ตู้บุญเติม รุกบริการเติมอี-วอลเล็ท ผนึกพันธมิตรออกแคมเปญ “เติมเพลิน ลุ้น PLAY” เอาใจเกมเมอร์สายเติม

ณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (FSMART) เปิดเผยว่า บริการเติมเงินอี-วอลเล็ท ผ่านตู้บุญเติม มีอัตราเติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19  กระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้บริการอี-วอลเล็ท ในวิถีใหม่หรือ New Normal   หันมาใช้บริการผ่านตู้อัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงในการพบปะสัมผัสกับผู้คน FSMART จึงร่วมกับพันธมิตร ออกแคมเปญโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นให้มีการใช้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี  

ทั้งนี้ ตู้บุญเติม มีบริการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงิน อี-วอลเล็ท ของค่ายต่าง ๆ มากที่สุดถึง 6 ราย คือ mPAY, TrueMoney Wallet , BeWallet , Rabbit LINE Pay,  Shopee Pay และรายล่าสุด SABUY Money Wallet ที่จะเริ่มให้บริการเติมเงินในเดือนเมษายนนี้  

ในปีที่ผ่านมา มีรายการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอี-วอลเล็ทผ่าน “ตู้บุญเติม” สูงถึง 73.33 ล้านรายการ หรือเฉลี่ยเดือนละมากกว่า 6 ล้านรายการ  ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 90% จากปี 62 ที่มี  44.04 ล้านรายการ และในปี 2564 นี้  ยังมีแนวโน้มการเติม อี-วอลเล็ท ผ่าน “ตู้บุญเติม” เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง   คาดว่าปีนี้มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกกว่า 50 ล้านรายการ ทั้งจากลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการอื่นๆของ “ตู้บุญเติม” อยู่แล้ว  และเพิ่มการใช้บริการต่อเบอร์ของลูกค้าอี-วอลเล็ท เดิม ให้สูงขึ้นมากกว่า 7 ครั้งต่อเดือน  

ล่าสุด บริษัทได้ออกแคมเปญ “เติมเพลิน ลุ้น Play”  เอาใจนักเติมสายเกมเมอร์   โดยผู้เติมเงินเข้ากระเป๋า อี-วอลเล็ท ของทั้ง 6 ค่าย ที่ใช้บริการที่ “ตู้บุญเติม” ทั่วประเทศ   ในทุก ๆ ครั้ง นอกจากจะได้รับแต้ม “บุญเติม รีวอร์ด” เพื่อนำไปแลกรับของกิน-ของใช้และลุ้นรางวัลใหญ่ เช่น ทองคำ จักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือและรางวัลอื่น ๆ แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. – 31 พ.ค. 64 ยังจะได้รับสิทธิ์ ลุ้นรับ PlayStation5 จำนวน 3 รางวัล และเครื่องเล่นเกมส์ New Nintendo Switch จำนวน 9 รางวัล โดยจะมีการจับรางวัล 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 31 มีนาคม 2564, ครั้งที่ 2 วันที่ 30 เมษายน 2564 และครั้งที่ 3 วันที่ 31 พฤษภาคม 2564  รวม 12 รางวัล  ของรางวัลมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 186,084 บาท

“การออกแคมเปญ เพื่อกระตุ้นการใช้บริการเติมเงิน อี-วอลเล็ท ผ่านตู้บุญเติม นอกจากจะเป็นการเอาใจและคืนกำไรให้กับลูกค้าของเราแล้ว ยังถือเป็นการสนับสนุนสังคมการใช้บริการแบบไร้การสัมผัส หรือ Contactless Payment  เพื่อลดความเสี่ยงในการพบปะสัมผัสกับผู้คน และเพิ่มความปลอดภัย  โดยหลังเกิดวิกฤติจาก COVID-19 ทางบริษัทได้ออกมาตรการและกำชับให้เอเย่นต์ตัวแทนและลูกข่ายที่เป็นผู้ดูแลในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด  ฉีดและเช็ดน้ำยาฆ่าเชื้อที่ตัวตู้ บริเวณตู้และจุดสัมผัสต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อดูแลและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการซึ่งเป็นลูกค้าที่มีความมั่นคงและใช้บริการตู้บุญเติม เป็นประจำที่มีมากกว่า 20 ล้านเลขหมาย” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว