สิงห์อาสา จับมือ ฮุก 31 ลงพื้นที่นครราชสีมา-ชัยภูมิ เร่งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จับมือเครือข่ายกู้ภัย มูลนิธิพุทธธรรม 31 (ฮุก 31) จ.นครราชสีมา เร่งช่วยเหลือแจกจ่ายน้ำดื่ม และข้าวสาร อาหารพร้อมทาน (ข้าวรีทอร์ท) อาหารกล่อง เข้าช่วยเหลือพี่น้องชาว นครราชสีมา และชัยภูมิ หลังมีน้ำท่วมสูงในหลายอำเภอ พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างใกล้ชิด

นับตั้งแต่ที่พายุเตี้ยนหมู่ได้เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้ฝนตกหนักต่อเนื่องมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง โดยทีมสิงห์อาสา ร่วมกับ เครือข่ายต่างๆทั้ง เครือข่ายกู้ภัย-มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัย ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดทีมลงพื้นที่แจกสิ่งของจำเป็นและเฝ้าระวังอันตราย ช่วยให้ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยหลายจุดเข้าถึงได้ยากเพราะการสัญจรถูกตัดขาดจากปริมาณน้ำ

โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ต.ค.64 สิงห์อาสา ได้ร่วมกับ มูลนิธิพุทธธรรม 31 (ฮุก 31) จ.นครราชสีมา ร่วมลงพื้นที่นำน้ำดื่ม และข้าวสาร อาหารพร้อมทาน (ข้าวรีทอร์ท) รวมถึงอาหารกล่อง เข้าไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อน และช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เบื้องต้น ในพื้นที่บ้านลำเชิงไกร ต.โคกสูง อ.เมือง, บ้านอ้อ และ บ้านไพล ต.กำปัง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา รวมถึง บ้านกุดละลม ต.นาหนองแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า กว่า 10 ปี ที่สิงห์อาสา ได้เกิดขึ้นมาจากการรวมตัวกันของพนักงานบริษัทบุญรอดฯ ในช่วงอุทกภัย ปี 54 จากปณิธานการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมของ “พระยาภิรมย์ภักดี” ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ จนปัจจุบันขยายสู่กลุ่มเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้ง เครือข่ายนิสิตนักศึกษา เครือข่ายหน่วยงานกู้ภัย หน่วยงานราชการต่างๆ ที่พร้อมทุ่มเทแรงใจช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง

“ในปีนี้ถือเป็นอีกปีที่เกิดอุทกภัยอย่างหนัก เราได้จับมือกับเครือข่ายของเราช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่มาตั้งแต่เริ่มต้น โดยหลังจากนี้ก็จะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่ออยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน พร้อมส่งต่อความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว จนกว่ามหันตภัยจะเบาบางลง” คุณรังสฤษดิ์ กล่าว

นายไสว ทิพเวศาสตร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 บ้านลำเชิงไกร ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า บ้านลำเชิงไกร ประกอบด้วย บ้านเรือน 263 ครัวเรือน มีประชากร 869 คน ประกอบอาชีพทำเกษตร 90% ที่เหลือรับจ้างและค้าขาย โดยส่วนใหญ่ ทำนาข้าวหอมมะลิ และเหลืองปะทิว น้ำได้เริ่มเข้าท่วมบ้านเรือนที่ติดริมห้วยและที่ลุ่มต่ำในหมู่บ้านมาตั้งแต่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา และมาวิกฤติหนักสุดในวันที่ 27 กันยายน ช่วงเวลา 4 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม น้ำได้ขึ้นอย่างรวดเร็ว บนถนนเข้าหมู่บ้านจาก 20 เซนติเมตร เป็น สูงระดับเอว บ้านส่วนสูงท่วมหัว โดยพื้นที่หมู่บ้านลำเชิงไกรนี้เป็นพื้นที่แอ่งกะทะ ที่จะรับน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร และอ่างเก็บน้ำลำตะคอง โดยน้ำได้เข้าท่วมเต็มพื้นที่ 100% ทั้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร