ซี.พี.แลนด์ เปิดตัวโรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง ช่วยผลักดันเศรษฐกิจ

พร้อมอวดโฉมนิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี 3 เฟส กว่า 3,000 ไร่ เร่งเดินหน้าพร้อมต้อนรับนักลงทุนหลังโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ เครือฟอร์จูนกรุ๊ป ได้จัดงานเปิดโรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกรียติจาก นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิดโรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง คุณสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร โรงแรมในเครือฟอร์จูน บริษัท ซี.พี.แลนด์ จากัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยแขกร่วมงานเป็นจำนวนมาก

โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ประชานผู้มาใช้บริการ ผู้ที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัด เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของจ.ระยอง ทั้งนี้ ระยองเป็นจังหวัดสำคัญจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุดในประเทศ และ ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดอยู่ในอันดับ 2 ของประเทศไทย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย และเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ทั้งทางด้านอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และการเกษตรกรรม

โรงแรมฟอร์จูนแสงจันทร์ บีช ระยอง เปิดกิจการมาแล้วตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัด ระยอง เป็นโรงแรม ระดับ 4 ดาว เลียบหาดแสงจันทร์เป็นโรงแรมน้องใหม่ที่ทันสมัยบรรยากาศริมทะเล ติดแม่น้ำ ที่สวยงาม มีการออกแบบโครงสร้างให้ทันสมัยรายล้อมด้วยทะเลอ่าวไทยที่อุดมสมบูรณ์และป่าชายเลนที่เขียวชอุ่ม มีที่ห้องพักทั้งหมด 7 ชั้น ห้องพักจำนวน 107 ห้อง มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง รวมถึงร้านอาหารไทยร่วมสมัย อาหารท้องถิ่นรองรับได้ถึง 92 ที่นั่ง มีห้องฟิตเนส และห้องประชุมอาทิ ห้องประชุมแสงจันทร์ธารา พื้นที่ 217 ตร.ม.จ รองรับได้ถึง 200 ท่านขึ้นไป

ทั้งนี้ โรงแรมฟอร์จูนแสงจันทร์ บีช ระยอง ได้การยอมรับด้วยมาตรฐานทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยสูงสุดในการให้บริการ SHA” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และประกาศนียบัตรจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นเครื่องยืนยันความปลอดภัย อีกทั้ง โรงแรม ยังตอบสนองของนโยบาลรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งโรงแรมในเครือฟอร์จูน เป็นโรงแรมอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ มีความสะดวก ตั้งแต่การจัดการการ. ด้านการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่

นาย สุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร โรงแรมในเครือฟอร์จูน บริษัท ซี.พี.แลนด์ จากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเน้นการกระจายลงทุนในระดับภูมิภาคไปยังหัวเมืองหลักเมืองรอง เน้นกระจายงาน สร้างรายได้สู่จังหวัดต่างๆ เชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่นสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมภายในภายใต้แบรนด์“ฟอร์จูน” มีทั้งซื้อกิจการมาและมีการปรับปรุงใหม่ และปีนี้เปิดพร้อมให้บริการครบแล้ว 12 โรงแรม ใน 9 จังหวัด แบ่งการให้บริการออกเป็น 3 ประเภทได้แก่ 1. City Hotel ระดับ 4-5 ดาว ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน กรุงเทพ, โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช, โรงแรมฟอร์จูน ราชพฤกษ์ นครราชสีมา 2. Resort Hotel ระดับ 3-4 ดาว ได้แก่ โรงแรมฟอร์จูน เชียงของ, โรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิวนครพนม, โรงแรมฟอร์จูน วิวโขง นครพนม, โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง, โรงแรมฟอร์จูน คอร์ทยาร์ด เขาใหญ่ 3 Lifestyle and convenience Hotel ระดับ 2-3 ดาวได้แก่ โรงแรมฟอร์จูน ดี เขาใหญ่, โรงแรมฟอร์จูน ดี แม่สอด โรงแรมฟอร์จูน ดี เลย และ โรงแรมฟอร์จูน บุรีรัมย์, โรงแรม ฟอร์จูน พิษณุโลก

สำหรับแนวคิดการขยายธุรกิจโรงแรม จะเน้นจังหวัดเมืองท่องเที่ยวด่านการค้าชายแดนแหล่งอุตสาหกรรมและมองภาพร่วมที่เกิดจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวปัจจุบันที่เปลี่ยนไปมีรูปแบบท่องเที่ยวที่เป็น Lifestyle มากขึ้น บริษัทจึงหันมาเน้นลงทุนในเรื่องโรงแรมที่เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้นทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหรือกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่นิยมการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์แต่ก็ยังชอบเรื่องความง่ายความสะดวกสบายและสะอาดเป็นสำคัญอีกทั้งโรงแรมในเครือฟอร์จูนยังตอบสนอง ของนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอาทิโครงการเราเที่ยวด้วยกันซึ่งโรงแรมในเครือฟอร์จูนเป็นโรงแรมอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมีความสะดวกตั้งแต่การจัดการด้านการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

นอกจากนี้ ทางบริษัท ยังได้พาคณะผู้ร่วมงานเดินทางไปเยี่ยมชม โครงการนิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี  ที่พัฒนาโดย บริษัท ซีจี คอร์เปอเรชั่น จำกัด และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับการประกาศเป็นเขตส่งเสริมจาก EEC อีกด้วย นิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี เป็นโครงการที่จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการลงทุนของประเทศให้เป็นไปในทิศทางใหม่ เน้นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง บนพื้นที่ทั้งหมด 3 เฟส กว่า 3,000 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่สำคัญและเป็นจุดยุทธศาสตร์ของ EEC ในจังหวัดระยอง ไม่ไกลจากท่าเรือมาบตาพุด สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และสถานีรถไฟความเร็วสูง ที่กำลังจะขยายการรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวของประเทศไทย ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ในเฟสที่ 1 คืบหน้าไปแล้วกว่า 75%

นาย สุนทร อรุณานนท์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท ซีจี คอร์เปอเรชั่น จำกัด มั่นใจในศักยภาพการพัฒนาของโครงการนิคมฯ นี้ รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐ อย่าง EEC, BOI หรือ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่จะช่วยดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ให้มีแนวโน้มที่สูงขึ้นในปี 2564 อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักลงทุนจากประเทศจีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน หรืออเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่นิคมฯ เราส่งเสริม ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ แปรรูปอาหาร หรืออุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความต้องการย้ายฐานการผลิตมาที่ไทย เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรงงานช่างฝีมือ ทำเลที่ตั้ง และที่สำคัญคือการจัดการในเรื่องโรคระบาดโควิด-19

โดยนิคมอุตสาหกรรม ซีพีจีซี จะเปิดให้บริการระบบสาธารณูปโภคอย่างเต็มรูปแบบในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ของปี 2564