวิชาชีพให้เชี่ยวชาญตามมาตฐานสากล เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง  แก่ธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ในองค์กรที่ครบวงจร    ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่

ออมสิน จัดให้ “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 8 เดือน” ดอกเบี้ยสูงโดนใจ ผลตอบแทนคุ้ม ไม่เสียภาษี

0

? เงินฝากดอกเบี้ยสูงโดนใจ ผลตอบแทนไว ไม่เสียภาษี* กับเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 8 เดือน รับอัตราดอกเบี้ย 1.32% ต่อปี (เทียบเท่าเงินฝากประจำ 1.55% ต่อปี)

เงื่อนไขการฝาก

  1. เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท
  2. บุคคลธรรมดาที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป
  3. นิติบุคคลทุกประเภท
  4. บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลทุกประเภท ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด

การคิดดอกเบี้ย / ผลตอบแทน 

อัตราดอกเบี้ยต่อปี 1.32 ต่อปี (เทียบเท่าเงินฝากประจำร้อยละ 1.55 ต่อปี)

ระยะเวลารับฝาก

  • ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2566

เงื่อนไขการถอน

  • ถอนครั้งละเท่าใดก็ได้
  • ถอนหรือปิดบัญชีก่อนฝากครบ 8 เดือนนับตั้งแต่วันที่ฝาก จำนวนเงินที่ถอนจะได้รับดอกเบี้ย

ภาษี ณ ที่จ่าย

  • บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี
  • นิติบุคคลหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามประกาศกรมสรรพากร

การลงรับดอกเบี้ย

  • เมื่อฝากครบ 8 เดือนนับตั้งแต่วันที่ฝาก
  • จะโอนดอกเบี้ยและยอดเงินฝากเข้าบัญชีเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอนที่ผู้ฝากแจ้งไว้

? เปิดรับฝากวันที่ 1 – 30 มิ.ย. 66 ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา
รายละเอียดเพิ่มเติม > https://bit.ly/44j9Fag
⚠️ เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ซีพี ออลล์​ จับมือกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม​ จัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “Beat Plastic Pollution รักษ์โลก ลดพลาสติก”

0

กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “Beat Plastic Pollution รักษ์โลก ลดพลาสติก” ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยมีนางสาวสุปราณี สีนวลน้อย ผู้จัดการทั่วไป บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ เป็นตัวแทนบริษัท ร่วมเวทีเสวนาเพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์ด้านการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลาสติก ตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เซเว่น โก กรีน (7 Go Green) เพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ยั่งยืน ซีพี ออลล์ ดำเนินการตามแผนพัฒนาเพื่่อความยั่่งยืนระยะยาว ครอบคลุุมการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2564-2573 ซึ่งพิจารณาจากเหตุการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มของโลก (Global Trend) ตลอดจนศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัท

ในปี 2022 ที่ผ่านมา ได้ลดปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก 35,237.12 ตัน/386,789.11ตันคาร์บอน เท่ากับปลูกต้นไม้ 8,995,095 ต้น ลดปริมาณการสร้างขยะโดยการนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลับมาใช้ซ้ำ (Recycle & Circular Economy) 11,276.51 ตัน/136,502.62 ตันคาร์บอน

นอกจากนี้ 100% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่นำมาใช้จะต้องสามารนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือนำมาใช้ใหม่ หรือสามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ สำหรับบริษทัที่มีการดำเนินงานภายในประเทศไทยภายในปี 2025 สำหรับ บริษัทที่ดำเนินการในต่างประเทศภายใน ปี 2030