ทรู ปลื้ม ติดอันดับดัชนี DJSI คะแนนสูงสุด 3 ปีซ้อน

นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ทรู เป็นองค์กรสื่อสารโทรคมนาคมไทย เพียงรายแรกและรายเดียวที่ติดอันดับสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ประเภทตลาดเกิดใหม่ ( Emerging Markets) ด้วยคะแนนสูงสุดที่ 1 (World Industry Leader) ของโลก 3 ปีซ้อนของหมวดธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงคงสถานะเป็นสมาชิกดาวน์โจนส์ ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 (2017 – 2020) สะท้อนความมุ่งมั่นของกลุ่มทรูในการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานบรรษัทภิบาลที่แข็งแกร่ง คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มตามยุทธศาสตร์ภายใต้กรอบ 3 H’s : Heart Health Home พร้อมประกาศเดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมายอันท้าทายของปี 2030 ทั้งการก้าวเป็นองค์กร Carbon Neutral และกำหนดของเสียที่เกิดจากการดำเนินงานต้องเป็นศูนย์ ภายในปี 2030 เพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวและยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชาติต่อไป

นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า การที่ได้เป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมไทยเพียงรายแรกและรายเดียว ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และได้รับคะแนนสูงสุด 3 ปีซ้อนนี้ ไม่เพียงจะย้ำภาพความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสื่อสารที่เข้าใจทุกปัญหาและความต้องการของทุกภาคส่วน แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่นักลงทุน นักวิเคราะห์ทางการเงิน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ทั่วโลกอีกด้วย

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลกครั้งนี้ เป็นผลมาจากทุกคนในองค์กรที่ต่างตั้งใจและทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ตามนโยบายการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้านความยั่งยืน และชาวทรูทุกคนจะยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับเป้าหมายสู่ปี 2030 นี้ นับว่าท้าทายอย่างมาก ด้วยกลุ่มทรู ได้กำหนดและต้องการบรรลุเป้าหมายที่สำคัญ 2 ข้อ ได้แก่ 1.การเป็นองค์กร Carbon Neutral ภายในปี 2030 ลดการปลดปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ เลิกใช้เทคโนโลยีที่สิ้นเปลืองพลังงาน และใช้พลังงานทางเลือก และ 2.กำหนดให้ของเสียที่เกิดจากการดำเนินงานต้องเป็นศูนย์ ภายในปี 2030