Home Blog Page 379

คาราบาวกรุ๊ป / อาฟเตอร์ยู / เถ้าแก่น้อย คว้ารางวัลซีอีโอยอดเยี่ยมเวที SET Awards 2020

0

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการประกาศรางวัล SET Awards 2020 โดยตลาดหลักทรัพย์ ปีนี้ นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คาราบาวกรุ๊ป (CBG) รับรางวัลผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม (Best CEO Award) ของ SET , นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ. อาฟเตอร์ ยู (AU)  รับรางวัล Best CEO Award ของ mai และนายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) รับรางวัล Young Rising Star CEO Award ขณะที่ บมจ. สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) รับรางวัล SET Award of Honor ติดต่อกันเป็นปีที่ 2

ซีอีโอที่ได้รับรางวัลผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม (Best CEO Awards) ทุกคนมีความโดดเด่นในการนำพาองค์กรเดินหน้าภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากปัจจัยรอบด้าน สู่การเป็นองค์กรต้นแบบในตลาดทุน รวมถึงส่งเสริมความสามารถการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนยกระดับตลาดทุนไทยสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว สอดคล้องวิสัยทัศน์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone

ในปีนี้มีบริษัทได้รับรางวัลยอดเยี่ยมรวมทั้งสิ้น 24 บริษัท แบ่งเป็น บจ. ใน SET 17 บริษัท mai  2 บริษัท บริษัทหลักทรัพย์ 4 บริษัท (รวมบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 1 บริษัท นอกจากนี้ บมจ. สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) ยังสามารถรักษาความเป็นเลิศต่อเนื่องด้านนักลงทุนสัมพันธ์ตั้งแต่ปี 2017-2020 จนได้รับรางวัล SET Award of Honor

นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร ผู้ร่วมก่อตั้งรางวัล SET Awards กล่าวว่า รางวัล SET Awards ถือเป็นรางวัลอันทรงคุณค่าที่มอบให้แก่บริษัทที่มีความโดดเด่นและความเป็นเลิศในด้านต่างๆ แม้ว่าในปีนี้ภาคธุรกิจจะประสบกับการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านจากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม แต่ด้วยความร่วมมือจากทุก          ภาคส่วน และด้วยความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจไทย ส่งผลให้บริษัทสามารถรักษาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

รางวัล SET Awards ในกลุ่มรางวัล Business Excellence สำหรับปีนี้ ประกอบด้วย 7 รางวัล ได้แก่ 1) Best Investor Relations Awards 2) Best Innovative Company Awards 3) Best Asset Management Company Award  4) Best Securities Company Awards 5) Best Company Performance Awards 6) Best Deal of the Year Awards 7) Best CEO Awards และ Young Rising Star CEO Award  นอกจากนี้ ยังมีรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จ สำหรับบริษัทหรือบุคคลที่สามารถรักษาความโดดเด่นได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป

ซีพี เวียดนาม ติดอันดับท็อปเท็น บริษัทที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศเวียดนาม

0

สภาพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนแห่งชาติเวียดนาม (VBCSD) มอบประกาศนียบัตร 100 บริษัทยั่งยืน ในโครงการประเมินและจัดอันดับธุรกิจยั่งยืนประเทศเวียดนาม แก่ CP เวียดนาม เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน นอกจากนี้ บริษัทยังมีผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนโดดเด่นอยู่ในกลุ่มบริษัท TOP 10 (Top 10 sustainable companies in the manufacturing sector) จากบริษัททั้งหมดที่ได้รับการคัดเลือก

โดยโครงการประเมินและจัดอันดับธุรกิจยั่งยืนประเทศเวียดนาม เป็นการประเมินประจำปี ด้วยเกณฑ์ข้อกำหนด CSI (Corporate Sustainability Index) มีดัชนีช้วัด 127 ข้อ ครอบคลุมการดำเนินการด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

นาย มนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี กรรมการผู้จัดการ CP เวียดนาม กล่าวว่า การติด 1 ใน 10 บริษัทที่ยั่งยืนที่สุดของเวียดนามในปีนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ บนรากฐานของการร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ตามหลัก 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน ได้แก่ ต่อประเทศ ต่อประชาชน และต่อบริษัท ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญมาตลอดระยะเวลามากกว่า 25 ปี

ทั้งนี้ CP เวียดนาม มีการกระบวนการผลิตอาหารที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ผลิตในไทย โดยให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการและความปลอดภัยของอาหาร ตลอดจนการผลิตอย่างเพียงพอเพื่อความมั่นคงทางอาหาร สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน และได้รับการตรวจประเมินด้านความยั่งยืน คู่ค้าหลักในกิจการประเทศเวียดนามทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังร่วมกับภาครัฐจัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของคู่ค้าธุรกิจ เพื่อให้ความรู้กับคู่ค้าด้านการปฏิบัติต่อแรงงานตามกฎหมาย การเพิ่มความปลอดภัย สุขอนามัยในการทำงาน เพื่อช่วยยกระดับการคุ้มครองแรงงานตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล พัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของบริษัทอีกด้วย

สำหรับกิจการในเวียดนาม บริษัทส่งเสริมเทคนิควิชาการ การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้และถ่ายทอดให้กับเกษตรกรท้องถิ่น เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพจากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การถ่ายทอดการเลี้ยงกุ้งแบบ CPF Combine Model ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้มาตรฐานสากล และยึดแนวทาง 3 สะอาด ได้แก่ พื้นบ่อสะอาด, น้ำสะอาด และกุ้งสะอาด ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในเวียดนาม ช่วยให้สามารถเลี้ยงกุ้งได้อย่างยั่งยืน ลดความเสี่ยงของโรคระบาด ให้ผลผลิตสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

CP เวียดนาม ส่งเสริมให้พนักงานร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาหลายรูปแบบ เช่นการปลูกต้นไม้ในสถานประกอบการทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ We Grow ปลูกเพื่อความยั่งยืน เพื่อปลูกจิตสำนึกในการใส่ใจดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการ และร่วมกับสภากาชาดเวียดนาม จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตมาอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงการระบาดของโควิด-19 บริษัทริเริ่มโครงการหน้ากากแห่งความเมตตา เพื่อสนับสนุนบริจาคหน้ากากอนามัยฟรี 8 ล้านชิ้น ส่งมอบให้แก่ ก.สาธารณสุขเวียดนาม เพื่อส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ อาสาสมัคร ในการช่วยเหลือดูแลชาวเวียดนาม ตลอดจนมอบให้องค์กรด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ เป็นต้น

ไส้กรอกบุชเชอร์ จัดกิจกรรมเอาใจลูกค้า ฉลองปีใหม่กับศิลปินคนโปรด

0

นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการตลาดกลาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทจัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าและแฟนคลับ ให้ได้ร่วมฉลองปีใหม่กับพรีเซ็นเตอร์คนโปรด นนท์ ธนนท์ ในกิจกรรม “Bucher On, Music On with Nont”

เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุน “บุชเชอร์” มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้ส่งพรีเซ็นเตอร์ “นนท์ ธนนท์” มอบความสุขและความฟินให้กับลูกค้าและแฟนคลับอีกครั้ง ในกิจกรรมพิเศษฉลองช่วงท้ายปี “Bucher On, Music On with Nont” ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน ในรูปแบบมินิคอนเสิร์ตแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ นนท์ ทั้งร้องทั้งเต้น สร้างความสุขให้แก่แฟนคลับผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ด้วยดีเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้า 10 ท่านที่มียอดซื้อผลิตภัณฑ์บุชเชอร์ครบ 10,000 บาท (ตามเงื่อนไขของบริษัทฯ) จะได้ร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิดกับพรีเซ็นเตอร์คนโปรด และได้ร่วมรับประทานอาหารแบบ Exclusive Lunch กับนนท์ ธนนท์ด้วย

ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกบุชเชอร์ 3 รสชาติ ได้แก่ รสต้นตำรับ (ชไวเวิร์สท) รสพริก (ชไวเวิร์สท ชิลลี่) และรสชีส (เชดดาร์เวิร์สท) อร่อยแบบ กรอบนำ ฉ่ำตาม ผลิตจากวัตถุดิบเนื้อสัตว์คุณภาพ ภายใต้กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้ พร้อมให้บริการความอร่อยระดับพรีเมี่ยมแล้ววันนี้ที่เซเว่นอีเลฟเว่น และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

ซีพีเอฟ เปิด 2 จุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใกล้แหล่งปลูก

0

สร้างความมั่นใจให้เกษตรกรว่า มีแหล่งรับซื้อแน่นอน

โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สร้างความมั่นใจเกษตรกรช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตั้งจุดรับซื้อผลผลิตใกล้แหล่งปลูกของเกษตรกรเพิ่มอีก 2 จุดในจังหวัดอุทัยธานี และนครราชสีมา เสริมการรับซื้อผลผลิตหน้าโรงงาน 15 แห่งทั่วประเทศ ยืนยันรับซื้อเฉพาะผลผลิตที่มาจากแหล่งปลูกที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง ไม่บุกรุกป่า

นายวรพจน์ สุรัตวิศิษฏ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ผู้จัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ให้กับ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมมือกับ โรงงานอาหารสัตว์ ซีพีเอฟ เปิดจุดรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โดยตรงจากเกษตรกรใกล้แหล่งปลูก 2 จุดที่ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี และ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ภายใต้โครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ช่วยสร้างความมั่นใจให้พี่น้องเกษตรกรที่กำลังเก็บเกี่ยวมีแหล่งรับซื้อมีมาตรฐานเป็นทางเลือกมากขึ้น และได้ราคารับซื้อที่โปร่งใส อ้างอิงความชื้นตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยืนยันรับซื้อผลผลิตจากพื้นที่เพาะปลูกมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง ไม่บุกรุกป่า

“บริษัทฯ​ ต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกร โดยมีจุดรับซื้อผลผลิตที่ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ปลูก อำนวยความสะดวกให้เกษตรกรรายย่อยไม่ต้องเสียเวลาขนผลผลิตเก็บเกี่ยวไปในระยะทางไกล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการช่วยเหลือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ​​ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ด้วยการสนับสนุนจัดหารถเก็บเกี่ยวและรถขนส่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายและค่าขนส่งบางส่วน เพื่อลดภาระต้นทุน แก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน และเกษตรกรไม่ต้องจัดหารถเก็บเกี่ยวและรถขนส่งเอง” นายวรพจน์กล่าว

ขณะเดียวกัน เกษตรกรยังสามารถนำผลผลิตมาขายที่โรงงานผลิตอาหารสัตว์ของซีพีเอฟ ซึ่งใช้ระบบ Fast Track ช่วยเกษตรกรรายย่อยสามารถขายสินค้าได้ทันทีไม่ต้องรอต่อคิวกับรถของผู้ประกอบการรายใหญ่

ในการรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์​ของซีพีเอฟ เกษตรกรนำผลผลิตมาจำหน่ายได้ หลังแสดงหลักฐานและลงทะเบียนในระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (Corn Traceability) เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่า ผลผลิตทั้งหมดปลูกมาจากพื้นที่มีเอกสารสิทธ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่า และปลูกตามหลักวิชาการ ไม่ใช้การเผาตอซัง ตามนโยบายด้านการจัดหาอย่างยั่งยืนของซีพีเอฟ ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยให้เติบโตไปด้วยกัน

ซีพีเอฟได้ประกาศนำระบบตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาใช้ดำเนินการในกระบวนการจัดหาผลผลิตที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์มาตั้งแต่ต้นปี 2559 ยืนยันเจตนารมณ์การจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขอความร่วมมือจากคู่ค้าในการจัดส่งข้อมูลพิกัด GPS รถขนส่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้มีความถูกต้องและโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค ตลอดห่วงโซ่ผลิตอาหารของซีพีเอฟตั้งแต่ต้นทาง ถึง แปลงเพาะปลูกของเกษตรกร มีความรับผิดชอบ ช่วยบรรเทาผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร

AIS ชวนคนไทยทิ้งขยะ E-Waste ลุ้นรับสมาร์ทโฟน

0

กิจกรรม AIS E-Waste ทิ้งรับโชค แล้วร่วมลุ้นรางวัล มูลค่ากว่า 280,000 บาท

รายงานข่าวจาก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผย่า เอไอเอจ เชิญชวนคนไทยมาจัดบ้าน พร้อมทิ้งขยะ โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) อย่างถูกวิธี ซึ่งนอกจากจะทำให้บ้านโล่ง รับปีใหม่ได้อย่างสดใสแล้ว ยังได้ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันอีกด้วย

โดยเอไอเอส ได้กิจกรรม “AIS E-Waste ทิ้งรับโชค” เชิญชวนให้ลูกค้าเอไอเอส และ เอไอเอสไฟเบอร์ ลุ้นรับสมาร์ทโฟน 5G และรางวัลอื่นๆ รวม 21 รางวัล มูลค่ากว่า 280,000 บาท เพียงนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทั้ง 5 ประเภท ได้แก่ 1. โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต 2. แบตเตอรี่มือถือ 3. พาวเวอร์แบงก์ 4. สายชาร์จ 5. หูฟัง มาทิ้งได้ที่ AIS Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2563 โดยขยะอิเล็กทรอนิกส์ 1 ชิ้น = 1 สิทธิ์ (1 หมายเลข/10สิทธิ์/โครงการ)

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ต้องเรียกพนักงาน เพื่อสแกน QR Code รับสิทธิ์ก่อนทิ้ง จะได้เข้าร่วมโครงการได้อย่างครบถ้วน สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://m.ais.co.th/pLHM00nsZ

พีทีที สเตชั่น คว้าอันดับหนึ่งรางวัล TAQA 2020 สถานีบริการน้ำมันยอดนิยม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11

0

รายงานข่าว เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีพิธีมอบรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ประจำปี  2563 หรือ Thailand Automotive Quality Award 2020 (TAQA) โดยมีนายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ นายพีระวัฒน์ วชิโรภาสนันท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์  โดยในปีนี้ สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ได้รับรางวัล “รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม” ประเภทสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ติดต่อกันเป็นปีที่ 11 ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่น และความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์และบริการที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ พีทีที สเตชั่น

รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA) ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นถึงธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมในประเภทต่าง ๆ และความต้องการของผู้ใช้รถยนต์โดยตรง เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ของประเทศไทย รวมทั้งเป็นข้อมูลแก่ผู้ประกอบธุรกิจนำไปพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ ให้เข้าถึงความต้องการสูงสุดของผู้บริโภค

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ตลอดจนให้สถานีบริการน้ำมัน เป็นศูนย์กลางของชุมชน ในการร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจชุมชน ให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ซีพี จัดตั้ง CP IP Service Center หน่วยงานกลางดูแลทรัพย์สินทางปัญญา

0

รายงานข่าว เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้จัดตั้ง หน่วยงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาภายในเครือฯ (CP IP Service Center) ทำหน้าที่ เป็นหน่วยงานกลางในการให้คำปรึกษาและให้บริการด้านทรัพย์สินทางปัญญาแก่บุคลากรภายในเครือฯ เพื่อก้าวสู่การเป็น Innovation & Technology Driven Company นำโดย คุณดวงฤดี เถลิงโชค  สังกัด Group Chief Technology Officer (Group CTO)   ภายใต้การดูแลของ Dr.Yue Jun Jiang Group CTO เพื่อรองรับการสร้างนวัตกรรมและเร่งผลักดันผลงานที่นวัตกรของเครือฯร่วมกันสร้างสรรค์ ให้สามารถยื่นขอรับความคุ้มครองเป็นสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรได้ในอนาคต

ทั้งนี้  การจะนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายดังกล่าว เครือฯ จะต้องสร้างองค์ความรู้ให้เหล่านวัตกร  ดังนั้น จึงจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่บุคลากรภายในเครือฯ   ในหลักสูตรอบรมความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญา IP : Train the trainer รุ่นที่ 1 ซึ่งเป็นโครงการนำร่อง  โดยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563  และ เป็นวันแรกของการเปิดหลักสูตร ซึ่งผู้เรียนได้รับความรู้ ในหัวข้อ ทรัพย์สินทางปัญญาและประเภทของทรัพย์สินทางปัญญา, เครื่องหมาย การค้า และลิขสิทธิ์ รวมถึงการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญา

การอบรมในหลักสูตรดังกล่าว เป็นระยะเวลา 9 วัน ตามวันและเวลาที่กำหนด  โดยจัดในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ให้กลุ่มคลากรของเครือฯ ทั่วประเทศ ซึ่งในรุ่น 1 นี้จะไปสิ้นสุดในเดิอน มกราคม 2564 ทั้งนี้  การจัดอบรมเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ CP IP Service Center จะมุ่งเน้น และดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2564   เพราะจะมีส่วนสำคัญช่วยสนับสนุนการสร้างนวัตกรรม รวมถึงขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้กับเครือเจริญโภคภัณฑ์ต่อไป

ซีพีเอฟ มองแรงหนุนบริโภคปีหน้าทั่วโลกฟื้น ตั้งเป้ายอดขายโต 10%

0

นางกอบบุญ ศรีชัย เลขานุการบริษัทและหัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และตลาดทุน บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 8-10% จากปีนี้ รับปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของการบริโภคทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นจากปีนี้ หลังสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลายลงมากขึ้น ทำให้การบริโภคเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นในปีหน้า

นอกจากนั้น แนวโน้มราคาเนื้อสุกรยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าอาจจะลดลงจากปีนี้บ้างเล็กน้อย หลังจากสถานการณ์โรค ASF ในสุกรคลี่คลายลง ทำให้ปริมาณซัพพลายเนื้อสุกรในตลาดกลับมาเพิ่มขึ้นบ้าง แต่คงไม่รวดเร็วมากนัก และไม่ได้ส่งผลกดดันต่อราคาเนื้อสุกรในปีหน้ามาก

ขณะเดียวกันในปีหน้าบริษัทจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในโรงงานผลิตเนื้อสุกรในประเทศจีนเข้ามาเต็มปี จากที่เริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/63 ราว 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยในปีหน้า บริษัทยังคงเน้นรายได้จากต่างประเทศที่มีสัดส่วนยอดขายมากถึง 70% เป็นหลัก โดยส่วนใหญ่จะเน้นที่ตลาดจีน และเวียดนามที่มีการบริโภคเนื้อสัตว์ในปริมาณสูง ซึ่งตลาดทั้ง 2 ประเทศนั้น บริษัทมีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 28% และ 18% ตามลำดับ ส่วนการขายในประเทศมีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 30%

กลุ่มสินค้าของบริษัทยังคงเป็นกลุ่มสินค้าสัตว์บกที่มีสัดส่วนยอดขายมากที่สุด 87% และกลุ่มสินค้าสัตว์น้ำอยู่ที่ 13% เนื่องจากความต้องการบริโภคสัตว์บกมีเพิ่มขึ้น และบริษัทมีการผลิตเนื้อสัตว์บกเป็นหลัก โดยเฉพาะเนื้อสุกรและเนื้อไก่ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าหลักของบริษัท

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/63 คาดว่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากการบริโภคเนื้อสัตว์ที่เริ่มฟื้นตัวมากขึ้น ราคาเนื้อสุกรที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้การขายเนื้อสุกรยังมีมาร์จิ้นที่ดี และเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนในโรงงานผลิตเนื้อสุกรในจีนเข้ามาเสริม โดยที่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาทำยอดขายได้แล้ว 4.4 แสนล้านบาท เติบโต 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านความคืบหน้าดีลการเข้าซื้อเทสโก้ โลตัส ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยมองว่าหากปี 64 ดีลการซื้อเทสโก้ โลตัส เสร็จสิ้นได้ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้กับกำไรของบริษัท จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของเทสโก้ โลตัส เข้ามา ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 20% อีกทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับบริษัทมากขึ้น ทำให้มีช่องทางการขายสินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลาย

รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน : สำรับการเงินสามัญประจำบ้าน (3)

0

สัปดาห์นี้ มาต่อกันเรื่อง สำรับการเงินสามัญประจำบ้าน เครื่องมือบริหารจัดการเรื่องเงินๆทองๆ เพื่อสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว สำรับที่ 3 กันPOWERED BY STREAMLYN

ก่อนอื่นขอพากลับไปทบทวนสำรับที่ 1 ก่อน นั่นคือ เคล็ดลับ 4 รู้ สู่ความมั่งคั่ง คือ รู้หา–รู้เก็บ–รู้ใช้–รู้ขยายดอกผล สำรับที่ 2 เครื่องมือจัดการเงิน ให้เราลงมือทำงบดุล-ทำบัญชีรับจ่าย-จัดทำงบประมาณครอบครัว เพื่อให้แก้ปัญหาการเงินได้ถูกจุดและหาวิธีเพิ่มความรวยได้ถูกทาง

มาสำรับที่ 3 คือ “รู้จักวิธีบริหารหนี้มีเงินออม” เพราะการ “เป็นหนี้” ไม่ใช่เรื่องเสียหาย หากเราเลือกเป็น “หนี้ดี” “เป็นหนี้อย่างถูกวิธี” และ “มีหนี้ในระดับที่เหมาะสม”

“หนี้ดี” คือหนี้ที่ช่วยสร้างรายได้หรือความมั่งคั่งควบคู่ไปได้ด้วย เช่น หนี้ผ่อนบ้านคอนโด ถือเป็นหนี้เพื่อออมหรือลงทุนระยะยาว เพราะอนาคตมีโอกาสราคาสูงขึ้น ขณะที่ได้ใช้ประโยชน์อยู่อาศัย ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า หรือหากเป็นหนี้จากการผ่อนรถ เพื่อบรรทุกใช้งานในอาชีพที่สร้างรายได้ เช่น ผ่อนแท็กซี่หรือรถปิกอัพ เพื่อรับจ้างขนส่งของ หรือใช้บรรทุกสินค้าไปขาย อันนี้ถือเป็น “หนี้ดี”

แต่ต้องไม่เป็นหนี้ หรือมีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนเกินครึ่งหนึ่งของรายได้ ดังนั้น รีบสำรวจตัวเองเดี๋ยวนี้เลย ว่ามีรายได้เดือนละเท่าไร และมีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายต่อเดือนเท่าไร หากเกินครึ่ง ให้หยุดก่อหนี้เพิ่ม หยุดรูดปื๊ด หยุดกู้ หยุดยืมเพื่อน หยุดซื้อของเงินผ่อน

และหาวิธีจ่ายหนี้ให้หมดโดยเร็วที่สุด เริ่มจากหนี้ก้อนไหนที่ดอกเบี้ยแพงรีบจ่ายคืนให้หมดก่อน โดยเฉพาะหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยสูงปรี๊ด 10–20% ต่อเดือน แถมจ่ายแต่ดอกเงินต้นไม่ลด ถัดไปคือหนี้บัตรเครดิตที่จ่ายแค่ “ขั้นต่ำ” ต้องรีบเคลียร์ด่วน พยายามจ่ายมากกว่าขั้นต่ำ เพื่อให้ได้ลดเงินต้นด้วย นอกจากนี้ ต้องรวมหนี้จากทุกทาง ให้มาจ่ายทางเดียว เช่น เอาบ้านมาค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงิน ซึ่งดอกเบี้ยถูกกว่าหนี้นอกระบบและบัตรเครดิต หรือ personal loan เพื่อเอาเงินไปจ่ายหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงให้หมด แต่ถ้ายังจ่ายไม่ไหวจริงๆให้รีบขอเจรจากับเจ้าหนี้ และปัจจุบันหลายธนาคารยังมีโครงการปล่อยกู้ช่วยประชาชน ประเภทกู้ง่าย-ผ่อนนาน-ไม่ต้องมีคนค้ำ ลองหาข้อมูลกันดู อย่าลืมว่า “เป็นหนี้ต้องใช้” ห้ามหนีหนี้ แต่ต้องเป็นหนี้อย่างถูกวิธี รู้ทันหนี้ เมื่อหนี้ลดเงินก็ผุด อย่าลืมใช้คาถารวย ลดรายจ่าย–เพิ่มรายได้ แค่นี้ก็พลิกจากหนี้ กลับมามี “เงินเหลือออม” แล้วอยากรู้ข้อมูลหรือวิธีบริหารจัดการหนี้เพิ่มเติม กดเข้าไปหาความรู้ได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th/happymoney  โลดดดดด!!

ก่อนปิดท้ายวันนี้ “คุณนายพารวย” ชวนผู้อ่านแสดงความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาเนื้อหาบทความให้ดียิ่งขึ้น โดยร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่ลิงก์นี้ https://forms.gle/sEH6ef2jq5i1HK1t5  หรือสแกนคิวอาร์โค้ด ถึง 15 ธ.ค.63 โดย 100 ท่านแรก จะได้รับของที่ระลึก เป็นแก้วน้ำเก็บความเย็น ลดโลกร้อน “Care the Whale” ไว้ใส่เครื่องดื่มให้เย็นชื่นใจกันต่อเลยจ้า.


ที่มา คอลัมน์ รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง โดยคุณนายพารวย หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

CPF เห็นคุณค่าผู้พิการ สนับสนุนจ้างงานสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้พิการในสังคม ส่งเสริมให้พึ่งพาตนเอง ลดความเหลื่อมล้ำ เดินหน้าจ้างผู้พิการช่วยเหลืองานในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนให้ภูมิใจในคุณค่าของตัวเอง มีรายได้เลี้ยงตัวเองและสามารถดูแลครอบครัวได้

ซีพีเอฟ ในฐานะบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทฯมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหารและลดความเหลื่อมล้ำ สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) อาทิ การดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ที่บริษัทฯดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2532 เห็นผลสัมฤทธิ์ทั้งในด้านการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้บริโภคไข่ไก่อย่างเพียงพอ แก้ปัญหาทุพโภชนาการ ขณะ
เดียวกัน ซีพีเอฟสนับสนุนการจ้างงานผู้พิการในชุมชนเพื่อช่วยทำงานในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ ฯ ภายใต้โครงการจ้างงานคนพิการด้วย

โดยตั้งแต่ปี 2560 บริษัทฯ ได้จัดจ้างผู้พิการช่วยงานในโรงเรียนที่ร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน จนถึงปัจจุบัน มีการทำสัญญาจ้างงานคนพิการไปแล้วรวม 427 คน เพื่อช่วยงานใน 252 โรงเรียนทั่วประเทศ

ร.ต.อ.กำจัด ผาใต้ ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนค็อกนิสไทย ตำบลแมดนาท่ม อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนค็อกนิสไทย เป็นโรงเรียนในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 สกลนคร มีจำนวนนักเรียน 260 คน แต่มีบุคลากรครูเพียง 13 คน ไม่มีนักการช่วยงานบริการทั่วไปของโรงเรียน ซึ่งมีพื้นที่ที่ต้องดูแลถึง 85 ไร่ โรงเรียนได้รับความช่วยเหลือจากซีพีเอฟจ้างผู้พิการ จำนวน 3 คน เพื่อช่วยงานทั่วไป มาอย่างต่อเนื่องทุกปี เป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดย 2 คนเป็นผู้พิการเนื่องจากได้รับผลกระทบทางสมองจากอุบัติเหตุ และอีก 1 คนนิ้วขาด โรงเรียนมอบหมายให้แต่ละคนรับผิดชอบงาน เช่น ช่วยดูแลโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน งานด้านปศุสัตว์ งานด้านการเกษตรและปลูกผัก รดน้ำต้นไม้ แบ่งเบาภาระงานของโรงเรียนได้เป็นอย่างดี และเป็นการช่วยเหลือผู้พิการในชุมชนมีรายได้จุนเจือตัวเองและครอบครัวได้ในระยะยาว

นายบรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข ตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า โรงเรียนบ้านแสนสุขมีจำนวนนักเรียน 178 คน ข้าราชการครู 10 คน ครูอัตราจ้าง 2 คน และเจ้าหน้าที่ซีพีเอฟที่ช่วยงานในโรงเรียน 1 คนได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลงานด้านเกษตรของโรงเรียน อาทิ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ดูแลสวนหย่อม ภูมิทัศน์ และดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยในโรงเรียน เป็นการช่วยเหลือผู้พิการในชุมชนให้มีงานทำใกล้บ้านและมีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว

“จากที่เคยสอบถามถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้พิการ บอกว่าโรงเรียนบ้านแสนสุข เหมือนให้ชีวิตใหม่ เนื่องจากหลังจากประสบอุบัติเหตุ ก็ถูกมองว่าทำงานไม่ได้ ไม่คุ้มกับค่าแรงที่จะจ้าง แต่จากการที่เค้าได้มาช่วยงานที่โรงเรียน ทำให้มีรายได้ประจำทุกเดือนสามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้” ผอ.โรงเรียนบ้านแสนสุข กล่าว

ด้านนายแดนชัย แก้วโกมล อายุ 45 ปี ช่วยงานที่โรงเรียนบ้านแสนสุข 2 ปีแล้ว เล่าว่า ก่อนหน้านี้ทำงานในโรงงานพลาสติกและเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องจักรทำให้มือขาดไป 1 ข้าง ต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน 10 ปี ในขณะนั้นก็ทำงานรับจ้างทั่วไป เช่น หักข้าวโพด จนมาได้ทำงานกับโรงเรียน รู้สึกดีใจมาก อยู่ที่นี่ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนให้ช่วยงานตามกำลัง เหนื่อยก็พัก เช่น ช่วยเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่ ดูแลความสะอาดของโรงเรือนเลี้ยงไก่ ช่วยดูแลแปลงปลูกผักสวนครัว ทำให้มีรายได้ช่วยจุนเจือครอบครัว ให้พ่อและแม่เดือนละ 1,000-2,000 บาท สภาพความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่ต้องไปรับจ้าง เพราะตอนนี้มีรายได้ประจำทุกเดือน พ่อและแม่ก็ดีใจที่มีงานประจำทำ ตัวผมเองก็ภูมิใจและรู้สึกขอบคุณซีพีเอฟที่ให้โอกาสได้เป็นพนักงานของบริษัท ผมว่าผมมีโอกาสที่ดีมาก

นายประสงค์ สิทธิวงค์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านดู่(สหราษฎร์พัฒนาคาร) ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการจ้างงานคนพิการของซีพีเอฟ เป็นโครงการที่ดีมาก โรงเรียนได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทฯ จ้างงานผู้พิการในชุมชน ซึ่งพิการหูหนวกแต่กำเนิด มาช่วยงานในโรงเรียน ทำหน้าที่เก็บผลผลิตไข่ไก่ในโครงการเลี้ยงไก่ไข่ ฯ ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนเลี้ยงไก่ไข่ไว้ 300 ตัว นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ผู้พิการทำหน้าที่ให้อาหารไก่ รดน้ำต้นไม้ นำเศษอาหารจากโรงอาหารมาเลี้ยงสุกร ช่วย
แบ่งเบาภาระของโรงเรียนได้เป็นอย่างดี ส่งเสริมให้ผู้พิการในชุมชนได้ทำงานใกล้บ้าน มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ซีพีเอฟ ร่วมกับ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน มาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี โดยในวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ซีพีเอฟเตรียมส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ให้แก่โรงเรียนบ้านเมืองเก่า”ศรีอินทราทิตย์” อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย เป็นโรงเรียนลำดับที่ 857 ของโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน พร้อมกันนี้ ซีพีเอฟเตรียมมอบสัญญาจ้างงานผู้พิการช่วยงานของโรงเรียนดังกล่าวด้วย