โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยของซีพี ได้ฤกษ์เปิดเดินเครื่องผลิต พร้อมส่งถึงมือบุคลากรทางแพทย์ 1 แสนชิ้น

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วย ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ศ.นพ.วิชัย เบญจชลมาศ ผู้อำนวยการศูนย์โรคหัวใจ รพ.จุฬาฯ นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือฯ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือฯ พร้อมคณะแพทย์ รพ.จุฬาฯ และผู้บริหารเครือซีพี เข้าเยี่ยมชม “โรงงานซีพีหน้ากากอนามัยฟรีเพื่อคนไทย” ที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เปิดสายการผลิตหน้ากากอนามัยเป็นวันแรก รวมทั้งเครือซีพีได้ทำการส่งมอบหน้ากากอนามัยจำนวน 100,000 ชิ้น ให้กับ รพ.จุฬาลงกรณ์ฯ

ประธานอาวุโส เครือซีพี เปิดเผยว่า  ยินดีและมีความสุขมากที่เครือซีพีสามารถสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อแจกฟรีให้แก่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ตลอดจนประชาชนได้ภายในเวลา 5 สัปดาห์  ซีพีเห็นความสำคัญว่าสถานการณ์ขณะนี้ต้องเร่งปกป้องแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้มีพลังที่จะปกป้องประชาชน ดังนั้นจึงสำคัญมากที่ต้องผลิตหน้ากากอนามัยแจกจ่ายให้กับทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ สภากาชาดไทย จะเป็นองค์กรดูแลแจกจ่ายหน้ากากอนามัยส่งต่อไปยังทุกโรงพยาบาลในประเทศ และส่วนที่เหลือจึงแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไปฟรี โดยกำลังการผลิตปัจจุบันตั้งเป้าคือวันละ 1 แสนชิ้น หรือ 3 ล้านชิ้นต่อเดือน โดยเป็นโรงงานอัตโนมัติใช้ผู้ควบคุมในโรงงานเพียง 3 คน เพื่อให้เป็นโรงงานที่ปลอดเชื้อโรคสูงสุด สามารถผลิตได้ 24 ชั่วโมง

ซีพี สร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยบนพื้นฐานค่านิยม 3 ประโยชน์ ที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนส่วนรวมเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งในภาวะที่ประเทศเผชิญวิกฤต หากมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้แพทย์และโรงพยาบาลต่าง ๆ ต้องรับภาระสูงสุด ดังนั้นซีพีเห็นว่าหน้ากากอนามัยถือเป็นอุปกรณ์ป้องกันสำคัญในวิกฤตนี้ไม่ให้เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดลุกลามจนโรงพยาบาลต้องรับภาระหนัก ซีพีทำธุรกิจในแผ่นดินไทย ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่เครือฯ จะได้รับใช้แผ่นดินไทยในยามวิกฤต ช่วยผลิตหน้ากากอนามัยให้กับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์

ศ.นพ.สุทธิพงศ์   เปิดเผยว่า รพ.จุฬาฯ ขอขอบคุณเครือซีพีที่สร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อแจกจ่ายฟรีให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ  ทั้งนี้ รพ.จุฬาฯ จะประสานความร่วมมือกับสภากาชาดไทยเพื่อเป็นเครือข่ายในการกระจายหน้ากากอนามัยไปยังบุคลากรทางการแพทย์ตามโรงพยาบาลในจังหวัดต่าง ๆ อย่างครอบคลุม  โรงงานหน้ากากอนามัยนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยประเทศไทยรอดพ้นภาวะวิกฤต เป็นการสร้างอาวุธ เกราะในการป้องกันให้กับแพทย์และบุคลากร  โดยหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้ก็มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.เรียบร้อยแล้ว  และจากการที่ได้เยี่ยมชมก็เห็นถึงประสิทธิภาพว่าเป็นโรงงานที่สามารถผลิตหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพได้จริง

นอกจากนี้ นายธนินท์ ยังกล่าวถึงการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ว่า ซีพีในทุกประเทศทั่วโลกจะไม่มีการเลิกจ้างพนักงานออกแม้แต่คนเดียว และจะดูแลพนักงานของซีพีให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาเพื่อช่วยปกป้องพนักงานไม่ให้เข้าไปเผชิญความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ มีการใช้มาตรการทำงานที่บ้านโดยยังจ่ายเงินเดือนและรายได้เช่นเดิม

และ ประเมินว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก เป็นวิกฤตระดับโลกเกิดขึ้นกะทันหันทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลง สำหรับประเทศไทยส่งผลให้ธุรกิจสำคัญอย่างภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีผลกระทบทั้งระบบ จึงเสนอให้เตรียมแผนเชิงรุกด้านการท่องเที่ยวและส่งออกไว้เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสะสมพลังไว้ และขอให้ภาคเอกชนและธุรกิจต่าง ๆ เตรียมพร้อมด้านกำลังคน และภาคแรงงานไว้ หากสามารถที่จะช่วยเหลือไม่เลิกจ้างแรงงาน ทำให้ผู้คนยังมีกำลังจับจ่ายภายในประเทศได้จะเป็นเรื่องที่ดี เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วจะเป็นโอกาสของประเทศไทยอย่างมาก เพราะหลังวิกฤตแล้วมีโอกาสแน่นอน