สั่งทุกโครงการชลประทาน เตรียมพร้อมรับมือน้ำหลาก ควบคู่เก็บกักน้ำไว้ใช้ให้ได้มากที่สุด

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เริ่มมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในทางภาคเหนือและภาคตะวันออกฉียงเหนือ ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นไปด้วย ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในช่วงระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคม 2564 มีร่องมรสุมพาดผ่านทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย รวมทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและฝนตกหนักบางแห่ง จึงได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้พร้อมเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศ และเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำ โดยให้บุคลากรประจำอยู่ในพื้นที่ พร้อมเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ที่สามารถเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำและน้ำท่าในแหล่งน้ำธรรมชาติ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละช่วงเวลาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ตาม หากมีฝนตกลงมาบริเวณพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำ ย่อมจะส่งผลดีให้มีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำสายหลักต่างๆที่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้มีปริมาณน้ำสำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคการรักษาระบบนิเวศ และการผลักดันความเค็มเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่การเกษตรได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ในอ่างฯให้ได้มากที่สุด โดยการปรับการระบายน้ำอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับฝนที่ตกลงมา เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ

นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้โครงการชลประทาน ตรวจสอบอาคารชลประทานทุกแห่ง ให้สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพ รวมทั้งการกำจัดวัชพืชไม่ให้กีดขวางทางน้ำ ที่สำคัญได้เน้นย้ำให้บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์ชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-น้ำล้นตลิ่ง หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา