นายณฤกษ์ มางเขียว รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า โรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปของซีพีเอฟมีกระบวนการผลิตแบบระบบปิดโดยใช้เทคโนโลยีทันสมัย ตั้งแต่การคัดเลือกและเตรียมวัตถุดิบคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด และต้องสด สะอาด ปราศจากสารเคมี โดยในแต่ละขั้นตอนผ่านการใช้ความร้อนเพื่อให้มั่นใจว่าปราศจากเชื้อแบคทีเรียและไวรัส มีการตรวจจับโลหะเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่อาจปะปนในอาหาร และลำเลียงเข้าห้องจัดเรียงสินค้าโดยใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ ก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะถูกลำเลียงไปยังจุดต่างๆ ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบอีกครั้ง ด้วยนวัตกรรมทันสมัยจากเครื่องตรวจสอบ วิเคราะห์ ที่ได้มาตรฐาน พร้อมนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์
ทุกขั้นตอนผ่านการผลิตด้วยเทคโนโลยีการผลิตอาหารอัตโนมัติขั้นสูงเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อสามารถรักษาคุณภาพของอาหารอย่างครบถ้วน อีกทั้งยังช่วยถนอมรสชาติและคุณภาพของอาหารเหมือนพึ่งปรุงสุกใหม่ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารของซีพีเอฟมาจากการวิจัยและพัฒนา คิดค้นของนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์การอาหารให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่อร่อย มีคุณค่าทางอาหารแก่ผู้บริโภค
ด้วยลักษณะการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร บริษัทจึงมีศักยภาพในการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพตลอดกระบวนการผลิตได้อย่างเป็นระบบ พร้อมนำระบบมาตรฐานสากลและมาตรฐานของกลุ่มลูกค้า ซึ่งได้รับรองจากหน่วยงานอิสระ (Third Party) มาประยุกต์ใช้ในการผลิตอาหาร ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟ ได้รับรองมาตรฐานที่ผ่านการรองรับมาตรฐานสากล อาทิ GMP มาตรฐานสุขลักษณะที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Manufacturing Practice : GMP) ระบบการผลิตอาหารที่ปลอดภัย (Hazard Analysis Critical Control Point : HACCP) ระบบมาตรฐานบริหารงานคุณภาพ (ISO 9001) มาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศอังกฤษ (British Retail Consortium : BRC) เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” ที่มุ่งมั่นใส่ใจส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย สร้างความมั่นคงของอาหารในแนวทางที่สร้างคุณค่าและรักษาสมดุลทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม