เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.2567 นี้เป็นต้นไป ที่นักลงทุนจะมีเวลาเทรดหุ้นได้มากขึ้น เนื่องจากตลาดทุนทั้ง 3 ตลาด คือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ SET, ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) จะขยายเวลาทำการซื้อขาย โดยเปิดให้ ซื้อขายช่วงบ่ายเร็วขึ้น 30 นาที
เวลาซื้อขายใหม่สำหรับภาคบ่ายของ SET กับ mai จะเริ่มตั้งแต่ 14.00-16.30 น. ส่วนช่วงเวลาซื้อขายช่วงก่อนเปิดตลาด (Pre-Opening Period) ของภาคบ่าย ก็จะเขยิบเร็วขึ้นเป็น 13.30–14.00 น.
สำหรับ TFEX จะขยายเวลาทำการซื้อขายในช่วงกลางวันสำหรับสินค้ากลุ่ม Equity Futures & Options, Currency Futures และ Interest Rate Futures โดยเวลาทำการซื้อขายช่วงบ่าย (Afternoon Session) ที่ปรับใหม่จะเป็น 13.45–16.55 น. ทำให้เวลาซื้อขายก่อนเปิดตลาดภาคบ่าย ขยับเร็วขึ้นเป็น 13.15–13.45 น.
การปรับเพิ่มเวลาซื้อขายหลักทรัพย์ครั้งนี้มาจากการเปิดระดมความคิดเห็น และการศึกษาของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยพิจารณาเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ของต่างประเทศ พบว่ามีระยะเวลาซื้อขายหลักทรัพย์นานกว่าตลาดหุ้นไทย โดยระยะเวลาเปิดทำการซื้อขายของ SET และ mai อยู่ที่ประมาณ 4.5 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่ตลาดหุ้นในต่างประเทศมีระยะเวลาเปิดทำการซื้อขายอยู่ที่เฉลี่ย 5-7 ชั่วโมงต่อวัน
ขณะเดียวกัน ยังเป็นผลดีต่อนักลงทุนในด้านการเพิ่มโอกาส และความสะดวกของการลงทุน ทำให้นักลงทุนมีเวลาในการซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ลงทุนได้ทันกับความเคลื่อนไหวของข่าวสารต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดโลก ตลอดจนยังอาจ เป็นแรงหนุนต่อมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ได้ด้วย
การเพิ่มเวลาเทรดครั้งนี้เป็นไปตามแผนงานที่ตลาดหลักทรัพย์ฯวางไว้ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค ความผันผวนต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
การยกระดับบริการต่างๆก็เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย ควบคู่ไปกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
อย่าลืม 25 มี.ค.นี้ ดีเดย์เวลาซื้อขายใหม่ของภาคบ่ายทั้ง 3 ตลาด SET mai และ TFEX เชื่อว่านักลงทุนจะได้รับประโยชน์จากนาทีลงทุนที่เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย!
คุณนายพารวย
ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน...สู่ความมั่งคั่ง" หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ