Home Blog Page 37

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง แมกซ์ โซลูชัน ส่ง “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” เติมความสุขและความอุ่นใจแก่สมาชิก Max Card

0

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง แมกซ์ โซลูชัน บริษัทในเครือพีทีจี ร่วมเติมเต็มความสุขและความอุ่นใจในเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 แก่สมาชิก Max Card ทั่วประเทศ ผ่าน “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งด้านชีวิตและค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ เพียงสมาชิก Max Card ใช้คะแนน 100 คะแนน แลกรับสิทธิ์ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Max Me

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับ แมกซ์ โซลูชัน บริษัทในเครือพีทีจี ผนึกกำลังส่งมอบความสุขและความอุ่นใจให้กับลูกค้าคนสำคัญ ผ่าน “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งด้านชีวิตและค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ  ช่วยเติมเต็มเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ให้อบอวลไปด้วยความสุข รอยยิ้ม และความสนุกสนาน ได้เดินทางและทำกิจกรรมกับครอบครัว คนที่รักอย่าง   อุ่นใจ และปลอดภัย ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ยังเป็นการสนับสนุนให้ทุกคนในสังคมสามารถเข้าถึงประกันชีวิต (Democratizing Insurance)  เพื่อการมีหลักประกันที่มั่นคง   สอดรับกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่ส่งเสริมให้ประชาชนมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุให้กับตนเองและครอบครัว และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากระบบการประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้สะดวก เข้าถึงได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น

         นายพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัทในเครือพีทีจี กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงยึดมั่นในพันธกิจในการส่งเสริมให้คนไทย “อยู่ดีมีสุข” อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงสำหรับปีนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ เมืองไทยประกันชีวิต พันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันยาวนาน เพื่อร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุและส่งต่อความห่วงใยผ่านสิทธิพิเศษให้แก่สมาชิก Max Card กว่า 24 ล้านรายทั่วประเทศ

 สมาชิกสามารถใช้คะแนนสะสมเพียง 100คะแนน แลกรับสิทธิ์ “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์   (ไมโครอินชัวรันส์)” ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me พร้อมความคุ้มครองนานถึง 30 วันนับจากวันที่เริ่มต้นคุ้มครอง โดยสิทธิพิเศษนี้จำกัดจำนวนเพียง 1,000 สิทธิ์ เพื่อให้สมาชิกทุกท่านสามารถเดินทางช่วงเทศกาลได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล และเปี่ยมไปด้วยความสุข

ทั้งนี้ความคุ้มครอง กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์) ที่ลูกค้าจะได้รับ ประกอบด้วย  

1. ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท 

2. ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท

3. ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุสาธารณะ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท 

4. ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจ้างพยาบาลพิเศษ อุปกรณ์ค้ำยันต่าง ๆ (ยกเว้นไม้ค้ำยัน) รถเข็นผู้ป่วย อวัยวะเทียมภายนอกร่างกายค่ารักษาพยาบาลโดยแพทย์ทางเลือก (Alternative medicine) การฝังเข็ม จำนวนเงินเอาประกันภัยตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5,000 บาท

โดย “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” มีระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาเอาประกันภัย ซึ่งผู้ที่จะได้รับสิทธิ์จะต้องถือสัญชาติไทยเท่านั้น และมีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์  ณ วันที่ทำประกันภัย  โดยสมาชิก Max Card ที่สนใจสามารถแลกคะแนนได้    ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 – 30 มิถุนายน 2568 (จำนวนสิทธิ์ 1,000 สิทธิ์)   สำหรับสมาชิกฯ ที่สนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. PT Call Center 1614 ทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น. หรือเมืองไทยประกันชีวิต  โทร. 1766 ตลอด 24 ชั่วโมง

AIS จ่ายค่าคลื่นความถี่ 700 MHz งวดที่ 5 หนุนศักยภาพเครือข่าย 5G อัจฉริยะ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของคนไทย

0

บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในเครือ AIS เดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนการลงทุนเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ เข้าชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz งวดที่ 5 เป็นเงินจำนวน 3,670,849,000.00 บาท (สามพันหกร้อยเจ็ดสิบล้านแปดแสนสี่หมื่นเก้าพันบาทถ้วน) ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการ กสทช. เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อการพัฒนากิจการโทรคมนาคมของประเทศไทยสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “การลงทุนในคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ AIS ในการต่อยอดและขยายศักยภาพเครือข่าย 5G เพื่อรองรับความต้องการใช้งานของประชาชนในยุคดิจิทัล พร้อมผลักดันการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่มีเสถียรภาพครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เอไอเอสยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าลงทุนเพื่อขยายและพัฒนาศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถและความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย ให้ทุกบริการเหนือชั้นส่งมอบถึงมือลูกค้าอย่างครอบคลุม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกมิติ”

AIS ZEED 5G จับมือ GDH ชวนลูกค้าวัยทีนสัมผัสประสบการณ์พิเศษจากแพ็ก AIS ZEED Movie Lover เปิดซองความสนุก ดูหนัง “ซองแดงแต่งผี” รอบพิเศษ

0

AIS ZEED 5G ผนึกกำลังกับ GDH มอบประสบการณ์รับชมภาพยนตร์สุดพิเศษให้กับลูกค้าคอหนัง-ซีรีส์ วัยทีน ตอกย้ำแบรนด์ที่เข้าใจวัยรุ่นและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกเจเนอเรชัน ด้วยการจัดฉายภาพยนตร์เรื่อง “ซองแดงแต่งผี” รอบพิเศษ พร้อมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกับนักแสดงนำ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ ที่มาร่วมบอกเล่าถึงเรื่องราวเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ และยังได้คัดเลือกผู้โชคดีเพื่อร่วมเล่นเกม ‘AIS ตัวแรง เปิดซองแดงให้โชค’ และ ‘ซองแดงพร้อมแต่ง AIS พร้อมแจก’ เพื่อลุ้นรับของรางวัลโดนใจวัยทีนตลอดทั้งงาน

นางเบญจพร กำเพ็ชร หัวหน้าส่วนงานการตลาดกลุ่มลูกค้าพรีเพด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “จากไลฟ์สไตล์ของกลุ่มวัยรุ่นในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อโลกดิจิทัลในชีวิตประจำวัน ทั้งการสตรีมเกม ดูหนัง ฟังเพลง หรือรับชมคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มต่างๆ ทำให้เรามองเห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการเข้าถึงความบันเทิงที่สะดวก รวดเร็ว และไม่มีข้อจำกัด ในฐานะแบรนด์ที่เข้าใจและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกเจเนอเรชัน เราจึงได้พัฒนาแพ็กเกจเสริม AIS ZEED Movie Lover ที่ตอบโจทย์ความชื่นชอบของวัยทีนในการดูภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือคอนเทนต์ที่ชื่นชอบอย่างไม่มีขีดจำกัด รวมถึงกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า เช่น กิจกรรมในครั้งนี้ ที่เรามีความยินดีที่จะมอบความสุขจากภาพยนตร์เรื่อง “ซองแดง แต่งผี” เป็นการขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจให้เราได้ดูแล”

สำหรับลูกค้า AIS ที่สนใจสมัครแพ็กเกจเสริม “AIS ZEED Movie Lover” พร้อมสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ความบันเทิงครบวงจร ดูหนังฟรีทุกเดือน ที่โรงภาพยนตร์ Major Cineplex ทั้งยังได้รับชมซีรีส์และคอนเทนต์บน 4 แอปดัง iQIYI, VIU, WeTv และ AIS PLAY แบบ VIP ไม่มีโฆษณาคั่น พร้อมเน็ต 5G สำหรับดู 4 แอปนี้อีก 10 GB (มูลค่ารวมกว่า 1,066 บาท) ในราคา 199 บาทต่อเดือน จากปกติ 299 บาทต่อเดือน สมัครง่ายๆ เพียงกด *824# โทรออก ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.th/zeedmovielover

AIS คว้ารางวัลระดับโลก GTI Awards ในงาน MWC 2025 โชว์ความเป็นผู้นำ 5G ตัวจริง

0

AIS แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำ 5G ตัวจริง การันตีความสำเร็จด้วยการคว้ารางวัล GTI Awards สาขาการพัฒนาตลาดและมูลค่าทางธุรกิจ (Market Development and Business Value) จากเวทีระดับโลก ในงาน Mobile World Congress 2025 ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ภายใต้แนวคิด “AIS Living Network” เครือข่ายมีชีวิตที่ทำได้มากกว่าการสื่อสาร สะท้อนความเป็นเลิศในการเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายอัจฉริยะ (Autonomous Network) ยกระดับการให้บริการเครือข่ายอย่างเหนือขีดจำกัดครั้งแรกของไทยและตอกย้ำการเป็นองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะหรือ Cognitive Tech-Co ที่ได้รับการยอมรับระดับโลกว่าสามารถนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ ด้วยฐานลูกค้ารวมกว่า 50.8 ล้านราย ได้แก่ ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ด้วยคลื่นความถี่มากที่สุดรวม 1460 MHz ที่มีจำนวนผู้ใช้งานAIS กล่าวว่า “การได้รับรางวัลในครั้งนี้ เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ AIS ในการนำเสนอนวัตกรรม 5G ที่สามารถก้าวข้ามทุกขีดจำกัด เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานบนโครงข่ายที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน โดยเราได้พัฒนาบริการ 5G Mode ภายใต้แนวคิด “AIS Living Network” ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง AIS และ Huawei ที่ลูกค้าสามารถปรับโหมดการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบ On Demand ผ่าน Autonomous Network ในแบบ Real-Time นับเป็นการพลิกโฉมรูปแบบการใช้งานเครือข่าย ที่ตอกย้ำว่า AIS เป็นผู้นำในการให้บริการ 5G และเข้าใจถึงความต้องการใช้งานของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง”

ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานแพ็กเกจ 5G Mode ให้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่

  • 5G BOOST Mode สำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูง หรือการใช้งานในพื้นที่ที่มีความหนาแน่น เช่น การเล่นโซเชียล การดูหนัง ฟังเพลง การประชุมออนไลน์ และการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่
  • 5G GAME Mode สำหรับการเล่นเกมบนมือถือที่เสถียรและลื่นไหล รองรับเกมยอดนิยมกว่า 13 เกม
  • 5G LIVE Mode สำหรับการสตรีมถ่ายทอดสดที่คมชัดต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด ครอบคลุมทุกแอปพลิเคชันยอดนิยม

สำหรับรางวัล GTI Awards จัดขึ้นโดย GTI (Global TD-LTE Initiative) ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมเทคโนโลยี TD-LTE และ 5G ทั่วโลก และเป็นรางวัลระดับโลกที่มีอิทธิพลต่อทิศทางของอุตสาหกรรม 5G โดยรางวัลสาขาการพัฒนาตลาดและมูลค่าทางธุรกิจ (Market Development and Business Value) มอบให้แก่องค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน 5G ให้เกิดขึ้นจริงในเชิงพาณิชย์ พร้อมทั้งสร้างแนวทางธุรกิจที่ช่วยให้ 5G สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้

เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ เคาน์เตอร์เซอร์วิส เปิดตัว “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” ร่วมส่งมอบความสุขและความอุ่นใจรับเทศกาลสงกรานต์

0

เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ร่วมส่งมอบความสุขและความอุ่นใจไปยังลูกค้าและประชาชนทั่วประเทศ ผ่าน “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มที่ให้   ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งด้านชีวิตและค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ สามารถซื้อหรือใช้คะเเนน All Member แลกรับสิทธิ์ ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 – 30 มิถุนายน 2568  ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศ หรือที่เว็บไซต์ www.counterservice.co.th

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ในปี 2568 นี้  เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลังกับ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด  เปิดตัว “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งด้านชีวิตและค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ  เพื่อส่งมอบความสุขและความอุ่นใจไปยังลูกค้าและประชาชนทั่วประเทศ ให้ทุกคนได้มีรอยยิ้มในช่วงเทศกาลที่ทุกคนรอคอย และเดินทางอย่างปลอดภัย พร้อมทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวอย่างมีความสุข

ทั้งนี้ความร่วมมือดังกล่าว ยังถือเป็นการตอกย้ำนโยบายของเมืองไทยประกันชีวิต มีความมุ่งมั่นในการสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุก ๆ คนในสังคม (Democratizing Insurance)  เพื่อเป็นส่วนช่วยให้ทุกคนได้มีความอุ่นใจ มีหลักประกันที่มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน  พร้อมเป็นการตอบรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการส่งเสริมให้ประชาชน   มีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุให้กับตนเองและครอบครัว สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากระบบ    การประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ได้สะดวก เข้าถึงได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น

นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า “เคาน์เตอร์เซอร์วิสให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกด้านบริการประกันภัย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความคุ้มครองได้อย่างง่าย สะดวกสบายที่สุด และมั่นใจตลอดการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงนำเสนอกรมธรรม์ที่เข้าถึงง่ายและคุ้มค่า โดยประชาชนที่สนใจสามารถซื้อกรมธรรม์ได้ง่าย ๆ เพียงแสดงบัตรประชาชนที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ครอบคลุมกว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศและชำระเบี้ยประกันภัย 10 บาท หรือใช้ ALL Member 1,000 คะแนน แลกรับสิทธิ์ฟรี นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อผ่านเว็บไซต์ www.counterservice.co.th จากนั้นจะได้รับสลิปยืนยันการทำรายการ ซึ่งระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดความคุ้มครองอย่างชัดเจน พร้อม SMS ยืนยันความคุ้มครอง โดยสามารถซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 – 30 มิถุนายน 2568 (จำนวนจำกัด 300,000 สิทธิ์) เคาน์เตอร์เซอร์วิสมุ่งมั่นพัฒนาบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของประชาชน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์

โดยความคุ้มครองที่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปจะได้รับ ประกอบด้วย  1. ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท  2. ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท 3. ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุสาธารณะ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท  และ 4. ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจ้างพยาบาลพิเศษ อุปกรณ์ค้ำยันต่าง ๆ (ยกเว้นไม้ค้ำยัน) รถเข็นผู้ป่วย อวัยวะเทียมภายนอกร่างกาย ค่ารักษาพยาบาลโดยแพทย์ทางเลือก (Alternative medicine) การฝังเข็ม จำนวนเงินเอาประกันภัยตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5,000 บาท

สำหรับ “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” มีระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน   นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลา เอาประกันภัย ซึ่งผู้ที่จะได้รับสิทธิ์จะต้องถือสัญชาติไทยเท่านั้น และมีอายุตั้งแต่  15 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดโครงการ ESG Super Seed ปั้นนิสิตนักศึกษา สู่เส้นทางอาชีพด้านความยั่งยืนในตลาดทุนไทย

0

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนให้ภาคธุรกิจดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) โดยในปี 2568 ได้ริเริ่ม “โครงการ ESG Super Seed” เป็นครั้งแรก เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาเพิ่มพูนความรู้ด้านความยั่งยืนอย่างรอบด้านทั้งเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้และเสริมสร้างทักษะสำคัญให้แก่นิสิตนักศึกษาเตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็นบุคลากรรุ่นใหม่ที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจและสังคมที่ยั่งยืนในอนาคต

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ

“ปัจจุบัน ผู้ที่มีทักษะและความรู้ด้าน ESG เป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญ ที่องค์กรภาคธุรกิจ ภาครัฐและภาคสังคมกำลังมองหาและเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ การเพิ่มทักษะความรู้ด้าน ESG ให้แก่นิสิตนักศึกษา ซึ่งถือเป็นบุคลากรสำคัญให้มีความพร้อมเข้าสู่การทำงานในตลาดทุนไทย จึงเป็นเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญ เนื่องด้วยทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทยทั้งบริษัทจดทะเบียนและองค์กร หน่วยงานต่างๆ ล้วนให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนโดยคำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนและผู้มีส่วนได้เสีย ทำให้ความต้องการบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาธุรกิจและการลงทุนอย่างยั่งยืนมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายศรพลกล่าว

สำหรับนิสิตนักศึกษาที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ESG Super Seed จะได้รับการอบรม e-Learning 5 หลักสูตร (รวม 12 ชั่วโมง) 1) พื้นฐานความรู้ด้านความยั่งยืน 2) Certificate in ESG Management Program 3)  การบริหารความเสี่ยง ESG (ESG Risks) 4) ESG วิถีใหม่ลงทุนอย่างยั่งยืน 5) รู้จัก ESG Products สักนิด ก่อนคิดลงทุน หลังจากนั้น จะมีการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม ESG Super Seed Camp ตลอด 7 วัน ที่จะได้ร่วมฝึกปฏิบัติ ศึกษาดูงาน พัฒนาทักษะด้าน Soft Skills รวมทั้งได้รับความรู้และประสบการณ์จากทีมผู้บริหารด้านความยั่งยืนขององค์กรชั้นนำ ตลอดจนร่วมแข่งขันนำเสนอ Case Study ด้านความยั่งยืน ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ

โครงการ ESG Super Seed เปิดรับสมัครนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ขึ้นไป และบุคคลทั่วไปที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี อายุไม่เกิน 25 ปี สมัครโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันนี้–15 พฤษภาคม 2568 ที่ https://setga.page.link/9JFU รายละเอียดโครงการ www.setsustainability.com

ฝากเงินที่ไหนก็เหมือนกันจริงหรือ?

0

สัมผัสคำตอบผ่านภาพยนตร์โฆษณาล่าสุดจากธนาคารออมสิน
แล้วทุกคนจะเข้าใจว่า .. ทุกการใช้บริการของธนาคารออมสิน คือส่วนสำคัญในการการสร้างประโยชน์แก่สังคมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจให้เติบโต
มาร่วมสร้างสังคมที่ดีไปด้วยกัน

ผู้เลี้ยงหมู บุกทำเนียบฯ ค้านนำเข้าหมู เสนอนำเข้าส่วนขาดข้าวโพด กากถั่วเหลืองแก้ปัญหาเกินดุลสหรัฐฯแทน เชื่อวินทุกฝ่าย

0

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พร้อมตัวแทนผู้เลี้ยงรวมตัวยื่นหนังสือถึงนายกฯ และ 3 รัฐมนตรี แก้ปัญหาการกดดันทางการค้าจากสหรัฐฯ แนะหันนำเข้าข้าวโพด กากถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ในระดับตัวเลขที่มีนัยยะสำคัญ หวังสหรัฐฯ ผ่อนคลายภาษีนำเข้าต่างตอบแทนกลับมาในอัตราระดับเดิม ช่วยทุกกลุ่มไม่เสียหาย

นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ผู้เลี้ยงมารวมตัวเพื่อให้รัฐบาลทำงานง่ายขึ้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลของสหรัฐฯ หวังลดการขาดดุลทางการค้ากับนานาประเทศ เพียงประเทศไทยหันมาซื้อสินค้าสหรัฐฯ มากขึ้น มาตรการทางภาษีศุลกากร ก็น่าจะปรับมาในอัตราปกติได้ ขณะที่กลุ่มการเลี้ยงสุกรและปศุสัตว์ไทยเติบโตเร็วจนผลิตพืชอาหารสัตว์ในประเทศตามไม่ทัน ดังนั้น ถ้าเปลี่ยนแหล่งกำเนิดพืชอาหารสัตว์มาซื้อจากสหรัฐฯ มากขึ้น ก็จะช่วยให้การเจรจาของรัฐบาลไทยง่ายยิ่งขึ้น

สิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ

สมาคมฯ ได้ศึกษาข้อกฎหมายในการประกาศดังกล่าว ที่เป็นการเร่งแก้ปัญหาการขาดดุลทางการค้าของประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งข้อเสนอในการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี กากถั่วเหลือง และ DDGS เพิ่มในลักษณะเปลี่ยนถิ่นกำเนิดของการนำเข้าเป็นสหรัฐอเมริกา จะสามารถเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้กับสหรัฐฯ ในการส่งสินค้ามายังประเทศไทยได้สูงถึง 84,000 ล้านบาท หรือ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ตามข้อเสนอของสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ ฉบับลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568

นายสิทธิพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการแก้ปัญหาดังกล่าว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไม่สร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมใด ๆ ในประเทศ โดยประเภทสินค้าที่สมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้นำเสนอจะไม่เป็นการสร้างผลกระทบให้กับเกษตรกรผู้เพาะปลูกพืช เพราะเป็นการนำเข้าในจำนวนที่ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศเท่านั้น

การยื่นข้อเสนอของสมาคมฯ มีแนวทางแก้ปัญหาการเกินดุลกับสหรัฐฯ โดยขอให้รัฐบาลละเว้นการพิจารณาที่จะนำเข้าสินค้าสุกร ทั้งเนื้อสุกรและเครื่องในเข้ามายังประเทศไทย ที่จะสร้างปัญหาให้กับผู้เลี้ยงสุกรของไทย หลังจากเผชิญปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในช่วงปี 2563-2565 และปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าสุกร อย่างมากในช่วงปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็น 2 วิกฤตการณ์ที่รุนแรงที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมสุกรไทย

“สินค้าสุกรของประเทศไทย เป็นอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนหลักของประเทศ ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ตั้งแต่รองรับพืชผลทางการเกษตรวัตถุดิบอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์สุกร และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างมากมาย มีมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งระบบกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี” นายสิทธิพันธ์ ให้ข้อมูลที่สำคัญต่อการตัดสินใจของรัฐบาลปิดท้าย.

จะนำเข้าเนื้อหมูอเมริกา พิจารณารอบด้านก่อนดีไหม?

0

นักวิชาการแนะ ก่อนเปิดตลาดนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกาควรพิจารณารอบด้าน ถึงผลกระทบระยาว ทั้งด้านความมั่นคงทางอาหารและความปลอดภัยของสุขภาพของคนไทย ย้ำประเทศไทยมีการเลี้ยงและการผลิตสุกรที่ดีตามมาตรฐานสากล ปลอดภัย ตลอดห่วงโซ่การผลิต

ผศ.ดร.น.สพ.ดุสิต เลาหสินณรงค์ อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ออกมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า และประเทศไทยอาจมีการเจรจานำเข้าเนื้อหมู และเครื่องในหมูจากสหรัฐฯ เพื่อต่อรองลดดุลการค้านั้น ขอแนะนำว่าก่อนการเจรจาอยากให้พิจารณาให้รอบด้านถึงผลกระทบในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพของคนไทย เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า การเลี้ยงหมูในสหรัฐฯ อนุญาตให้มีการใช้ สารเร่งเนื้อแดง ซึ่งส่งผลถึงผู้บริโภคโดยตรง อีกทั้งกระทบต่อความมั่นคงทางด้านอาหาร กระทบต่ออาชีพเกษตรกรของไทย มิเช่นนั้นในระยะยาวอาจทำให้ประเทศไทยต้องพึ่งพาการผลิตอาหารจากต่างชาติ ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีในอนาคต

ผศ.ดร.น.สพ.ดุสิต เลาหสินณรงค์

สารเร่งเนื้อแดง คือ ยารักษาโรคสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด มีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดลมให้ผู้ป่วยสามารถหายใจคล่องขึ้น อยู่ในกลุ่มเบตาอะโกนิสท์ (Beta-Agonist) เช่น ซัลบูทามอล (Salbutamol) เคลนบูเทอรอล (Clenbuterol) มาเพนเทอรอล (Mapenterol) หรือแรคโตพามีน (Ractopamine) ซึ่งจากผลข้างเคียงของยาดังกล่าว ผู้เลี้ยงหมูจึงนำยากลุ่มนี้มาผสมในอาหารสัตว์ หรือ นำไปฉีดในหมู เพราะหมูที่ได้รับยาจะตื่นตัวและเคลื่อนไหวตลอดเวลา กล้ามเนื้อทำงานมากขึ้น ทำให้สัดส่วนไขมันของหมูบางลง สัดส่วนเนื้อแดงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ผู้ที่บริโภคเนื้อหมูที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงจะได้รับยาที่ตกค้างอยู่ในกล้ามเนื้อหมู หลังการรับประทานยาจะออกฤทธิ์ทันที โดยมีอาการ หายใจเร็วขึ้น ใจสั่น กล้ามเนื้อสั่น สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ กลุ่มคนที่เป็นโรคหัวใจ มีอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ หากได้รับยานี้ จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูง และคนที่เป็นโรคเบาหวาน ยานี้จะไปบดบังอาการของโรคทำให้ผู้ที่เป็นเบาหวานไม่รู้ตัวและวูบได้

ผศ.ดร.น.สพ.ดุสิต ย้ำว่า “สารเร่งเนื้อแดง ไม่สลายตัวจากความร้อน ดังนั้นกระบวนการปรุงอาหารไม่สามารถช่วยกำจัดสารนี้ได้ แม้ผ่านกระบวนการปรุงอาหารแล้ว สารนี้ยังคงตกค้างอยู่”

การนำยาดังกล่าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อในหมู หรือเร่งให้มีเนื้อแดงมากขึ้น ถือเป็นการปรับเปลี่ยนขั้นตอนกระบวนการการผลิต ในขณะที่ประเทศไทยมีมาตรฐานฟาร์มเลี้ยงและการผลิตสุกรได้มาตรฐานสากล มีการพัฒนาคุณภาพของเนื้อหมูและประสิทธิภาพการผลิตตามมาตรฐานตลอดห่วงโซ่มาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริหารจัดการป้องกันโรคและการเลี้ยงสุกรที่เหมาะสม (Good Agricultural Practices; GAP) การจัดการให้มีความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ตลอดจนการปฏิบัติตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ รวมถึงการนำเทคโนโลยีทั้งปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) และหุ่นยนต์ มาใช้ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์และขบวนการแปรรูป เพื่อให้เนื้อหมูมีคุณภาพดีและปลอดภัยต่อผู้บริโภค.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาตรการรับมือความผันผวนจากนโยบายภาษีใหม่ของสหรัฐฯ

0

ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor, Dynamic Price Band และห้ามขายชอร์ต เป็นการชั่วคราว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่นายโดนัลท์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศใช้นโยบายภาษีใหม่ ทำให้ส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก จนมีการปรับตัวลดลงอย่างมาก  ดังนั้น เพื่อให้มีมาตรการรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสในการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น  ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 ได้มีมติอนุมัติปรับปรุงเกณฑ์เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้เป็นการชั่วคราว  ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) (TFEX) ได้มีมติอนุมัติเกณฑ์ TFEX ที่เกี่ยวข้องด้วย

  1. ปรับ Ceiling & Floor สำหรับทั้ง SET, mai และ TFEX
ตลาดProductCeiling & Floor
เดิมใหม่
SET,
mai
หุ้น / หน่วยลงทุน+/- 30%+/-15%
Foreign share+/- 60%+/- 30%
TFEXIndex Futures / Options
Sector Futures
Single Stock Futures
+/- 30%+/-15%

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เกี่ยวกับราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) สำหรับการซื้อขายในแต่ละวันข้างต้น จะไม่ใช้บังคับกับการซื้อขาย DR และ DRx

2.ปรับกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band เป็นรายหลักทรัพย์ จากเดิม ±10% จากราคาซื้อขายล่าสุดของหลักทรัพย์นั้น เป็น ±5% จากราคาซื้อขายล่าสุดของหลักทรัพย์นั้น

3.ห้ามการขายชอร์ตทุกหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว ยกเว้น Market Maker สำหรับ SET, mai และ TFEX

ทั้งนี้ การปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2568 และไม่เกินวันที่ 11 เมษายน 2568   โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะติดตามภาวะตลาดต่อเนื่องทุกวัน พร้อมปรับเปลี่ยนเกณฑ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์    ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อว่ามาตรการชั่วคราวที่ประกาศใช้ในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยเสริมเสถียรภาพของตลาดและสร้างความมั่นใจในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุน