โลกละลายเพราะภัยร้ายโลกร้อน เตือนเมืองใหญ่ทั่วโลกเสี่ยงถูกน้ำท่วม

โลกละลายเพราะภัยร้ายโลกร้อน!!! ล่าสุด เมื่อช่วงปลายปี 2562 คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) หน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (UN) ได้เปิดเผยไว้ในรายงานพิเศษว่าด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับ ภาวะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยระบุว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโดยน้ำมือมนุษย์ กำลังส่งผลร้ายแรงต่อมหาสมุทร ทั้งในเรื่องของระดับน้ำทะเลสูงขึ้น น้ำแข็งละลาย และส่งผลต่อสรรพชีวิตในทะเล

รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า แผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์กำลังละลายอย่างต่อเนื่อง โดยหากน้ำแข็งของกรีนแลนด์ละลายทั้งหมด น้ำทะเลอาจสูงขึ้นถึง 6 เมตร และระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นอีก 1.1 เมตรภายในปี 2100 หรืออีก 81 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ต่ำตามแนวชายฝั่งต้องเผชิญกับน้ำท่วมอย่างน้อยปีละครั้งภายในปี 2050 เมืองใหญ่ทั่วโลกอย่าง จาการ์ตา ธากา เชนไน มุมไบ เซี่ยงไฮ้ ลอนดอน นิวยอร์ก ฯลฯ หรือกระทั่ง กรุงเทพฯ เสี่ยงถูกน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังคาดการณ์กันอีกด้วยว่า น้ำแข็งในพื้นที่ต่างๆ ก็จะยังคงละลายเช่นเดียวกับธารน้ำแข็งอัลไพน์ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยจากบันทึกของนักวิทยาศาสตร์ที่เริ่มติดตามธารน้ำแข็งในภูมิภาคนี้มาตั้งแต่ปี 2436 ระบุว่า บางจุดสูญเสียปริมาณน้ำแข็งไปแล้วถึงร้อยละ 90 และระบุเช่นกันว่า เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ธารน้ำแข็งอัลไพน์อาจหายไปทั้งหมดในช่วงปลายศตวรรษนี้หากไม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แม้แต่เทือกเขาแอลป์ก็อาจจะสูญเสียมวลน้ำแข็งอย่างน้อยครึ่งหนึ่งภายในปี 2643

ความสูญเสีย โดยเฉพาะในรูปแบบของภัยพิบัติ ที่มีสาเหตุสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือโลกร้อนไม่ใช่สถานการณ์เกินจริงที่พบได้เพียงในตำนาน งานเขียน หนังสือนิยาย หรือเป็นภาพที่จำลองขึ้นในภาพยนตร์ แต่กำลังปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถระบุตัวเลขวันเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติจากจากปรากฏการณ์นี้ได้ชัดเจนขึ้นทุกปี