Home Blog Page 175

เมืองไทยประกันชีวิต – Shopee เปิดตัวประกันสุขภาพของชาวออฟฟิศ “เมืองไทย สุขภาพเบาตังค์วัยทำงาน”

0
สาระ ล่ำซำ
เมืองไทยประกันชีวิต ผนึก Shopee ส่ง “เมืองไทย สุขภาพเบาตังค์วัยทำงาน” ประกันภัยสำหรับชาวออฟฟิศ ตอบโจทย์ความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย เติมเต็มสวัสดิการเดิมที่มีอยู่

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง…ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต พร้อมเคียงข้างในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพ ที่ลูกค้าวางใจ (No.1 Most Trusted Life & Health Partner) ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุก ๆ คน

ล่าสุด เปิดตัวความคุ้มครองสุขภาพ “เมืองไทย สุขภาพเบาตังค์วัยทำงาน” เอาใจคนวัยทำงาน รุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ พร้อมเติมเต็มสวัสดิการที่มีอยู่ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพิ่มความอุ่นใจในทุกจังหวะของชีวิต โดดเด่นด้วยความคุ้มครองสุขภาพเหมาจ่าย สูงสุดถึง 5 ล้านบาท(1) แบบมีความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท (Deductible) ครอบคลุมโรคร้าย โรคทั่วไป โรคระบาด และอุบัติเหตุ คุ้มครองตอนแอดมิทรวมถึงการรักษาฟื้นฟูต่อเนื่องกรณีผู้ป่วยนอก ทั้งค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน ค่าห้อง ไอ.ซี.ยู ค่าหมอ ค่ายา ค่าตรวจ ค่าผ่าตัด ค่ากายภาพบำบัด อีกทั้งจะผ่าตัดเล็กหรือใหญ่ หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องนอน ก็คุ้มครอง สมัครได้ตั้งแต่อายุ 21-59 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 10 ปี เริ่มต้นเพียงวันละไม่ถึง 31 บาท(2) ระยะเวลาเอาประกันภัย 10 ปี โดยเสนอขายผ่านช่องทาง ช้อปปี้ (Shopee) ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน

“เมืองไทย สุขภาพเบาตังค์วัยทำงาน” ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ประกันภัยออนไลน์ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแบบที่มีความเฉพาะตัว (Personalization) มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับวัยทำงานที่มองหาความคุ้มครองตัวแรก เพื่อเสริมจากสวัสดิการที่มีอยู่ ในราคาเบี้ยประกันภัยที่เข้าถึงได้ คลายความกังวล เมื่อเจ็บป่วยขึ้นมา นอกจากนี้ในอนาคตเรายังตั้งเป้าหมายที่จะขยายตลาดช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น เพื่อการเข้าถึงแบบประกันภัยที่ง่ายและสะดวก ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล” นายสาระ กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต สามารถเข้าสู่หน้าร้านค้าออฟฟิเชียลสโตร์ “Muang Thai Life Official” บน Shopee Mall เพียงดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน Shopee ซึ่งรองรับทั้งระบบ iOS และ ระบบ Android หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ www.shopee.co.th/muangthailife เมื่อเข้าสู่แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์แล้วสามารถทำการเลือกซื้อหรือค้นหาผลิตภัณฑ์ได้ 2 วิธี คือ พิมพ์ชื่อร้าน “Muang Thai Life” หรือชื่อสินค้า ในช่อง “ค้นหา” และอีกวิธีสามารถทำได้โดยการค้นหาจากหมวดสินค้าในหน้าแรก โดยเลือก หมวดหมู่สินค้า >เลือก ตั๋วและบัตรกำนัล >เลือก ร้าน Muang Thai Life เมื่อเข้าสู่ภายในร้านแล้วจะมีข้อความให้ลูกค้ากดติดตามเพื่อรับข่าวสารและผลิตภัณฑ์ และสิทธิพิเศษต่าง ๆ จาก Muang Thai Life Official รวมถึงสามารถพูดคุยผ่านแชทเพื่อสอบถามข้อมูลจากพนักงานได้อีกด้วย

ซีพีเอฟ เดินหน้าพัฒนา “นวัตกรรมอาหาร” สร้างสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคทั่วโลก

0
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่น วิจัยและพัฒนา “นวัตกรรมอาหาร” เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัย ตอบโจทย์ความต้องการสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้บริโภคทุกเพศทุกช่วงวัย ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัยใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างหลักประกันการเข้าถึงอาหารอย่างเพียงพอและห่วงโซ่การผลิตที่ยั่งยืน

นางนลินี โรบินสัน หัวหน้าด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหาร ซีพีเอฟ (CPF RD Center) กล่าวว่า วันที่ 7 เมษายน ของทุกปี องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) กำหนดให้เป็นวันอนามัยโลก (World Health Day) และปีนี้ครบรอบ 75 ปี ที่องค์การฯ รณรงค์ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพ และส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตามเป้าหมาย “สุขภาพดีถ้วนหน้า” (Health for All) โดย ซีพีเอฟ ในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก ยังคงเดินหน้าคิดค้น วิจัยและพัฒนา เพื่อนำวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมาพัฒนาอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพ ตลอดจนนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อลดการสูญเสีย สร้างระบบอาหารมั่นคงและยั่งยืนให้ประชากรโลก

“CPF RD Center มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหลากหลายสาขา มีการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับโลก มาช่วยผลิตอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดสาร ปลอดภัย และมีสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความแปลกใหม่ รสชาติดี ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคทุกคน” นางนลินี กล่าว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตอาหารเฉพาะกลุ่ม จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดในโลกจำนวน 12 ล้านคน ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม ย่อยง่าย ให้พลังงานต่ำ รสชาติอร่อย ซึ่ง ซีพีเอฟ กำลังวิจัยอาหารจากพืชท้องถิ่น ปรับรสชาติอาหารให้พอดีกับความชอบของผู้สูงอายุในแต่ละภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้รับประทานอาหารอย่างมีความสุขและได้รับสารอาหารครบถ้วน

นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพที่ดี ด้วยอาหารที่มีปริมาณโซเดียมและไขมันต่ำ ที่ยังคงรสชาติอร่อย ช่วยป้องกันการเกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อ NCDs (Non-Communicable diseases) ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของโลกและของประเทศไทย รวมทั้งอาหารสำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพที่ต้องการคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างจากคนสุขภาพดี ล่าสุด บริษัทฯ ร่วมมือกับศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลลำปาง ในการพัฒนาอาหารที่ช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน สามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น นางนลินี กล่าว

นางนลินี กล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ ที่บริษัทฯ ร่วมมือกับสตาร์ทอัพ และองค์กรวิจัยทั่วโลก เพื่อวิจัยและพัฒนาอาหารที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โปรตีนจากพืช (plant- based meat) ให้มีรสชาติอร่อยเหมือนเนื้อสัตว์มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพและรักษ์โลกที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ซีพีเอฟ ส่งมอบอาหารให้ผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 4 พันล้านคน ภายใต้วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” เพื่อตอบโจทย์ Health and Wellness ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภคทั่วโลก ร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหารโลก ซึ่งเป็นหนึ่งใน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ

เปิดตัวแพ็กเกจพิเศษ AIS 5G Netflix แพ็คคู่ครั้งแรกในไทย!

0
AIS เดินหน้ามอบประสบการณ์ความบันเทิงจากคอนเทนต์ระดับโลกจับมือ Netflix ตอกย้ำความเป็น Strategic พาร์ทเนอร์ต่อเนื่องกับบริการสุดพิเศษที่ร่วมกับ AIS พันธมิตรธุรกิจรายแรกให้ลูกค้าได้ชมคอนเทนต์ที่ดีที่สุด บนเครือข่ายดีที่สุดด้วย AIS 5G Netflix แพ็กเกจรายเดือน แพ็กคู่ ที่มาพร้อมกันทั้งค่าบริการรายเดือนของโพสต์เพดและค่าสมาชิก Netflix เพิ่มช่องทางการเป็นสมาชิก ที่สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก ในบิลเดียว พร้อมต้อนรับการมาถึงของสุดยอดภาพยนตร์แห่งปีที่เฝ้ารอกับ “HUNGER คนหิว เกมกระหาย” ที่จะเสิร์ฟความร้อนแรงท่ามกลางสมรภูมิอาหาร พร้อมสัมผัสกับอีกด้านมืดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอาหารจานหรู

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “วันนี้การชมสตรีมมิ่งคอนเทนต์ กลายเป็นรูปแบบของการใช้งาน Daily Life ของทุกคน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการที่จะต้องอำนวยความสะดวกและมอบประสบการณ์คุณภาพที่ดีที่สุด ซึ่งเอไอเอสมองเห็นความต้องการนี้ตั้งแต่ปี 2560 จึงร่วมมือกับ Netflix หนึ่งในผู้ให้บริการด้านความบันเทิงระดับโลก เป็นรายแรกของไทย เพื่อร่วมกันแนะนำบริการ สตรีมมิ่งคอนเทนต์ระดับโลก ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกพร้อมสิทธิพิเศษเมื่อสมัครใช้บริการ Netflix”

“ล่าสุด เรายกระดับความร่วมมือกับ Netflix ไปอีกขั้น ตอกย้ำความเป็นพันธมิตรที่ส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้แก่คนไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยแพ็กเกจรายเดือนที่มาพร้อมสมาชิก Netflix กับ แพ็คเกจ AIS 5G Netflix ที่ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการสมัครหรือชำระค่าบริการ Netflix เพราะมัดรวมค่าใช้จ่ายอยู่ในแพ็กเกจที่มาพร้อมค่าใช้บริการรายเดือนของลูกค้าเอไอเอสโพสต์เพดอยู่แล้ว นับเป็นมิติใหม่ของการสร้างประสบการณ์และความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าเอไอเอสที่เดียวเท่านั้นจากสุดยอดคอนเทนต์ระดับโลกที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกช่วงวัย อีกทั้งยังเป็นการเปิดตัวภาพยนตร์ไทยคุณภาพอย่าง HUNGER คนหิว เกมกระหาย ที่รวบรวมผู้สร้างภาพยนตร์ชาวไทยมากความสามารถไว้ในภาพยนตร์เรื่องนี้”

Mr.Tizar Patria ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และ ไทย เน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่า “Netflix รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ขยายความร่วมมือกับ AIS หนึ่งในผู้นำการให้บริการดิจิทัลของไทย มาอย่างต่อเนื่อง การร่วมมือกันในครั้งนี้ทำให้เราสามารถนำความบันเทิงระดับโลกมาสู่ผู้ชมชาวไทยได้มากขึ้นด้วยความสะดวกสบายของแพ็คเกจ AIS 5G Netflix แฟนๆ ของ Netflix ในประเทศไทยสามารถตั้งตารอชมคอนเทนต์อันน่าตื่นเต้นจาก Netflix ได้ตลอดทั้งปี ประเดิมด้วยภาพยนตร์ไทยเรื่องล่าสุดอย่าง HUNGER คนหิว เกมกระหาย ซึ่งจะเข้าฉายทั่วโลกในวันที่ 8 เมษายนนี้ นอกเหนือจากคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งของไทยแล้ว Netflix ยังนำเสนอภาพยนตร์และซีรีส์ ที่หลากหลาย จากทุกมุมโลกสำหรับทุกคน”

บริการนี้ สามารถสมัครได้ทั้ง ลูกค้า AIS รายเดือนที่เปิดเบอร์ใหม่ ลูกค้าย้ายค่าย ลูกค้าเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน และลูกค้าปัจจุบันที่สนใจ ในราคาเริ่มต้นเพียง 499 บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ais.th/5g-netflix/

ตลาดรถยนต์ไทยสุดคึกคักหลังโควิดคลี่คลาย มองกลุ่ม LGBTQIA+ ตื่นตัวกับกระแสรถไฟฟ้า

0
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) เผยแพร่บทวิเคราะห์ "จับกระแสยานยนต์ยอดนิยมของคนไทย ขับขี่อะไรแล้วอินเทรนด์?"  โดยมองว่า ตลาดรถยนต์ไทยกำลังกลับมาคึกคักเพราะอุปสงค์ที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย โดยมีเนื้อหาดังนี้

ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขยายตัวสูงขึ้นจากปีก่อน 3.9% สอดคล้องกับความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถที่เพิ่มขึ้นตามแรงสนับสนุนจากโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ที่จัดขึ้นเพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น1 อย่างไรก็ดี การแข่งขันในตลาดรถยนต์ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะส่งผลต่อแนวโน้มการเลือกซื้อพาหนะส่วนตัวของผู้บริโภคในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่ง SCB EIC Consumer survey พบว่า โดยภาพรวมแล้ว ยานยนต์ที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงสุดกระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม “รถ SUV” และ “รถเก๋งขนาดกลาง” ขณะที่ “เครื่องยนต์ประเภทสันดาป” ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับแผนการซื้อยานยนต์ในระยะ 1-2 ปีนี้ อย่างไรก็ดี หากเจาะลึกตัวเลือกการขับขี่โดยจำแนกตามข้อมูลประชากร อาทิ เพศและระดับรายได้ จะพบรูปแบบและแนวโน้มความสนใจยานยนต์ที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • กลุ่มตัวอย่างเพศชายและหญิงส่วนใหญ่ยังคงนิยมยานยนต์ในระบบสันดาป ขณะที่กลุ่ม LGBTQIA+ ค่อนข้างตื่นตัวกับกระแสยานยนต์ไฟฟ้า ส่วนหนึ่งเพราะถูกดึงดูดจากเทคโนโลยีการขับขี่และรูปลักษณ์ภายนอกที่ทันสมัย
  • ระดับรายได้ครัวเรือนมีส่วนทำให้ความสนใจต่อยานยนต์แต่ละประเภทแตกต่างกันไป โดยยานยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมในครอบครัวที่มีรายได้สูง ขณะที่รถสันดาปยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อย-ปานกลางซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาขายโดยเฉลี่ยของรถ EVs ที่สูงกว่า ประกอบกับสถานีชาร์จที่ยังไม่ครอบคลุม อีกทั้ง การติดตั้ง EV Charger ณ ที่พักอาศัย มีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากและมีต้นทุนสูง
ตลาดรถมือ 2 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่เริ่มมีความเสี่ยงและความท้าทายด้านต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจจำเป็นต้องเร่งปรับตัว

โดยจากผลสำรวจพบว่า รถมือ 2 ถือเป็นขวัญใจของผู้ประกอบอาชีพอิสระ เนื่องจากบางส่วนซื้อไว้เพื่อทำธุรกิจ ทั้งการค้าขายและเพื่อรับส่งคนและสิ่งของบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้บริโภคบางกลุ่มวางแผนซื้อรถมือ 2 ไว้ใช้ชั่วคราว เพื่อรอเปลี่ยนเป็นรถ EVs ในอนาคต ซึ่ง SCB EIC Consumer survey พบคุณลักษณะร่วมบางประการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ได้แก่ 1) มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าผู้วางแผนซื้อรถมือ 2 เพื่อใช้งานระยะยาว และ 2) ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถ EVs ทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่และความคุ้มค่า รวมถึงรอความพร้อมของสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่าอุปสงค์ในตลาดรถมือ 2 จะยังสามารถเติบโตได้ แต่ความเสี่ยงของธุรกิจมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจาก 1) อุปสงค์ที่เปราะบางเพราะพึ่งพากำลังซื้อจากกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้มีรายได้ผันผวนเป็นหลัก และ 2) การเปิดตัวรถ EVs รุ่นใหม่ ๆ ที่ทำให้รถมือ 2 ตกรุ่นและมีราคาลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ธุรกิจเต็นท์รถจึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การขายเพื่อให้สามารถเข้าถึงและดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับแผนบริหารจัดการสต็อกรถโดยเน้นเลือกรถรุ่นที่ตอบโจทย์ฐานลูกค้าหลัก

ยานยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มได้รับความนิยมในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งความครอบคลุมของสถานีชาร์จคือปัจจัยหลักที่จะช่วยกระตุ้นความสนใจของตลาดและทำใหอุปสงค์ยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตได้ดีต่อเนื่อง

จากผลสำรวจพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างตื่นตัวกับกระแสยานยนต์ไฟฟ้า (EVs) ส่วนหนึ่งเพราะราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเทรนด์ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่กำลังมาแรง อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการครอบครองรถ EVs ในปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ และกระจุกตัวในกลุ่มผู้มีรายได้สูงเป็นหลัก แต่คาดว่าในระยะถัดไป ตลาดรถ EVs จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับความสนใจและความเชื่อมั่นที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากประสบการณ์ตรงจากผู้ใช้งานที่ระบุว่าการขับขี่รถ EVs ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการบำรุงรักษา ขณะที่สมรรถนะการขับขี่ก็ดีขึ้นเพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ ระบบ Autopilot  นอกจากนี้ เราเริ่มเห็นถึงโอกาสสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่จะสามารถเติบโตเกาะไปกับกระแส EVs นี้ได้ เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกระแส EVs มากขึ้น อาทิ อู่ซ่อมเฉพาะทาง ร้านขายอะไหล่ รวมถึงร้านขายอุปกรณ์ตกแต่ง ขณะที่มาตรการรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ถือว่ามีตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดี แต่ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเร่งสร้างสถานีชาร์จให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น 

AIS จับมือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง ผลักดันสู่ Digital University สอดรับแนวคิด ESG

0
เอไอเอส ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการในการวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ความเป็น Digital University ที่ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ระบบการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ และการบริหารจัดการพลังงานเพื่อมุ่งสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University)

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส มีความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยี 5G และดิจิทัลโซลูชัน มาเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจและสนับสนุนองค์กรเพื่อมุ่งสู่ความเป็นดิจิทัลในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการศึกษาที่เป็นรากฐานสำคัญต่อการเติบโตของประเทศ โดยที่ผ่านมา เอไอเอส ทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วประเทศในการนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งต่อองค์ความรู้และตอบสนองต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”

บันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ เอไอเอส ได้ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยี 5G, ดิจิทัลแพลตฟอร์มและโซลูชันต่างๆ มาสนับสนุนการยกระดับมหาวิทยาลัยสู่การเป็น Digital University โดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) ในการต่อยอดนวัตกรรมและโซลูชันอัจฉริยะ ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ดังนี้

  • ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
    • โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเก็บข้อมูลและประมวลผล ศึกษาความเป็นไปได้ของบริการ Cloud Computing โดยการนำระบบภายในมหาวิทยาลัยมาประยุกต์ใช้บนระบบ AIS Cloud X เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศูนย์ข้อมูลหน่วยงานกลางอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย การเก็บข้อมูลในประเทศ และดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายไทย
    • โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต พัฒนาโครงข่ายสำหรับการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (WiFi) ภายในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และบริการ AIS Fibre เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักศึกษาเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลพร้อมรองรับการเชื่อมต่อการให้บริการ AIS 5G และ WiFi Seamless ในอนาคต
    • โครงสร้างพื้นฐาน IOT (Internet of Things) เพื่อพัฒนานวัตกรรมการใช้พลังงานทดแทน เช่น ลานจอดรถอัจฉริยะเพื่อให้บริการคณะอาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย
  • ด้านการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพให้แก่โรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) โดยการใช้อุปกรณ์ IoT และระบบโครงสร้างด้านไอที เพื่อเชื่อมต่อผ่านโครงข่าย 5G กับทางโรงพยาบาลลาดกระบัง
  • ด้านการการนำโซลูชันมาสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อผลักดันให้มหาวิทยาลัยพร้อมก้าวไปสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) โดยบูรณาการอนุรักษ์ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เข้าไปในการเรียนการสอน การวิจัย และวางแผนการติดตั้งโซลาเซลล์ และสรรค์สร้างนวัตกรรมสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Green Environment)

รศ.ดร.คมสัน มาลีศรี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า “สจล. มุ่งยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนโดยบูรณาการความรู้เพื่อสร้างนวัตกรรมที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมบนพื้นฐานโครงสร้างเทคโนโลยีเครือข่ายที่ครบวงจรสะดวก รวดเร็ว ทันสมัยที่สุด เพื่อตั้งเป้าสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยดิจิทัล” หรือ Digital University

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ทาง สจล. ได้นำจุดแข็งด้านต่างๆ เช่น ความเชี่ยวชาญด้านงานวิจัย (Research) ข้อมูล (Data) วิศวกรรมศาสตร์ มาบูรณาการร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลโซลูชันจากเอไอเอส นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะพลิกโฉมมหาวิทยาลัยไทยให้เป็นDigital University ต้นแบบอย่างเป็นรูปธรรม และยืนหนึ่งด้านนวัตกรรมอัจฉริยะที่พร้อมยกระดับคุณภาพการศึกษา และคุณภาพชีวิตของคนไทย

สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนมีนาคม 2566

0

จากการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ส่งผลถึงวิกฤติในธนาคารบางรายในสหรัฐและยุโรป ธุรกิจธนาคารกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมากจากกรณีผู้ลงทุนและผู้ฝากเงินขาดความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของธนาคาร แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐและธนาคารกลางได้เข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ลุกลามในวงกว้าง นอกจากนี้ สถานการณ์ปัจจุบันยังแตกต่างจากช่วงวิกฤติ subprime ในปี 2008 โดยปัจจุบันธนาคารเรียนรู้จากบทเรียนในอดีตทำให้มีการบริหารความเสี่ยง และถูกกำกับดูแลโดยภาครัฐอย่างเข้มงวดมากขึ้น แม้ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกแต่ตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่งจากปัจจัยภายในประเทศ และเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง

ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนมีนาคม 2566 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายออกจากตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ผู้ลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิเป็นเดือนที่สองจากที่เคยซื้อสุทธิต่อเนื่อง ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าสอดคล้องกับทิศทางการส่งออกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มเริ่มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงกลางปีนี้ อีกทั้งระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ โดยปัญหาสถาบันการเงินในประเทศเศรษฐกิจหลัก ในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลต่อระบบการเงินไทยอย่างมีนัยสำคัญทำให้เห็น Fund Flow ไหลมายังตลาดพันธบัตรไทย

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย

  • ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 SET Index ปิดที่ 1,609.17 จุด ปรับลดลง 0.8% จากเดือนก่อนหน้า โดยปรับไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นใน ASEAN และปรับลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า
  • ในเดือนมีนาคมปี 2566 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 ได้แก่             กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
  • ในเดือนมีนาคม 2566 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 61,250 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 35.9% ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนที่สอง หลังจากซื้อสุทธิสี่เดือนติดต่อ โดยในเดือนมีนาคม 2566 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 31,494 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11
  • ในเดือนมีนาคม 2566 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป (PRTR) และใน mai 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น (ITTHI) และ บมจ. เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี (DEXON)
  • Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 15.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.4 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 19.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.7 เท่า
  • อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 2.91% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.24%

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

  • ในเดือนมีนาคม 2566 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 709,392 สัญญา เพิ่มขึ้น 30.4% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures และ SET50 Index Options และในช่วง 3 เดือนของปี 2566 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน  597,179 สัญญา ลดลง 5.6% จากปีก่อน

‘ดรีม – พรพิมล อัครเดชาวุฒิ’ เปิดประสบการณ์กว่า 10 ปี ในวงการธุรกิจแฟรนไชส์ การันตีธุรกิจห้าดาว ยืนหนึ่ง ‘เพื่อนทางธุรกิจ’

0

“เริ่มแรกทำธุรกิจในลักษณะของตัวแทนจำหน่าย ที่ต้องทำงานทั้งวัน ทุกเวลา บางครั้งกว่าจะได้กลับบ้าน 2-3 ทุ่ม ทุกอย่างมีรายละเอียดที่เราต้องทำเองต้องทุ่มทั้งตัวกับงานที่ทำ จึงเริ่มมองหาธุรกิจอื่นๆที่จะช่วยให้มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัว จากระบบการบริหารจัดการที่ดีโดยไม่ต้องคอยเฝ้าเอง สามารถตรวจสอบได้ คำตอบที่ได้คือ ธุรกิจแฟรนไชส์ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาทำมาหลายแบรนด์มาก เจ็บหนักแทบทุกแบรนด์ที่ทำ จนถึงต้องเจอกับ “ประสบการณ์ราคาแพง” มามากมาย กว่าจะมาลงตัวที่ธุรกิจห้าดาวอย่างวันนี้” พรพิมล อัครเดชาวุฒิ หรือ ดรีม นักธุรกิจผู้อยู่ในวงการแฟรนไชส์มานานกว่าสิบปี ซึ่งในที่สุดก็ค้นพบ ‘เพื่อนทางธุรกิจ’ ที่พร้อมเดิมหน้าสู่ความสำเร็จ

ดรีมเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า ด้วยความที่ต้องการเป็นผู้รับสิทธิ์ในธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้สิทธิ์จากบริษัทแม่ในต่างประเทศ หรือเป็นเจ้าของ Master Franchise จึงได้ดีลซื้อแบรนด์จากต่างประเทศ โดยมีการเดินทางไปฝึกอบรมถึงต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เพราะอยากเป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลกบ้าง แต่เมื่อมาเปิดแบรนด์จริงในประเทศไทยกลับไม่ประสบความสำเร็จ กลายเป็นประสบการณ์ราคาแพง กับเงินลงทุนที่สูงถึง 7-8 หลัก

เวลานั้นต้องกลับมามองหาธุรกิจอะไรที่จะตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง ที่อยากหาธุรกิจที่มั่นคงและมีความยั่งยืน จนมาพบกับ ธุรกิจห้าดาว ซึ่งเป็นธุรกิจอาหารที่คนสามารถรับประทานได้ทุกวัน คนคุ้นเคยกับเมนูอาหารไทยๆ เลือกรับประทานได้ตามความต้องการ

สำหรับสาขาแรกที่ลงทุนตั้งอยู่ภายในปั๊มปตท.เทพารักษ์ ซึ่งดรีมและทีมงานห้าดาว ลงสำรวจพื้นที่สำรวจและเห็นตรงกันว่าเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับเปิดร้าน และด้วยทีมห้าดาวมีข้อมูลสนับสนุนที่ดี ทำให้รู้ยอดขายร้านอื่นๆในปั๊ม รู้จำนวนผู้เข้าใช้บริการในปั๊ม และข้อมูลอื่นๆ ทำให้รู้ว่าจุดนี้ดีและน่าลงทุน ดรีมจึงลงทุนกับ ร้านกระทะเหล็ก (Iron Pan) โดยให้ความสำคัญกับเรื่องรสชาติเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ทางห้าดาวพัฒนาได้ดีมากอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องรสชาติที่ไม่สม่ำเสมอ ที่มักเกิดกับแฟรนไชส์ร้านอาหารทั่วไป

เมื่อเริ่มต้นทีมห้าดาวจะเข้าดูแล ทั้งเรื่องแบบร้าน สถาปัตย์ การตกแต่ง เรียกว่าเข้ามาเป็นเพื่อนที่ปรึกษา (The Operator) ให้ตั้งแต่แรก ผนวกกับประสบการณ์ที่ตนเองทำมาตลอด 10 ปี การทำร้านนี้จึงเหมือนการช่วยกันพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ต่างคนต่างช่วยกันออกความคิดเห็น ขณะเดียวกันก็มีการฝึกอบรมพนักงานใหม่ทันที โดยทีมฝึกอบรม (The Training) จะมาเป็นเพื่อนคอยแนะนำ มาดูแลทำให้อุ่นใจว่าทีมงานจะประคองจนร้านตั้งตัวได้ ทำเองได้ และยังมีทีมการตลาดมาช่วย ออกสื่อโปรโมชั่น ส่งเสริมการขายต่างๆ ช่วยลดต้นทุนส่วนนี้ให้ผู้ประกอบการได้อย่างมาก

ที่สำคัญด้วยลักษณะร้านที่ทำครัวโชว์หน้าร้าน ด้วยแนวคิดว่า อาหารจะอร่อยหรือไม่ นอกจากการปรุงแล้ว ลีลาก็มีส่วน ส่วนการปรุงเมนูต่างๆห้าดาวก็มีสูตรที่พัฒนาแล้วว่าอร่อย มีสูตรการปรุงที่ได้มาตรฐานไม่ได้ปรุงตามอารมณ์ ทำให้ความอร่อยเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นหัวใจ แม้แต่การจัดจานก็สำคัญจะมีการกำหนดรูปแบบที่เหมาะสม เช่นเมนูข้าว จะจัดข้าวที่มุมขวาของจาน อาหารอยู่มุมซ้าย ด้วยรายละเอียดเหล่านี้ ทำให้ถูกใจลูกค้า จนบางคนฝากท้องไว้กับที่ร้าน ทั้งมื้อเช้าและมื้อกลางวัน

“ที่ประทับใจในการร่วมงานกับห้าดาวคือ แม้ว่าจะเปิดร้านในช่วงจังหวะที่ราคาน้ำมันขึ้น วัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น ทำให้วันแรกที่เปิดก็มีการปรับขึ้นราคาอาหารแต่ละเมนูเลย ประกอบกับความที่ร้านเป็น Premium Street Food หลังจากปรึกษากับทีมห้าดาว จึงเริ่มจัดโปรโมชั่นเพื่อเชิญชวนลูกค้าเข้าร้าน ให้ได้มาลองเมนูอาหาร สะท้อนว่าทีมห้าดาวเป็นเหมือน เพื่อนหลังบ้าน (The Marketeer) ให้กับผู้ประกอบการจริงๆ และยังสนับสนุนเรื่องการจัดส่งอาหารให้ลูกค้า (Delivery) ด้วย GP ในราคาที่ลดต่ำลง จากการดีลในลักษณะบริษัทเป็นแบรนด์ขนาดใหญ่ จึงเป็นการสร้างโอกาสให้กับร้านให้มียอดขายเพิ่มขึ้น” ดรีม กล่าว

หลังจากเปิดร้านแรกที่เทพารักษ์ได้ 1 เดือน เธอตัดสินใจขยายร้านไปที่ที่ห้างเมกาบางนา ซึ่งมีร้านอาหารอยู่แล้ว และทำเลร้านค่อนข้างดี และมีความต้องการเมนูข้าวเพิ่มขึ้น เมื่อเรามีข้อมูลเบื้องต้นอยู่แล้ว และมั่นใจในรสชาติ ราคาจับต้องได้ และมีทีมสนับสนุนที่ดี เมื่อผนวกกับประสบการณ์ที่มี จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเริ่มทำร้านอีกสาขาในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ยังลงทุนกับ ร้านไฮพอร์ค (Hi Pork) และวางแผนกับโปรเจคต่อๆไปกับธุรกิจห้าดาว

เมื่อถามถึงเหตุแห่งความสำเร็จ (Key To Success) ในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ คือ 1. สินค้าต้องได้มาตรฐาน 2. ทำเล ต้องดูว่าสถานที่ตั้ง (Location) เหมาะกับธุรกิจอะไร มากกว่าที่มีสินค้าอยู่ในมือแล้วจับไปวางตรงไหนก็ได้ ต้องสมมุติว่าตัวเองว่าเป็นลูกค้า แล้วตัวเราต้องการอะไรในจุดนั้น 3. แบรนด์ เป็นรูปแบบขององค์กรขนาดใหญ่ ให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ เป็นความสบายใจที่สามารถเดินหน้าธุรกิจแบบโปร่งใส สินค้าไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง สิ่งไหนที่ควรปรับปรุง สามารถสะท้อนซึ่งกันและกันได้ตลอด หากมีข้อผิดพลาดก็รีบจัดการ เพื่อให้ร้าน “เสิร์ฟสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า”

“ที่ผ่านมาสามารถเลือกทำธุรกิจกับแบรนด์ไหนก็ได้ แต่ที่เลือกห้าดาว นอกจากจะเพราะความจริงใจและใส่ใจกับเรา จนเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีแล้ว ยังเพราะห้าดาวเน้นการให้โอกาส การสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับทุกคน ทั้งสำหรับตัวเองที่หลายคนบอกว่าเป็นมืออาชีพที่เชี่ยวชาญกับเรื่องการทำแฟรนไชส์มาก หรือใครก็ตามที่อยากจะเริ่มต้นทำธุรกิจแบบที่เริ่มต้นนับหนึ่งเลย นี่คือโอกาสที่ธุรกิจนี้มีให้ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการจริงๆ” ดรีม สรุป

ประสบการณ์กว่า 10 ปี ที่ผ่านมา แน่นอนว่าในความสำเร็จย่อมมีบาดแผลเป็นธรรมดา แต่หญิงแกร่งคนนี้ก็ไม่เคยยอมแพ้ และยังเดินหน้าทำตามความฝันจนสำเร็จได้ด้วย เพื่อนแท้ทางธุรกิจอย่างธุรกิจห้าดาว

คลิกชมคลิป >> https://bit.ly/3E07b5t

เมืองไทยประกันชีวิต จัดพิธีทำบุญครบรอบ 72 ปี การก่อตั้งบริษัทฯ

0

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมประกอบพิธีทำบุญครบรอบ 72 ปีการก่อตั้งบริษัทในการนี้ได้นิมนต์สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร และคณะสงฆ์รวม 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีนายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการ นางยุพา ล่ำซำ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสลิล ล่ำซำ นายภูมิชาย ล่ำซำ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงาน โดยพิธีดังกล่าว จัดขึ้น ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่

ทั้งนี้ ในปี 2566 นี้ ถือเป็นปีสำคัญของเมืองไทยประกันชีวิต ในการอยู่เคียงข้างสร้างรอยยิ้มแก่คนไทยครบ 72 ปี พร้อมตั้งเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควบคู่ ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง…ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต และการปักธงเป็นอันดับหนึ่งในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ (No.1 Most Trusted Life & Health Partner)             ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย       ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกๆคน (Democratizing Insurance) โดยบริษัทฯ มุ่งดำเนินงานผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ บุคลากร (People) พาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) ลูกค้า (Customers) และนอกเหนือจากลูกค้า (Beyond Our Customers)

AIS Fibre จับมือ SAMSUNG จัดเต็มความพิเศษ “เน็ตบ้านพร้อมสมาร์ททีวี 4K”

0
AIS Fibre ตอกย้ำเป้าหมาย Digital Experience for Thais กับการทำงานที่มุ่งตอบโจทย์ทุกพฤติกรรมของลูกค้า ที่วันนี้ล้วนชื่นชอบความบันเทิงแบบดิจิทัลโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ครบวงจร พร้อมประสบการณ์จากเน็ตบ้านที่เร็ว แรง จากการผนึกกำลังกับสุดยอดพาร์ทเนอร์ ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกอย่าง SAMSUNG ที่ร่วมกันมอบมิติใหม่ครั้งแรกของวงการเน็ตบ้านด้วยแนวคิด QUALITY DNAs (Device, Network, Application และ Service) กับแพ็กเกจพิเศษใหม่ล่าสุด BROADBAND TV แพ็กเกจเน็ตบ้านเร็วแรงสูงสุด 1Gbps/1Gbps พร้อมรับ สมาร์ททีวี 4K ของซัมซุง รุ่น AU7700 และสุดยอดคอนเทนต์แบบจัดเต็มบนกล่อง AIS PLAYBOX ในราคาแพ็กเกจเริ่มต้น 1,099 บาท โดยชำระค่าบริการล่วงหน้าเริ่มต้นเพียง 8,500 บาท ที่สามารถใช้เป็นส่วนลดราคาแพ็กเกจเหลือเพียง 699 บาท/เดือน ทุกแพ็กเกจนาน 24 เดือน

นางสาวสุนีย์ โรจนโอฬารรัตน์ หัวหน้าแผนกงานบริหารการตลาดธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ AIS กล่าวว่า “เพื่อเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าและคนไทยให้ได้รับประสบการณ์จากความบันเทิงภายในบ้าน ตามเป้าหมาย Digital Experience for Thais ทำให้เรามองหาบริการใหม่ๆ ที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตภายในบ้านได้อย่างครบถ้วน โดยครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่เราได้ทำงานร่วมกับผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง SAMSUNG ผ่านการส่งมอบแพ็กเกจพิเศษ BROADBAND TV ที่นอกเหนือจากคุณภาพเน็ตบ้าน และประสบการณ์ความบันเทิงที่ลูกค้าจะได้รับแล้ว เรายังตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ภายในบ้านกับ Samsung Smart TV 4K รุ่น AU7700 สมาร์ททีวีสุดล้ำด้วยความคมชัดระดับ 4K ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้านบนโครงข่ายเน็ตบ้านที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดกับ AIS Fibre”

คุณสุวิณ โกษีอำนวย หัวหน้ากลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า และ ผู้อำนวยการธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เผยว่า “ซัมซุงในฐานะผู้นำตลาดทีวีระดับโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 17 สร้างสรรค์ประสบการณ์ระดับพรีเมียมที่เป็นมากกว่าคุณภาพของภาพบนหน้าจอ มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีที่ยกระดับวิถีชีวิตผู้บริโภค ด้วยอีโคซิสเต็มที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป้าหมายสูงสุดของซัมซุงคือการมอบคุณภาพของการรับชมที่ดีเลิศให้ผู้บริโภคได้รู้สึกถึงความสมจริงบนหน้าจอและเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ในการรับชมอย่างเต็มอรรถรส

คำจำกัดความของทีวีจะถูกตีความหมายใหม่ กลายเป็นสมาร์ททีวีที่สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นนอกเหนือจากการรับชมเพียงเพื่อความบันเทิง แต่ยังรองรับ การดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ และสิ่งสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้คือ ทีวีทุกวันนี้ต้องสามารถรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อเชื่อมต่อ อุปกรณ์ ต่างๆภายในบ้านได้ในอนาคต”

สำหรับแพ็กเกจ BROADBAND TV ลูกค้าจะได้รับ Samsung Smart TV 4K รุ่น AU7700 มีให้เลือกทั้งหมด 3 ขนาดคือ 43, 55 และ 65 นิ้ว

· แพ็กเกจรายเดือนราคา 1,099 บาท รับฟรีทีวี Samsung 43’’ โดยชำระค่าบริการล่วงหน้า 8,500 บาท รับเป็นส่วนลดค่าบริการรายเดือน เหลือเพียง 699 บาท นาน 24 เดือน

· แพ็กเกจรายเดือนราคา 1,199 บาท รับฟรีทีวี Samsung 55’’ โดยชำระค่าบริการล่วงหน้า 12,000 บาท รับเป็นส่วนลดค่าบริการรายเดือน เหลือเพียง 699 บาท นาน 24 เดือน

· แพ็กเกจรายเดือนราคา 1,299 บาท รับฟรีทีวี Samsung 65’’ โดยชำระค่าบริการล่วงหน้า 14,500 บาท รับเป็นส่วนลดค่าบริการรายเดือน เหลือเพียง 699 บาท นาน 24 เดือน

พร้อมอัปความเร็วเน็ตบ้านแรงสูงสุด 1Gbps/1Gbps นาน 12 เดือน (เดือนที่ 13-24 ความเร็วตามแพ็กเกจ 1Gbps/500Mbps) และยังได้รับความบันเทิงจากสุดยอดคอนเทนต์ระดับโลกจากช่องต่างประเทศชั้นนำ และแอปพลิเคชั่นหลากหลายครบทั้งบันเทิง กีฬา ไลฟ์สไตล์ ผ่านกล่อง AIS PLAYBOX สมัครได้วันนี้ ที่ เอไอเอส ช็อป, เทเลวิซ ทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2566 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/fibre/samsung-broadband-tv

“รู้ทันปากท้อง” กับตลาดหลักทรัพย์ ตอน “ชอปออนไลน์ ราคาดีมีส่วนลด แต่ซื้อเกินจำเป็น แก้นิสัยยังไงดี”

0

“รู้ทันปากท้อง” กับตลาดหลักทรัพย์
ตอน “ชอปออนไลน์ ราคาดีมีส่วนลด แต่ซื้อเกินจำเป็น แก้นิสัยยังไงดี”

“อาแปะ” สาธิต บวรสันติสุทธิ์ นักวางแผนการเงิน CFP®
กูรูปลดหนี้ บอกว่า ชอปปิงออนไลน์ มีโปรโมชันทุกเดือน ทำให้เราใช้เงินฟุ่มเฟือยขึ้นเยอะ

เพราะฉะนั้น ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ครับ!