Home Blog Page 39

นายกฯไทย ออกแถลงการณ์ท่าทีหลังไทยโดนทรัมป์ขึ้นกำแพงภาษี

0

นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ออกแถลงการณ์ท่าทีของประเทศไทยต่อนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกาวันที่ 3 เมษายน 2568 มีเนื้อหาว่า

รัฐบาลไทยตระหนักและเข้าใจถึงความจำเป็นของสหรัฐฯ ที่จะต้องปรับสมดุลทางการค้ากับประเทศคู่ค้าจำนวนมาก ผ่านนโยบายอัตราภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Trade and Tariffs) ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆ ที่เป็นคู่ค้าของสหรัฐฯ ในขณะที่กรอบแนวคิดและยุทธศาสตร์ของประธานาธิบดีทรัมป์ มีความเป็นพลวัต (dynamic) และแตกต่างไปจากยุคก่อนอย่างสิ้นเชิงล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศนโยบายในงาน Liberation Day เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 เวลา 04.00 น. (เวลาไทย) ได้ประกาศขึ้นภาษีกับการนำเข้าจากทุกประเทศขั้นต่ำร้อยละ 10 ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ และสหรัฐฯ มองว่าเอาเปรียบสหรัฐฯ ตั้งแต่อัตราภาษีนำเข้า มาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-tariff Barriers) รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ จะถูกจัดเก็บ โดยแต่ละประเทศจะถูกปรับในอัตราที่แตกต่างกันในอัตราหารครึ่งจากอัตราที่สหรัฐฯ คำนวณว่าสินค้าของสหรัฐฯ ถูกจัดเก็บจากประเทศนั้นๆ

สำหรับประเทศไทย สหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทนไว้ที่ร้อยละ 36 โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 เป็นต้นไปการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้าทุกรายอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่อาจไม่สามารถรับกับราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและในระดับสูงได้

ดังนั้น ในระยะยาว ผู้ประกอบการส่งออกไทยควรมองหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว ซึ่งรัฐบาลไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ และได้วางมาตรการรองรับในการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบที่อาจมีต่อผู้ประกอบการส่งออกของไทยที่มีตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดหลัก

รัฐบาลขอเรียนว่า ไทยได้ส่งสัญญาณความพร้อมที่จะหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในโอกาสแรก เพื่อปรับดุลการค้าให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยส่งผลกระทบต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด โดยได้มอบหมายให้คณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกาที่แต่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนในการติดตามและประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ อย่างใกล้ชิดและรอบด้าน ตลอดระยะเวลา 3 เดือน เพื่อจัดเตรียม “ข้อเสนอเพื่อปรับดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่มีสาระสำคัญเพียงพอให้สหรัฐฯ มีแรงจูงใจที่จะเข้าสู่กระบวนการเจรจากับไทย” ที่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และผู้ประกอบการในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องน้อยที่สุด ในขณะเดียวกัน ไทยยังอาจใช้โอกาสนี้ในการปรับโครงสร้างการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวให้กับบางอุตสาหกรรมได้ประเทศไทยมีเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ที่จะสร้างเสถียรภาพและสมดุลทางการค้ากับสหรัฐฯ ในระยะยาว มีศักยภาพเพียงพอต่อการเป็นหนึ่งในกลุ่มมิตรประเทศเพื่อการลงทุน (Friend Shoring) ที่ทั้งสองประเทศสามารถพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเอื้อซึ่งกันและกัน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดโลก อาทิ ในภาคเกษตร-อาหาร ที่สหรัฐฯ มีสินค้าเกษตรจำนวนมากที่ไทยสามารถนำเข้าเพื่อนำมาแปรรูปเพื่อส่งออกไปตลาดโลก และในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง การที่ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิต Hard Disk Drive ที่สำคัญของโลก และอุปกรณ์ดังกล่าวก็จำเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม Data Center และ AI ของสหรัฐฯ

สุดท้ายนี้ รัฐบาลไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ จะมองถึงเป้าหมายการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจร่วมกันในระยะยาว ประเทศไทยยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการเป็นพันธมิตรและมุ่งมั่นผลักดันความร่วมมือในการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ เพื่อร่วมกันสร้างและพัฒนาภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อตลาดโลก ให้เติบโตอย่างมั่นคง เพื่อท้ายที่สุด จะช่วยกันลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจและภาคการเกษตรของทั้งสองประเทศ ผ่านการหารืออย่างสร้างสรรค์โดยเร็ว

เมืองไทยประกันชีวิต เอาใจสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ จัดกิจกรรม “เมืองไทย Smile Trip @เกาะยาวน้อย”

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต โดย “เมืองไทยสไมล์คลับ” เดินหน้าส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับด้วยการเพิ่มประสบการณ์สุดพิเศษ ผ่านกิจกรรมพาสมาชิกฯ ท่องเที่ยวทะเลใต้ รับซัมเมอร์กับ “เมืองไทย Smile Trip @เกาะยาวน้อย” ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนเกาะยาวน้อย จ.พังงา ชมความงดงามของธรรมชาติ ทะเลสวย น้ำใส ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนบนเกาะ พร้อมผ่อนคลายภายใต้บรรยากาศสุดส่วนตัวไปกับที่พัก 5 ดาว โรงแรมเคป กูดู เกาะยาวน้อย

นอกจากนั้น Unseen ไปกับการพาสมาชิกฯ นั่งเรือออกไปรับประทานอาหารกลางวันบนชายหาดหน้า ถ้ำโต๊ะบวช ถ้ำเล็ก ๆ ที่อยู่บนเกาะยาวน้อย ซึ่งมักจะเป็นที่หลบพายุหรือที่พักของชาวประมงที่เดินทางมาหาปลาในบริเวณดังกล่าว เสิร์ฟความอร่อยไปกับอาหารพื้นเมืองหลากหลายเมนู อีกทั้งยังได้สนุกไปกับร่วมกิจกรรมทำผ้าบาติกบ้านท่าเขา ผ้าบาติกคุณภาพดีที่ใช้ผ้าที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติ การวาดลายจะเน้นรูปของธรรมชาติเป็นหลัก ลวดลายที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือลายนกแก๊ก หนึ่งในนกเงือกที่อาศัยอยู่มากมายบนเกาะยาวน้อย และร่วมทำขนมครก ณ ร้านลานริมเล ที่ยกเตาถ่านมาหยอดขนมครกและแคะกันเองอย่างสนุกสนาน ปิดท้ายกันที่การพาสมาชิกฯ ไปเดินเล่นชมความงามย่านเมืองเก่า ตึกเก่าแบบชิโนโปรตุกีส จ.ภูเก็ต และรับประทานของหวานพื้นเมือง Torry’s Ice Cream ไอศกรีมพรีเมียมโฮมเมดที่ผสมผสานกับรสชาติขนมท้องถิ่นของชาวภูเก็ต

ทั้งนี้ สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ยังสามารถติดตามกิจกรรมรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เมืองไทยสไมล์คลับ คัดสรรมาพิเศษแบบครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ความหลากหลายทุกความต้องการเพิ่มเติม ได้ที่ MTL Click Application สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หรือเว็บไซต์ www.muangthai.co.th ตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1766 กด 4 เมืองไทยประกันชีวิต หรือศูนย์บริการลูกค้าทั่วประเทศ

เอไอเอสแจกจริง! มอบทองคำให้ลูกค้าผู้โชคดีที่ยืนยันตัวตน เดินหน้าแจกต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์ รวมมูลค่า 1.6 ล้านบาท

0

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS โดย นายธโนบล เซ็นภักดี หัวหน้าส่วนงานบริหารด้านการชำระเงินดิจิทัล และผลิตภัณฑ์ด้านการธนาคาร มอบรางวัล ทองคำ 1 สลึง จำนวน 10 รางวัล และทองคำครึ่งสลึง จำนวน 50 รางวัล ให้กับลูกค้าผู้โชคดีรอบแรก จากแคมเปญ “AIS Check ID” ที่ชวนลูกค้าผู้ใช้มือถือในนามบุคคล ยืนยันตัวตนและอัปเดตข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ทุกการใช้งาน พร้อมชวนลูกค้าทุกคนลุ้นรางวัลต่อเนื่อง เพียงนำบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมโทรศัพท์ที่มีซิมการ์ดเอไอเอส ไปที่จุดบริการ AIS Check ID ได้แก่ เอไอเอส ช็อป, เทเลวิซ และ เอไอเอส บัดดี้ เอ็กซ์คลูซีฟ ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยลูกค้าที่เข้ามายืนยันตัวตนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2568 ยังได้รับสิทธิ์ในการจับรางวัลตลอดโครงการ แบ่งเป็น รางวัลที่ 1 ทองคำ 1 สลึง จำนวน 40 รางวัล และ รางวัลที่ 2 ทองคำครึ่งสลึง จำนวน 200 รางวัล จับรางวัลทุก 2 สัปดาห์ จำกัด 1 หมายเลขโทรศัพท์ ต่อ 1 สิทธิ์ ประกาศผลผ่านแอปฯ myAIS ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://m.ais.co.th/EKH6eO7Hy

โดย AIS Check ID คือการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน โดยการ Dip Chip เพื่อลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ, ใช้งานโมบายแบงก์กิ้งได้อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการใช้บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (Digital ID) จาก AIS ในอนาคต ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการนำไปสมัครทำธุรกรรมการเงิน รวมถึงธุรกรรมจากภาครัฐและเอกชน เช่น เปิดบัญชีเงินฝาก เปิดบัญชีลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือการขอสินเชื่อ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาด้วยตนเอง รวมถึงลดการถูกปลอมแปลงเอกสาร และการถูกสวมสิทธิ์จากหลักฐานการยืนยันตัวตนแบบเก่า อย่างการถ่ายสำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาเอกสารทางราชการอื่นๆ

AIS ยันพร้อมให้บริการระบบแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast และ SMS ทั่วประเทศ พร้อมส่งทันที เมื่อหน่วยงานรัฐมีคำสั่ง

0

AIS ในฐานะผู้ให้บริการระบบเครือข่ายของประเทศ เราตระหนักดีว่า ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยเป็นสื่อกลางในการแจ้งเตือน แจ้งเหตุไปยังประชาชนทั่วประเทศ เราจึงไม่หยุดในการพัฒนาและปรับปรุงโครงข่ายให้ตอบโจทย์ภารกิจนี้มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยาย Capacity เครือข่าย และพัฒนาเทคโนโลยี Cell Broadcast ให้สามารถรองรับภารกิจแจ้งเตือนภัยได้อย่างตรงเป้าที่สุด

จนกระทั่ง วันนี้ (31 มีนาคม 2568) เอไอเอสยืนยันพร้อมให้บริการแจ้งเตือนภัย ผ่าน 2 ระบบ ได้แก่ ระบบ Cell Broadcast ซึ่งรองรับบนมือถือระบบแอนดรอยส์ทุกเครื่องของเครือข่ายเอไอเอสแล้ว  สำหรับระบบ IOS ขณะนี้ กสทช กำลังประสานงานกับทาง APPLE เพื่อดำเนินการอัพเดทซอฟแวร์ให้สามารถใช้งานระบบ Cell Broadcast ได้โดยเร็วต่อไป ส่วนระบบ SMS พร้อมแล้วที่จะส่งแจ้งประชาชน แบบครอบคลุมทั่วประเทศ หรือเลือกเฉพาะจังหวัด หรือเฉพาะพื้นที่ตามที่ตั้งของสถานีฐาน โดยรองรับการส่งได้มากถึง 30 ล้านข้อความภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งพร้อมสนับสนุนภารกิจของภาครัฐเป็นเครื่องมือในการแจ้งเตือนและแจ้งเหตุให้ประชาชนรับทราบ ภายใต้การทำงานร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กระทรวงมหาดไทย และ กสทช. หากได้รับคำสั่ง ก็พร้อมส่งข้อความเตือนได้เลย โดยล่าสุดได้มีการประชุมร่วมกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือถึงมาตรการแจ้งเตือนภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ โดยเอไอเอสได้ยืนยันความพร้อม ด้วยการทดสอบส่งข้อความผ่านระบบ Cell Broadcast ไปยังมือถือระบบแอนดรอย์ทุกเครื่องของเครือข่ายเอไอเอสที่อยู่ในทำเนียบได้อย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ ระบบ Cell Broadcast Service คือการส่งข้อความไปปรากฏที่หน้าจอมือถือทันทีอย่างรวดเร็ว สามารถส่งไปยังมือถือทุกเครื่องพร้อมกันในเวลาเดียวกัน สามารถกำหนดพื้นที่ได้ตามสถานีฐาน เพื่อให้ประชาชนรับรู้สถานการณ์ได้ทันที เหมาะสมกับการนำมาใช้แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน

ภาคเศรษฐกิจและการเงิน รัฐ-เอกชน ออกแถลงการณ์ร่วมสร้างความมั่นใจ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว

0

ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สาธารณชนมีความกังวลต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อภาคเศรษฐกิจและระบบทางการเงินของไทย เพื่อเป็นการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านและครบถ้วน หน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้องในด้านเศรษฐกิจและการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน จึงได้ร่วมกันจัดแถลงการณ์ร่วมเพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านความปลอดภัยทางวิศวกรรม ด้านภาคการผลิต การส่งออก และการท่องเที่ยว รวมทั้งด้านตลาดเงินและตลาดทุนมาพร้อมกัน เพื่อนำเสนอสถานการณ์และข้อมูลเพื่อให้ผู้ลงทุนและสาธารณชนได้รับทราบ ในวันนี้ (31 มีนาคม 2568) ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ผศ. ดร. ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าระบบโครงสร้างพื้นฐานของอาคารที่ร้องขอให้ไปตรวจสอบไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวอย่างมีนัยสำคัญ  อาคารต่าง ๆ ได้มีการออกแบบตามมาตรฐานวิศวกรรม ในปัจจุบันสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ ทั้งนี้ ประเมินจากโครงสร้างหลักของอาคารไม่ได้รับความเสียหาย การเข้าใช้ประโยชน์ในอาคารสามารถทำได้กับอาคารที่ได้รับการตรวจและประเมินผลเป็นสีเขียว ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าอาคารได้รับการประเมินเป็นสีเขียวจำนวนมาก

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการสำรวจภาคการผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ โครงสร้างพื้นฐานสำคัญต่างๆ ในการผลิตยังเปิดใช้งานได้ตามปกติ รวมถึงการขนส่งวัตถุดิบและสินค้าที่ผลิตเสร็จก็ยังดำเนินการเหมือนเดิมทุกประการ

ทั้งนี้ ในภาคการท่องเที่ยว ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ประชาชน นักท่องเที่ยว สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ รัฐบาลเฝ้าประเมินสถานการณ์ ตรวจสำรวจอาคาร สถานที่และช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ขอให้มั่นใจว่าประเทศไทยปลอดภัยเที่ยวไทยได้อย่างมั่นใจแน่นอน

ดร. รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความมั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินและการให้บริการทางการเงิน เช่น ระบบบาทเนต และ mobile banking application ของทุกธนาคาร รวมทั้งระบบเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องเป็นปกติ เช่นเดียวกับการให้บริการของสถาบันการเงินแก่ลูกค้าประชาชนและภาคธุรกิจ นอกจากนี้ ธปท. ได้กำชับให้สถาบันการเงินพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ที่ประสบภัย เช่นเดียวกับที่เคยให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษเมื่อเกิดอุทกภัยในปี 2567 โดยได้มีการผ่อนปรนเกณฑ์บางด้านรองรับไว้แล้ว

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้ความเชื่อมั่นว่า สำนักงาน คปภ. จะดูแลการเบิกจ่ายสินไหมให้รวดเร็วและเป็นธรรม และได้จัดตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือด้านการประกันภัยเชิงรุก ประชาชนสามารถติดต่อสายด่วน คปภ. 1186 และทาง Chatbot @oicconnect ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของความเสียหายจากการถล่มของอาคาร ทราบว่าบริษัทประกันภัยต่าง ๆ ได้มีการประกันภัยต่อ (reinsure) ออกไปเป็นส่วนใหญ่ กับบริษัทประกันภัยต่อต่างประเทศ จึงไม่กระทบต่อสถานะของบริษัทประกันภัยของไทยซึ่งมีความเข้มแข็งอยู่ในระดับที่มั่นคงสูง

. ดร. พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. ได้ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง และให้ความมั่นใจว่าระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ตลอดจนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถดำเนินการและให้บริการได้อย่างปกติ พร้อมทั้ง ก.ล.ต. ได้ผ่อนผันการนำส่งข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแล รวมทั้งบริษัทจดทะเบียนและบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในภาพรวมยังคงแข็งแกร่ง ในภาพรวมของภาคธุรกิจสามารถรับมือกับสถานการณ์และดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ไม่กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียนไทย ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมความพร้อมระบบและการดำเนินการทุกด้าน รวมทั้งประสานงานใกล้ชิดกับบริษัทสมาชิกและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจสำหรับการเปิดการซื้อขายในทุกตลาดในวันนี้  

ทั้งนี้ ผู้ให้บริการระบบสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน ระบบรถไฟฟ้า ทั้งใต้ดินและบนดินไม่มีความเสียหาย และสามารถดำเนินได้ตามปกติ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา: https://www.facebook.com/share/p/1BdLtvmyKR/?mibextid=wwXIfr

ชวนลูกค้ามือถือและเน็ตบ้านใช้บริการ AIS Secure Net ฟรี เผยบล็อกเว็บไซต์อันตรายได้กว่า 500 ล้านครั้งแล้ว

0

AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลที่มุ่งส่งเสริมทักษะและการใช้งานที่ปลอดภัยให้กับลูกค้าและคนไทย เผยข้อมูลจากบริการ AIS Secure Net ที่ช่วยปกป้องผู้ใช้งานจากภัยออนไลน์ต่างๆ ที่เปิดให้บริการตั้งแต่มิถุนายน 2562 จนถึงปัจจุบัน ได้ตรวจจับและบล็อกเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงไปแล้วกว่า 500 ล้านครั้ง หรือเฉลี่ยมากกว่า 2.4 แสนครั้งต่อวัน โดยภัยคุกคามบนโลกออนไลน์ที่พบมากที่สุด ได้แก่ มัลแวร์, ฟิชชิ่ง และไวรัส ตามลำดับ สะท้อนถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมาในหลากหลายรูปแบบ โดยในปี 2568 นี้ AIS มีเจตนารมณ์ที่จะสร้างให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยไซเบอร์ จึงขอชวนคนไทยผู้ใช้บริการเอไอเอสทุกคนมาร่วมปกป้องตนเองจากภัยออนไลน์ พร้อมใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างอุ่นใจผ่านบริการ AIS Secure Netสำหรับลูกค้ามือถือทั้งระบบรายเดือนและเติมเงิน สมัครใช้งานฟรี โดยไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม เพียงกด *689*6# และโทรออก และลูกค้าเน็ตบ้าน AIS FIBRE3 เปิดใช้บริการฟรี ผ่านทาง https://m.ais.co.th/fibresecurenet/ โดยสามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต เช่น เครื่อง PC/Notebook สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต สมาร์ททีวี กล่อง AIS PLAY กล่องแอนดรอยทีวี ฯลฯ เพื่อบล็อกเว็บไซต์อันตรายที่มาจากทุกช่องทางทั้ง E-mail, SMS หรือจากการท่องอินเทอร์เน็ต

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “ในวันนี้ที่สังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เรายังคงเดินหน้าสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ภารกิจ “AIS อุ่นใจไซเบอร์” ทั้งการพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยสร้างความปลอดภัยด้านการใช้งานให้กับลูกค้า โดยเฉพาะบริการ AIS Secure Net ที่ทำหน้าที่ปกป้องคนไทยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของภัยออนไลน์ รวมถึงการเสริมสร้างทักษะดิจิทัลให้รู้เท่าทันกลโกงมิจฉาชีพผ่านหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ นอกจากนี้ อยากจะแนะนำให้ประชาชนป้องกันตัวจากภัยไซเบอร์ได้ด้วยตนเองง่ายๆ อาทิ ไม่ใช้ WiFi สาธารณะทำธุรกรรมทางการเงิน, ไม่ตั้งรหัสผ่านที่สามารถคาดเดาได้ง่าย เช่น วันเดือนปีเกิด และใช้ URL ที่ปลอดภัย (HTTPS) แทนการใช้ HTTP เพื่อลดความเสี่ยงได้อีกด้วย”

จากข้อมูลของ AIS Secure Net ที่ช่วยปกป้องและแจ้งเตือนผู้ใช้งานจากภัยคุกคามต่างๆ บนโลกออนไลน์ ด้วยการตรวจจับและบล็อกเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง พบว่าภัยจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่คนไทยตกเป็นเหยื่อมากที่สุด 3 ประเภทที่ผู้ใช้งานควรระวัง ได้แก่

อันดับ 1 มัลแวร์ (Malware) : โปรแกรมประสงค์ร้ายที่ซ่อนมากับเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อหลอกเข้าใช้บนระบบเหมือนเป็นผู้ใช้งานจริง เมื่อผู้ใช้เผลอคลิกเข้าไปในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เหล่านี้เสมือนเป็นการเปิดช่องทางให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมอุปกรณ์ มองเห็นการใช้งานต่างๆ และรวมถึงสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้

อันดับ 2 เว็บไซต์ปลอม (Phishing Sites) : การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์จริง มุ่งประสงค์หลอกลวงให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน, เลขบัตรประชาชน, วันเดือนปีเกิด รวมถึงข้อมูลทางการเงิน

อันดับ 3 ไวรัส (Virus Sites) : โปรแกรมที่แฝงมาบนเว็บไซต์ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดความเสียหายต่างๆ กับระบบการใช้งานทำให้ระบบทำงานผิดปกติ ช้าลง และอาจนำไปสู่การสูญเสียข้อมูลสำคัญ

ซีพีเอฟ ระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวอย่างเต็มที่

0

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน โดยเฉพาะจุดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงอย่างมากในเขตจตุจักร กรุงเทพฯ ที่มีอาคารพังถล่มลงมา และอยู่ระหว่างระดมความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วนอย่างเต็มกำลังบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ บริษัทในเครือซีพี ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทยในทุกๆ วิกฤติ เสมอมา โดยครั้งนี้ได้ระดมความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง โดยสนับสนุนอุปกรณ์เต็นท์เพื่อภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคารถล่ม ตลอดจนมอบอาหารและน้ำดื่ม CP ผ่านกองทัพบก โดยมี พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้รับมอบ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน และผู้อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่โดยรอบ โดยประสานความช่วยเหลือร่วมกับกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์อย่างใกล้ชิด

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ ระดมทีมงานให้การสนับสนุนในภารกิจกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ ซึ่งรวมถึงการมอบ “อาหารจากใจ” สนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบ ทั้งไข่ไก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู ไส้กรอก แก่โรงครัวต่างๆ อาทิ มูลนิธิเพชรเกษม และ มูลนิธิองค์กรทำดี เพื่อใช้ประกอบอาหารมอบให้แก่ เจ้าหน้าที่ทหาร ทหารช่าง ทีมแพทย์สนาม หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย อาสากู้ภัย อาสาสมัครจิตอาสา มูลนิธิต่างๆ และสื่อมวลชน ที่ดำเนินภารกิจตลอด 24 ชั่วโมง ณ กองอำนวยการร่วมบรรเทาสาธารณภัย เขตจตุจักร

นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังได้ประสานการสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและขนมสำหรับสุนัขภายใต้แบรนด์ “เจอร์ไฮ” (Jerhigh) แก่ พลตรี สมพงษ์ สุขประดิษฐ เจ้ากรมการสัตว์ทหารบก ในวันพรุ่งนี้ ภายใต้ภารกิจนำกำลังพลจาก ศูนย์สุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก (ศสท.กส.ทบ.) พร้อมชุดปฏิบัติการสุนัขทหาร (K9) เข้าร่วมภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคารถล่มซีพีเอฟ ขอส่งกำลังใจและความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน และพร้อมเคียงข้างสังคมในทุกวิกฤติ ด้วยการส่งมอบความห่วงใยผ่านอาหารและสิ่งของจำเป็น ขอให้ทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันอย่างเข้มแข็งและปลอดภัย.

ออมสิน ออกมาตรการด่วน “พักจ่ายต้น ลดดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน” และมอบสินเชื่อฉุกเฉิน ซ่อมบ้าน เร่งช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวทั้งรายย่อยและผู้ประกอบการ

0

ออมสิน เร่งช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวที่ได้รับผลกระทบ ทั้งรายย่อยและผู้ประกอบการ ลูกค้าเดิม“พักจ่ายต้น ลดดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน” และมอบสินเชื่อฉุกเฉิน ซ่อมบ้าน และ SME

ธนาคารออมสิน ห่วงใยผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้ส่งมอบความช่วยเหลือเบื้องต้นในทันที เพื่อสนับสนุนภารกิจของโรงพยาบาลและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในจุดต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ธนาคารขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสีย และขอส่งแรงใจไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการส่งมอบมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ผ่าน 2 มาตรการหลัก คือ

1.มาตรการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ลูกค้าเดิม โดยให้พักชำระเงินต้นทั้งหมด และลดดอกเบี้ยเป็น 0% เป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อธนาคารออมสิน 3 กลุ่ม ที่เดือดร้อนทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือการดำเนินธุรกิจได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้แก่ ลูกค้าสินเชื่อธนาคารประชาชน ลูกค้าสินเชื่อเคหะที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท และลูกค้าสินเชื่อ SME ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท

2. มาตรการสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูสำหรับบุคคลทั่วไป ธนาคารมอบสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษ ได้แก่

  • 2.1 สินเชื่อฉุกเฉินผู้ประสบภัยพิบัติ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท/ราย ระยะเวลาผ่อนชำระ 24 เดือน ปลอดชำระเงินงวด 3 เดือนแรก อัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับเดือนที่ 1 – 3 และเดือนที่ 4 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย 0.60% ต่อเดือน
  • 2.2 สินเชื่อซ่อมแซมบ้าน วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท/ราย ระยะเวลาผ่อนชำระ 10 ปี สำหรับลูกค้าใหม่ ส่วนลูกค้าปัจจุบันใช้ระยะเวลาผ่อนชำระตามสัญญาเดิม ปีที่ 1 คิดอัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับ 3 เดือนแรก และเดือนที่ 4 – 12 = 2% ปีที่ 2 = 2% ปีที่ 3 = MRR-3.35% ปีที่ 4 เป็นต้นไป = MRR-0.75%
  • 2.3 สินเชื่อ SME ฟื้นฟูแผ่นดินไหว วงเงินกู้ไม่เกิน 40 ล้านบาท/ราย ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 10 ปี (ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 9 เดือน) คิดอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 – 2 = 2.99% ปีที่ 3 – 4 = MLR/MOR-0.5% และปีที่ 5 เป็นต้นไป = MLR/MOR+0.5% ทั้งนี้ สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย 3 เดือนแรก = 0% หลังจากนั้น เดือนที่ 4 – 24 = 2.99% ปีที่ 3 – 4 = MLR/MOR-0.5% และปีที่ 5 เป็นต้นไป = MLR/MOR+0.5%

โดยลูกค้าและบุคคลทั่วไปสามารถติดต่อที่สาขาธนาคารออมสิน เพื่อแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2568 และยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน 2568 เงื่อนไขเป็นไปตามประกาศของธนาคาร หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหรือความช่วยเหลืออื่นใด โปรดติดต่อ GSB Contact Center โทร. 1115 และที่ www.gsb.or.th #เป็นลูกค้าเราเท่ากับช่วยสังคม

รู้เก็บรู้ออมฯ : ตลาดหลักทรัพย์ฯสัญจร @โคราช

0

สำหรับนักลงทุน และผู้สนใจเรื่องการลงทุนแล้ว ชื่อของ “ตลาดหลักทรัพย์ฯสัญจร” ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีอย่างแน่นอน เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” ได้ออกเดินสายไปทั่วทุกภาค ทั้งเหนือใต้ออกตก เพื่อทำหน้าที่ส่งตรงความรู้เรื่องการเงินการลงทุนให้กับประชาชน ช่วยเตรียมความพร้อมที่จะก้าวสู่โลกของการลงทุน

และสำหรับปี 2568 ตลาดหลักทรัพย์ฯสัญจรประเดิมปีใหม่ด้วยการสัญจรออกไปพบปะกับพี่น้องชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง โดยงานจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 เดือนมีนาคม 2568 นี้ ที่โคราช ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช จังหวัดนครราชสีมา เริ่มงานตั้งแต่เวลา 10.30 น.ไปจนถึง 17.00 น.

งานนี้จัดกันแบบยิ่งใหญ่ไม่มีกั๊ก เพราะขนทัพกูรูการเงินและนักวิเคราะห์ชื่อดังมาเสิร์ฟความรู้การลงทุน ที่จะช่วยให้ผู้ร่วมงานสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ อัดแน่นเนื้อหาไปกับสัมมนาที่อัปเดตเทรนด์ เจาะลึกเรื่องลงทุนกับหัวข้อ “สแกนตลาด จัดพอร์ตลงทุนจังหวะหุ้นผันผวน” พบกับคุณกรภัทร วรเชษฐ์ จาก บล.กรุงศรี และเซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ นายกสมาคมนักลงทุนประเทศไทย

และหัวข้อ “วิเคราะห์เจาะทางเลือกมองโอกาสใหม่กับหุ้นไทย หุ้นนอก ทอง ฟิวเจอร์ส” ที่จะได้พบกับคุณณัฐพล คำถาเครือ จาก บล.หยวนต้า, ดร.รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์, คุณชาญชัย พันทาธนากิจ บล.เมย์แบงก์, คุณทิวา ชินธาดาพงศ์ นายกสมาคมนักลงทุนประเทศไทย และคุณเจ็กกี้ สุธน สิงหสิทธางกูร สมาคมนักลงทุนประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Unlocking Opportunities for Business Growth กับสัมมนาสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่คิดการใหญ่ จัดขึ้นเพื่อช่วยสร้างโอกาสให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านตลาดทุน (SET-mai-LiVEx) พร้อมยังมีโอกาสได้พบกับผู้เชี่ยวชาญจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และ CEO ที่ผ่านประสบการณ์ IPO มาแล้ว ที่จะมาแชร์เส้นทางการระดมทุนผ่านตลาดทุนและประสบการณ์อินไซด์ที่ผู้ประกอบการห้ามพลาด

นอกจากนี้ ในงานยังมีบริการให้คำแนะนำวางแผนลงทุน ปรึกษาและเปิดพอร์ตกับ 23 โบรกเกอร์ชั้นนำ, การสอนและสาธิตการใช้แอปฯลงทุนสำหรับมือใหม่, บริการ Clinic ให้คำปรึกษาทางธุรกิจจากเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ฯและผู้เชี่ยวชาญ และโปรโมชันพิเศษเมื่อทำธุรกรรมเปิดบัญชีภายในงาน ก็จะได้รับของสมนาคุณติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย

 ผู้สนใจเข้าร่วมงาน สามารถคลิกลงทะเบียนล่วงหน้าได้แล้วที่ https://www.setinvestnow.com/th/set-road-show-korat-2025 พิเศษสุดๆ รับฟรีชุดกิฟต์เซต กระเป๋า#investnow และหนังสือ WealthDesign

งานนี้งานเดียวครบเครื่องเรื่องลงทุน ทั้งหุ้นไทยหุ้นนอก ทอง และกองทุน ที่สำคัญคือ เข้างานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พิเศษแบบนี้ พี่น้องโคราช และ จ.ใกล้เคียง จะพลาดได้ไง!

JerHigh x พี่จอง-คัลแลน พัฒนาขนม ‘JerHigh 2in1 Bite’ มั่นใจทุกคำกัดอร่อย ตอบโจทย์สุขภาพน้องสุนัขของคุณ

0

เจอร์ไฮ (JerHigh) ภายใต้ บริษัท อินเตอร์เนชั่ลแนล เพ็ท ฟู้ด จำกัด มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและขนมสุนัข ด้วยแนวคิด ‘Feed me with love’ หรือ ดูแลน้องสุนัขดั่งมนุษย์ เติมเต็มทั้งความรัก และเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ล่าสุด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “JerHigh 2in1 Bite” ผลิตภัณฑ์ขนมสุนัขตัวใหม่ที่พัฒนาร่วมกับ 2 พรีเซนเตอร์ชื่อดัง พี่จองและคัลแลน ซึ่งมีความใกล้ชิดและเข้าใจถึงความต้องการของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี มีรสชาติอร่อย ใช้วัตถุดิบจากเนื้อไก่คุณภาพดี และตอบโจทย์เจ้าของน้องสุนัข ที่ต้องการให้น้องสุนัขมีความสุขด้วยความหลากหลาย “JerHigh 2in1 Bite” คัดเลือก 5 สูตรรสชาติยอดนิยมที่ขายดีที่สุดของแบรนด์เจอร์ไฮมาจับคู่กันผสมผสาน 2 รสชาติในซองเดียว

นายกิติศักดิ์ ลิ้มอำไพ กรรมการผู้จัดการ อินเตอร์เนชั่ลแนลเพ็ทฟู้ด กล่าวว่า เจอร์ไฮ เป็นแบรนด์ขนมสุนัขที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของมาตลอด 10 ปีซ้อน การพัฒนา JerHigh 2in1 Bite เป็นการสร้างความแตกต่างและเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ผู้นำของอาหารและขนมน้องสุนัขที่ใช้วัตถุดิบเนื้อไก่คุณภาพสูงจากซีพีเอฟ ได้มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในระดับเดียวกับที่นักบินอวกาศรับประทาน ผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานระดับเดียวกับอาหารมนุษย์ มีสารอาหารเหมาะสมตอบโจทย์ความต้องการของสุนัขทุกวัยและทุกสายพันธุ์ ไม่เติมเกลือและวัตถุกันเสียสังเคราะห์ ไม่มีผลพลอยได้จากสัตว์ปีก

“ความพิเศษของ JerHigh 2in1 Bite คือ บริษัทฯ ได้ทำงานร่วมกับ 2 พรีเซนเตอร์สุดฮอต อย่าง พี่จองและคัลแลน ที่มาออกแบบและถ่ายทอดประสบการณ์จากความเข้าใจความต้องการของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง นเกิดไอเดียใหม่ของผลิตภัณฑ์ที่มิกซ์แอนด์แมตช์รสชาติยอดนิยมเข้าด้วยกัน เป็นสื่อกลางที่ช่วยเติมเต็มความรัก ความอบอุ่นในวันดีๆ ระหว่างเจ้าของและน้องสุนัข ด้วยรสชาติและคุณประโยชน์เต็มคำแก่สุนัขของพวกเขา” คุณกิติศักดิ์ กล่าว

“JerHigh 2in1 Bite มีให้เลือก 3 รสชาติใหม่ ได้แก่ สูตรนมและสตอเบอร์รี่ สูตรนมและไก่ สูตรแครอทและผักโขม มาพร้อมบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบซองสุดน่ารักลายลิมิเต็ดร่วมกับพี่จองและคัลแลน ในขนาดพิเศษ 225 กรัม คุ้มค่ากว่าเดิม เพื่อให้น้องสุนัขได้ลิ้มลองรสชาติที่หลากหลายและมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในร้านเพ็ทช็อปและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และสามารถสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่รองรับ เพื่อให้เจ้าของสุนัขสามารถมอบขนมที่ดีที่สุดให้กับสุนัขแสนรักได้ทุกที่ทุกเวลา .