สดมภ์ แก้วกาญจนา จบรอบสุดท้าย 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสามวัน 14 อันเดอร์พาร์ 199 คว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิต ใน “สิงห์-เอสเอที ภูเก็ต คลาสสิก 2021” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการแซนด์บ็อกซ์สวิง เฉือน สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย ไปแค่หนึ่งสโตรก ที่สนามบลูแคนยอน คันทรี่คลับ ฝั่งเลกส์ คอร์ส ระยะ 7,061 หลา พาร์ 71 จ.ภูเก็ต เมื่อ 3 ต.ค.64
รายการแข่งครั้งนี้จัดโดยสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย และได้รับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น โดยเป็นการแข่งเก็บคะแนนสะสม ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต รายการที่สามของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท นับเป็นแมตช์ที่สามของโครงการ แซนด์บ็อกซ์ สวิง จากการสนับสนุนของทางจังหวัดภูเก็ต แข่งขันระบบปิดไม่มีคนดู เน้นมาตรการความปลอดภัยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยนักกอล์ฟและเจ้าหน้าที่ทุกคน รวมถึงแคดดี้และผู้ติดตาม ต้องตรวจหาเชื้อแบบ เอทีเค ทุกๆ 5 วัน ตามมาตรการที่กำหนด ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏบัติงานยังต้อง สแกนคิวอาร์โค้ด กรอกแบบสอบถามประจำวันเพื่อประเมินความเสี่ยงติดเชื้ออีกด้วย
ผลการแข่งขัน ปรากฏว่า ในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน สดมภ์ แก้วกาญจนา นักกอล์ฟวัย 23 ปีจากนราธิวาส ซึ่งออกสตาร์ตในฐานะผู้นำร่วมเก็บเข้ามาอีก 8 เบอร์ดี้ รวมถึงเบอร์ดี้พัตต์ระะยะ 20 ฟุตจากนอกกรีนหลุม 17 ตามด้วยการเซฟพาร์ระยะ 5 ฟุตบนกรีนหลุม 18 ก่อนจบสกอร์รอบสุดท้าย 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสามวัน 14 อันเดอร์พาร์ 199 เฉือนชนะ สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย ซึ่งหวดเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 67 หวุดหวิดหนึ่งสโตรก คว้าแชมป์อาชีพรายการที่สองในชีวิต แต่เป็นการคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกของตัวเอง โดยได้รับเงินรางวัลไปครองเป็นจำนวน 240,000 บาท
ทางด้าน ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต นักกอล์ฟวัย 31 ปีจากขอนแก่นที่ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายในฐานะผู้นำร่วม เก็บเข้ามา 5 เบอร์ดี้ แต่เสียคืนไป 4 โบกี้ ซึ่งรวมถึงการเสียสโตรกที่หลุมสุดท้าย ก่อนจบวัน 1 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสามวันจบอันดับสามร่วมกับ ชนะโชค เดชภิรัตนมงคล ที่หวดเข้ามาถึง 5 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสามวันมีคนละ 12 อันเดอร์พาร์ 201 ขณะที่ กษิดิศ เล็บคุรฑ ทำสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 64 ดีที่สุดในรอบสุดท้าย ขยับขึ้นมาจบอันดับห้าแต่เพียงผู้เดียวด้วยสกอร์ 11 อันเดอร์พาร์ 202