เครือซีพี ร่วมภูมิใจ 2 ชุมชนเครือข่ายอนุรักษ์ทะเลไทย คว้ารางวัลสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ เร่งฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล และพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน

รายงานข่าวเปิดเผยว่า กรมประมงได้จัดงานวันสถาปนากรมประมงครบรอบปีที่ 94 และวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2563 โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัลแก่เกษตรกรดีเด่น โดยในปีนี้ มีชุมชนเครือข่ายที่บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการทำงานด้านอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลตั้งแต่ปีพ.ศ. 2560 ได้แก่ ชมรมประมงพื้นบ้านตำบลปะนาเระ  อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับรางวัลชนะเลิศ สถาบันเกษตรกรดีเด่น กลุ่มเกษตรกรทำการประมง หรือกลุ่มเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ประจำปี 2563 และ สมาคมประมงพื้นบ้านหัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 สถาบันเกษตรกรดีเด่นฯ

นายสุไลมาน ดาราโอะ ประธานชมรมประมงพื้นบ้านต.ปะนาเระ   เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ต้องขอยกความดีให้ชาวประมงในชุมชนทุกคน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน สิ่งหนึ่งที่เราตระหนักมากที่สุดคือการป้องกันทรัพยากรธรรมชาติและการฟื้นฟูที่เราสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำธนาคารสัตว์น้ำ การสร้างเขตอนุรักษ์ตามแนวประมงชายฝั่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ กรมประมง  และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่เข้ามาช่วยส่งเสริมด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูประมงชายฝั่ง รวมถึงองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการร้านอวนชาวเล ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องมือประมงโดยชาวประมงเพื่อชาวประมง ที่มีโครงสร้างหน้าที่ชัดเจนและเป็นระบบ ทั้งการเช็คสต๊อกสินค้า การทำบัญชีรายรับรายจ่าย ทำให้เกิดการดำเนินงานที่โปร่งใส จนสามารถขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ได้สำเร็จ ถือเป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนและทำให้ชุมชนประมงเล็กๆ ที่ทำการประมงแบบยั่งยืน เติบโตและก้าวต่อไปอย่างมั่นคงได้เช่นทุกวันนี้

ด้านนายวิรชัช เจะเหล็ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านหัวไทร กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้ เกิดจากแรงบันดาลใจของชุมชนที่เกิดปัญหา การต่อสู้ของชุมชนและหลายหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือให้ชุมชนพัฒนาและมีแรงสู้ต่อ ซึ่งจุดประกายขึ้นมาจากทั้งกรมประมงที่เข้ามารับรู้ปัญหาที่แท้จริงของชาวบ้านและทีมชุมชนสัมพันธ์ และเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ลงพื้นที่สอบถามความต้องการของชาวบ้าน และ ร่วมส่งเสริมโดยการนำนวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำมาใช้ในชุมชน ทั้งยังนำเทคโนโลยีพลังงานทดแทน (โซล่าเซลล์ และกังหันลม) เข้ามาผสมผสานจนเกิดเป็นระบบอนุรักษ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  รวมถึงถอดบทเรียนงานอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรจนเกิดแนวคิดการบริหารจัดการซั้ง (บ้านปลา) ในรูปแบบหมุนเวียน เพราะการวางซั้งบ้านปลาในแต่ละครั้ง บริเวณตามแนวเชือกซั้งจะมีหอยแมลงภู่มาเกาะ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการอนุรักษ์ ชาวประมงสามารถนำหอยแมลงภู่ไปบริโภคหรือสร้างรายได้ และเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำ ยังทำให้งานอนุรักษ์ดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังร่วมกันต่อยอดการเพิ่มมูลค่า การเพิ่มผลิตภาพให้กับทรัพยากรสัตว์น้ำที่จับมาได้ ภายใต้ชื่อ “รอยยิ้มชาวเล” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นำไปสู่การพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ถือเป็นการต่อยอดงานอนุรักษ์ไปสู่การสร้างรายได้ ตามแนวคิด “อนุรักษ์เพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ อนุรักษ์กินได้ อนุรักษ์มีรายได้”

ดร.อธิป อัศวานันท์ ผู้บริหารสำนักบริหารความยั่งยืนธรรมาภิบาลบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์จำกัด เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ รู้สึกยินดีกับชุมชนประมงเครือข่าย ทั้ง 2 พื้นที่ที่ได้รับรางวัลสถาบันเกษตรกรดีเด่นในครั้งนี้ ซึ่งเครือซีพีให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล และการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืน ตามกรอบการทำงานอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลเชิงบรูณาการร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเริ่มส่งเสริมงานอนุรักษ์ในพื้นที่ตำบลปะนาเระด้วยการวางปะการังเทียมร่วมกับกรมประมงเมื่อปี 2560 และนำนวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำมาใช้ในพื้นที่ แบ่งปันองค์ความรู้ โดยคำนึงถึงวัฒนธรรม ภาษาท้องถิ่นเป็นหลัก ทำให้สมาชิกทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูล ความรู้ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงส่งเสริมการบริหารจัดการ ร้านอวนชาวเล ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องมือประมงโดยชาวประมงที่สร้างรายได้ให้แก่สมาชิกชุมชนชาวประมง

นอกจากนี้ยังได้ร่วมดำเนินการอนุรักษ์สัตว์น้ำกับสมาคมประมงพื้นบ้านหัวไทร และร่วมพัฒนารูปแบบการอนุรักษ์ ซั้งหมุนเวียน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทรัพยากรร่วมกับเครือข่ายการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเลไทย อีกทั้งยังพัฒนาต่อยอดงานอนุรักษ์ไปสู่การสร้างรายได้ โดยการเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป ภายใต้ชื่อ รอยยิ้มชาวเล เกิดเป็นรายได้ที่ยั่งยืนสู่ชุมชน ทั้งนี้ เครือซีพีมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่จะต่อยอดการดำเนินงานอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลร่วมกับชุมชนในเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมจับมือกันพัฒนาทะเลไทยอย่างยั่งยืนต่อไป