Home Blog Page 2

DR “CHNXT5023” ออกโดย INVX เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก

0

อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ รินใจ ชาครพิพัฒน์ และ สรวิศ ไกรฤกษ์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พยนต์ พงศาวรี Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด Tan Yonghui, Director of Fund Supervision Department, Shenzhen Stock Exchange Martin Franc, Chief Executive Officer, Asia ex Japan, Invesco และ Ken Kang, CEO of Invesco Great Wall ร่วมพิธีเปิดการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ DR “CHNXT5023” อ้างอิงกองทุน Invesco Great Wall ChiNext 50 ETF ที่ลงทุนตามดัชนี SZSE ChiNext 50

สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น 50 บริษัทเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยุคใหม่ของจีนที่มีสภาพคล่องสูงสุดในกระดาน ChiNext ของตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ในวันที่ 25 พ.ย. 2568 ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูล DR ใหม่ได้ที่ www.innovestx.co.th หรือศึกษาผลิตภัณฑ์ DR เพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/dr

AIS ระดมพลังอุ่นใจอาสาส่งมอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ต่อเนื่อง เสริมระบบสื่อสาร เปิดจุดบริการโทร-WiFi ฟรีในศูนย์อพยพ พร้อมมาตรการดูแลลูกค้าอย่างเต็มกำลัง

0

ท่ามกลางสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของภาคใต้ เอไอเอสในฐานะเครือข่ายที่พร้อมเคียงข้างคนไทยในทุกวิกฤต ยังคงเร่งขับเคลื่อนภารกิจในการสนับสนุนและดูแลลูกค้า ตลอดจนประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยระดมพลังพนักงานอุ่นใจอาสา พร้อมนำศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะ สนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่สามารถติดต่อสื่อสาร พร้อมส่งต่อความห่วงใยและกำลังใจให้ทุกคนร่วมก้าวผ่านสถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยมี นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร เอไอเอส พร้อมด้วยพนักงานอุ่นใจอาสา ได้ส่งมอบสิ่งของช่วยเหลือให้แก่กองทัพอากาศ โดยมี พลอากาศตรี อภิรัตน์ รังสิมาการ  รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปส่งต่อให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ต่อไป

ทั้งนี้ เอไอเอส ยังคงเดินหน้าดูแลลูกค้าและคนไทย ในสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่องด้วยความช่วยเหลือทุกด้าน

1. ระดมพนักงานเอไอเอส “อุ่นใจอาสา” ส่งต่อความห่วงใย โดยร่วมกันจัดเตรียมสิ่งของจำเป็น ทั้งถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด น้ำดื่ม 1,000 โหล อุปกรณ์อะแดปเตอร์ชาร์จมือถือ 1,100 ชิ้น และเพาเวอร์แบงก์ 1,100 ชิ้น ส่งต่อความห่วงใยผ่านความร่วมมือกับกองทัพอากาศ เพื่อส่งมอบให้ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ เป็นอีกหนึ่งพลังเล็ก ๆ ที่สะท้อนเจตนารมณ์ขององค์กรในการยืนหยัดเคียงข้างสังคมในทุกวิกฤต

2. สนับสนุนระบบสื่อสารอย่างเต็มกำลังในพื้นที่และศูนย์อพยพ อำนวยความสะดวกเพิ่มจุดให้บริการโทรฟรี และบริการ AIS Free WiFi สำหรับผู้ที่อยู่ศูนย์อพยพ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อติดต่อสื่อสารไปยังครอบครัวหรือผู้ที่ห่วงใย พร้อมขยายสัญญาณเครือข่ายอย่างเต็มกำลัง และสแตนบายรถโมบาย โดยมีทีมวิศวกรมอนิเตอร์และดูแลเครือข่าย 24 ชั่วโมง

3. ดูแลลูกค้าเอไอเอสที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

  • มอบค่าโทร 100 นาที และอินเทอร์เน็ต 10GB ให้ลูกค้ามือถือทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน ใช้งานได้ 7 วัน โดยมอบสิทธิ์ให้อัตโนมัติสำหรับลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย โดยไม่ต้องกดรับสิทธิ์ และจะมี SMS แจ้งยืนยัน
  • ขยายเวลาชำระค่าบริการลูกค้าเอไอเอสรายเดือน และ AIS FIBRE3 และขยายเวลาการใช้งานให้ลูกค้าระบบเติมเงิน
  • แม้ว่าจากสถานการณ์ดังกล่าว จะมี AIS Shop และตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบที่ต้องปิดให้บริการ แต่ลูกค้ายังคงสามารถทำธุรกรรมและรับบริการได้ด้วยตนเองผ่านแอป myAIS

เอไอเอสยืนยันความพร้อมของทุกหน่วยงานในการดูแลประชาชนให้สามารถใช้บริการสื่อสารและเน็ตบ้านได้ต่อเนื่องอย่างดีที่สุด พร้อมยืนหยัดอยู่เคียงข้างคนไทยตลอดช่วงสถานการณ์อุทกภัย และพร้อมสนับสนุนการสื่อสารในพื้นที่ที่จำเป็นอย่างเต็มกำลัง

เอไอเอส เคียงข้างผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ มอบค่าโทร–เน็ตฟรี ขยายวันใช้งานและเวลาจ่ายค่ามือถือ–เน็ตบ้าน พร้อมดูแลเครือข่าย 24 ชม.

0

ท่ามกลางสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ภาคใต้ ที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายจังหวัด ได้แก่ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เอไอเอสในฐานะเครือข่ายดิจิทัลที่พร้อมเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์วิกฤต ได้ร่วมทำงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อยกระดับบริการสื่อสารช่วงเวลาอันท้าทายครั้งนี้ โดยระดมศักยภาพโครงข่ายและทีมงานลงพื้นที่ดูแลลูกค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้การติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงบริการดิจิทัลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือแบบรอบด้าน ดังนี้

  • มอบค่าโทร 100 นาที และอินเทอร์เน็ต 10GB ให้ลูกค้ามือถือทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน ใช้งานได้ 7 วัน โดยเอไอเอสอำนวยความสะดวกในการมอบสิทธิ์ให้โดยอัตโนมัติสำหรับลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย โดยไม่ต้องกดรับสิทธิ์ และจะมี SMS แจ้งยืนยัน
  • ขยายระยะเวลาชำระค่าบริการให้ลูกค้ามือถือรายเดือน และลูกค้า AIS 3BB FIBRE3 รวมถึงขยายวันใช้งานให้กับลูกค้าระบบเติมเงินในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
  • เสริมบริการ AIS Free WiFi ที่ศูนย์อพยพมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อให้ประชาชนยังสามารถเข้าถึงการติดต่อสื่อสารและข้อมูลข่าวสารได้อย่างต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ เอไอเอสยังดูแลเสถียรภาพโครงข่ายอย่างใกล้ชิด ติดตามสถานการณ์และพร้อมปรับแผนรองรับตลอด 24 ชั่วโมง เอไอเอสขอยืนยันว่าจะยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องชาวใต้และคนไทยทุกคน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

AIS สร้างปรากฏการณ์ระดับจักรวาล ดึง Miss Universe 2025 กระทบไหล่แฟนๆ ที่ AIS SIAM พร้อมรีรันทุกโมเมนต์การประกวด บน AIS PLAY ที่เดียวในไทย

0

AIS เครือข่ายที่เข้าใจลูกค้าทุกกลุ่มและทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์อย่างดีที่สุด เดินหน้าสร้างประสบการณ์ความบันเทิงระดับโลกให้แฟนนางงามฟินกว่าทุกปี ผ่านกิจกรรมงาน MEET THE CROWNS” สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เปิดโอกาสให้แฟน ๆ ได้ใกล้ชิดผู้ครองมงกุฎเวทีจักรวาลทั้ง ฟาติมา บอสช์ ผู้คว้ามงกุฎ Miss Universe 2025 และ
ปวีนา ซิงห์ รองอันดับ 1 
แบบใกล้ชิด ต่อเนื่องจากการรับชมถ่ายทอดสด The 74th Miss Universe 2025 ผ่านหน้าจอ AIS PLAY พร้อมเปิดสิทธิ์ให้ลูกค้าที่สมัครแพ็กเกจสามารถรับชมการประกวดย้อนหลังแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ก่อนใคร เฉพาะบน AIS PLAY เพียงแพลตฟอร์มเดียวในประเทศไทยที่ได้รับลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำพลังเครือข่ายอัจฉริยะ AIS 5G และความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มดิจิทัลคอนเทนต์ระดับประเทศ โดยมี นางเบญจพร กำเพ็ชร หัวหน้าส่วนงานการตลาดกลุ่มลูกค้าพรีเพด เอไอเอส ร่วมจัดกิจกรรม ณ AIS SIAM

AIS PLAY ผู้ถ่ายทอดสดการประกวดนางงามระดับโลกเวที The 74th Miss Universe 2025 อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งมีความพิเศษด้วยการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการประกวด เอไอเอสจึงตั้งใจต่อยอดประสบการณ์จากบนหน้าจอสู่ประสบการณ์ตรงบนเวทีระดับจักรวาล ผ่านกิจกรรมลุ้นบัตรเข้าร่วม Meet & Greet สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ใจกลางสยามสแควร์ โดยลูกค้าเอไอเอสผู้โชคดีจากการสมัครเล่นกิจกรรมตามกติกาต่าง ๆ จนได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ สัมผัสออร่าระดับจักรวาลแบบใกล้ชิด ชมลีลาการตอบคำถามเสมือนอยู่บนเวที Miss Universe 2025 พร้อมเคล็ดลับพิชิตใจกรรมการ ทั้งการวางตัว การใช้สายตาและน้ำเสียง รอยยิ้ม การโพสท่า ไปจนถึงการโบกมืออย่างมั่นใจ ก่อนปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพร่วมกับเหล่านางงามแบบเอ็กซ์คลูซีฟเป็นที่ระลึก เติมเต็มประสบการณ์แฟนนางงามให้ฟินกว่าใครอย่างแท้จริง

สำหรับแฟนนางงามที่อยากชมรีรันทุกช็อตก่อนมงลง สามารถชมการประกวดย้อนหลังได้ทั้งลูกค้าระบบรายเดือน ระบบเติมเงิน และลูกค้า AIS 3BB FIBRE3 เพียงสมัครแพ็กเกจ PLAY PASS ราคา 49 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สมัครแพ็กเกจได้ง่าย ๆ แค่กด *678*74# โทรออก หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ AIS เพื่ออินทุกอารมณ์ ทุกโมเมนต์บนเวที Miss Universe 2025 แบบจัดเต็ม เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะบน AIS PLAY เท่านั้น

เมืองไทยประกันชีวิต จัดกิจกรรม “Muang Thai Smile LivWell Day สุขทุกวัย ใส่ใจทุกวัน” ส่งมอบความสุขและสุขภาพดีให้สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ

0

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  โดยเมืองไทยสไมล์คลับ เดินหน้าส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ล่าสุดได้ร่วมมือกับ นายาเรสซิเดนซ์ บาย ลิฟเวล (Naya Residence by LivWell)  จัดกิจกรรม  “Muang Thai Smile LivWell Day สุขทุกวัย ใส่ใจทุกวัน” เพื่อให้สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับและครอบครัว ได้ยกระดับความรู้การดูแลสุขภาพแบบครบมิติจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมโปรโมชันพิเศษรับสิทธิ์เข้าพักห้องพักที่ นายาเรสซิเดนซ์ บาย ลิฟเวล ราคาพิเศษทั้งแบบรายเดือน และรายสัปดาห์  โดยมี นางสาวนิรัตน์ บูชาสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)ร่วมให้การต้อนรับ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ นายาเรสซิเดนซ์ บาย ลิฟเวล (Naya Residence by LivWell) 

สำหรับ “Muang Thai Smile LivWell Day สุขทุกวัย ใส่ใจทุกวัน” เป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมได้เพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพด้วยตัวเองแบบครบมิติ เพื่อให้ชีวิตยืนยาว แข็งแรง และมีความสุขในทุกวัน เริ่มต้นด้วยการประเมินสัดส่วนร่างกาย Body Composition และทดสอบสมรรถนะของร่างกาย ต่อด้วยกิจกรรมบรรยาย “Lifestyle Medicine” หรือ “เวชศาสตร์วิถีชีวิต” ศาสตร์ทางการแพทย์ที่เน้นการดูแลสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติ โดยไม่พึ่งยาเป็นหลัก โดย พญ.นาฏ ฟองสมุทร กรรมการบริหาร บริษัท ลิฟเวล ลิฟวิ่ง จำกัด  กิจกรรม Workshop ทำอาหารสุขภาพ Healthspan & Enjoymentspan  กินอร่อย จอยขนาด ไม่พลาด 100 ปี ว่าด้วยเคล็ดลับอายุยืนแบบสุขภาพดี โดยนักกำหนดอาหารจากเพจ 2P’s in their pot คุณกฤษฎี โพธิทัต และคุณอัจจิมา ศรีปรัชญาอนันต์

นอกจากนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมยังได้เพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้าน Taracotta River Terrace ร้านอาหารบรรยากาศคลาสสิก อบอุ่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาหารไทยต้นตำรับที่ใส่ใจในทุกเมนู และผ่อนคลายไปกับการเยี่ยมชมสถานที่ นายาเรสซิเดนซ์ และปิดท้ายด้วย กิจกรรม Mindful Drawing วาดอย่างมีสติ ใจสงบผ่านเส้นสาย ผสาน “ศิลปะ” เข้ากับ “สมาธิ” ช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ลดความเครียดและความวิตกกังวลฝึกสมาธิ โดย พญ.สุขจันทร์ พงษ์ประไพ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู

สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ยังสามารถติดตามกิจกรรมรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่เมืองไทยสไมล์คลับคัดสรรมาพิเศษแบบครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ความหลากหลายทุกความต้องการเพิ่มเติม ได้ที่ MTL Click Application สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หรือเว็บไซต์ www.muangthai.co.th ตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1766 กด 4 เมืองไทยประกันชีวิต หรือศูนย์บริการลูกค้าทั่วประเทศ

ตัดวงจรการลักลอบนำเข้าสัตว์ต่างถิ่น…ต้องทวนสอบข้อมูลให้ชัดและโปร่งใส

0

สังคมไทยและนักวิชาการทางสิ่งแวดล้อมจำนวนไม่น้อย ยังติดตามปัญหาการส่งออกปลาหมอคางดำ (Sarotherodon melanotheron) จากประเทศไทยสู่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะปลาในกลุ่มนี้ถือเป็นชนิดพันธุ์รุกราน (Invasive Species) ที่สามารถส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศในพื้นที่ต่างๆ ข้อมูลการส่งออกสัตว์น้ำของกรมประมงระหว่างปี 2556-2559 มีบริษัทไทยทั้งหมด 11 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกปลาหมอคางดำ แต่การตรวจสอบและติดตามผลของบริษัทเหล่านี้ยังไม่ครบถ้วนและไม่ชัดเจน โดยเฉพาะ 6 บริษัทที่เหลือยังไม่ได้ให้ข้อมูลหรือเอกสารที่สนับสนุนการส่งออก

คำถามสำคัญ คือ ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ตรวจสอบบริษัททั้งหมด ทั้งที่มีความเสี่ยงทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและกฎหมาย การละเว้นนี้ไม่เพียงสร้างความไม่ยุติธรรมต่อ 5 บริษัทที่เข้ามาให้ข้อมูลแล้ว แต่ยังเปิดช่องว่างให้เกิดการลักลอบการค้าสัตว์น้ำผิดกฎหมายต่อเนื่อง ส่งผลต่อระบบการตรวจสอบของประเทศ

หลักการในตลาดค้าปลาทั่วโลก คือ การใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ (scientific name) เป็นตัวระบุชนิดพันธุ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานทางวิชาการ เนื่องจากชื่อสามัญ (common name) อาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหรือท้องถิ่น และหลายชนิดพันธุ์มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

กรณีของ 11 บริษัทส่งออก ที่อ้างว่าเกิดจาก “การกรอกเอกสารผิดพลาด” เหมือนกันทั้งหมด เกิดคำถามว่า “เป็นไปได้อย่างไร?” เพราะการส่งออกสัตว์น้ำต้องผ่านหลายขั้นตอนตรวจสอบ เช่น การตรวจรับจากฟาร์ม การออกใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำ การตรวจเอกสารส่งออก และการควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ หากเกิดข้อผิดพลาดซ้ำกันในบริษัทดังกล่าวทั้งหมดเป็นเวลา 4 ปีต่อเนื่อง แสดงว่าไม่ได้เป็นเพียง “ข้อผิดพลาดเล็กน้อย” แต่เป็นปัญหาการตรวจสอบทั้งระบบ และการจัดการที่ถูกต้อง

รายงานการส่งออกสัตว์น้ำของกรมประมงระหว่างปี 2556-2559 พบว่า ทั้ง 11 บริษัท ไม่ปรากฏประวัติการนำเข้าปลาหมอคางดำ แต่กลับมีประวัติการส่งออกไปถึง 17 ประเทศ คำถามคือ หากไม่มีการนำเข้าที่ถูกต้อง ปลาที่ส่งออกนำมาจากไหน และทำไมสามารถผ่าน การตรวจสอบและรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

มีเพียงคำชี้แจงว่าเป็น “ข้อผิดพลาดในการกรอกข้อมูล” ซึ่งขัดกับหลักการตรวจสอบหลายชั้น รวมถึงการรับรองจากหน่วยงานที่กำกับดูแล จึงควรมีการสอบทานเพิ่มเติม เพราะระบบการส่งออกกำหนดไว้เงื่อนไขไว้อย่างรัดกุม การที่ปลายทางได้รับสินค้าโดยไม่เกิดข้อสงสัย แสดงว่าข้อผิดพลาดนี้เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับระบบตรวจสอบทั้งหมด

หนึ่งในข้อสงสัยอีกประการ คือ บริษัททั้ง 11 แห่ง กรอกเอกสารผิดแบบเดียวกันเป็นเวลา 4 ปีต่อเนื่อง แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดตรวจพบหรือเรียกแก้ไข การผิดพลาดซ้ำหลายครั้งในลักษณะเดียวกันโดยไม่มีการสังเกตเห็น สะท้อนความหละหลวมของระบบการกำกับดูแล และสร้างข้อสงสัยว่าเกิดจากความประมาทหรือการละเลยอย่างเป็นระบบ

ทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังสามารถประสานข้อมูลกับกรมศุลกากร เพื่อตรวจสอบประวัติการส่งออกของแต่ละบริษัท ซึ่งจะช่วยยืนยันว่าเอกสารและสินค้าที่ส่งออกตรงกับรายงานจริง และติดตามที่มาของปลา ยังเป็นคำถามว่าได้ดำเนินการหรือไม่?
อีกคำถามสำคัญ คือ ทำไมหน่วยงานของรัฐจึงไม่ใช้วิธีการประสานข้ามหน่วยงานเพื่อตรวจสอบบริษัท 11 แห่ง โดยเฉพาะ 6 บริษัทที่ยังไม่ให้ข้อมูล การไม่ใช้มาตรการเชิงรุกเช่นนี้ไม่เพียงสร้างความไม่ยุติธรรมต่อ 5 บริษัทที่ให้ข้อมูลแล้ว แต่ยังเปิดโอกาสให้เกิดมีการค้าสัตว์น้ำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

การตรวจสอบเอกสารและประวัติการส่งออกของบริษัททั้งหมด มีความจำเป็นต่อการพิสูจน์ทางพันธุกรรม (DNA) ของปลาที่แพร่ระบาดในปัจจุบัน การระบุสายพันธุ์และแหล่งที่มาผ่าน DNA เป็นหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์สำคัญในการยืนยันว่าปลาที่แพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ส่งออกหรือไม่

การไม่ตรวจสอบบริษัททั้งหมด อาจทำให้ข้อมูลพันธุกรรมคลาดเคลื่อน และไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าปัญหาการแพร่พันธุ์เกิดจากแหล่งใด จึงจำเป็นมากที่ต้องมีการตรวจสอบให้ครบทุกบริษัท

การละเว้นการตรวจสอบไม่เพียงสร้างความไม่ยุติธรรมต่อบริษัทที่ให้ข้อมูลแล้ว แต่ยังเป็นช่องว่างให้เกิดการค้าสัตว์น้ำผิดกฎหมาย อีกทั้งการนำเข้าและส่งออกปลาที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพรุนแรงปลาที่ไม่ได้รับการควบคุมสามารถแพร่เข้าสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ก่อให้เกิดการเบียดเบียนพันธุ์ปลาท้องถิ่นและทำลายระบบนิเวศ

นอกจากนี้ การปล่อยให้ช่องว่างเกิดขึ้น ยังทำลายความน่าเชื่อถือต่อมาตรฐานการค้าและการตรวจสอบสัตว์น้ำของประเทศไทยในอนาคต

กรณีการส่งออกปลาหมอคางดำของบริษัท 11 แห่ง สะท้อนถึงปัญหาระบบการตรวจสอบและกำกับดูแลอย่างเป็นระบบ ความไม่ชัดเจนและการละเว้นการตรวจสอบ ฝากคำถามที่ยังรอคำตอบ เพื่อช่วยกันหยุดวงจรการลักลอบนำเข้าปลา:

  1. ทำไมบริษัท 11 แห่ง จึงสามารถระบุชื่อวิทยาศาสตร์ผิดซ้ำกันต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี โดยไม่ถูกตรวจสอบหรือแก้ไข?
  2. ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่ประสานข้อมูลกับศุลกากรเพื่อตรวจสอบประวัติการส่งออก?
  3. ทำไมเอกสารและการตรวจสอบของอีก 6 บริษัท ที่ยังไม่ให้ข้อมูลจึงไม่ถูกเรียกให้ชี้แจง?
  4. การไม่ตรวจสอบครบทุกบริษัท ส่งผลต่อการพิสูจน์ DNA ของปลาที่แพร่ระบาดหรือไม่?
  5. การละเว้นการตรวจสอบเสี่ยงให้มีการค้าสัตว์น้ำผิดกฎหมายและกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างไร?

กรณีปลาหมอคางดำเป็นตัวอย่างชัดเจนของปัญหาการกำกับดูแลเชิงระบบ การละเว้นการตรวจสอบและการไม่เรียกให้บริษัททั้ง 11 แห่ง ไปชี้แจงข้อมูลให้ครบถ้วนก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความน่าเชื่อถือของประเทศ การตรวจสอบเชิงรุกอย่างเข้มงวดและการพิสูจน์ DNA ไม่ใช่เพียงมาตรการวิชาการ แต่เป็นความจำเป็นเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของระบบการค้าไทยและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และยังเป็นป้องกันการค้าสัตว์น้ำผิดกฎหมายและการแพร่พันธุ์ของสายพันธุ์รุกราน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบต่อสาธารณะและอนาคตของระบบนิเวศไทย.

รู้เก็บรู้ออม : SET e–learning Money Style!!

0
ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน...สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

บทบาทของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ได้เป็นพื้นที่หรือศูนย์กลางการซื้อขายหลักทรัพย์เพียงเท่านั้น แต่ยังได้ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ สนับสนุนและส่งเสริมความรู้ด้านการเงินและการลงทุนให้กับคนไทยและผู้สนใจเรื่องการลงทุนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวบรวมความรู้เรื่องการลงทุนอย่าง SET Investnow, การเปิดพิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน (INVESTORY) แหล่งเรียนรู้ด้านการเงินการลงทุนแห่งแรกของประเทศ

รวมทั้งการจัดทำหลักสูตรการเรียนออนไลน์ SET e-learning ที่มีเนื้อหาครอบคลุมความรู้ด้านการวางแผนการเงิน การลงทุน มีหลักสูตรที่หลากหลายกว่า 200 หลักสูตร ให้ความรู้ด้านการลงทุนตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง ผู้เรียนสามารถเรียนผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งคอมพิวเตอร์พีซี, โน้ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟน

หลักสูตร SET e-learning ยังมีการผลิตเป็นซีรีส์ Money Style ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากผู้สนใจอย่างดี เห็นได้จากซีรีส์นี้ได้มีการจัดทำออกมาแล้วถึง 4 ซีซัน มียอดผู้เข้าเรียนสะสมกว่า 3 ล้านครั้งตลอด 4 ซีซัน แสดงให้เห็นถึงกระแสความนิยมของการเรียนผ่านหลักสูตรออนไลน์ ที่มีเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริงทันที

และล่าสุด SET e–learning Money Style ซีซันใหม่ เปิดตัวออกมาตามเสียงเรียกร้องของแฟนๆนักลงทุนและผู้สนใจที่อยากอัปเดตความรู้และทักษะใหม่ๆ โดยการกลับมาครั้งใหม่ในซีซันที่ 5 นี้ จะมาชวนให้ผู้สนใจมาอัปสกิลด้านการเงิน ทักษะอาชีพ และการใช้ชีวิตยุคใหม่ กับ 5 หลักสูตรใหม่ภายใต้แนวคิด “ใช้สติ หาสตางค์ อย่างมีสไตล์”

ผู้เรียนจะได้พบกับกูรู ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายอาชีพที่จะมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์จริง ทั้งการวางแผนเส้นทางอาชีพ การต่อยอดความชอบสู่การเป็นสตรีมเมอร์ เทคนิคสร้างรายได้จากงานศิลปะ การเริ่มต้นทำ Affiliate Marketing และการบริหารใจ เพื่อรับมือกับความท้าทายในยุคปัจจุบัน

ในซีซันห้านี้ ผู้เรียนจะได้พบกับหลักสูตรใหม่ล่าสุด ซึ่งประกอบไปด้วย 1.Your Career โตให้ถูกที่ งานไม่ควรทน เงินไม่ควรขาด ชีวิตไม่ควรหลง โดยคุณเบ็น บวรชัย จากเพจ Hunter B, 2.Streamer เปลี่ยนเกมที่ชอบ ให้เป็นอาชีพที่ใช่ โดย เปา  พีรดนย์  จาก I Have CPU, 3.เคล็ดลับสายอาร์ต การเงินดี ต้องมีศิลป์ โดย สา สาลินี เจ้าของแบนด์ Cyrano Design, 4.แค่คลิก ก็สร้างรายได้ด้วย Affiliate Marketing โดย ทิป มัณฑิตา จาก Digital Tips Academy และ 5.จัดการใจให้ Strong รอดทั้งงาน รุ่งทั้งเงิน โดย หมอฟ้า ชิสา จากเพจ หมอฟ้า สมาธิศาสตร์

ผู้สนใจสามารถเข้าไปเรียนได้ที่ https://elearning.set.or.th/SETGroup/ categories/174 หรือผ่านแอป “Happy Money App” เข้าเรียนได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา ใครที่ยังไม่มีแอป Happy Money สามารถไปดาวน์โหลดฟรีได้ทั้งระบบ iOS และ Android เพียงค้นหาคำว่า SET HAPPY MONEY

และที่สำคัญ SET e–learning Money Style เรียนฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย อาศัยแค่ความตั้งใจเรียน เมื่อเรียนจบก็มีแบบทดสอบให้ทำ หากผ่านก็จะได้รับวุฒิบัตร เอาไว้เป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของตัวเอง.

คุณนายพารวย

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย “หลวงปู่ทวดพิมพ์ใหญ่หัวขีดเนื้อว่าน 2497 ”

0

พระอาจารย์สอน ตั้งนะโม3จบ ขอพรพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอารธนานังก่อนเอาพระขึ้นคอ ให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ไปไหนมีแต่คนเมตตารักใค่เอ็นดู สาธุ สาธุ

มาดูหลวงปู่ทวดเนื้อว่านองค์สวยของ “โกย่อง คนนราเพื่อนเซียนเจี๊ยบ สมัยเรียนโรงเรียนโยธินบรูณะ” ขอโชว์หน่อย

มาดูหลวงปู่ทวดเนื้อว่านพิมพ์ใหญ่หัวขีดองค์นี้ สวยแชมป์ ดูง่าย กดพิมพ์ได้ลึก เห็นหน้าตา ชัดเจน ตาหู จมูก ปากครบ เส้นสังฆาฎิ มีร่องขีดชัดเจน คราบเนื้อว่านขึ้นเห็นเป็นเม็ดสีขาวขุ่น แบบนี้ดูง่ายเกิดจากส่วนผสมว่าน108 ผสมกับดินกากยายักษ์ นำมาตำขณะยังสดอยู่ มาบดให้ละเอียด ด้วยเหตุนี้ต้องมีน้ำว่านสีขาว ผุดขึ้นในเนื้อ ด้านหลังมีแร่นิดหน่อยออกเหลืองดำ รูเสียบงัดพระออกด้านล่างต้องแบน

ยิ่งถ้าในรูเสียบมีน้ำว่านขึ้นเป็นเม็ดเล็กๆในรูแท้เลย หลวงปู่ทวดมาโปรดแล้วนะเธอ
คาถาบูชา หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ” (3 จบ)
“นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา” (3 จบ)

พระอาจารย์สอนเซียนเจี๊ยบบอกต่อ “หวานเจี๊ยบ”นะเธอ

เอไอเอสคว้ารางวัลสูงสุด Prime Minister Awards 2025 ด้าน Cybersecurity ตอกย้ำ “AIS Cloud” โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแห่งชาติที่ปลอดภัยที่สุดของไทย

0

ด้วยวิสัยทัศน์ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศให้มีความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับสูงสุด น่าเชื่อถือ และได้มาตรฐานสากล เอไอเอสจึงพัฒนาระบบบริหารจัดการและการกำกับดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของบริการคลาวด์อย่างเข้มข้น ล่าสุด AWN บริษัทในเครือ AIS ผู้ให้บริการ Cloud และSolution เพื่อทุกธุรกิจไทย ได้รับรางวัล Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2025 สาขา Best Performance Award ประเภทหน่วยงานที่พร้อมในการปฏิบัติตามมาตรฐานผู้ให้บริการ Cloud ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย จากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ตอกย้ำศักยภาพของบริการ AIS Cloud ที่รองรับด้วยมาตรฐานในระดับ Hyperscale Cloud ชั้นนำของโลก ที่มีความน่าเชื่อถือสูง สามารถดำเนินการตามมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายภูผา เอกะวิภาต หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส มุ่งยกระดับศักยภาพประเทศและเสริมสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อให้ทุกภาคธุรกิจสามารถทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลอย่างอัจฉริยะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราลงทุนวางรากฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และบริการคลาวด์อย่างจริงจัง ทั้งในมิตินโยบาย กระบวนการ และการกำกับดูแล โดยพัฒนานโยบาย Cyber and Cloud Security ให้สอดคล้องกับกฎหมายและข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล พร้อมยกระดับมาตรฐานผ่านการรับรอง ISO/IEC 27001, 27017, 27018 และ CSA STAR ทั้งนี้การได้รับรางวัล Prime Minister Awards 2025 สาขา Best Performance Award ประเภทหน่วยงานที่พร้อมในการปฏิบัติตามมาตรฐานผู้ให้บริการคลาวด์ โดย สกมช. จึงเป็นสิ่งที่การันตีได้ว่า AIS Cloud เป็นโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่มั่นคงปลอดภัยในระดับประเทศ ซึ่งรองรับมาตรฐานสากล และเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระบบคลาวด์ ตามประกาศคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. 2567 และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ตามข้อกำหนดด้าน PDPA และ Cybersecurity Act เรายังคงมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่จะพัฒนาและพร้อมพาทุกธุรกิจและสังคมไทยให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

AIS Cloud ถือเป็นบริการ Cloud ที่ให้บริการโดยบริษัทไทย ภายใต้กฎหมายไทย ด้วยมาตรฐานเทียบเท่า Hyperscale Cloud ระดับโลก ที่ดำเนินการและเป็นเจ้าของโดยคนไทย ศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่ภายในประเทศ อยู่ภายใต้กฎหมายไทยเต็มรูปแบบ รองรับมาตรฐานความปลอดภัยทั้ง Cybersecurity และ Data Sovereignty อย่างแท้จริง ทำให้ AIS Cloud เป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของคนไทย สำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยสูง รองรับงาน AI และ Big Data และต้องการควบคุมข้อมูลให้อยู่ในประเทศเต็มรูปแบบ บนบริการ Sovereign Cloud ที่ออกแบบให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการจัดเก็บและปกป้องข้อมูลของไทย พร้อมระบบสำรองและกู้คืนข้อมูล (Disaster Recovery: DR) และการบริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญคนไทยตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล รองรับการขยายทรัพยากรแบบยืดหยุ่น (Auto-Scaling) เพื่อการเติบโตในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เลี้ยงไก่ไข่เข้มมาตรการป้องกันไข้หวัดนก ย้ำไข่ไทยปลอดภัย–เพียงพอ เตือนผู้บริโภคเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้

0

ผู้ประกอบการฟาร์มไก่ไข่ทั่วประเทศ ยืนยันผลผลิตไข่ไก่ไทยมีเพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ และมีความปลอดภัยสูง แม้อยู่ในช่วงที่หลายประเทศทั่วโลกเผชิญการระบาดของไข้หวัดนกต่อเนื่อง ด้านราคาอาจปรับขึ้นลงบ้างตามกลไกตลาดและปัจจัยการป้องกันโรคที่เพิ่มขึ้น

นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ กล่าวว่า ฟาร์มไก่ไข่ของไทยได้เพิ่มความเข้มงวดด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity) เพื่อป้องกันโรคระบาดของสัตว์ปีกอย่างรัดกุม ตั้งแต่การควบคุมคนและยานพาหนะเข้า–ออกฟาร์ม การลดการสัมผัสกับนกป่า ไปจนถึงมาตรการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ไข่มีคุณภาพสูงที่สุดก่อนถึงมือผู้บริโภค

มงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่

“ช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่ไข้หวัดนกมีการแพร่ระบาดสูง ทำให้แม่ไก่มีความเสี่ยงการติดเชื้อสูงขึ้น หากไม่มีการป้องกันอาจสูญเสียแม่ไก่และการหยุดชะงักของการผลิตไข่ได้ ผู้เลี้ยงไก่ไข่จึงจำเป็นต้องทำระบบป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ” นายมงคล กล่าว

ด้านโครงสร้างราคา อาจมีการปรับราคาหน้าฟาร์มขึ้นเป็นครั้งคราว แต่เป็นผลมาจากต้นทุนการป้องกันโรคและมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็น ซึ่งช่วยรับประกันคุณภาพของไข่ตลอดห่วงโซ่การผลิต อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศในอาเซียน ราคาขายปลีกไข่ไก่ของไทยยังคงต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ไข่ไทยยังเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพที่เข้าถึงได้สำหรับประชาชนทุกกลุ่ม

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการลักลอบนำเข้าไข่ไก่จากประเทศมาเลเซีย เข้าสู่ตลาดไทย ซึ่งอาจเป็นพาหะนำโรคไข้หวัดนกเข้ามาในประเทศไทย และเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ผู้เลี้ยงไก่ไข่ขอแนะนำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อไข่จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และตรวจสอบคุณภาพก่อนซื้อทุกครั้ง ทั้งความสะอาดของเปลือกไข่ ไม่มีมูลไก่ติด ขนาดได้มาตรฐาน สีเปลือกไม่ซีด ตรวจวันผลิตหรือวันหมดอายุ รวมถึงเลือกไข่ที่มาจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์

ข้อมูลจากกรมปศุสัตว์และภาคอุตสาหกรรมชี้ว่า ประเทศไทยมีแม่ไก่ไข่ยืนกรงมากกว่า 50 ล้านตัว และสามารถผลิตไข่เฉลี่ยกว่า 43 ล้านฟองต่อวัน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีศักยภาพในการส่งออกไข่ไก่ไปยังประเทศที่ประสบภาวะขาดแคลนจากผลกระทบของไข้หวัดนก โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการส่งออกไข่สดหลักร้อยล้านฟองไปยังตลาดสำคัญ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน ชี้ชัดว่าระบบการผลิตของไทยมีความมั่นคงจนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าแม้ในสถานการณ์ตึงตัวของตลาดโลก

สำหรับช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในประเทศต่างๆ ได้สร้างโอกาสส่งออกไข่ไก่จากประเทศไทย ไปช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนและราคาสูงในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การส่งออกไข่เหลวจากไทยไปญี่ปุ่น ในช่วงนี้ที่มีการระบาดของไข้หวัดนก

ผู้เลี้ยงไก่ไข่ไทยย้ำว่า ฟาร์มในประเทศยังคงเดินหน้าควบคุมโรคอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้ไข่ที่จำหน่ายในท้องตลาดมีคุณภาพดีและปลอดภัยสูงสุด พร้อมยืนยันว่าประเทศไทยมีศักยภาพผลิตไข่ได้เพียงพอ และสามารถสนับสนุนประเทศอื่นในยามวิกฤตได้ ขณะเดียวกัน ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจในไข่ไทย และร่วมกันเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของทุกครอบครัว.