Home Blog Page 106

แนะวิธีรับประทานอาหารและเก็บรักษา ในช่วงฤดูร้อน

0

นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ย้ำ ฤดูร้อนอาหารเสียง่าย ควรใส่ใจในการรับประทานอาหาร ย้ำยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และควรกินอาหารปรุงสุก เสร็จใหม่ หลีกเลี่ยงการกินอาหารสุก ๆ ดิบๆ เพื่อความปลอดภัย

ดร.วนะพร ทองโฉม นักสุขศึกษา (นักกำหนดอาหารวิชาชีพ) งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ฤดูร้อน เป็นช่วงเวลาที่มีอุณหภูมิเหมาะสมต่อการเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร ผู้บริโภคควรระวังการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ก่อโรคในอาหารและน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อและเกิดโรคท้องร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด โรคไทฟอยด์และอหิวาตกโรค

สุขอนามัยพื้นฐานของการรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย คือ การปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนสูงในระดับที่สามารถทำลายเชื้อก่อโรคต่าง ๆ ที่ปนเปื้อนมากับอาหารได้ ผู้บริโภคควรรับประทานอาหารหลังจากปรุงสุก เสร็จใหม่ ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หลีกเลี่ยงการกินอาหารสุกๆ ดิบ ๆ และหากต้องกินอาหารร่วมกันกับผู้อื่นควรใช้ช้อนกลาง และก่อนกินอาหาร ต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อลดสื่อนำโรคติดต่อจากอาหารและน้ำ

นอกจากนี้ อาหารที่ปรุงสุกแล้ว ไม่ควรวางไว้ที่อุณหภูมิปกติเป็นเวลานานหลายชั่วโมง เพราะอุณหภูมิที่จุลินทรีย์และแบคทีเรียก่อโรคขยายตัวได้ดี คือ “ช่วงอุณหภูมิอันตราย” (Danger Zone) ระหว่าง 5-60 องศาเซลเซียส หมายความว่า อาหารที่อยู่ในอุณหภูมิช่วงนี้ แบคทีเรียจะสามารถเติบโตและเพิ่มปริมาณได้ดี ทำให้เชื้อเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุของอาหารบูดเสีย ผู้ที่รับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไปจะเกิดอาหารเป็นพิษได้

องค์การอนามัยโลกและกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา แนะนำว่า ไม่ควรทิ้งอาหารไว้ที่อุณหภูมิปกติเกิน 2 ชั่วโมง และหากอุณหภูมิเกิน 32 องศาเซลเซียส ไม่ควรทิ้งอาหารไว้เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งสภาพอากาศในประเทศไทยโดยเฉพาะฤดูร้อนอุณหภูมิมักจะสูงเกิน 32 องศาเซลเซียส จึงไม่ควรวางอาหารปรุงสุกแล้วไว้ที่อุณหภูมิปกติเกิน 1 ชั่วโมง เนื่องจากจุลินทรีย์มีอยู่ทั่วไปและสามารถขยายตัวในอาหารที่ตั้งทิ้งไว้ได้

สำหรับวิธีการเก็บรักษาอาหาร แนะนำการแช่เย็น ที่อุณหภูมิต่ำกว่าหรือเท่ากับ 4 องศาเซลเซียส เพราะจุลินทรีย์และแบคทีเรียเติบโตได้ช้าลง ขณะที่การแช่แข็ง อุณหภูมิเท่ากับหรือต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส จะหยุดการเติบโตของจุลินทรีย์ ทำให้เก็บอาหารได้นานขึ้น โดยทั่วไปตู้เย็นในช่องแช่เย็นจะมีอุณหภูมิประมาณ 4 องศาเซลเซียส และช่องแช่แข็งจะอยู่ที่ประมาณ -20 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม การเก็บอาหารที่อุณหภูมิต่ำทั้งการแช่เย็นและการแช่แข็งไม่ได้เป็นการทำลายหรือกำจัดเชื้อแบคทีเรีย แต่เป็นพียงการชะลอหรือยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียเท่านั้น ซึ่งอาหารแช่เย็นยังมีวันหมดอายุและเน่าเสียได้ ในกรณีอาหารที่ปรุงประกอบด้วยส่วนผสมหลายอย่าง ให้ยึดระยะเวลาของส่วนผสมที่เสียเร็วที่สุดเป็นเกณฑ์

ส่วนการทำอาหารในปริมาณมากและต้องการแบ่งอาหารเก็บไว้รับประทานหลายมื้อ ควรแบ่งใส่ภาชนะในสัดส่วนขนาดพอดีมื้อ ปิดให้มิดชิด และนำเข้าเก็บในช่องแช่แข็งหรือแช่เย็นภายใน 1 ชั่วโมง หากรับประทานอาหารไม่หมดและต้องการเก็บอาหารไว้รับประทานในมื้อต่อไป ควรอุ่นร้อนอาหารนั้นก่อน เพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียที่อาจปนเปื้อนมาในอาหาร และเมื่ออาหารอุณหภูมิเย็นลงแล้วให้แบ่งเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด เก็บเข้าตู้เย็นภายใน 1 ชั่วโมง เช่นกัน โดยสามารถเลือกเก็บได้ทั้งการแช่แข็งและการแช่เย็น ตามเวลาที่ต้องการเก็บรักษาอาหารนั้น

ขณะเดียวกัน ก่อนการรับประทานอาหารปรุงสุกที่ทำไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง หรือเก็บค้างคืนไว้ในตู้เย็น ต้องนำมาอุ่นด้วยความร้อนอย่างทั่วถึง ที่อุณหภูมิอย่างน้อย 74 องศาเซลเซียส หรืออุ่นจนกระทั่งเดือด เพื่อให้เพียงพอที่จะทำลายเชื้อแบคทีเรีย

รู้เก็บรู้ออม : วีซ่าลงทุนหุ้นนอก!!

0

การลงทุนในยุคนี้ มีเครื่องมือลงทุนใหม่ๆ ที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุกอย่างมาก ใครจะไปคิดว่า การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ จะสามารถทำได้อย่างสะดวกสบายด้วยเครื่องมือลงทุนอย่าง DR และ DRx ผ่านตลาดหุ้นไทย แถมซื้อขายด้วยเงินสกุลบาท โดยที่นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย เป็นเหมือนเราได้ฟรีวีซ่าให้บินไปคว้าหุ้นนอกตัวเจ๋งๆ มาสะสมในพอร์ตตัวเองเลยทีเดียว

หุ้นสหรัฐฯ เป็นเป้าหมายของนักลงทุนที่อยากโกอินเตอร์ เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดตลาดประมาณ 50 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือครึ่งหนึ่งของขนาดตลาดหุ้นทั้งโลกรวมกัน ถ้าเทียบกับ SET Index ของไทยแล้ว หุ้นสหรัฐฯ บางตัวที่เรารู้จัก มีขนาดหรือมูลค่ามาร์เก็ตแคปพอ ๆ กับหุ้นทั้งหมดในตลาดหุ้นไทยรวมกัน เช่น ห้าง Walmart ธนาคาร JP Morgan Chase หรือ หุ้น Apple มีขนาดถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใหญ่เป็น 6 เท่าของ SET Index เลยทีเดียว

ดังนั้น หุ้นสหรัฐฯ จึงเป็นทางเลือกลงทุนที่น่าสนใจ ซึ่งนักลงทุนไทยสามารถลงทุนโดยตรง โดยเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ไทยที่มีบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ แต่วิธีนี้ นักลงทุนจะต้องเสีย “ภาษีกำไรจากการลงทุน” ด้วย ขณะที่ช่องทางลงทุนผ่านเครื่องมือ DR ไม่มีเงื่อนไขเรื่องภาษีนี้ โดยปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ มี DR หุ้นต่างประเทศรวมกว่า 20 ตัว และมี DR ที่อิงดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แก่ NDX01 ซึ่งลงทุนอ้างอิงดัชนี NASDAQ 100 และ DRx 10 ตัว ซึ่งทั้งหมดเป็นหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และครอบคลุมหุ้น 7 นางฟ้าทั้ง Apple, Amazon, Alphabet, Meta, Microsoft, Nvidia และ Tesla

สัปดาห์นี้ “คุณนายพารวย” จึงมีข่าวดีมาแจ้งนักลงทุนและผู้สนใจที่กำลังเล็งหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นต่างประเทศตัวอื่นๆ รวมทั้งหุ้นไทย โดย “ตลาดหลักทรัพย์ฯ” กำลังจะมีงานสัมมนาให้ความรู้แบบจุกๆ ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 นี้

สัมมนา “ปรับพอร์ต เปิดโอกาส…คัดหุ้นตัวท็อปเข้าพอร์ต” ตั้งแต่ 9.30-12.00 น. ที่หอประชุมศุกรีย์ฯ ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ชวนมองหาแนวทางลงทุน ปรับกลยุทธ์ จัดพอร์ตให้ทันสถานการณ์ลงทุน ฟังมุมมองและโอกาสลงทุนหุ้นและคัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลกเพื่อเสริมพอร์ตแกร่ง พบกับหัวข้อที่ไม่ควรพลาด “ปรับกลยุทธ์ จัดพอร์ตลงทุน ด้วยหุ้นไทย-หุ้นเทศ”, “เปิดโอกาส คัดหุ้นนอกตัวท๊อป” พร้อมรับโผ DR-DRx ในดวงใจนักวิเคราะห์ เพิ่มโอกาสลงทุนหุ้นต่างประเทศง่าย ๆ ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย อย่างมั่นใจ พบบูธผู้ออกหลักทรัพย์ เจาะลึก DR และ DRx

งานนี้คนที่กำลังมองหาโอกาสลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดเต็มแบบจุใจ เพื่อให้ผู้สนใจตักตวงความรู้ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนกันแบบเต็มๆ ที่สำคัญงานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้สนใจ สามารถลงทะเบียนร่วมงานได้เลย โดยสแกน QR Code ไม่อยากเสียโอกาสลงทุนดีๆ ต้องห้ามพลาดงานนี้!

คุณนายพารวย

ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง" หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เมืองไทยประกันชีวิต จัดพิธียิ่งใหญ่ มอบรางวัลเกียรติยศ “MUANG THAI LIFE CONVENTION 2023”

0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และนายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  ให้เกียรติร่วมเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเกียรติยศฝ่ายขายประจำปี 2566 ภายใต้ชื่อ “MUANG THAI LIFE CONVENTION 2023″  

ท้้งนี้ เพื่อเป็นการประกาศเกียรติยศและฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ให้กับสุดยอดนักขายของบริษัทฯ ที่มีผลงานขายยอดเยี่ยมด้วยความเป็นมืออาชีพและทุ่มเทความสามารถ รวมถึงให้การบริการที่ดีแก่ผู้เอาประกัน ภายใต้กฎระเบียบและจรรยาบรรณตัวแทนที่กำหนด  โดยมี นางยุพา ล่ำซำ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสลิล ล่ำซำ นายภูมิชาย ล่ำซำ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ ร่วมในพิธี ณ เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

AIS PLAY ยิงสดงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ 2024 จัดเต็มติดขอบสนามที่เดียวเท่านั้น

0

AIS PLAY ตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการ Streaming Service ชั้นนำของไทย เตรียมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ 2024 CU – TU Unity Football Match 2024 ในฐานะ Official Broadcaster เพียงรายเดียว พร้อมส่งมอบประสบการณ์การรับชมแบบจัดเต็มความพิเศษ ขนทัพคอนเทนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กิจกรรมเบื้องหลัง การเตรียมความพร้อมของน้องๆ ทั้งจากจุฬาฯ และธรรมศาสตร์ ให้ทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และคนไทย ได้รับชมฟรี พร้อมไฮไลต์ และ รีรัน ผ่าน AIS PLAY ในทุกช่องทางที่เดียวเท่านั้น ชมพร้อมกันวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

นางสาวพิมพ์นรี น้อยธรรมราช หัวหน้าแผนกงานบริหารแบรนด์ AIS

นางสาวพิมพ์นรี น้อยธรรมราช หัวหน้าแผนกงานบริหารแบรนด์ AIS กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ AIS ได้ร่วมสนับสนุนการสานสัมพันธ์ครั้งนี้ เราต้องการส่งเสริมทั้งความสามารถ และความปรองดองสามัคคีของเด็กรุ่นใหม่ให้มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพและความสามารถอย่างสร้างสรรค์ กับการเป็นส่วนหนึ่งของงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ 2024 ที่กลับมาจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอยในรอบ 4 ปี โดย AIS ได้ร่วมส่งต่อประสบการณ์การรับชมศึกการแข่งขันฟุตบอลของน้องๆ นิสิต นักศึกษาทั้ง 2 มหาลัย ผ่านช่องทาง AIS PLAY ดูฟรีทุกเครือข่าย ในปีนี้เราได้ทราบมาว่าน้องๆ ได้เตรียมความพิเศษของงานทั้งขบวนพาเหรดสะท้อนสังคม การแปรอักษร การแสดงต่างๆ ที่ความสร้างสรรค์ แปลกใหม่ และยิ่งใหญ่ ผ่านแนวคิด Unity to Sustainability แสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสองมหาวิทยาลัย ซึ่งความพิเศษทั้งหมดนี้สามารถรับชมการถ่ายทอดสดให้ทุกคนได้รับชมฟรีพร้อมกันผ่านทาง AIS PLAY เท่านั้น

นอกจากนี้เรายังเตรียมความพร้อมจัดเต็มโครงข่ายการสื่อสารทั้ง 4G, 5G และ AIS Super WiFi ในบริเวณพื้นที่การจัดงานสนามศุภชลาศัย เพื่อรองรับปริมาณการใช้งานของศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันที่มาร่วมงานได้ส่งเสียงเชียร์รวมถึงสามารถใช้งานโซเชียลทั้งการโหลด โพสต์ แชร์ คอนเทนต์ภายในงาน ได้อย่างราบรื่นไม่สะดุดตลอดทั้งงาน”

นอกเหนือจากความเข้มข้นของการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลแล้ว AIS PLAY ยังถ่ายทอดความพิเศษตลอดทั้งงาน ยาวกว่า 5 ชั่วโมง ตั้งแต่ขบวนพาเหรดสะท้อนสังคม การแปรอักษรรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีอย่างจอ LED มาสร้างความตื่นตาตื่นใจ รวมถึงการแสดงสุดพิเศษจากชุมนุม ชมรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น CU POMPOM, CU ANGELS, CU DEVIL, กองสันทนาการแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, CU Color Guard, TU Color Guard ที่พร้อมมาสร้างความประทับใจและความสนุกกันอย่างคับคั่ง

สำหรับศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และประชาชนทุกคน สามารถรับชมงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ 2024 ได้ฟรีผ่านทาง AIS PLAY ในฐานะ Official Broadcaster ได้ทุกช่องทางตั้งแต่เวลา 14.00 เป็นต้นไป ทั้ง AIS PLAYBOX, แอปพลิเคชัน, เว็บไซต์, Apple TV และ Samsung Smart TV

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยข้อมูลการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (Outstanding Short Positions) เริ่ม 9 เม.ย. 67

0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีมติเห็นชอบมาตรการต่างๆ ในการยกระดับการกำกับดูแลการขายชอร์ต และการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย (Program Trading) เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น ความโปร่งใส และความเท่าเทียมให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งมาตรการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูล คือ การเปิดเผยข้อมูลการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (Outstanding Short Positions) เป็นรายหลักทรัพย์ 

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเริ่มเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวบนเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 เป็นต้นไป (สามารถเข้าดูข้อมูลได้ที่ www.set.or.th เลือกเมนูข้อมูลการซื้อขาย > ธุรกรรมขายชอร์ต > ข้อมูลการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน)

ซีพีเอฟ จับมือ กรุงเทพโปรดิวซ์ เปิดตัวแอป “ฟ.ฟาร์ม” แจ้งเบาะแสเผาแปลงข้าวโพด หวังพิชิตฝุ่น PM2.5

0

บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ผู้จัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรให้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมมือโรงงานอาหารสัตว์บก เดินหน้าตามนโยบายเครือซีพี “ไม่รับซื้อและไม่นำเข้าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากพื้นที่รุกป่าและพื้นที่ที่มาจากการเผา” เปิดแอปพลิเคชั่นฟ.ฟาร์ม แจ้งเบาะแสเผาแปลง โดยมี ผู้บริหารและพนักงานโรงงานอาหารสัตว์บก อาทิ โรงงานอาหารสัตว์บกลำพูน โรงงานอาหารสัตว์บกปักธงชัย โรงงานอาหารสัตว์บกโคกกรวด โรงงานอาหารสัตว์บกพิษณุโลก เป็นต้น ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ชวนคนไทยพบการเผาแปลง แจ้งผ่านแอปพลิเคชั่นฟ.ฟาร์ม (For Farm Application) ป้องกันการเผาแปลงข้าวโพด ตอกย้ำความมุ่งมั่นว่าโรงงานอาหารสัตว์บกซีพีเอฟทุกแห่งรับซื้อข้าวโพดที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งปลูกที่ไม่รุกป่า และไม่เผาเท่านั้น

นายบุญเสริม เจริญวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ด้านบริหารกระบวนการธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ กล่าวว่า โรงงานอาหารสัตว์บกซีพีเอฟทุกแห่ง ยึดมั่นตามนโยบายของเครือซีพี ไม่รับชื้อและไม่นำเข้าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากพื้นที่รุกป่า และเผาแปลง ข้าวโพดทั้งหมดจะจัดหาผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งปลูก และ โรงงานอาหารสัตว์บกซีพีเอฟ จึงขอเป็นส่วนหนึ่งระดมความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่กลายเป็นวาระแห่งชาติ โดยร่วมมือกับ กรุงเทพโปรดิ๊วส ผู้จัดหาข้าวโพดวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้ซีพีเอฟ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้จักแอปพลิเคชัน ฟ.ฟาร์ม เป็นช่องทางการร้องเรียนเมื่อพบการเผาแปลงข้าวโพด สร้างการมีส่วนร่วมให้ภาคประชาชนหยุดยการเผาแปลง โดยติดป้ายโปสเตอร์หน้าโรงงานอาหารสัตว์ของซีพีเอฟทั่วประเทศ และแสดงความมุ่งมั่นของซีพีเอฟในการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มาจากแหล่งปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า และไม่มีการเผาแปลง ร่วมสร้างอากาศสะอาดให้ชุมชนและเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

กรุงเทพโปรดิ๊วสพัฒนา แอปพลิเคชัน ฟ.ฟาร์ม เพื่อเป็นผู้ช่วยเกษตรกรเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเพาะปลูกพืช และลงทะเบียนในระบบตรวจสอบย้อนกลับเพื่อจำหน่ายข้าวโพดให้กับบริษัท โดยผู้ที่พบเห็นการเผาแปลงข้าวโพดที่ไหน ให้รีบถ่ายรูปการเผาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อมูลระบุตำแหน่งแปลงที่พบ (ตำแหน่งจีพีเอส) ผ่านทางแอป ฟ.ฟาร์ม

เมื่อได้รับแจ้งแล้ว บริษัทฯ จะตรวจสอบว่าแปลงที่เผาเป็นแปลงข้าวโพดที่ขายให้กับโรงงานอาหารสัตว์บกซีพีเอฟได้จากระบบตรวจสอบย้อนกลับ และส่งทีมงานเข้าไปยืนยัน พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจและรับรู้ถึงผลกระทบของการเผาแปลงที่มีต่อตัวผู้ปลูกและชุมชนรอบข้าง รวมถึง มาตรการของบริษัทฯที่จะหยุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรที่มีการเผาแปลงซ้ำเป็นรอบที่ 2 เป็นเวลา 1 ปี สำหรับแปลงเผาที่ถูกร้องเรียนไม่ได้อยู่ในระบบตรวจสอบย้อนกลับ บริษัทจะประสานงานแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวกับหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลเรื่องนี้ต่อไป

กรุงเทพโปรดิ๊วส เปิดช่องทางรับการร้องเรียนกรณีพบการเผาแปลงข้าวโพด 3 ช่องทาง รวมถึงการแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน ฟ.ฟาร์ม แจ้งผ่านเว็บไซต์ตรวจสอบย้อนกลับของซีพี เว็บไซต์ CPFWorldwide.com (https://traceability.fit-cpgroup.com/complaint) ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดของไทยก้าวสู่การเพาะปลูกแบบยั่งยืน

ปัจฉิมนิเทศว่าที่บัณฑิตสัตวแพทย์ มข.รุ่นที่ 32 ให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่

0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัตวแพทย์ ปราโมทย์ ตาฬวัฒน์ นายกสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย ผศ.น.สพ.ดร.คณิต ชูคันหอม รองคณบดีฝ่ายแผนและพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสัตวแพทยสภา สมาคมสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย (VPAT) และสมาคมศิษย์เก่าคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมบรรยายพิเศษ ในโครงการ “ปัจฉิมนิเทศว่าที่บัณฑิตสัตวแพทย์ มข.รุ่นที่ 32” ประจำปีการศึกษา 2566 ให้กับว่าที่บัณฑิตสัตวแพทย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทั้งนี้ เพื่อได้รับทราบถึงบทบาทและหน้าที่ ในการพัฒนาวิชาชีพสัตวแพทย์ ตลอดจนตระหนักถึงการปฏิบัติหน้าที่ของการเป็นสัตวแพทย์ที่ดี หลังสำเร็จการศึกษา ณ ห้องราชสีห์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

เมืองไทยประกันชีวิต จัด “เมืองไทยไตรกีฬา” ปีที่ 2 เดินหน้ากิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

0

เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้ากิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน  จัด “เมืองไทยไตรกีฬา”  ปีที่ 2 สุดยอดซีรีส์ไตรกีฬาประจำปี ประเดิมสนามแรก @สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์ ตอกย้ำนโยบายสนับสนุนประชาชนให้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ยังคงสานต่อในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนทุกคน  จัดกิจกรรมการแข่งขัน  เมืองไทยไตรกีฬา 2567 เป็นปีที่ 2  โดยในปีนี้  บริษัทฯ ยังคงจัดกิจกรรมการแข่งขัน เป็น  3  สนามเช่นเดิม  ได้แก่  เมืองไทยไตรกีฬา@สามร้อยยอด  ประจวบคีรีขันธ์  เมืองไทยไตรกีฬา@ห้วยไม้เต็ง ราชบุรี  และเมืองไทยไตรกีฬา@แหลมเสด็จ จันทบุรี  นับเป็นการแข่งขันไตรกีฬาแบบ Super series ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักไตรกีฬา   โดยการสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของบริษัทฯ ที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรด้วยการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติสิ่งแวดล้อม (Environment)  มิติสังคม (Social) และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance and Economic) หรือ ESG เพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน

สำหรับการแข่งขันเมืองไทยไตรกีฬา@สามร้อยยอดประจวบคีรีขันธ์ ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งจัดขึ้นเป็นสนามแรกของปี 2567  ในวันที่ 16-17  มีนาคม 2567  นั้น เป็นการสนับสนุนให้คนไทยและชาวต่างชาติออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี รวมถึงเป็นการสร้างและพัฒนาภาคีเครือข่ายการออกกำลังกายด้วยการว่าย-ปั่น-วิ่งเพื่อสุขภาพ และเป็นการยกระดับการจัดการแข่งขันกีฬาประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่มากยิ่งขึ้น  นับเป็นสนามการแข่งขันที่มีความพร้อมและมีความสวยงามของพื้นที่การแข่งขัน และได้รับความร่วมมือจากชุมชนในพื้นที่เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ มีนักกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้ความสนใจเข้าร่วมการแข่งขัน “เมืองไทยไตรกีฬา @สามร้อยยอดประจวบคีรีขันธ์” จำนวนทั้งสิ้น 721 คน จากหลายประเทศ ทั่วโลก อาทิ ฝรั่งเศส  อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์  ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยสีสัน ความสนุกสนาน และรอยยิ้มจากผู้เข้าร่วมงานที่ได้สัมผัสกับบรรยากาศบนเส้นทางหลักของการวิ่งที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงาม และรับอากาศที่บริสุทธิ์ในพื้นที่สามร้อยยอด  โดยประเภทการแข่งขันมีทั้งหมด 4 ประเภท สำหรับผู้ใหญ่ 3 ประเภท และสำหรับเยาวชน 1 ประเภท แยกตามประเภทอายุ และระยะทาง ดังนี้  

1.ประเภท Standard ว่ายน้ำระยะ 1,500 เมตร/ปั่นจักรยานระยะ 40 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 10 กิโลเมตร

2.ประเภท Sprint ว่ายน้ำระยะ 750 เมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 20 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 5 กิโลเมตร 

3.ประเภท Duathlon (ทวิกีฬา) วิ่งระยะ 5 กิโลเมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 20 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 5 กิโลเมตร

4.สำหรับเยาวชน ไตรกีฬาเยาวชน (Kids Triathlon) 

อายุ 6 – 8 ปี ว่ายน้ำระยะ 50 เมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 2 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 1 กิโลเมตร

อายุ 9 – 10 ปี ว่ายน้ำระยะ 150 เมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 4 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 2 กิโลเมตร

อายุ 11 – 12 ปี ว่ายน้ำระยะ 150 เมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 6 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 3 กิโลเมตร

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขน โดยมอบสิทธิพิเศษด้วย ประกันอุบัติเหตุกลุ่มระยะสั้น พลัส “ฟรี” ทุนประกัน 100,000 บาท/ราย ค่าชดเชยการรักษาพยาบาลสูงสุดต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งสูงสุด 10,000 บาท  โดยความคุ้มครองจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่จัดงานเมืองไทยไตรกีฬา @ สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์ 2024  ในระหว่างวันที่ 16-17 มีนาคม 2567 (เงื่อนไขการได้รับสิทธิ์เป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตกำหนด)

“การจัดการแข่งขันเมืองไทยไตรกีฬาไม่เพียงแค่สร้างโอกาสให้กับนักกีฬาและผู้เข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์สำหรับประชาชนทั่วไปในหลายด้าน ตลอดจนการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน โดยเน้นการออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวที่มีผลที่ดีต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นส่วนสำคัญของการรักษาสุขภาพที่ดีและป้องกันโรคได้เป็นอย่างดี  นอกจากนี้การแข่งขันไตรกีฬายังเป็นโอกาสในการประชุมร่วมกันของชุมชน และสร้างความร่วมมือระหว่างผู้จัดการการแข่งขันที่มีผลสำคัญในการสร้างชุมชนที่เข้มแข็งอีกด้วย” นายสาระกล่าวสรุป

“ห้าดาว” ลดค่าครองชีพผู้บริโภค … ปรับลดราคาสินค้า Five Star ทั่วไทย

0

นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด เปิดเผยว่า “ธุรกิจห้าดาว” (Five Star) ประกาศปรับลดราคาจำหน่ายสินค้า Five Star ถาวรหลายรายการ มาตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค โดยโครงสร้างราคาใหม่นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรเดิมของเถ้าแก่แฟรนไชส์ หากแต่เป็นการช่วยกระตุ้นผู้บริโภคซื้อสินค้าห้าดาวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าขายดียอดนิยมของห้าดาว หลายรายการ อาทิ ไก่ย่างทุกสูตร ไก่ทอด ไก่กรอบ และไก่จ๊อทุกเมนู ส่งผลให้เถ้าแก่ห้าดาวสามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น จนได้กำไรที่มากกว่าเดิม

“ห้าดาวให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ในการกับการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ รสชาติ และความคุ้มค่า เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคมาโดยตลอด ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันของครอบครัวห้าดาว ที่บริษัทฯ และแฟรนไชส์ มุ่งขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องตลอด 40 ปี เพื่อเดินหน้าการสร้างโอกาสแก่เถ้าแก่ห้าดาว เติบโตบนเส้นทางธุรกิจไปด้วยกันอย่างมั่นคง ควบคู่กับการสร้างแหล่งอาหารให้กับชุมชนและผู้บริโภคอย่างยั่งยืน” นายสุนทร กล่าว

ธุรกิจห้าดาว ยึดหลักการสร้างคุณค่าภายใต้ 3 ประโยชน์ คือ ประโยชน์แรก ประชาชนที่ได้รับประทานอาหารที่ดี มีคุณภาพ ในราคาคุ้มค่าเข้าถึงได้ เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ประโยชน์ต่อมา คือเถ้าแก่ในฐานะคู่ค้าที่แข็งแกร่ง ที่ต้องได้รับประโยชน์จากการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น มีกำไรเพิ่มขึ้น โดยห้าดาวไม่เคยลดกำไรของผู้ประกอบการแม้ในช่วงเวลา Promotion ก็ตาม ตอกย้ำการมุ่งสร้างงานสร้างอาชีพและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ประกอบการ และสุดท้ายประโยชน์จึงจะส่งต่อมาถึงบริษัทฯ

รู้เก็บรู้ออม : ส่อง บจ. จ่ายปันผล ปี 66

0

การเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลดี และสม่ำเสมอ เป็นทางเลือกที่ถือว่าปลอดภัย  และลดความเสี่ยงในการลงทุน  นักลงทุนเองสามารถสร้างความมั่งคั่งจากหุ้นปันผล ไม่ว่าจะเป็นการซื้อแล้วถือยาว หรือซื้อในช่วงจ่ายปันผล    “คุณนายพารวย”  จึงขอนำเสนอตัวเลขสถิติการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหุ้นไทยของปีพ.ศ. 2566 ที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รวบรวมและเผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้  

ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน  ช่วยให้รู้ช่วงเวลาในการจ่ายเงินปันผล  สามารถนำไปประกอบการวางแผนและตัดสินใจเลือกหุ้นปันผล  รวมทั้งเลือกจังหวะเวลาในการเข้าซื้อหุ้นปันผลมาสะสมไว้ในพอร์ต  ซึ่งนอกจากจะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลตามเป้าหมายที่วางไว้  หากซื้อในจังหวะดี ได้ราคาถูก  เราก็จะได้ผลตอบแทนสองเด้ง ทั้งจากเงินปันผลและกำไรส่วนต่างราคาหุ้น

ปี 2566  บจ. ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นรวมกว่า 593,098 ล้านบาท  ตัวเลขนี้เป็นการจ่ายเงินปันผล 842 ครั้ง ของบจ. จำนวน 583 บริษัท  บจ.ส่วนใหญ่จ่ายเงินปันผลปีละครั้ง มีบางบริษัทจ่ายปีละ 2 ครั้ง หรือ 4 ครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท โดยช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการจ่ายเงินปันผลของ บจ. ในตลาดหุ้นไทย มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.49%  

สำหรับช่วงเทศกาลจ่ายเงินปันผล จะอยู่ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม โดยในปี 2566 ช่วงเวลานี้มีการจ่ายเงินปันผลรวม 530 ครั้ง คิดเป็น 62.9% ของจำนวนการจ่ายเงินปันผลทั้งหมดในปี 2566  โดยมีเดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่การจ่ายเงินปันผลมากที่สุด รวม 449 ครั้ง คิดเป็น 53.3%  และในแต่ละปี จะมีช่วงเทศกาลจ่ายปันผลอีกรอบในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี โดย ก.ย. ปีที่แล้ว มีการจ่ายเงินปันผลรวม 175 ครั้ง หรือเท่ากับ 20.8%

หากพิจารณาเป็นหมวดธุรกิจแล้ว  มี 3 หมวดธุรกิจที่ครองแชมป์จ่ายปันผลสูงสุด นั่นคือ อันดับแรก หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค จ่ายปันผลไป 137,737  ล้านบาท, อันดับสอง เป็นหมวดธนาคาร ที่จ่ายเงินปันผลด้วยมูลค่ารวม 130,738 ล้านบาท และอันดับสาม เป็นหมวดหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ที่จ่ายปันผลไป 67,511 ล้านบาท

บริษัทที่สามารถจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ ย่อมแสดงว่า มีผลประกอบการดี สภาพคล่องสูง และมีกำไรต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนก็สามารถใช้ข้อมูลส่วนนี้มาคัดกรองเลือกเฟ้นหุ้นได้    จากรายงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ แม้ว่าในปี 2566  บจ.ไทยจะมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 946,605 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 2.6% ก็ตาม  แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายบริษัทแล้ว พบว่า บจ. ไทย จำนวน 625 บจ. จากทั้งหมด 828 บจ. ยังมีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจในปี 2566

จากตัวเลขสถิติต่างๆ ที่รวบรวมมา เชื่อได้ว่า จะช่วยให้นักลงทุนคัดกรองหุ้นเด็ด จับจังหวะเวลาซื้อขายหุ้นได้ และได้รับผลตอบแทนแบบปังๆ  บรรลุความต้องการและเป้าหมายที่วางไว้ สมปรารถนากันทุกคนค่ะ!

คุณนายพารวย

ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ