มั่นใจเชียงใหม่มีน้ำกินน้ำใช้พอตลอดแล้ง วอนทุกฝ่ายร่วมกันประหยัดน้ำ

กรมชลประทาน
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน

กรมชลประทาน ย้ำเมืองเชียงใหม่ มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดแล้งนี้ พร้อมเดินหน้ามาตรการรับมือภัยแล้ง วอนหากทุกฝ่ายร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดน้ำที่สุด จะรอดพ้นวิกฤตขาดแคลนน้ำได้อย่างแน่นอน

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า สืบเนื่องจากในช่วงฤดูฝนปี 2562 ที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยทั้งจังหวัดเพียง 911 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ยถึง 22 %        (ฝนเฉลี่ย 1,168 มิลลิเมตร) ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมไปถึงแม่น้ำสายต่างๆ มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย กระทบต่อปริมาณน้ำดิบที่จะใช้ในการผลิตประปาหลายแห่ง นั้น

กรมชลประทาน ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งนี้ โดยใช้น้ำต้นทุนจาก 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 46.56 ล้านลูกบาศก์เมตร(ล้าน ลบ.ม.) หรือ 18% ของความจุอ่าง และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีปริมาณน้ำ 60.60 ล้าน ลบ.ม. หรือ 23% ของความจุอ่าง รวมทั้งใช้น้ำจากอ่างขนาดกลางอีก 12 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 22 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งได้มีการวางแผนจัดสรรน้ำเฉพาะการอุปโภคบริโภคในเขตชลประทานไว้อย่างเพียงพอไปจนถึงต้นฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ภายใต้เงื่อนไขที่ทุกฝ่ายต้องร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด

ด้านการรับมือภัยแล้ง ได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติตามแผน อาทิ ขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการและแผนการใช้น้ำชลประทานอย่างเคร่งครัด, กำหนดให้ใช้น้ำในคลองส่งน้ำได้ตั้งแต่วันจันทร์ เวลา 09.00 น. ถึงวันศุกร์ เวลา 18.00 น. และหยุดใช้น้ำในวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสามารถสูบน้ำได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ไม่เกินวันละ 10 ชั่วโมง และให้งดสูบน้ำในวันเสาร์และอาทิตย์ สถานีสูบน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคและการประปาส่วนท้องถิ่น สามารถทำการสูบน้ำได้ตามปกติตามแผนที่ได้เสนอกรมชลประทานไว้แล้ว พร้อมกับขอความร่วมมือให้งดการเลี้ยงปลาในกระชังทั้งในแม่น้ำปิง คลองส่งน้ำ และเหมืองส่งน้ำ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 รวมทั้ง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำ คู คลอง หรือแหล่งน้ำต่างๆ เนื่องจากจะทำให้ต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อเจือจางน้ำเสีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำที่จะใช้ในการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ตลอดฤดูแล้งนี้

ด้านการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้งของจังหวัดเชียงใหม่ มีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้งไปแล้ว 10 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ฝาง อ.เชียงดาว อ.แม่อาย อ.แม่แตง อ.สันป่าตอง อ.ฮอด อ.อมก๋อย อ.ดอยหล่อ  อ.กัลยาณิวัฒนา และ อ.ดอยเต่า พื้นที่ประสบภัย 18 ตำบล 216 หมู่บ้าน 67,608 ครัวเรือน  

กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุกน้ำ เข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยรถบรรทุกน้ำ ได้มีการนำน้ำไปแจกจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค(ตั้งแต่ 1 – 22 เม.ย. 63) รวมปริมาณน้ำกว่า 746,000 ลิตร นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่อง ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร(ไม้ผล ไม้ยืนต้น) รวมกว่า 5,000 ไร่ ปริมาณน้ำที่สูบสะสมรวมประมาณ 2,505,000 ลบ.ม. ทั้งนี้ จะดำเนินการช่วยเหลือไปจนกว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนหรือมีฝนตกชุกในพื้นที่สม่ำเสมอ