WFH นานเกินไป รถไม่ได้ขับไปไหน จะดูแลอย่างไรดี?

ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 การทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home แทบจะกลายเป็นเรื่องปกติของการทำงานในปัจจุบัน ซึ่งแม้ว่าจะสะดวก และปลอดภัยไม่เสี่ยงกับการไปรับเชื้อภายนอก แต่สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว การต้องทำงานที่บ้านก็ทำให้แทบจะไม่ได้เดินทางไปไหน จนทำให้ยานพาหนะที่เคยขับขี่ไปทำงานต้องจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน ซึ่งแน่นอนว่าการจอดรถทิ้งไว้โดยไม่ได้ขับไปไหนเลยก็เสี่ยงต่อการทำให้รถเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ วันนี้ TIPINSURE เลยนำวิธีการดูแลรักษารถที่ต้องจอดทิ้งไว้นาน ๆ ในช่วง COVID – 19 มาฝาก เพื่อใช้ในการดูแลรถเมื่อคุณไม่สามารถขับไปไหนได้นาน ๆ

1. จอดรถในที่ปลอดภัย

การเลือกที่จอดรถเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ดังนั้นจึงควรเลือกจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย และเหมาะสมมากที่สุด โดยหากเป็นไปได้ก็ควรจอดในที่ร่ม อย่างเช่นในอาคารจอดรถ หรือโรงรถ แต่ถ้าหากไม่สามารถจอดรถในที่ร่มได้ ก็หลีกเลี่ยงการจอดในบริเวณที่เป็นป่ารก แหล่งน้ำ หรือใกล้ที่ทิ้งขยะ เพราะอาจทำให้กลายเป็นแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตที่ไม่พึงประสงค์ เช่น หนู งู แมลงสาบ และอื่น ๆ อีกทั้งยังควรเลี่ยงการจอดรถใกล้กับบริเวณที่มีวัสดุไวไฟวางอยู่ใกล้ ๆ หรือถังเชื้อเพลิง เพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ยังควรเช็กระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก รวมถึงปริมาณน้ำกลั่นในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับสูงสุดตามขีดที่กำหนด อีกทั้งยังควรเติมลมยางให้มากกว่าปกติ เช่น หากปกติเติมลมยางที่ 35 ควรเติมเพิ่มไปอีกประมาณ 5 ปอนด์ เพื่อรักษาโครงสร้างของยาง หลีกเลี่ยงการใช้แม่แรงยกรถขึ้นเพื่อให้ทั้ง 4 ล้อลอยขึ้นจากพื้น เพราะอาจส่งผลกับสปริงโช้คอัพของรถได้ ปิดท้ายด้วยการหาผ้ามาคลุมรถ เท่านี้ก็เรียบร้อย

2. ระมัดระวังเรื่องสีรถ 

การจอดรถทิ้งนาน ๆ โดยไม่ได้ดูแลสีรถเลย ก็มีโอกาสที่สีรถอาจเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้ โดยเฉพาะหากจอดไว้บริเวณที่มีความชื้นมาก ๆ อาจทำให้รถขึ้นสนิมได้ ดังนั้นก่อนที่จะจอดรถทิ้งไว้ควรนำรถไปล้าง แล้วเคลือบสีด้วยน้ำยาที่มีคุณสมบัติเคลือบสีรถ เพื่อให้สีรถคงสภาพอยู่ได้นาน และถ้าหากคิดว่าบริเวณไหนเสี่ยงจะมีสนิมขึ้นได้ง่าย ก็ควรหาน้ำมันหล่อลื่นมาหยอดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสนิมจนต้องมานั่งขัดสีรถให้เสียเวลา

3. ปลดเบรกมือเสมอ

การดึงเบรกมือทิ้งไว้ นอกจากจะส่งให้ในกรณีที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายรถตอนที่คุณไม่อยู่เป็นไปได้ยากแล้ว ก็อาจยังทำให้ผ้าเบรกไปติดกับจานเบรก และทำให้เบรกมีปัญหาภายหลังได้ ดังนั้นจึงควรปลดเบรกมือ และปลดเกียร์ว่างเอาไว้ด้วยจะดีที่สุด แต่ถ้าหากต้องจอดในพื้นที่ลาดเอียง ควรหาก้อนหิน หรืออิฐมาขัดล้อไว้ไม่ให้รถเลื่อนจะดีกว่า

4. อย่าลืมดูแลรักษาหัวเทียน

สำหรับคนที่พอจะมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ การจอดรถไว้นาน ๆ โดยไม่ได้ใช้งานอาจทำให้หัวเทียนมีปัญหาได้ ดังนั้นทางที่ดีก็ควรถอดหัวเทียนออก แล้วฉีดน้ำมันบริเวณซ็อกเก็ตปลั๊ก วิธีนี้จะช่วยป้องกันความชื้นเข้าไปในห้องเครื่อง และป้องกันไม่ให้ฝาสูบเป็นสนิมได้ จากนั้นจึงค่อยใส่หัวเทียนกลับเข้าไปให้สนิท เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นหากต้องใช้รถในกรณีฉุกเฉิน

5. ทำความสะอาดรถให้สะอาด 

บรรดาขยะ หรือเศษอาหารที่คุณทิ้ง หรือเผลอทำตกไว้ในรถ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รถมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ หรือดึงดูดสัตว์เล็ก ๆ อย่างเช่น มด หรือหนู อีกทั้งยังอาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ ดังนั้นหากต้องจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ ควรทำความสะอาดภายในรถให้เรียบร้อยก่อน โดยควรเช็ดทำความสะอาดภายในรถด้วยแอลกอฮอล์ 70% เพื่อฆ่าเชื้อโรค ดูดฝุ่น ทำความสะอาดพรมปูพื้นรถ และเก็บเศษขยะทั้งหมด จากนั้นปิดท้ายด้วยการฉีดน้ำหอมปรับอากาศ เท่านั้นก็เรียบร้อย และช่วยให้รถของคุณสะอาดไปได้ระยะหนึ่งเลย

6. ถอดขั้วแบตเตอรี่เพื่อป้องกันแบตเตอรี่หมด

หากคิดว่าไม่สะดวกจะกลับมาดูแลรถถึงขั้นไม่สามารถมาสตาร์ทรถได้ ก็ควรถอดขั้วแบตออกให้หมด เพราะการจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ โดยไม่ถอดขั้วแบตเตอรี่อาจทำให้เกิดการคายประจุไฟ และทำให้แบตเตอรี่หมดได้ แต่ถ้าหากพอจะมีเวลามาดูแลรถบ้างเล็กน้อยก็ไม่จำเป็นต้องถอดขั้วแบตเตอรี่และหมั่นมาสตาร์ทรถ และขับออกไปวนบริเวณใกล้ ๆ บ้านสัปดาห์ละครั้ง ก็ช่วยคงสภาพแบตเตอรี่ได้เช่นกัน

7. สตาร์ทรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง

รถที่จอดทิ้งไว้โดยไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหนเลย จะทำให้รถเสื่อมสภาพได้เร็วมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่อาจมีปัญหาได้ ดังนั้นควรหาโอกาสอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง มาสตาร์ทรถ ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง ปริมาณน้ำกลั่นในหม้อน้ำ และเติมให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม จากนั้นขับวนไปในบริเวณใกล้ ๆ เพื่อให้รถได้ทำงานเต็มระบบ ซึ่งจะชะลอการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์

นอกจากนี้การเติมน้ำมันรถ ยังควรเติมน้ำมันให้เต็มถังไว้เสมอ เพราะการจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ โดยไม่ได้เติมน้ำมันให้เต็ม บริเวณที่ว่างในถังน้ำมันอาจเกิดการควบแน่นของความชื้น ทำให้ถังน้ำมันเป็นสนิม และระบบน้ำมันอุดตันได้ที่สุด

8. นำรถไปเช็กสภาพเมื่อถึงเวลาที่กำหนด

 แม้ว่ารถจะถูกจอดทิ้งไว้นาน ๆ โดยไม่ได้ขับไปไหนเลย แต่การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และการเช็กสภาพรถตามระยะที่กำหนดก็ยังคงต้องทำอยู่ ซึ่งถ้าหากไม่ค่อยได้ใช้รถ และระยะไมล์ไม่ถึงตามที่คู่มือรถกำหนดไว้ ก็อาจใช้วิธีการนำรถเข้าไปตรวจเช็กสภาพอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน เพื่อให้รถยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากที่สุด

9. เช็กอายุประกันรถยนต์ อย่าปล่อยให้ขาด

นอกเหนือจากการดูแลรักษาสภาพรถยนต์แล้ว ประกันรถยนต์ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะการต้องจอดรถไว้นาน ๆ อาจทำให้เผลอลืมต่อประกันรถยนต์ และมีปัญหาได้เมื่อต้องกลับมาใช้รถ ดังนั้นจึงควรหมั่นเช็กประกันรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถพร้อมสำหรับการใช้งาน

และในช่วงสถานการณ์ COVID -19 การซื้อประกันรถยนต์กับ TIPINSURE.com ถือเป็นทางเลือกที่ดีเพราะนอกจากสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่าย ภายใน 4 ขั้นตอน และรอรับกรมธรรม์ผ่านทางอีเมลได้แล้ว ไม่ต้องออกจากบ้าน เพื่อไปเสี่ยงกับการติดเชื้อ แถมการเช็กวันหมดอายุของประกันรถยนต์ก็สามารถทำได้ง่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้รถคันโปรดของคุณพร้อมเสมอสำหรับการใช้งาน 

ที่มา ทิพยประกันภัย