บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ชวนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้ากันอย่างถ่องแท้ผ่าน 5 เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า
1. ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็มหนึ่งครั้งรถ รถ EV ที่นับเฉพาะรุ่นที่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้ จะมี 2 ประเภท คือ Plug-in Hybrid (PHEV) และ Battery Electric Vehicle (BEV) โดย PHEV ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ หรือที่เรียกว่ารถไฮบริด ซึ่งมีข้อได้เปรียบในด้านการใช้พลังงานจากทั้ง 2 แบบ แต่ต้องแลกมากับแบตเตอรี่ขนาดเล็ก โดยระยะทางที่วิ่งได้ด้วยพลังไฟฟ้า จะขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ ส่วนใหญ่อยู่ที่ 6-14 kW สามารถวิ่งได้ 25-50 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ส่วน BEV ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% เติมพลังงานผ่านการชาร์จไฟเท่านั้น จะมีแบตเตอรี่ความจุ 60-90 kW หรือมากกว่านั้นในอนาคต วิ่งได้ไกลถึง 338-473 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง
2. การชาร์จรถ EV สามารถทำที่บ้านได้หรือไม่ การชาร์จรถ EV ด้วยเต้ารับไฟบ้าน เพื่อความปลอดภัยต้องทำการขอมิเตอร์ไฟที่รองรับกระแส 15A จากการไฟฟ้า พร้อมติดตั้งเต้ารับเฉพาะสำหรับใช้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือถ้าเป็นไปได้ควรติดตั้งเครื่อง Home Charger ที่รับกระแสไฟได้ 16-32 A สามารถชาร์จได้รวดเร็ว เต็มประสิทธิภาพ และมีระบบตัดไฟเมื่อชาร์จเต็ม และระบบป้องกันไฟเกินและความร้อนสูง ให้ความปลอดภัยต่อบ้าน ระบบไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เสียหาย
3. รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จนานแค่ไหน เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ของรถยนต์ EV จะขึ้นอยู่กับขนาดความจุของแบตเตอรี่และค่าพลังงานที่ปล่อยจากเครื่องชาร์จที่ต่างกัน หากใช้สายชาร์จแถม (Mode 2) ก็จะใช้เวลาชาร์จนาน หากใช้ชาร์จรถไฮบริดที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก ความจุ 6–14 kW จะใช้เวลาประมาณ 3–7 ชั่วโมง และหากเป็นรถ EV เต็มรูปแบบ แบตเตอรี่จะมีขนาดใหญ่ 60–90 kW ใช้เวลาชาร์จนานถึง 40 ชั่วโมง และหากติดตั้ง Home Charger จะสามารถช่วยย่นระยะเวลาชาร์จได้มาก ตามประสิทธิภาพรถและรุ่นรถ โดยชาร์จรถไฮบริดจนเต็มได้ในเวลาเพียง 1-3 ชม. ส่วนรถพลังงานไฟฟ้าล้วน จะลดเวลาชาร์จจนเต็ม ให้เหลือเพียง 3-4 ชม. เท่านั้น
4. ราคาค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่าย ค่าชาร์จพลังงานไฟฟ้าของรถ EV จะประหยัดกว่าเติมน้ำมันเชื้อเพลิงถึง 3 เท่า! โดยอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง จะอยู่ที่ 3 บาท/กิโลเมตร ส่วนค่าไฟในการชาร์จรถ EV จะอยู่ราวๆ 0.7–1 บาท/กิโลเมตร เท่านั้น แต่หากชาร์จตามสถานที่อื่นๆ ก็อาจจะมีเพิ่มค่าบริการอีกเล็กน้อย ตามแต่สถานที่
5. ชาร์จนอกสถานที่หรือที่สถานีชาร์จได้หรือไม่ ในประเทศไทยเริ่มมีการให้บริการชาร์จไฟสำหรับรถ EV ทั้งตามสถานีบริการน้ำมันและห้างสรรพสินค้าให้เห็นมากขึ้น ทั้งนี้ EV Station เราเตรียมพร้อมให้บริการทางด้านพลังงานทางเลือก ที่ PTT Station นำมารองรับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งหมด 30 สถานี โดยเริ่มการให้บริการด้วยเครื่องชาร์จรูปแบบ Normal Charge ที่มีหัวชาร์จประเภท AC-Type 2 ตามมาตรฐานของประเทศไทย กำลังไฟ 7.4 กิโลวัตต์ จำนวน 25 สถานี และเครื่องชาร์จในรูปแบบ Quick Charge กำลังไฟ 50 กิโลวัตต์ มีหัวชาร์จใช้งาน 3 รูปแบบ ประกอบด้วยประเภท AC-Type 2, DC-CCS COMBO 2 และ DC-CHAdeMO สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 หัว ระหว่าง DC และ AC รองรับการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าทุกค่ายอีกจำนวน 5 สถานี ที่พร้อมให้บริการทดลองชาร์จฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งเปิดให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน EV Station บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Andriod เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ
ที่มา บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) , เฟสบุ็ค OR Official