Home Blog Page 11

AIS ชวนลูกค้ายืนยันตัวตนที่ AIS Shop และจุดบริการทั่วประเทศ พร้อมลุ้นทองคำกว่า 1.6 ล้านบาท

0

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือAIS ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ทุกการใช้งาน ชวนลูกค้าทุกราย ผู้ใช้มือถือในนามบุคคล  อัปเดตข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงนำบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมโทรศัพท์ที่มีซิมการ์ด AIS ไปที่จุดบริการ AIS Check ID ได้แก่ AIS Shop, Telewiz และ AIS Buddy Exclusive ทุกสาขาทั่วประเทศ

ทั้งนี้ การยืนยันตัวตนเพื่ออัปเดตข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน นอกจากจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ ป้องกันการถูกแอบอ้างจากมิจฉาชีพแล้ว ยังเป็นการยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ สร้างความอุ่นใจให้ทุกไลฟ์สไตล์ดิจิทัล

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้ามือถือ AIS ทั้งเติมเงินและรายเดือน ที่เข้ามายืนยันตัวตน ณ จุดบริการ AIS Check ID ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2568 จะได้รับสิทธิ์ในการจับรางวัล จำกัด 1 หมายเลขโทรศัพท์ ต่อ 1 สิทธิ์ ตลอดโครงการ โดยแบ่งเป็น รางวัลที่ 1 ทองคำ 1 สลึง จำนวน 40 รางวัล และ รางวัลที่ 2 ทองคำครึ่งสลึง จำนวน 200 รางวัล จับรางวัลทุก 2 สัปดาห์ ประกาศผลผ่านแอปฯ myAIS ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://m.ais.co.th/EKH6eO7Hy

AIS Check ID คือการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน โดยการ Dip Chip เพื่อลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ, ใช้งานโมบายแบงก์กิ้งได้อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการใช้บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (Digital ID) จาก AIS ในอนาคต ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการนำไปสมัครทำธุรกรรมการเงิน รวมถึงธุรกรรมจากภาครัฐและเอกชน เช่น เปิดบัญชีเงินฝาก เปิดบัญชีลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือการขอสินเชื่อ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาด้วยตนเอง รวมถึงลดการถูกปลอมแปลงเอกสาร และการถูกสวมสิทธิ์จากหลักฐานการยืนยันตัวตนแบบเก่า อย่างการถ่ายสำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาเอกสารทางราชการอื่นๆ

หยุดเผา!! ลดฝุ่น PM2.5 – ป้องกันไฟป่า … อ.สันกำแพง จับมือ ซีพีเอฟ ชวนชุมชนเปิด “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่”

0

ปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม และส่งเสริมสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเริ่มต้นได้ที่ตัวเอง ครอบครัว หรือในชุมชนของเรา ล่าสุด ชาวอำเภอสันกำแพง เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของการริเริ่ม “โครงการตลาดนัดใบไม้แลกไข่” ชวนชาวชุมชนเก็บกวาดใบไม้แห้ง มาแลกไข่ไก่ แทนการลดการเผาเพื่อลดฝุ่น

นายณัฐพงษ์ พรสมบูรณ์กิจ ปลัดอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากนโยบายของ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันต่อสู้กับปัญหาฝุ่น PM2.5 เพื่อให้ชาวเชียงใหม่มีอากาศสะอาดและปราศจากมลพิษ โดยเฉพาะการหยุดเผาทุกชนิดในที่โล่ง

นายอำเภอสันกำแพง ภิญโญ พัวศรีพันธุ์ จึงมีแนวคิดในการชวนให้ชาวสันกำแพงไม่ต้องพึ่งพาการเผาและลดใบไม้แห้ง ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่มักถูกเผาไหม้ในช่วงหมอกควันไฟป่า ผ่านโครงการ “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่ อ.สันกำแพง” ภายใต้สโลแกน “สันกําแพงเราไม่เผา เอาเศษใบไม้มาแลกไข่ หมอกควัน ไฟป่าห่างไกล หายใจ โล่งกัน ทุกคน” ด้วยการเปิดที่ว่าการอำเภอสันกําแพง ให้ชาวชุมชนนำใบไม้มาแลกไข่ไก่ และนำศักยภาพของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ มาร่วมสนับสนุน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 พฤษภาคม ศกนี้ โดยเทศบาลตำบลต่างๆ มารับใบไม้นำไปผลิตปุ๋ยหมักให้เกษตรกรใช้แทนปุ๋ยเคมี ช่วยลดต้นทุน บำรุงดิน คาดว่าจะรวบรวมใบไม้ได้ถึง 20,000 กิโลกรัม

“จังหวัดเชียงใหม่มีนโยบายห้ามเผาในทุกปี แต่ประชาชนมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ทิ้งใบไม้ ท่านนายอำเภอสันกำแพง จึงจัดโครงการฯ นี้ขึ้น เพื่อเปิดรับใบไม้แลกไข่ไก่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุกวันพฤหัสบดี เศษใบไม้แห้ง 1 กก. แลกไข่ไก่ได้ 1 ฟอง ขอขอบคุณซีพีเอฟที่นำไข่ไก่มาร่วมสนับสนุน สัปดาห์ละ 1,200 ฟอง และยังมอบเครื่องเป่าลม 2 เครื่อง สำหรับใช้เป่าใบไม้และทำแนวกันไฟเพื่อดับไฟป่า” ปลัดอำเภอสันกำแพง กล่าว

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว มีชาวบ้านนำใบไม้แห้งมาแลกไข่ไก่ สูงสุดแลกได้ถึง 30 กิโลกรัม หรือได้ไข่ไก่คนละ 1 แผง (30 ฟอง) กำหนดจัดโครงการฯ นายชัชวิน สุรพิพิธ ชาวบ้านหมู่ที่ 12 ตำบลสันกำแพง ที่นำใบไม้มาร่วมโครงการฯ กล่าวว่า นอกจากจะช่วยลดปริมาณใบไม้ในครัวเรือน ไร่สวน ซึ่งเป็นแนวทางในลดการเผาที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 แล้ว ประชาชนยังได้ไข่ไก่กลับบ้าน ทั้งอิ่มท้อง ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน บ้านเรือนและชุมชนก็สะอาดขึ้น ถือว่าได้ประโยชน์รอบด้าน

ทางด้าน นางเกษร อิ้นต๊ะแก้ว ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ตำบลห้วยทราย บอกว่า ชาวชุมชนยินดีมากที่ได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนนโยบายสันกำแพงเราไม่เผา การลดเผาลดฝุ่น ทำให้บ้านเราอากาศสะอาด ยิ่งมีโครงการนำใบไม้มาแลกไข่ไก่ซีพี ก็ยิ่งช่วยสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนชวนกันมาร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ตอนนี้เราไม่ทิ้งใบไม้แห้ง ไม่เผา แต่นำมาสร้างประโยชน์จากเศษวัสดุแทน./

คลิกชมคลิป TikTok >> https://www.tiktok.com/@cpf.journey/video/7478527845854203156?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7416584634233243154

เมืองไทยประกันชีวิต จัดงาน AF x LH KICK OFF 2025 ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดเพื่อความสำเร็จ และความสุขไปด้วยกัน

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นประธานจัดงาน AF x LH KICK OFF 2025 ภายในธีม DRIVING ACTION TO CELEBRATE HAPPINESS AND SUCCESS ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดเพื่อความสำเร็จ และความสุขไปด้วยกัน ของสายงานขายและการตลาด ช่องทางพันธมิตรทางธุรกิจ (AF) และ สายงานขายและการตลาด ช่องทาง LH Bank (LH) เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ความเชื่อมั่น และผนึกกำลังในการขับเคลื่อนอย่างไม่มีขีดจำกัด เติมเต็มพลังแห่งการเติบโตสู่เป้าหมายอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานปี 2568 โดยมีนายไพฑูรย์ ไกรอมร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส นางสาวอุมาพันธุ์ เจริญยิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ นายแพทย์วุฒิวงศ์ สมบุญเรืองศรี รองกรรมการผู้จัดการ นางสาววรภร สุทธิเวชชะกร รองกรรมการผู้จัดการ และนางสาวชนัญทิมา ปิ่นเงิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานสายงานขายและการตลาดช่องทางพันธมิตรทางธุรกิจ และ LH Bankร่วมงานด้วย ณ หอประชุมเมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่.

AIS จ่ายค่าความถี่ 2600 MHz งวด 2 ให้กสทช.เดินหน้าพัฒนา 5G เสริมศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัลไทย

0

บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในเครือ AIS โดย นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ เข้าชำระค่าคลื่นความถี่ 2600 MHz งวดที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 3,139,540,500 บาท ให้แก่สำนักงาน กสทช. โดยมี นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินและพัฒนากิจการโทรคมนาคมของประเทศต่อไป โดย AIS ยังคงเดินหน้าลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมและรองรับทุกการใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าทั่วไปและโซลูชันสำหรับภาคธุรกิจ เสริมขีดความสามารถให้กับทุกอุตสาหกรรม พร้อมผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

AIS จับมือ กฟภ. จัดระเบียบสายสื่อสารบ้านฉาง เสริมความปลอดภัย ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

0

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลที่พร้อมสนับสนุนภาครัฐและทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมมือกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ส่งทีมวิศวกรลงพื้นที่ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เพื่อดำเนินการรื้อถอนและจัดระเบียบสายสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสารโทรคมบนเสาไฟฟ้า โดยมี นายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการธุรกิจและการตลาด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมลงพื้นที่ปฏิบัติการ

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางของ AIS ในการยกระดับความปลอดภัยของประชาชน ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงทัศนียภาพของพื้นที่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สอดคล้องกับนโยบายของหน่วยงานภาครัฐในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกระดับบริการ เปิดตัว TSD Counter Services โฉมใหม่

0

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนางสาวพิชยา ชมชัยยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) ร่วมพิธีเปิดให้บริการ TSD Counter Services โฉมใหม่ ที่ชั้น 1 อาคาร B ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกระดับบริการให้ผู้ถือหุ้นได้รับความสะดวก รวดเร็วขึ้น ด้วยช่องบริการมากขึ้น กว้างขวาง เพิ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัว ช่วยปกป้องข้อมูล PDPA และอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุและผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์

TSD Counter Services เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. (เว้นวันหยุดตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ฯ) สามารถตรวจสอบรายละเอียดบริการของ TSD ได้ที่ www.set.or.th/th/tsd หรือ SET Contact Center 0 2009 9999

AIS ผนึกพันธมิตรช่องทางจัดจำหน่ายกว่า 25,000 แห่งทั่วไทย ส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลเหนือระดับให้ลูกค้า พร้อมมอบรางวัลขอบคุณพันธมิตรยอดเยี่ยมแห่งปี 2567

0

AIS ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ตัวจริง ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการลูกค้า เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดด้วยสินค้าและบริการที่เป็นเลิศร่วมกับพันธมิตร ผ่าน Customer Service Touchpoint ที่ในปัจจุบันมีเครือข่ายช่องทางกว่า 25,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการ พร้อมดูแลลูกค้าทั้งการใช้งานบริการมือถือและเน็ตบ้าน โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ โดยการพลิกโฉมงานบริการผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัย อาทิ AI และ Intelligent Service เพื่อก้าวสู่การเป็น Retail Shop ที่สามารถส่งมอบที่สุดของงานบริการและนำเสนอสินค้าของ AIS อย่างครบวงจร รวมถึงการเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ เพื่อขอบคุณพันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน AIS ได้มอบรางวัลช่องทางจัดจำหน่ายที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม ประจำปี 2567 ให้กับพันธมิตรตัวแทนจำหน่าย โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

  1. รางวัล ADP AWARD 2024 ซึ่งมอบให้กับพันธมิตรค้าส่งที่มียอดขายสินค้าคุณภาพสูงสุด ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกื้อกูลการค้า จ.หนองบัวลำภู, ห้างหุ้นส่วนจำกัด เรืองวิศว์เทเลคอม จ.ชุมพร, บริษัท แอดวานซ์ เทเลบิซ จำกัด กรุงเทพมหานคร, บริษัท ทีแซด เทรดดิ้ง จำกัด กรุงเทพมหานครและบริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน)
    จ.นครปฐม
  2. รางวัล AIS BUDDY EXCLUSIVE AWARD 2024 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับร้านเอไอเอส บัดดี้ เอ็กซ์คลูซีฟที่มีงานขายและงานบริการคุณภาพ ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุริยนต์ เทเลคอม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
  3. รางวัล AIS TELEWIZ AWARD 2024 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับร้านเอไอเอส เทเลวิซที่มีงานขาย และงานบริการคุณภาพ ได้แก่ บริษัท ซีที ไวร์เลส จำกัด สาขา เอไอเอส เทเลวิซช็อป ตลาดบางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี, ห้างหุ้นส่วนจำกัด สวาทโฟน สาขา เอไอเอส เทเลวิซช็อป อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร, บริษัท ปกรณ์และเพื่อน จำกัด สาขา เอไอเอส เทเลวิซช็อป ข้างห้างโรบินสัน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และบริษัท สกลนคร โอเอ แอนด์ คอมพิวเตอร์ จำกัด สาขา เอไอเอส เทเลวิซช็อป ถ.สุขเกษม อ.เมือง จ.สกลนคร
  4. รางวัล AIS SHOP AWARD 2024 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้ร้านเอไอเอส ช็อป โดยพาร์ทเนอร์ที่มีงานขาย และงานบริการคุณภาพ ได้แก่ บริษัท ซีที ไวร์เลส จำกัด สาขา เอไอเอสช็อป บิ๊กซี อ.เมือง จ.ปทุมธานี, บริษัท เจริญเทเลคอมชัยภูมิ จำกัด สาขา เอไอเอสช็อป โรบินสัน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และบริษัท ปกรณ์และเพื่อน จำกัด สาขา
    เอไอเอสช็อป เซ็นทรัล อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

GRAMMY อวดรายได้จากการดำเนินงานปี 67 แตะ 6.1 พันล. เติบโตแบบมั่นคง

0

บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ผู้นำธุรกิจบันเทิงครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย เผยผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานที่ 6,165.4 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการเติบโตทางธุรกิจและประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

คุณบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม อยู่ที่ 6,165 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.9% เทียบกับปี 2566 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 405.9 ล้านบาท เติบโตขึ้น 100.2% และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ รวมอยู่ที่ 195.6 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนที่บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมในสินทรัพย์ทางการเงินอื่นจากการลงทุนในหุ้น บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ (“KISS”) ทั้งนี้ผลการดำเนินงานรายธุรกิจในปี 2567 สามารถสรุปรายละเอียดแบ่งออกได้ ดังนี้

  1. รายได้ธุรกิจเพลงปิดรายได้ที่ 4,063.4 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 133.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.4%YoY จากการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ นำโดยธุรกิจ Digital และธุรกิจโชว์บิซซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของการสร้างรายได้ที่มีเสถียรภาพและมีความมั่นคง
  2. รายได้ธุรกิจภาพยนตร์ปิดรายได้ที่ 695.8 ล้านบาท เติบโต เพิ่มขึ้น 341.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 96.4%YoY จากภาพยนตร์เรื่องหลานม่า ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีทั้งในและต่างประเทศ
  3. รายได้ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งปิดรายได้ที่ 1,166.3 ล้านบาท ลดลงราว 203.2 ล้านบาท หรือลดลง 14.8%YoY เนื่องจากยอดขายทางทั้งช่องทางดาวเทียมและทีวีดิจิตัลที่ลดลง
  4. รายได้ธุรกิจจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีปิดรายได้ที่ 127.5 ล้านบาท ลดลง 24.7 ล้านบาท หรือลดลง 16.2%YoY จากยอดขายกล่องทีวีดาวเทียมที่ลดลงซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
  5. ส่วนแบ่งกำไรจาก The ONE Enterprise 140.3 ล้านบาท เติบโตขึ้น 7.3 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 5.5% YoY

และนอกเหนือจากการเติบโตในธุรกิจปกติแล้ว ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้ขยายความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดธุรกิจเพลงให้เติบโต โดยบริษัทฯ ได้ขายจำหน่ายหุ้นสามัญของ GMM Music ให้แก่นักลงทุนเชิงกลยุทธ์จำนวน 2 ราย ได้แก่ (1) Black Serenade Investment Limited (“Black Serenade”) (ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งร่วมกันระหว่าง Tencent Music Entertainment Group และ Tencent Holdings Limited) และ (2) Warner Music Hong Kong Limited (“WMHK”) (ซึ่งเป็นบริษัทที่มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ Warner Music Group Corp. (“WMGC”)) ในสัดส่วนร้อยละ 10.0 และร้อยละ 1.5 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ GMM Music ตามลำดับ

จากธุรกรรมดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ สามารถปิดงบเฉพาะกิจการบริษัทฯด้วยกำไร 2,660.7 ล้านบาท หลังบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนใน GMM Music มูลค่า 2,815.4 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นการตอกย้ำธุรกิจเพลงที่ยังคงสามารถเติบโตได้ จากการให้มูลค่าของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก รวมถึงโอกาสในการสร้างความเติบโตในอนาคต โดยในส่วนของเงินที่ได้จากการขายเงินลงทุนดังกล่าวราว 2,000 ล้านบาท บริษัทฯได้มีการนำไปชำระคืนหนี้พร้อมดอกเบี้ยที่มีกับธนาคารทั้งหมด 854.4 ล้านบาท และนำไปลงทุนเพิ่มในหุ้น ONEE มูลค่าราว 899.5 ล้านบาท โดยในส่วนที่เหลือได้นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัทฯ

จะเห็นได้ว่าผลประกอบการของบริษัทโดดเด่นรับกระแสการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลง โดยจะเห็นได้จากที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเพลงทั่วโลกเติบโตเฉลี่ย 11% ต่อปี ในขณะที่ อุตสาหกรรมเพลงไทย เติบโตสูงกว่า ที่เฉลี่ย 26% ต่อปี โดยมีแรงผลักดันสำคัญจากดิจิตอลสตรีมมิ่ง ซึ่งในปัจจุบันตลาดสตรีมมิ่งและ Music subscription ทั่วโลกสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยนั้นตลาดยังมีศักยภาพเติบโตขึ้นอีกอย่างมหาศาล ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโตนี้ มาจากสินทรัพย์ทางดนตรี (Music IP : Music Intellectual Property) ซึ่งคือ ลิขสิทธิ์ในคอนเทนต์เพลงซึ่ง นับเป็น หัวใจสำคัญของการสร้างรายได้จากการเผยแพร่ การนำไปใช้ การทำซ้ำ ดัดแปลง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งบริษัทฯ มีความแข็งแรงด้านสินทรัพย์ทางดนตรีของไทยที่ใหญ่ที่สุด สั่งสมและมีการพัฒนาต่อยอดมาอย่างต่อเนื่อง และยาวนานกว่า 40 ปี ผนวกกับการมี Music Infrastructure ที่ครบวงจรที่สุดในไทย จึงเป็นจุดแข็งเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ทำให้มีรายได้เข้ามาแบบต่อเนื่อง (Recurring Income) อย่างยั่งยืน

รู้เก็บรู้ออม : วางแผนเก็บเงินพาครอบครัวเที่ยว

0
ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน...สู่ความมั่งคั่ง" หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

การเดินทางท่องเที่ยว เป็นเป้าหมายของหลายๆคน ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นวางแผนการเดินทาง, โปรแกรมท่องเที่ยว, ที่พัก, อาหารการกิน ที่สำคัญที่สุด คือ การวางแผนการเงินสำหรับท่องเที่ยว เพราะการเดินทางท่องเที่ยวแต่ละครั้ง ย่อมมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ยิ่งไม่ได้เที่ยวคนเดียว แต่วางแผนที่จะยกครอบครัวไปเที่ยวด้วยกันแล้ว ค่าใช้จ่ายย่อมสูงตามจำนวนสมาชิกจึงต้องมีการวางแผนการเงินล่วงหน้า

การวางแผนเรื่องเงินเพื่อท่องเที่ยวนั้น เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายการท่องเที่ยวอันดับแรก เพื่อจะได้วางแผนให้เหมาะกับเป้าหมายของทริป เช่น ทริปสายมู เที่ยววัด, ทริปแอดเวนเจอร์ เดินป่าเที่ยวเขา, ทริปช็อปปิ้งกินเที่ยวแบบชิล จะได้กำหนดงบและวางแผนเก็บเงินได้

เมื่อรู้จุดหมายปลายทางแล้วว่าจะไปเที่ยวไหน ก็ต้องมาคิดต่อว่าจะไปแบบไหนดี จะเที่ยวเองหรือซื้อทัวร์ หากสถานที่ไปเดินทางง่าย เรื่องกินอยู่ไม่ยาก ก็อาจเลือกแบบไปเที่ยวเอง แต่ถ้าไปกันเป็นครอบครัว การซื้อทัวร์อาจตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบาย เดี๋ยวนี้มีหลายบริษัททัวร์ที่รับจัดแบบทริปส่วนตัว ลองเปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกดู

เมื่อรู้โปรแกรมท่องเที่ยว, แผนการเดินทาง และจำนวนผู้ร่วมเดินทางแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การคำนวณค่าใช้จ่ายและวางแผนการเงิน เพื่อจะได้วางแผนเก็บเงินสำหรับการท่องเที่ยวได้ การไปเที่ยวแบบครอบครัว ค่าใช้จ่ายต้องสูงกว่าเดินทางคนเดียวแน่นอน จึงต้องคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อจะได้กำหนดงบเที่ยว และวางแผนเก็บเงิน โดยออกแบบแผนการออมว่าต้องออมเงินเท่าไร ระยะเวลาเท่าไรถึงจะทำให้เราบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้

เช่น เราวางแผนว่าอีก 2 ปี จะพาพ่อแม่ไปเที่ยวทะเลสาบน้ำแข็งไบคาลที่รัสเซีย ค่าทริปต่อคนราว 5 หมื่นบาท, ค่าตั๋วเครื่องบิน 3 หมื่นบาท, ค่าอาหารประมาณ 5 พันบาท/คน, ค่าใช้จ่ายสำรอง 3 พันบาทต่อคน รวมค่าใช้จ่ายตีกลมๆคนละ 9 หมื่นบาท ไปกัน 3 คนพ่อแม่ลูก เท่ากับ 2.7 แสนบาท เรามีเวลาออมเงิน 2 ปี ก็ต้องเก็บเงินให้ได้เดือนละ 11,250 บาท เป็นต้น

นอกจากการออมเงินแล้ว เรายังสามารถพิจารณาทางเลือกลงทุนในสินทรัพย์การเงินต่างๆ เช่น หุ้น, กองทุนเพื่อทำให้การออมของเราดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอ และบรรลุเป้าหมายได้เร็ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯมีเครื่องมือช่วยวางแผนการเงินที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคงขึ้น https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/caltools

เมื่อกำหนดเป้าหมาย และวางแผนเก็บเงินแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ เริ่มลงมือทำ ออมเงินอย่างมีวินัยและสม่ำเสมอ หากทำได้ เงินพร้อม ทริปก็จะเกิดขึ้นได้จริง ย่อมสร้างความสุขให้กับคนในครอบครัว และความภาคภูมิใจให้กับตัวเองที่สามารถทำให้ฝันเป็นจริง

การจัดทริปท่องเที่ยวแบบครอบครัวไม่ใช่เรื่องน่าปวดหัว ขอเพียงมีการวางแผนที่ดี และเตรียมตัวให้พร้อม “คุณนายพารวย” หวังว่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้หลายคนออกเดินทางท่องเที่ยวตอนที่ยังมีแรงและเวลานะคะ.

“สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่เดิมๆ”

0

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย

วันเสาร์ที่ผ่านมา เจอพระอาจารย์ เซียนเจี๊ยบซื้อพระกริ่งเก่าไม่รู้รุ่น ยังมีตะปูตอกด้านหลัง2รู ดูเก่ามากบัวสวย เหมือนที่พระอาจารย์อวดให้ดูเลยจัดให้พระอาจารย์ผู้รอบรู้แจ่มแจ้งด้านพระกริ่งไป ติดพระสมเด็จไป2องค์พระรอด1 เลือกได้พระสมเด็จ2องค์ ได้ทุนคืนเดินหาองค์ที่ชอบใหม่ พระอาจารย์บอกพระสมเด็จแท้เหมือนพระใหม่มีนะ ดูยากหน่อยแต่ถ้าได้ แพงมากนะเธอ หัดดูไว้ให้ดี เก๊แท้ต่างกันนิดเดียว แต่ความแห้งเก่า รอยแยกบนเนื้อพระหลุม บ่อ ก้อนมวลสารที่ติดในเนื้อพระ ต้องเป็นธรรมชาติ ชี้ว่าแท้เก๊ ส่องพระสมเด็จ ถ้าเจอเศษรักทองดูดกันยุบลงไปในเนื้อ นี่แหละพระสมเด็จ

มาดูพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่สภาพเดิมๆเหมือนใหม่ๆ เพิ่งกดออกจากแม่พิมพ์ แบบนี้ที่เคยได้จับของพระอาจารย์ แล้วนึกในใจวันหนี่งต้องหาให้ได้ และแล้วความฝันก็เป็นจริง สมเด็จวัดระฆังองค์นี้ แป้งโรยพิมพ์ยังอยู่ชัด เนื้อปริแยกเก่าธรรมชาติ ผิวเมือกปูนหรือที่เรียกแป้งโรยพิมพ์ยังอยู่เต็มๆ เนื้อพระเหลืองนวลตรงที่ถูกสัมผัส ชี้ชัดได้ว่า พระอายุเกินร้อยปี ความเก่าความซึ้งเงาสว่างของเนื้อพระที่โดนสัมผัสต้องมี ข้างตอกตัดเป็นข้อยุติของเซียนเจี๊ยบในการดูพระสมเด็จวัดระฆัง ตัดข้างได้พอดี สมบรูณ์ทั้งองค์ ด้านหลังแบบหลังทื่อหรือเรียกหลังเรียบ แต่มีรอยยุบแยก ฝ้าเมือกปูนทั่วหลัง ส่วนที่ถูกสัมผัสออกเหลืองนวล ขอบมุมยุบลงเป็นธรรมชาติ มีฝ้ารักสีน้ำตาลให้เห็นบางๆ บอกถึงพระลงรักปิดทอง ผ่านกาลเวลา พอเหลือให้เห็นบ้าง เจอพระสมเด็จแบบนี้อบ่าล้างอย่าทำอะไร ทำได้อย่างเดียวหากรอบขึ้นคอ พระสมเด็จวัดระฆังมาโปรดแล้วครับท่าน
เชื่อเซียนเจี๊ยบนะ ยังมีพระสมเด็จที่รอให้เพื่อนหยิบอีกเยอะเลย

เจี๊ยบบางกรวยเดินตามรอยพระอาจารย์ 087 0030897