Home Blog Page 355

ซี. พี. เวียดนามเปิดคอมเพล็กซ์ผลิตไก่ครบวงจร ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

0

นายมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี. พี. เวียดนามคอร์ปอเรชั่น หรือ ซี. พี. เวียดนาม เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดโครงการคอมเพล็กซ์โรงงาน CPV Food Binh Phuoc ผลิตไก่ครบวงจร ทั้งอาหารสัตว์ ฟาร์ม และอาหารแปรรูปอย่างเป็นทางการ ที่จังหวัดบิ่นห์เฟื้อก ทางตอนใต้ของเวียดนาม โดยเป็นโครงการเลี้ยงไก่แปรรูปแบบครบวงจรเพื่อการส่งออก แห่งแรกของเวียดนาม และมีขนาดใหญ่ รวมถึงทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยยกระดับการผลิตอาหารของประเทศเวียดนาม ให้มีคุณภาพทัดเทียมกับระดับโลก โดยพิธีเปิด ได้รับเกียรติจาก รองนายกรัฐมนตรีเจืองหว่าบิ่งห์ (Truong Hoa Binh) พร้อมด้วยผู้นำกระทรวงต่าง ๆ ผู้นำของจังหวัดบิ่นห์เฟื้อก พนักงานซี. พี. เวียดนาม รวมถึงคู่ค้า และลูกค้า เข้าร่วมงาน

โครงการคอมเพล็กซ์ มีเป้าหมายการผลิตไก่เนื้อ 50 ล้านตัว / ปี ในเฟสแรก (ตั้งแต่ปี 2019-2023) ส่วนเฟสที่ 2 (ตั้งแต่ 2023 เป็นต้นไป) จะเพิ่มกำลังการผลิตขื้นเป็น 100 ล้านตัว / ปี

โครงการเลี้ยงไก่แปรรูปครบวงจรเพื่อการส่งออก CPV FOOD Binh Phuoc ใช้งบประมาณลงทุน 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมปศุสัตว์ในประเทศเวียดนาม สู่การเป็นผู้ผลิตอาหารระดับโลก ด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยเพื่อผู้บริโภคทั้งภายในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป และตะวันออกกลาง ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะนำเงินเข้าสู่ประเทศเวียดนามประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อ ปี ในเฟสที่ 1 และ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อ ปี ในเฟสที่ 2

“ซี. พี. เวียดนามเข้าลงทุนในเวียดนามเป็นระยะเวลากว่า 25 ปี จึงเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงนโยบายมหภาคของรัฐบาลเวียดนามในการส่งเสริมเวียดนามให้เป็นประเทศที่ผลิตอาหารได้มาตรฐานสากล ด้วยความสำเร็จ และประสบการณ์ในการส่งออกสัตว์ปีกของซีพีเอฟ เราจึงกำหนดพันธกิจของโครงการเลี้ยงไก่แปรรูปครบวงจรเพื่อการส่งออกจากเวียดนาม นั่นคือ การยกระดับคุณภาพอาหาร เพื่อนำเวียดนามไปสู่การเป็นประเทศผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ปีกชั้นนำของโลก” นายมนตรี กล่าว

ผลิตภัณฑ์จากคอมเพล็กซ์โรงงานนี้ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งหมดตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นทางของวัตถุดิบสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ไปจนถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปเป็นต้น ด้วยการดำเนินการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และหลักสวัสดิภาพสัตว์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ซึ่งในเฟสที่ 1 ได้ดำเนินการใน 6 อำเภอในจังหวัด Binh Phuoc ได้แก่ เมือง Dong Xoai เมือง Binh Long อำเภอ Dong Phu อำเภอ Chon Thanh อำเภอ Hon Quan อำเภอ Bu Dang ซึ่งทั้งหมดได้รับการรับรองจากองค์กรโรคระบาดสัตว์โลก (OIE) ให้เป็นเขตปลอดโรคแห่งแรกของประเทศ โดยในแต่ละท้องที่ บริษัท ได้สร้างระบบโรงเรือนตามมาตรฐานขององค์กรสัตวแพทย์โลก เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนกและอหิวาตกโรค

ซี.พี. เวียดนาม ยังให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย การผลิตและการแปรรูปที่ปลอดภัย ปลอดโรค และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0, ปัญญาประดิษฐ์ AI รวมถึง Big Data เป็นต้น ในการควบคุมและบริหารจัดการด้านการปศุสัตว์ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ สร้างความสามารถในการแข่งขัน สู่การพัฒนาปศุสัตว์อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ โครงการยังส่งผลดีแก่เกษตรกรในพื้นที่ เช่น การสร้างงานมากกว่า 3,000 อัตรา

บริษัทยังได้ให้คำปรึกษาและสนับสนุนการป้องกันโรคฟรี เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของชุมชน รวมถึงอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการจัดการ สัตวแพทย์ สร้างความตระหนักในเรื่องโรคในสัตว์ให้กับเกษตรกร และดำเนินกิจกรรมอื่นๆ เพื่อส่งเสริมปศุสัตว์ และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่

“ด้วยประสบการณ์ในด้านอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร และการส่งออกเนื้อสัตว์ปีก เราได้กลั่นกรองความสำเร็จเพื่อนำมาใช้ในโครงการนี้ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลกมาใช้ ในจังหวัดบิ่นห์เฟื้อก ประเทศเวียดนาม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจได้ว่าเวียดนามสามารถส่งออกไก่ ด้วยกระบวนการที่ทันสมัย และคุณภาพตรงตามมาตรฐานการส่งออกไปยังทุกประเทศทั่วโลก แม้แต่ตลาดที่มีมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุด เช่น ยุโรป และญี่ปุ่น” นายมนตรี กล่าวตอนท้าย

เอไอเอส คุมเข้ม รับมือโควิด-19 ระลอกใหม่ ป้องกันการแพร่ระบาดสู่ส่วนรวม

0

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  เอไอเอส ได้ยกระดับมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุดตามขั้นตอนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยเน้นย้ำให้พนักงานทุกคน ตลอดจนพาร์ทเนอร์ ดูแลสุขอนามัยของตัวเองและครอบครัวอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังในการสัมผัสจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองกลายเป็นผู้แพร่เชื้อไปสู่ส่วนรวม

สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส

ทั้งนี้ มาตรการสำคัญที่ประกาศใช้ทั้งสำหรับบุคลากรและพาร์ทเนอร์ ได้แก่

1.      แบ่งทีมพนักงานออกเป็น Team A และ Team B ให้สลับกันปฏิบัติงานในที่ทำการของบริษัทฯและ ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัยของตน โดยสลับตารางไปทุกสัปดาห์

2.     งดการประชุมทางธุรกิจกับบุคคลภายนอก อย่างเด็ดขาด โดยให้ใช้การประชุมทางโทรศัพท์หรือOnline Conference Call แทน ส่วนการประชุมภายใน ให้หลีกเลี่ยงการประชุมรูปแบบปกติ โดยขอให้ใช้ Online Conference แทน

3.  ให้พนักงานหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด ที่นอกเหนือจากการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เสี่ยงตามประกาศ ของ ศบค.

5.   สำหรับพนักงานที่ให้บริการลูกค้าใน AIS Shop, ร้านเทเลวิซ จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมมีการตรวจวัดไข้วันละ 2 ครั้ง และเพิ่มบริการแอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือ เพื่อให้บริการลูกค้า

6.   ดำเนินการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ปฏิบัติงานหลักตามตารางที่กำหนด ทั้งที่อาคารสำนักงาน รวมถึง AIS Call Center พร้อมตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์เจลล้างมือ, เน้นย้ำการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อจุดเสี่ยงตลอดเวลา อาทิ ที่จับประตู ลิฟท์ และในส่วนที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ 

7.   ปรับเวลาเข้า/ออก ในการปฏิบัติงานของพนักงานตามความเหมาะสม เพื่อลดอัตราเสี่ยงจากการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีความแออัดสูง

8.   จัดการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาคารเอไอเอส 1 และ 2 รวมถึงอาคารที่ทำงานอื่นๆ ในเครือเอไอเอส แบบ 100% โดยหากพบว่าพนักงาน มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส อาคารจะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด

9.   พนักงานจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงานในอาคารสำนักงาน พร้อมรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ คณะผู้บริหารกำลังติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ โดยขอให้ลูกค้ามั่นใจว่า จะได้รับบริการคุณภาพจากเอไอเอสอย่างไม่ติดขัด พร้อมแนะนำช่องทางใช้บริการ Online ผ่านทางแอปพลิเคชัน my AIS และ AIS Online Store เพื่อความสะดวกในสถานการณ์ปัจจุบัน

เครือเจริญโภคภัณฑ์ มอบ “หน้ากากอนามัยซีพี” แจกจ่ายกลุ่มเปราะบางในพื้นที่สีแดงของกทม.

0

นายอดิศร์ กฤษณวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์และซีพีเอฟ มีความห่วงใยในสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดและสร้างผลกระทบกับประชาชนอยู่ในขณะนี้ จึงให้นำ “หน้ากากอนามัยซีพี” แจกจ่ายช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางหลายกลุ่มในพื้นที่สีแดง

โดย หน้ากากอนามัยซีพี จำนวนกว่า 70,000 ชิ้น จะแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มแรงงานต่างด้าว กลุ่มเปราะบางและกลุ่มอาสาสมัครในพื้นที่เสี่ยงสูง เพื่อใช้ป้องกันตนเองจากไวรัสโควิด-19

ล่าสุด เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้มอบหน้ากากอนามัยซีพีผ่าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำหรับนำไปแจกจ่ายให้กลุ่มเปราะบางในเขตหนองแขม บางบอน บางขุนเทียน เครือข่ายกลุ่มอาสาดุสิต และเครือข่ายคุณถั่วแระ รวมถึงมอบผ่าน นางสาวปิยธิดา นิยม ผู้อำนวยการเขตคลองเตย สำหรับแจกจ่ายให้ชาวชุมชนคลองเตยล็อค 1-2-3 และล็อค 4-5-6 เป็นการแบ่งเบาภาระของภาครัฐในการร่วมป้องกันโรคระบาดโควิด-19 สอดคล้องตามปรัชญา 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มุ่งสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท

ก่อนหน้านี้ เครือฯ ได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยซีพีอย่างต่อเนื่อง โดยนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดระยอง ผ่านทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.จำนวน 30,000 ชิ้น

สำนักพระราชวังแจ้งปิดเข้าชมพระราชฐาน และสถานที่ต่างๆ

0

สำนักพระราชวังแจ้งปิดการเข้าชมพระราชฐาน และสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 5-31 มกราคม 2564 ดังนี้.

– พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

– พระราชวังบางปะอิน

– พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

– โครงการช่างหัวมัน ตามพระราชดำริ

– พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

– พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน

– โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง

เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โออาร์ มอบรางวัลกว่า 9 ล้านบาทให้ผู้โชคดีร่วมกิจกรรม “Blue Card เที่ยว เลี้ยว ลุ้น”

0

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้โชคดีจากกิจกรรม “บลู การ์ด เที่ยว เลี้ยว ลุ้น” โดยมีรางวัลใหญ่คือ รถยนต์ BMW X1 sDrive 18i (Iconic) จำนวน 3 รางวัล ทองคำมูลค่า 100,000 บาท 3 รางวัล และของรางวัลอื่น ๆ รวมกว่า 1,500 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 9 ล้านบาท

จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โออาร์

โออาร์ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ และยังเป็นการมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบลูการ์ด เพื่อตอบแทนที่สนับสนุนสินค้าหรือบริการของโออาร์เป็นอย่างดีมาโดยตลอด

ทั้งนี้ สมาชิก Blue Card ได้รับสิทธิ์ร่วมลุ้น เมื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการและสะสมคะแนน Blue Card จากร้านค้าในเครือโออาร์ ตามเงื่อนไขที่กำหนด ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้แก่ การเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน PTT Station การซื้อผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants ที่สถานีบริการน้ำมัน PTT Station หรือร้านสะดวกซื้อ Jiffy การซื้อสินค้าหรือใช้บริการที่ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto การซื้อผลิตภัณฑ์ที่ร้าน Café Amazon ร้านสะดวกซื้อ Jiffy ร้าน Texas Chicken ร้านฮั่วเซงฮงติ่มซำ และร้าน Pearly Tea

สำหรับในช่วงนี้ ที่โรคโควิด – 19 กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง โออาร์ ขอยืนยันว่า สถานีบริการน้ำมัน PTT Station และร้านค้าในเครือโออาร์ มีมาตรการในการรับมือเพื่อช่วงลดการแพร่กระจายของโควิด – 19 อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการจัดแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการ ให้พนักงานสวมหน้ากากตลอดเวลาที่ให้บริการ เป็นต้น จึงขอให้ผู้บริโภคทุกท่านมั่นใจในการเข้าใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมัน PTT Station และร้านค้าในเครือโออาร์ได้อย่างสบายใจ

แม็คโคร บิ๊กคลีนนิ่งทุกสาขา สู้โควิด-19 ยันสินค้ามีเพียงพอความต้องการ

0

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ห้างแม็คโครได้ปฏิบัติการเชิงรุกอย่างเข้มข้น โดยทำการบิ๊กคลีนนิ่ง ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในทุกสาขา รวมทั้งศูนย์กระจายสินค้า ตั้งแต่วันที่ 1-3 มกราคม ภายใต้คำแนะนำของกรมอนามัยและสาธารณสุุขจังหวัดทุกจังหวัด อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19

“แม็คโครได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในทุกวิถีทางที่ทำได้ เช่นเดียวกับการทำบิ๊กคลีนนิ่งและฆ่าเชื้อทุกสาขา หลังช่วงการจับจ่ายในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แม้ต้องมีค่าดำเนินการมากขึ้นก็ตาม แต่เราได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานอย่างสูงสุด ส่วนมาตรการอื่นๆ ยังปฏิบัติตามแนวทางของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดการภายในสาขาให้ปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสถานประกอบการปลอดภัยป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองจากกรมอนามัยในทุกสาขา”

นางศิริพร กล่าวว่า มาตรการหลักของแม็คโคร ประกอบด้วย การตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย, การกำหนดให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายในสาขา, การเพิ่มจุดวางแอลกอฮอล์เจลให้มากขึ้น, เพิ่มความถี่การทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อยด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 15 นาที อาทิ รถเข็น เคาท์เตอร์บริการต่างๆ โทรศัพท์ ตู้เอทีเอ็ม รถวิลแชร์สำหรับลูกค้า อีกทั้งยังได้เพิ่มมาตรการเสริม ประกอบด้วย

1. กำหนดจำนวนลูกค้าเข้าสาขา โดยการนับจำนวนคนเข้า-ออก และรายงานจำนวนคนที่อยู่ภายในสาขาทุกครึ่งชั่วโมง (1 คนต่อ 1 ตารางเมตร) พร้อมจัดที่นั่งรอห่างกัน 1 เมตรด้านหน้าสาขา เมื่อปริมาณคนในสาขาเกินจำนวนที่กำหนด

2. ตีเส้นรักษาระยะห่างที่พื้น (Social distancing grid) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการรักษาระยะห่างของแต่ละบุคคล ในจุดที่มีความหนาแน่น เช่น แผนกอาหารสด แผนกเนื้อสัตว์ และจุดชำระเงิน

3. จัดทีมรักษาระยะห่าง 3-5 คนต่อสาขา(Social distancing scouts) คอยเดินประกาศ ย้ำเตือนเรื่องการรักษาระยะห่างให้ลูกค้าเกิดความเคยชินและปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิตใหม่ (New normal)

4. เน้นบริการชำระเงินแบบ Cashless payment เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสดในทุกสาขา

ในส่วนของปริมาณสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ที่มีความต้องการจากประชาชนเป็นจำนวนมาก นางศิริพร กล่าวยืนยันว่า แม็คโครมีสินค้าเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงดำเนินการทุกวิถีทางในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อสุขอนามัยอย่างปลอดภัยขั้นสูงสุดของลูกค้า พนักงาน และสังคมโดยรวมเป็นสำคัญ

เอไอเอส เผยคนงดเดินทางช่วงปีใหม่ ดันเน็ตบ้านโตพุ่งกว่า 70% 

0

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส  เปิดเผยว่า รูปแบบการใช้งานบนเครือข่ายของลูกค้าเอไอเอสในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2564  พบว่า ประชาชนมีการเดินทางออกต่างจังหวัดน้อยลง กว่า 30% เนื่องจากการเฝ้าระวังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และหันมาใช้ดาต้าจากเน็ตบ้าน เพื่อสื่อสาร ส่งความสุข , รับชมความบันเทิง , ช็อปปิ้ง Online ตลอดจนทำงานแบบ Work From Home หรือ Work From Anywhere มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส

โดยการใช้งานดาต้าบน Wifi ของเน็ตบ้าน เพิ่มมากถึงกว่า 70% บนโซเชียลยอดนิยมอย่าง Facebook ที่มี Feature ตอบโจทย์ครบถ้วน ทั้ง LIVE และ VDO รวมถึงยังพบว่ามีการเข้าชม Content ประเภท VDO สูงสุด เนื่องจากในปีนี้หลายแห่งงดการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์และเปลี่ยนรูปแบบให้สามารถรับประสบการณ์ที่หลากหลายได้มากขึ้น ตั้งแต่ 4K, VR และ AR ผ่านทาง Device ทุกรูปแบบ โดยในส่วนของเอไอเอสเอง พบว่า การจัดงานคอนเสิร์ตรูปแบบ Virtual Reality (VR)  ในงาน AIS 5G The Future of Virtual Celebration 2021 ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง มียอดผู้เข้าชมผ่านทุกช่องทาง ทั้งแบบ 360° บนแอปพลิเคชัน AIS 5G PLAY VR, AIS PLAY, กล่อง AIS PLAY BOX  ตั้งแต่ 18.00 น. พร้อมรับชมผ่านช่อง 3 HD แบบไม่มีโฆษณาคั่น ตั้งแต่เวลา 22.20 น. เป็นต้นไป มากกว่า 5 ล้านคน

ตลอดปี 2563 การใช้งานดิจิทัลเติบโตอย่างยิ่ง โดยมีปริมาณการใช้งานดาต้าของลูกค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 17.2 กิกะไบต์ต่อเดือน ส่วนเน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ในไตรมาส 3 มีฐานลูกค้ารวม 1.26 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และถือว่าเติบโตแกร่งเหนือตลาดซึ่งโตเพียง 1.2%

แม็คโคร รับซื้อกุ้งจากเกษตรกร 200 ตันต่อสัปดาห์ สร้างความมั่่นใจกุ้งไทยปลอดภัย

0

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม็คโคร ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับซื้อกุ้งโดยตรงจากฟาร์มของเกษตรกร เพื่อเร่งระบายผลผลิตให้ทันเทศกาลเฉลิมฉลองแบบนิวนอร์มอลที่บ้าน หลังจากที่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศ ได้รับผลกระทบรุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ทั้งๆ ที่ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายปลายปีจะเป็นช่วงขายทำรายได้ของเกษตรกร แต่เมื่อประชาชนขาดความเชื่อมั่น กังวลด้านความปลอดภัย กุ้งก็ขายไม่ได้ เกษตรกรเดือดร้อนถ้วนหน้า

กิจกรรมความเชื่อมโยงและกระตุ้นการบริโภคสินค้ากุ้ง จัดขึ้นที่ แม็คโคร สาขานครอินทร์ โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยมอธิบดีกรมการค้าภายใน นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง ตลอดจนภาคีเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง สมาคมภัตตาคารไทย มาร่วมงานและร่วมออกบูธจำหนายเมนูอาหารปรุงสำเร็จจากกุ้งด้วย

นางศิริพร กล่าวว่า ในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแบบนิวนอร์มอล ที่ผู้คนหันมาทำอาหารทานเองที่บ้าน ผลผลิตกุ้งจากเกษตรกรไทยน่าจะได้รับการตอบรับดีขึ้น หลังจากภาครัฐและภาคีเครือข่าย มาช่วยกันสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งแม็คโครไม่ได้มองเพียงการช่วยเหลือในระยะสั้น แต่ยังมองถึงการต่อยอดการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน ดังพันธกิจเคียงข้างเกษตรกรไทย และการเป็นผู้นำอาหารสดปลอดภัยของแม็คโคร

ทั้งนี้ แม็คโครได้นำเสนอกุ้งราคาดีจากเกษตรกรให้ผู้บริโภคทั่วประเทศเข้าถึงและมั่นใจได้ โดยเฉพาะกุ้งขาว 3 ขนาดที่เป็นไฮไลท์ช่วงส่งท้ายปี ประกอบด้วย กุ้งขนาด 40-50 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 199 บาท กุ้งขนาด 31-40 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 239 บาท และกุ้งขนาด 70-75 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 189 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มกราคม 2564

ทิพยประกันภัย ออกประกันโควิด-19 จ่ายครึ่งเดียว เฉพาะเดือนม.ค.นี้เท่านั้น

0

โครงการ “คนละครึ่งสู้ภัยโควิด…รัฐไม่ต้องออกทิพยออกให้” ด่วน จำกัด 1,000,000 สิทธิ์ เพียงเดือนเดียวเท่านั้น

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า จากเหตุการณ์ ไวรัสโคโรนา (โควิด-19) สายพันธุ์ใหม่ ที่พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้ บริษัทจึงได้ทำโครงการ “คนละครึ่งสู้ภัยโควิด…รัฐไม่ต้องออกทิพยออกให้” เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการประกันภัยโควิด-19 เพื่อรองรับความเสี่ยงในราคาประหยัด และถือเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่จากทิพยประกันภัย โดยบริษัทจะช่วยออกค่าเบี้ยประกันภัยให้ครึ่งหนึ่ง ทุนประกันภัยสูงสุด 1 แสนบาท ทั้งนี้ ประชาชนสามารถซื้อประกันนี้ได้ในราคาเพียง 75 บาท จากปกติราคา 150 บาท โดยจำกัดสิทธิ์เพียง 1,000,000 สิทธิ์เท่านั้น เริ่มโครงการ 1 มกราคม ถึง 31 มกราคม 2564

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย

เอไอเอส สนับสนุนเครือข่ายสัญญาณเต็มที่ใน “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” ร่วมต้านภัยโควิด-19

0

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม  หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ความเสี่ยงสูง และเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” ที่เป็นจุดศูนย์กลางของการบริหารจัดการเพื่อดูแลและสกัดกั้นการระบาด ใน 3 แห่ง ประกอบด้วย สนามกีฬา จังหวัดสมุทรสาคร, อาคารและพื้นที่ปฏิบัติธรรม วัดโกรกกราก และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร แล้วนั้น  เพื่อเป็นการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการสื่อสาร และให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยได้มีโอกาสสื่อสารกับครอบครัวให้คลายความกังวล   ทีมวิศวกรเอไอเอส เดินหน้าติดตั้งและขยายเครือข่ายเพิ่มเติมในทั้ง 3 จุดดังกล่าวข้างต้นแล้วอย่างเร่งด่วน ประกอบด้วย

–         ขยายความสามารถในการรองรับการใช้งาน พร้อมความครอบคลุมของเครือข่าย AIS 5G

–         ติดตั้ง AIS Fiber พร้อมสัญญาณ WIFI

สายชล ทรัพย์มากอุดม  หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส

โดยก่อนหน้านี้ได้สนับสนุนซิมการ์ดแบบเติมเงิน พร้อมด้วยประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อโควิด-19 ให้แก่กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว – อสต. ที่กำลังลงพื้นที่อย่างหนัก เพื่อให้สามารถติดต่อประสานงานระหว่างกลุ่มแรงงานต่างชาติกับโรงพยาบาล ,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสภากาชาด ในการติดตาม, คัดกรอง, เฝ้าระวัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงน้ำดื่มให้แก่ทางจังหวัดไปแล้วอีกด้วย

 “ในฐานะภาคเอกชน เราขอเป็นตัวแทนขอบคุณ และส่งความห่วงใย พร้อมกำลังใจไปยังอาสาสมัคร ทั้ง อสต.และ อสม.ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ซึ่งได้เสียสละอย่างยิ่งในการปฏิบัติงาน เพื่อรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดรอบใหม่นี้อย่างเต็มที่  โดยเอไอเอสยืนยันร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำระบบสื่อสารเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้ประเทศไทยก้าวผ่านสภาวะการระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้อย่างดีที่สุด”