Home Blog Page 122

เมืองไทยประกันชีวิต จัดกิจกรรม “Muang Thai Smile Exclusive Movie” พาสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับดูหนังฟอร์มยักษ์

0

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย เมืองไทยสไมล์คลับ  จัดกิจกรรมพาสมาชิกฯ ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบกิจกรรมด้านความบันเทิง (Entertainment) และชื่นชอบติดตามภาพยนตร์ค่ายหนัง Marvel Studios’  ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ  “Muang Thai Smile Exclusive Movie”  รับชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์  3  ซูเปอร์ฮีโร่หญิง  Marvel Studios’ The Marvels  ในวันแรกที่เข้าฉาย ด้วยที่นั่งระดับ VIP ออกแบบพิเศษอย่างพิถีพิถัน กว้าง นุ่ม นั่งสบาย รองรับทุกสรีระ พร้อมป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม เต็มอารมณ์ความสุขตลอดระยะเวลาการนั่งชมภาพยนตร์ 1 ชั่วโมง 45 นาที  ในโรงภาพยนตร์สุดหรู AEON Theatre @Quartier CineArt    ณ เอ็มควอเทียร์ ชั้น 4  ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความประทับใจ โดยในงานมีนางสาวพรทิวา พฤกสถิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ เมืองไทยสไมล์คลับ พร้อมดูแลและยืนอยู่เคียงข้างสมาชิกฯ  ในทุกวัน สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับท่านใดที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ แบบนี้ สามารถติดตามข่าวสารสิทธิพิเศษและกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.muangthai.co.th/th/smileclub  ตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1766 กด 4 เมืองไทยประกันชีวิต หรือศูนย์บริการลูกค้าทั่วประเทศ

ซีพีเอฟ ดันพนง.คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เดินหน้าสู่ต้นแบบองค์กรแห่งนวัตกรรม

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นก้าวสู่องค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืนขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ส่งเสริมพนักงานมีส่วนร่วมยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เปิดเวที Feed Innovation Week 2023 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และแบ่งปันประสบการณ์ ผลักดันการสร้างนวัตกรเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมในองค์กร ชูอุตสาหกรรมอาหารหนุนเศรษฐกิจเติบโต

นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ตามแนวทางและวิสัยทัศน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ผนวกกับค่านิยมองค์กร CPF WAY สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและองค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งการจัดงาน Feed Innovation Week อย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานนำเสนอผลงานที่สร้างคุณค่าเพิ่มให้องค์กร แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน ส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อต่อยอดและยกระดับผลงานให้เกิดประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่สูงขึ้น สามารถส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และตอบรับกับการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งความท้าทายใหม่ๆ

“ตลอด 15 ปีที่ซีพีเอฟจัดงาน Feed Innovation Week โดยสายธุรกิจอาหารสัตว์บก ส่งเสริมบุคลากรให้เป็นนวัตกรและผู้ช่วยนวัตกรรวม 1,147 คน และทุกๆปี มีจำนวนผลงานส่งเข้ามาประกวดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผลสำเร็จในการสร้างบรรยากาศองค์กรแห่งนวัตกรรม จุดประกายให้คนในองค์กรคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่ใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ถือเป็นปีที่สองที่ได้รับเกียรติจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติเข้าร่วมงาน เป็นโอกาสของการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างซีพีเอฟและหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม” นายเรวัติ กล่าว

ดร.ชัยธร ลิมาภรณ์วณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์นวัตกรรม สำนักนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า นวัตกรรมมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในทุกๆด้าน หนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรมอาหาร ที่ภาครัฐสนับสนุนให้มีการพัฒนาทั้งนวัตกรรมอาหารและนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตสู่ความยั่งยืน ซึ่งนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัย “ความรู้” เป็นองค์ประกอบ โดยมีการบริหารจัดการความรู้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรนวัตกรรม ทั้งในระดับบุคคลและในระดับองค์กร สำหรับซีพีเอฟ ถือเป็นต้นแบบของการสร้าง “องค์กรแห่งนวัตกรรม” ที่มีพัฒนาการในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อยกระดับภาคเกษตรอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงาน Feed Innovation ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาถึง 15 ปี ที่เปิดกว้างให้บุคลากรคิดสร้างสรรค์ผลงาน และผลักดันสู่นวัตกรและผู้ช่วยนวัตกรมากกว่าหนึ่งพันคน

สำหรับผลงานที่รับรางวัลในปีนี้ ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ ผลงาน Ai Prediction End Products Price Forecast การใช้ AI ในการพยากรณ์ demand supply ของผู้ที่ต้องการซื้ออาหารสัตว์ โดย สำนักกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ผลงาน PDI Auto การประดิษฐ์เครื่องจักรที่จะช่วยลดการทำงานของบุคลากรในการจัดเก็บตัวอย่างและตรวจสอบความเข็งของอาหารก่อนบรรจุ โดย โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกธารเกษม และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 Application Ai พยากรณ์ราคาข้าวโพด โดยสำนักวิเคราะห์ข้อมูล และเทคโนโลยีสารสนเทศ

งาน Feed Innovation Week 2023 จัดขึ้นเป็นครั้งที่15 ภายใต้แนวคิด “Adapt to Change with Digitalization and Innovation : ทำสิ่งเดิมด้วยวิธีการใหม่ ทำสิ่งใหม่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า ด้วยดิจิทัลและนวัตกรรมอย่างสมบูรณ์แบบ” โดยปีนี้ มีผลงานได้รับคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศรวม 9 ผลงาน จากจำนวนผลงานที่นวัตกรส่งเข้าประกวด 83 ผลงาน ทั้งประเภท Technology, Economic, Social and Environment สอดคล้องกับ 3i ได้แก่ การรักษาสภาพ (Internal Correction) การปรับปรุงงาน (Improvement) และนวัตกรรม (Innovation) และในงานนี้ มีการจัดแสดงผลงานที่โดดเด่น 50 ผลงาน และยังเป็นเวทีคัดเลือกผลงานที่จะนำไปประกวดในงาน “มหกรรมนวัตกรรมบัวบาน” ซึ่งเป็นการประกวดผลงานนวัตกรรมดีเด่นของเครือซีพี ทั้งกลุ่มธุรกิจในประเทศไทยและต่างประเทศด้วย

CPF คว้า 2 รางวัลสูงสุด SET AWARDS 2023 มุ่งสู่องค์กรแห่งความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม และความยั่งยืน

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ คว้ารางวัล SET AWARDS ประจำปี 2566 จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ กลุ่มรางวัล Business Excellence ได้รับรางวัล บริษัทยอดเยี่ยมด้านนวัตกรรม (Best Innovative Company Awards) และ กลุ่มรางวัล Sustainability Excellence ได้รับรางวัล Best Sustainability Awards ตอกย้ำความเป็นผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อหมู ไก่ กุ้ง ที่เลี้ยงด้วยนวัตกรรมโปรไบโอติก ทำให้เนื้อสัตว์ปลอดภัย ปลอดสาร และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยมี นายพีรพงศ์ กรินชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิศวกรรมกลาง รับรางวัล Best Innovative Company Awards และ นางกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กรและลงทุนสัมพันธ์ รับรางวัล Best Sustainability Awards จาก ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในพิธีประกาศผลและมอบรางวัล SET AWARDS ประจำปี 2566 ได้รับเกียรติจาก ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นประธานในพิธี

ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการผลิตอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติอร่อย ดีต่อกายและดีต่อใจ ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อส่งมอบให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยได้คิดค้นสูตรอาหารสัตว์ด้วยนวัตกรรมโปรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ดีที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ให้มีสุขภาพแข็งแรงตามธรรมชาติ ไม่เจ็บป่วย จึงไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ บริษัทฯนำโปรไบโอติกมาใช้ในอาหารสัตว์ ทั้งไก่เนื้อ ไก่ไข่ เป็ดเนื้อ สุกร และกุ้ง เพื่อพัฒนาสินค้าอาหารสด เนื้อหมู และเนื้อไก่สด ภายใต้แบรนด์ CP ที่ได้รับรองมาตรฐาน Probiotic Fed เป็นอีกหนี่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่นำนวัตกรรมโปรไบโอติกมาใช้ในอาหารสัตว์ โดยร่วมมือกับสถาบันวิจัยระดับโลก คัดเลือกสายพันธุ์โปรไบโอติกกว่า 125,000 สายพันธุ์ จนได้โปรไบโอติกที่แข็งแรงที่สุดเพียง 10 สายพันธุ์ ในอาหารไก่เนื้อ การใช้โปรไบโอติกในการเลี้ยงกุ้ง ทั้งโปรไบโอติกที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงจุลินทรีย์ภายในทางเดินอาหารของสัตว์เพื่อช่วยย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และยังเน้นการคัดเลือกโปรไบโอติกที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำและพื้นบ่อเลี้ยงให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสัตว์น้ำ เป็นแนวทางการเลี้ยงกุ้งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

ด้วยกระบวนการเลี้ยงสัตว์ที่ใส่ใจในสุขภาพของสัตว์ และการคิดค้นนวัตกรรมโปรไบโอติกมาใช้ ทำให้ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สดของซีพี ปลอดสาร ปลอดภัย สามารถส่งไปพิสูจน์มาตรฐานที่สูงที่สุดให้แก่ผู้บริโภค ประกาศภารกิจเตรียมส่งไก่ไทยไปพิชิตอวกาศ ในโครงการ Thai Food-Mission to Space สะท้อนความปลอดภัยขั้นสูงสุดของผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ซีพี ที่ผ่านการทำวิจัยตรวจสอบความปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ร่วมกันกับ Johnson Space Food Lab เพื่อชี้ชัดว่าเนื้อไก่ แบรนด์ ซีพี ของไทยมีความปลอดภัยด้านอาหารขั้นสูงระดับเดียวกับนักบินอวกาศทานได้ เป็นความปลอดภัยระดับอวกาศ(Space Food Safety Standard) ตามหลักเกณฑ์ความปลอดภัยด้านอาหารขององค์การ NASA

นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์เป็น”ครัวของโลก” เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ยึดมั่นในการดำเนินงานด้วยค่านิยมองค์กร 6 ประการ หรือ “CPF Way” ที่นำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ (Innovativeness) ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมมาใช้ตลอดกระบวนการผลิตต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมไปถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการคิดค้น วิจัย สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนการ เพื่อร่วมดูแลสุขภาพของผู้บริโภคทั่วโลก

ภายใต้การดำเนินธุรกิจที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรยั่งยืน ซีพีเอฟ ยึดมั่นในปรัชญาสามประโยชน์ คือ ไม่ว่าจะไปทำธุรกิจที่ไหน ต้องคำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศนั้นๆ ประชาชน และบริษัท ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social and Governance : ESG) และผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาสิ่งใหม่ๆเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนของพันธมิตรคู่ค้าธุรกิจ และเกษตรกรตลอดห่วงโซ่อุปทาน อาทิ ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรคอนแทรคฟาร์มก้าวสู่การเป็นเกษตรอัจฉริยะ ตอบโจทย์การผลิตอาหารที่ปลอดภัย ส่งเสริมศักยภาพของคู่ค้าธุรกิจมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เดินเคียงข้างและเติบโตไปพร้อมๆกัน

งานมอบรางวัล SET AWARDS 2023 จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ วารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นเป็นปีที่ 20 ภายใต้แนวคิด “Benchmark of Excellence” เป็นรางวัลแห่งมาตรฐานสู่ความเป็นเลิศ ที่สะท้อนความสามารถของบริษัทในการดำเนินธุรกิจที่มีศักยภาพและโดดเด่น ควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน

เซเว่น อีเลฟเว่น ส่งเสริมคู่ค้ามอบรางวัลสโตร์พาร์ทเนอร์ยอดเยี่ยมปี 2566

0

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ จัดงานมอบรางวัลสโตร์ พาร์ทเนอร์ หรือผู้ร่วมธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่นยอดเยี่ยม ประจำปี 2566 เพื่อประกาศความสำเร็จให้คู่ค้าที่บริหารจัดการร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม

ทัพพ์เทพ จีระอดิศวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานปฏิบัติการ

ภายในงานมีการแถลงนโยบายการดำเนินงานในปี 2567 ของบริษัทที่จะมุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานการดำเนินงาน โดยเน้นนำนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อให้บริการผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ พร้อมย้ำแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ทั้ง ผู้บริโภค สังคม ชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ

ทั้งนี้ เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่เซเว่น อีเลฟเว่น เดินหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการ ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับปณิธานองค์กร “Giving and Sharing”

AWC ทุบสถิติ กวาด 23 รางวัล “อาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย” และ “อาคารที่มีการบริหารงานเพื่อความยั่งยืน”

0

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการคว้า 23 รางวัลด้านความเป็นเลิศในการบริหารจัดการอาคาร แบ่งเป็น รางวัลอาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย “BSA Building Safety Awards 2023” จำนวน 17 รางวัล จากสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร (The Building Inspectors Association หรือ BSA) ด้วยการสนับสนุนหลักจากกรมโยธาธิการและผังเมือง และรางวัลอาคารที่มีการบริหารงานเพื่อความยั่งยืน จำนวน 6 รางวัล จากสมาคมวิชาชีพบริหารทรัพยากรอาคาร (Thailand Facility Management Association หรือ TFMA) ตอกย้ำการบริหารจัดการอาคารและสถานประกอบการภายใต้เครือ AWC ที่มีมาตรฐานระดับสากล เพื่อร่วมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

การได้รับรางวัลเกียรติยศ 23 รางวัล จาก 2 สมาคม สะท้อนถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการอาคารและสถานประกอบการภายใต้เครือ AWC ในการยกระดับมาตรฐานโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ อย่างต่อเนื่องด้วยการตระหนักถึงความปลอดภัยและความต้องการของผู้ใช้อาคารเป็นอันดับแรก ตั้งแต่กระบวนการการบริหารอาคารเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการรับรองอาคารสีเขียว การพัฒนาด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย ตลอดจนสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนในระยะยาวให้แก่ผู้ใช้อาคารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน สอดรับกับการดำเนินธุรกิจตามกรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน 3BETTERs ของ AWC โดยเฉพาะในด้าน โลกที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น (BETTER PLANET) ในมิติการพัฒนาอาคารอย่างยั่งยืน และผู้คนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (BETTER PEOPLE) ในมิติการส่งเสริมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญของกรอบ BETTER PEOPLE เนื่องจากการส่งเสริมทรัพยากรบุคคลทางด้านความปลอดภัยจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาทรัพย์สินดำเนินงานและทรัพย์สินที่กำลังพัฒนาของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

รางวัลอาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย “ BSA Building Safety Awards 2023” เป็นรางวัลที่มอบให้แก่อาคารที่มีความโดดเด่นด้านความปลอดภัยทั้งในเชิงการออกแบบ การก่อสร้าง รวมถึงการดูแลบริหารจัดการและการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัย โดยอาคารและสถานประกอบการภายใต้เครือ AWC ได้รับรางวัลทั้งหมด 17 รางวัล แบ่งเป็น

  • รางวัลระดับแพลตตินั่ม (Platinum) ได้แก่ 1.อาคาร ‘เอ็มไพร์’ 2. อาคารอินเตอร์ลิ้งค์ ทาวเวอร์  บางนา 3. โรงแรม เลอ เมอริเดียน กรุงเทพ
  • รางวัลระดับโกลด์ (Gold) ได้แก่ 1.อาคารแอทธินี ทาวเวอร์ 2. อาคาร 208 แบงค๊อก 3. ศูนย์การค้าเกทเวย์ แอท บางซื่อ 4. โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์
  • รางวัลระดับซิลเวอร์ (Silver) ได้แก่ 1.ศูนย์การค้าตะวันนา บางกะปิ 2. ศูนย์การค้าเกทเวย์ เอกมัย 3. โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร
  • รางวัลระดับบรอนซ์ (Bronze) ได้แก่ 1.ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ 2. ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ แอท งามวงศ์วาน 3. ศูนย์การค้าลาซาล อเวนิว 4. โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล 5. โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค 6. โรงแรม ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ 7. โรงแรม ดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ อาคารและสถานประกอบการภายใต้เครือ AWC ยังได้รับอีก 6 รางวัลพิเศษในฐานะอาคารที่มีการบริหารงานเพื่อความยั่งยืน อันเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงการจัดการทรัพยากรอาคารอย่างยั่งยืนและมีผลลัพธ์เป็นรูปธรรม โดย AWC ได้มีการยกระดับมาตรฐานอาคารในด้านพลังงานอย่างต่อเนื่องเพื่อการดำเนินงานที่ยั่งยืน และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การจัดโครงการอนุรักษ์พลังงาน (Energy Saving Initiatives : ESI) และการจัดมาตรการอนุรักษ์พลังงาน (Energy Efficiency Plan: EEP) โดยได้รับ6 รางวัลในฐานะอาคารที่มีการบริหารงานเพื่อความยั่งยืน ประกอบด้วย

  • ระดับรางวัล FM Gold ได้แก่ 1. ศูนย์การค้าเกทเวย์ แอท บางซื่อ 2. ศูนย์การค้าตะวันนา บางกะปิ
  • ระดับรางวัล FM Silver ได้แก่ 1. ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ 2. ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ แอท งามวงศ์วาน
  • ระดับรางวัล Certificate of Appreciation (COA) ได้แก่ 1. ศูนย์การค้าเกทเวย์ เอกมัย 2. ศูนย์การค้าลาซาล อเวนิว

สำหรับรางวัลอาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย BSA Building Safety Awards เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ได้ยกย่องอาคารที่มีการบริหารและการกำหนดมาตรการทางด้านความปลอดภัยชัดเจน จากการตรวจสอบของสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร โดยมีการจัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 และปี พ.ศ. 2566 นี้ มีอาคารที่ได้รับรางวัลอาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย จำนวนทั้งหมด 58 อาคาร สำหรับ รางวัลอาคารที่มีการบริหารงานเพื่อความยั่งยืน เป็นรางวัลพิเศษที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 โดยมีอาคารที่ได้รับรางวัลจำนวนทั้งหมด 20 อาคาร จากการคัดเลือกของสมาคมวิชาชีพบริหารทรัพยากรอาคารที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาและการบริหารจัดการอาคารเพื่อความยั่งยืนตามหลักการสากล โดยให้ความสำคัญกับการจัดตั้งนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยง รวมถึงการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการบริหารทรัพยากรอาคาร และการจัดกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ใช้อาคารเพื่อพัฒนาการจัดการทรัพยากรอาคารอย่างยั่งยืน

ด้วยความมุ่งมั่นในการ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” AWC ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอาคารและสถานประกอบการในเครือให้มีมาตรฐานระดับสากลและมุ่งเน้นการจัดการทรัพยากรอาคารเพื่อความปลอดภัยและความยั่งยืนเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ และส่งมอบคุณค่าแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน พร้อมมุ่งสู่การเป็นกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ก้าวหน้าและเติบโตอย่างยั่งยืน และมีส่วนร่วมในการสนับสนุนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

AIS เปิดตัว “AIS – 3BB FIBRE 3” หลังควบรวม 3ฺฺBB สำเร็จ

0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS จัดแถลงข่าวเปิดตัว “AIS – 3BB FIBRE 3” หลังการควบรวม AIS FIBRE และ 3BB สำเร็จ  ดึงจุดแข็งยกระดับอุตสาหกรรมเน็ตบ้านของประเทศ ชูแนวคิด “รวมกันเพื่อชีวิตที่ดีมากกว่า BOOST YOUR BRIGHTER FUTURE” เชื่อมต่อทุกการใช้งานด้วยโครงข่ายไฟเบอร์ กับสุดยอดนวัตกรรมที่มากกว่าบนความเร็วแรงและมาตรฐานการให้บริการที่รู้ใจ  และย้ำภารกิจสำคัญในการดูแลลูกค้าทั้ง AIS FIBRE 2.38 ล้านราย และ 3BB 2.3 ล้านราย รวมถึงภาคธุรกิจ ร้านค้า ผู้ประกอบการ องค์กรภาครัฐและเอกชนจากทุกภาคส่วน ให้ได้รับประโยชน์ที่มากกว่า พร้อมเป็นแรงขับเคลื่อนสนับสนุนอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศในทุกรูปแบบให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

  • MORE CONNECTIVITY ครอบคลุมและเข้าถึงทุกคนได้มากกว่า โครงสร้างพื้นฐานของบรอดแบนด์ไฟเบอร์ที่วันนี้มีความเร็ว แรง เสถียร และเข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้มากที่สุด
  • MORE OPPORTUNITY เพิ่มโอกาสและศักยภาพที่มากกว่า ปลดล็อกประตูสู่โอกาส เพื่อให้ทุกบ้าน ทุกร้าน ทุกธุรกิจ ก้าวไปถึงอนาคตที่ต้องการได้ทุกเวลา ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำที่จะทำให้ทุกการใช้งานเป็นไปได้และมากกว่าเดิม
  • MORE HAPPINESS ความสุขที่ได้มากกว่า กับความบันเทิงทุกระดับเพื่อทุกคนในบ้าน จากคอนเทนต์และเกมส์ รวมไปถึงสิทธิพิเศษที่พร้อมใช้ทุกวัน

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า “เราขอประกาศถึงความสำเร็จของ AIS ในการผสานพลังระหว่าง AIS FIBRE และ 3BB โดยใช้จุดแข็งร่วมกันภายใต้ AIS – 3BB FIBRE 3 ที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจสำคัญเพื่อพัฒนา FIBRE Broadband Infrastructure หรือ โครงสร้างพื้นฐานด้านบรอดแบนด์ไฟเบอร์ของประเทศให้มีความแข็งแกร่งและครอบคลุมการใช้งานให้เข้าถึงคนไทยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพราะวันนี้อุตสาหกรรมเน็ตบ้านมีตัวเลขการเข้าถึงบ้านของคนไทยเพียง 50% นั่นหมายความว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งไม่ใช่แค่ลูกค้าในระดับครัวเรือนที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ดิจิทัลที่มากกว่าเดิมเท่านั้น ภาคธุรกิจอย่างผู้ประกอบการตั้งแต่ร้านค้ารายย่อยไปจนถึง SME ทุกธุรกิจก็จะได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมและเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เสริมศักยภาพการทำงานสู่อนาคต ซึ่งจะเป็นแรงกระเพื่อมสำคัญต่อการแข่งขันอุตสาหกรรมเน็ตบ้านและนำไปสู่สร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจแบบร่วมกัน หรือ ECOSYSTEM ECONOMY”

ธีร์ สีอัมพรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจบรอดแบนด์ AIS

นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจบรอดแบนด์ AIS กล่าวว่า “AIS – 3BB FIBRE 3 คือการหลอมรวมพลังความแข็งแกร่งของทั้ง AIS FIBRE และ 3BB เพื่อชีวิตที่ดีมากกว่า ภายใต้แนวคิด BOOST YOUR BRIGHTER FUTURE ที่นอกเหนือจากจะทำให้เราขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจเน็ตบ้านอย่างสมบูรณ์แล้ว ยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมและสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้า คนไทย และประเทศ ที่มากกว่าเดิมใน 3 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความครอบคลุมและเข้าถึงได้มากกว่า MORE CONNECTIVITY การรวมกันครั้งนี้ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านบรอดแบนด์ไฟเบอร์และอินเทอร์เน็ต มีความเร็ว แรง และเสถียรมากที่สุด อีกทั้งยังเข้าถึงทุกพื้นที่ครอบคลุมกว่า 131,000 ตารางกิโลเมตร เข้าถึง 77 จังหวัด 923 อำเภอ 5,849 ตำบล และความสามารถในการรองรับการให้บริการมากกว่า 9.5 ล้านพอร์ท ทั่วประเทศ รวมถึงสุดยอดเทคโนโลยี FibreLAN พร้อมเชื่อมต่อ สร้างโครงข่ายอินเทอร์เน็ตให้ลูกค้าสัมผัสความเร็ว 1Gbps ทุกห้องในบ้าน และมาตรฐานการให้บริการที่ลูกค้าจะได้รับตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยัง สร้างโอกาสที่มากกว่า MORE OPPORTUNITY ผ่านนวัตกรรมเน็ตบ้านและโซลูชันที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกบ้าน ทุกร้าน ทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบริการ Cloud PC ที่พร้อมใช้งานสำหรับทุกคนในบ้าน หรือแม้แต่แพ็กเกจที่ออกแบบสำหรับ SME โดยเฉพาะด้วยความปลอดภัยของโครงข่าย (Secure Net) และบริการแบบ Fast Lanes Customer Service ที่ตอบโจทย์ทุกธุรกิจให้เติบโตได้แบบก้าวกระโดด

พร้อมกันนี้ AIS – 3BB FIBRE 3 ยังมอบประสบการณ์ความสุขให้ทุกคนกับ MORE HAPPINESS เซอร์ไพรส์สุขได้มากกว่า เริ่มจากสุดยอดคอนเทนต์ความบันเทิงที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น หนัง ซีรีส์ กีฬา คอนเสิร์ต วาไรตี้ สารคดี เกมโชว์ และอีกมากมาย ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตสื่อและความบันเทิงยักษ์ใหญ่ระดับโลก หรือแม้แต่ประสบการณ์สำหรับเกมเมอร์ด้วย GAMING PLATFORMS ที่มาพร้อมกับแพ็กเกจและเราท์เตอร์อัจฉริยะ SMART AI GAMER ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของสัญญาณ ลดค่าความหน่วง เพิ่มความเสถียร เพื่อให้ทุกการเล่นเกมมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

และสุดท้ายกับกองทัพสิทธิพิเศษที่จะมอบทั้งความสุขและความสะดวกให้ลูกค้าของทั้ง AIS FIBRE และ 3BB ผ่าน  Point Platform ที่สามารถแลกรับความพิเศษผ่านพาร์ทเนอร์ได้ทั้งร้านค้าถุงเงิน 1.8 ล้านร้านค้า และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงร้านค้าพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง”

“AIS – 3BB FIBRE 3 พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจผ่านแบรนด์ AIS FIBRE 3 และ 3BB FIBRE 3ในฐานะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอันดับหนึ่งของไทย ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด ทั้งในมิติของคุณภาพ บริการ นวัตกรรม และสิทธิพิเศษ ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมบรอดแบนด์ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดขีดความสามารถทางการเติบโตและการแข่งขันของประเทศ ให้พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าและทุกภาคส่วน รวมถึงเดินหน้าทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลก เพื่อนำนวัตกรรมและโซลูชันเน็ตบ้านเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิตภายในบ้าน ผสมผสานกับ 5G เมื่ออยู่นอกบ้าน อันจะเป็นการเสริมศักยภาพให้กับภาคธุรกิจ ที่จะเป็นฟันเฟืองสำคัญหนุนการเติบโตของประเทศอย่างยั่งยืน (Sustainable Nation) ต่อไป”

“แม็คกรุ๊ป” มอบผลิตภัณฑ์แม็คยีนส์ สนับสนุนการแข่งขันวิทย์ฯโอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 20 แก่ มศว.

0

นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจและการขาย บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทน มอบผลิตภัณฑ์ “แม็คยีนส์” ได้แก่ หมวกแก๊ป และเป้พกพาเอนกประสงค์ แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นลินา ประไพรักษ์สิทธิ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครรินทรวิโรฒ (มศว) เพื่อให้นักเรียนผู้เข้าแข่งขัน และนิสิต ตลอดจนคณาจารย์ คณะวิทยาศาสตร์ มศว ใช้ประโยชน์ในการทัศนศึกษาและเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันวิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ครั้งที่ 20 ณ คณะวิทยาศาสตร์ มศว เมื่อเร็วๆ นี้

คณะวิทยาศาสตร์ มศว ร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งมีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานมูลนิธิฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ครั้งที่ 20 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2566 โดยมีตัวแทนผู้เข้าร่วมแข่งขัน ผู้นำทีมและผู้สังเกตการณ์ จำนวน 56 ประเทศ นิสิต บุคลากร และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมราว 1,300 คน

ชวนสมาชิก MTL Fit และ เมืองไทยสไมล์คลับ ร่วมโครงการ “เมืองไทยปันความสุข” จัดซื้อรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต โดย “MTL Fit” แอปพลิเคชันด้านสุขภาพที่จะช่วยให้คุณเข้าใจสุขภาพตัวเองได้ดียิ่งขึ้น  และ “เมืองไทยสไมล์คลับ” ขอเชิญชวนคนไทยร่วมแบ่งปันความสุขและรอยยิ้มที่ยั่งยืนให้กับสังคมไปพร้อมกัน  ผ่านโครงการ “เมืองไทยปันความสุข”  เพื่อการจัดซื้อรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ (มูลค่า 8 ล้านบาท) มอบให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในการเพิ่มศักยภาพการจัดหน่วยเคลื่อนที่และได้รับโลหิตบริจาคเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้บริการที่มีคุณภาพแก่ผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอและปลอดภัย

โดยสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปันได้ง่าย ๆ เพียงคุณร่วมสะสมก้าวเดินผ่านแอปพลิเคชัน    MTL Fit  จำนวน  200 ก้าวเดิน มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท สูงสุด 7,500,000 บาท หรือ บริจาคคะแนนสะสม Smile Point  5 คะแนน จะมีมูลค่าเท่ากับ 25 บาท* สูงสุด 500,000 บาท (การบริจาคคะแนน ไม่สามารถ ขอออกใบเสร็จเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้) ระยะเวลากิจกรรม ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 หรือจนกว่าจะครบสิทธิ์ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด)

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมโดยสามารถสมัครแอปพลิเคชัน MTL Fit ได้แล้ววันนี้!   โดยเข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MTL Fit  ฟรี ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android  และทำตามขั้นตอน ดังนี้   1. ลงทะเบียน สามารถคลิกเลือกเริ่มต้นการใช้งานสำหรับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต หรือ บุคคลทั่วไป      2. กรอกข้อมูลผู้ใช้งาน  3. ยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP เป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน  4. กดเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณ กับ MTL Fit Application  (สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการนับก้าวเดินได้ดังนี้ Fitbit, Garmin, SUUNTO  หรือกรณีที่ไม่มีอุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันที่มากับเครื่องได้    ดังนี้  Apple Health สำหรับ IOS และ Google Fit สำหรับ Android) เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว  ไปที่เมนู  “การแข่งขัน (Competition)” และกดเข้าร่วมกิจกรรม เมืองไทยปันความสุข Charity Challenge

นอกจากนี้ ทาง MTL Fit ได้เตรียมจัดกิจกรรม City Run ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 เปิดรับสมัครนักวิ่งจำนวน 50 คน ร่วมกิจกรรมวิ่ง City Run จาก บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ผ่านถนนรัชดาภิเษก  ถนนเพชรบุรี  ถนนราชดำริ และถนนอังรีดูนังค์  เพื่อทำพิธีเปิดโครงการ  “เมืองไทยปันความสุข” ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยอีกด้วย

ด้านสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ สามารถบริจาคคะแนนสะสม Smile Point  ได้ผ่านช่องทาง  MTL Click Application  หรือโทรติดต่อเพื่อบริจาคคะแนนสะสม Smile Point ได้ที่ 1766 กด 4 เมืองไทยประกันชีวิต รวมถึงสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับสามารถบริจาคคะแนนสะสม Smile Point ได้ด้วยตนเองที่ ศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ทั่วประเทศ 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1766 เมืองไทยประกันชีวิต ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

รู้เก็บรู้ออม : SET IN THE CITY 2023

0

“คุณนายพารวย” มีข่าวดีมาบอกสำหรับคนที่พลาดโอกาส ไม่ได้ไปงานมหกรรมการลงทุน SET IN THE CITY 2023 ที่จัดไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หรือคนที่ได้ไปเที่ยวงานมาแล้ว แต่ยังไม่จุใจ เพราะในวันเสาร์–อาทิตย์ที่ 25 และ 26 พฤศจิกายน 2566นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดงาน SET IN THE CITY 2023 “Workshop The Series” ขึ้นที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่เวลา 09.00–17.00น.

งานนี้ สายลงทุน สายการเงิน และสายออม ห้ามพลาดเป็นอันขาดกับโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้ “อัปสกิลให้อยู่รอดในตลาดหุ้น” กับเวิร์กช็อปการลงทุนแห่งปี

ตลอดวันงานทั้ง 2 วัน ผู้ร่วมงานจะได้พบกับคลาสเวิร์กช็อปมากมาย รวมกว่า 20 เวิร์กช็อป แบ่งเป็นงานวันแรก ในวันเสาร์ที่ 25 พ.ย. “รู้ทางรอด” มือใหม่เริ่มลงทุนได้ รู้ไว้ไม่โดนหลอก พบกับกูรูลงทุนมากมายที่จะยกขบวนมาถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ ทั้งสอนอ่านงบ เจาะแผนธุรกิจ เทคนิคสแกนหุ้น เช่น กิตติศักดิ์ คงคา เบสท์ เจ้าของเพจลงทุนศาสตร์ ที่จะมาบอกว่าอะไรควรและไม่ควรทำเพื่อไม่พลาดเรื่องลงทุน, น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา กับช่วงอย่าหาว่าน้าสอน ตอนพิเศษ “อยากรวยต้องรู้”, เจาะเทคนิคสแกนหุ้นด้วยงบการเงินกับ KFC กวี ชูกิจเกษม จาก บล.พาย, เสี่ยป๋อง วัชระ แก้วสว่าง มาแนะแนว สอนทริกการเลือกหุ้น

ส่วนงานวันที่สอง อาทิตย์ที่ 26 พ.ย. มาลุยทำเวิร์กช็อปกันต่อกับหัวข้อ “เพิ่มทางเลือก” มองหาโอกาสสร้างพอร์ตเติบโต เช่น โอกาสลงทุนในทองคำ โดย ธนรัชต์ พสวงศ์ จากกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง และณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ MTS Gold แม่ทองสุข, เจาะกลยุทธ์เทรดกับ อ.เบิร์ด จักรพล ทองเจริญ จากเพจสแกนหุ้น, เพิ่มโอกาสทำกำไรด้วย DW ต่างประเทศ โดยทศพล เกิดผล จาก บล.เจพีมอร์แกน กับนพดล ดวงทิพย์เนตร จาก บล. แมคควอรี และจับสัญญาณลงทุนหุ้นนอก โดย เซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ นักลงทุน VI, ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ บล.อินโนเวสเอ็กซ์, เพิ่มศักดิ์ จักร์มงคลชัย จาก ธ.กรุงไทย, รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ จาก บล.บัวหลวง

และภายในงานพบกับบูธจาก 30 โบรกเกอร์ที่มาคอยให้คำปรึกษา แนะนำจัด/ปรับพอร์ตลงทุน สอนใช้เครื่องมือลงทุนต่างๆ ตลอดจนให้บริการเปิดบัญชีลงทุน พร้อมโปรฯ พิเศษสุดเฉพาะงานนี้ ใครเปิดบัญชีเทรดหุ้น รับไปเลย กระเป๋าผ้าลายยันต์กันโจร หรือเปิดบัญชี TFEX ก็จัดกระเป๋า TFEX เอาไปใช้งาน หรือเก็บไว้เป็นที่ระลึก ได้ตามสะดวก ทั้งสองแบบของมีจำนวนจำกัดนะคะ

ผู้สนใจร่วมงาน สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ทาง www.setinvestnow.com/setinthecity  ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

ไม่อยากให้ใครพลาดจริงๆ แล้วไปเจอกันที่งาน SET IN THE CITY 2023 “Workshop The Series” มาส่งท้ายปีด้วยการทำกิจกรรมเวิร์กช็อปการลงทุนมากมาย ติดอาวุธ เพิ่มสกิลทักษะให้กับตัวเราเอง เพื่ออยู่รอดในตลาดหุ้นไปด้วยกันค่ะ

งานนี้ พลาดแล้วรออีกทีปีหน้าเลยน้า!

คุณนายพารวย

ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

AIS​ ดึง ตำรวจไซเบอร์ และค่ายละคร​ เปิดโปง​ 12​ คดีดังผ่านละครคุณธรรม

0

AIS อุ่นใจ CYBER เดินหน้าภารกิจสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ให้กับคนไทย ผ่านการพัฒนาเครื่องมือป้องกันภัยไซเบอร์ด้วยเทคโนโลยีและบริการดิจิทัล ควบคู่ไปกับสร้างองค์ความรู้ ปลูกจิตสำนึก ส่งเสริมทักษะดิจิทัล ด้วยการใช้วิธีการสื่อสารรูปแบบต่างๆ ที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กับผู้คนในแต่ละกลุ่ม ล่าสุดได้ทำงานร่วมกับตำรวจไซเบอร์ พร้อม ค่ายละครโซเชียล 3 ค่ายดัง กุลิฟิล์ม ทีแก๊งค์ และทีมสร้างฝัน ส่ง 12 ละครคุณธรรมจากคดีดังภัยไซเบอร์ ร่วมตีแผ่กลลวงของมิจฉาชีพ พร้อมแนะวิธีการรับมือ ในรูปแบบละครสะท้อนสังคมที่กำลังได้รับความนิยม สนุกเข้าใจง่ายและสามารถเข้าถึงคนไทยในทุกช่วงวัย

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า“จากการทำงานเพื่อส่งเสริมทักษะดิจิทัลภายใต้ภารกิจของ AIS อุ่นใจ CYBER ทำให้เราเห็นถึงปัญหาจากภัยไซเบอร์ที่ยังมีผู้ไม่รู้เท่าทันตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัย จากผลการศึกษาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย หรือ Thailand Cyber Wellness Index (TCWI) พบว่ากลุ่มดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อภัยไซเบอร์สูงสุด ซึ่งนอกเหนือจากความตั้งใจในการส่งเสริมทักษะการใช้งานดิจิทัลด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมถึงหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์แล้ว เรายังไม่หยุดที่จะคิดค้นและมองหาวิธีการสื่อสารใหม่ๆ เพื่อทำให้คนไทยมีทักษะดิจิทัล เข้าใจ รู้เท่าทันทุกภัยไซเบอร์

จึงเป็นที่มาของแคมเปญสื่อสารนในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีที่เราร่วมมือกับ ตำรวจไซเบอร์ และ 3 ค่ายละครโซเชียล นำคดีจากภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นจริง อาทิ หลอกติดตั้งแอปดูดเงิน, หลอกลงทุน, ซื้อของจากร้านค้าปลอม, ใช้ภาพโปรไฟล์คนอื่นและสวมรอยเพื่อหลอกยืมเงิน มาถ่ายทอดในรูปแบบของละครคุณธรรม หรือละครสั้นสะท้อนสังคม ที่วันนี้ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มคนสูงวัย ด้วยวิธีการเล่าแบบตรงไปตรงมา สนุก สอดแทรกสาระและวิธีการรับมือจากพี่ๆ ตำรวจไซเบอร์ ที่มาร่วมเป็นนักแสดงในละครคุณธรรมทั้ง 12 ตอน 12 สถานการณ์ อีกด้วย

นอกเหนือจากย้ำเตือนสังคมผ่านการสื่อสารและสร้างการตระหนักรู้อย่างต่อเนื่องแล้ว เรายังพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยป้องกันภัยไซเบอร์อย่างสายด่วน 1185 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน AIS Spam Report Center ให้ลูกค้าแจ้งข้อมูลเบอร์โทรและ SMS มิจฉาชีพได้ฟรี รวมถึงการมีหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์ที่จะช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ และสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ให้กับคนไทย”

พลตำรวจตรี อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) กล่าวเสริมว่าปัจจุบันเราต้องยอมรับว่ามิจฉาชีพมีการออกกลโกงในรูปแบบใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอทำให้ประชาชนหลงเชื่อ และถูกหลอกให้เสียทรัพย์ได้ในที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ ไม่ใช่แค่ในมิติเรื่องของการปราบปรามอย่างเดียว เราต้องให้ความสำคัญในเชิงป้องกัน ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนมีความรู้ที่ถูกต้องในการใช้งานบนโลกดิจิทัลอย่างปลอดภัย ซึ่งการทำงานกับ AIS อย่างต่อเนื่องในการออกมาเตือนภัยประชาชนในรูปแบบต่างๆ ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุอย่างแท้จริง

เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ AIS อีกครั้งในการสื่อสาร เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนผ่านรูปแบบของละครคุณธรรม เพื่อให้ประชาชนมีสติ รู้เท่าทัน ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน และไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาให้รูปแบบต่างๆ  นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถปรึกษา แจ้งเบาะแส ขอความช่วยเหลือด้านภัยไซเบอร์ได้ที่สายด่วน 1141”

สามารถติดตามชมละครคุณธรรม ทั้ง 12 ตอน ซึ่งสอดแทรกการเตือนภัยกลโกงของมิจฉาชีพพร้อมวิธีการรับมือ ได้ผ่านช่องทาง Social Media ของทั้ง 3 ค่ายละครคุณธรรม และช่องทาง LearnDi ได้ที่   https://learndiaunjaicyber.ais.co.th/learning-path/105/