พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง สายสีทอง ระยะที่ 1 (สถานีกรุงธนบุรี-สถานีสำนักงานเขตคลองสาน) โดยมี ผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง ผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และผู้บริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ ณ สถานีกรุงธนบุรี เขตคลองสาน
พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า ขณะนี้การก่อสร้างและติดตั้งระบบในภาพรวมมีความก้าวหน้า 96 % แบ่งออกเป็นความก้าวหน้างานโยธา 98 % และความก้าวหน้างานระบบการเดินรถ 92 % ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การจัดส่งขบวนรถและอุปกรณ์ต่างๆ ล่าช้า รวมทั้งมีการปรับปรุงแบบทางขึ้นลงสถานีให้ตรงตามความต้องการของชุมชน ทำให้ต้องเลื่อนกำหนดการเปิดให้บริการจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือน ต.ค.63 เป็นเดือน ธ.ค.
ทั้งนี้ หลังจากที่สถานการณ์โรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลายได้รับมอบขบวนรถในโครงการมาครบแล้ว ทั้ง 3 ขบวน และขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบการเดินรถในเส้นทาง ซึ่งผลการทดสอบเป็นไปตามแผน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้กลางเดือน ธ.ค.63 กำหนดอัตราค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับชาวกรุงเทพฯ โดยเฉพาะประชาชนในย่านฝั่งธนฯ ที่จะมีทางเลือกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณสถานีคลองสาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการหลายแห่ง อาทิ โรงพยาบาลตากสิน สำนักการศึกษา สำนักงานเขตคลองสาน และสน.ปากคลองสาน จะช่วยให้การเดินทางมาติดต่อราชการของประชาชนสะดวกมากขึ้น โดยรถไฟฟ้าสายสีทองยังเชื่อมต่อการเดินทางระบบ ล้อ ราง เรือ รองรับผู้โดยสารจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีกรุงธนบุรี และเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงในอนาคต รวมทั้งยังเชื่อมการเดินทางของประชาชนที่ใช้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
นอกจากนี้การพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าดังกล่าวยังช่วยเพิ่มมูลค่าของที่ดินบริเวณแนวรถไฟฟ้า เสริมสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ และจะเป็นจุดไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว อันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ได้ทางหนึ่งด้วย
กรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) วิสาหกิจของกรุงเทพมหานครเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งไม่ได้ใช้งบประมาณของภาครัฐ แต่ใช้รายได้ล่วงหน้าจากการให้สิทธิพื้นที่โฆษณาบนรถไฟฟ้ามาลงทุนก่อสร้างโครงการ เป็นรูปแบบการแสวงหาความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนากรุงเทพฯ ไปด้วยกัน จึงทำให้โครงการเกิดขึ้นได้เร็ว ไม่ต้องรอกระบวนการวิธีงบประมาณจากทางภาครัฐ และทรัพย์สินในโครงการนี้ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของกรุงเทพมหานครทั้งหมด ขอยืนยันว่าโครงการนี้ เป็นความตั้งใจดีที่ กทม. มอบแก่ให้ประชาชน สำหรับปัญหาการใช้ผิวการจราจรในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีทอง ปัจจุบันนี้การก่อสร้างงานโยธาของโครงการรถไฟฟ้านั้นเสร็จสิ้นไปแล้ว แต่ที่มีการก่อสร้างคือการดำเนินการของหน่วยงานสาธารณูปโภคซึ่งได้เร่งรัดการดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด พร้อมกำชับให้สำนักงานเขตเร่งประสานเปิดพื้นที่การจราจรลดผลกระทบต่อผู้สัญจรในเส้นทางให้มากที่สุด
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง มีระยะทางรวม 2.75 กิโลเมตร 4 สถานี วิ่งตามแนวถนนกรุงธนบุรี ถนนเจริญนครและถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน การดำเนินงานแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยในปัจจุบันเป็นการดำเนินการระยะที่ 1 ระยะทาง 1.80 กิโลเมตร ประกอบด้วย สถานีกรุงธนบุรี (G1) สถานีเจริญนคร (G2) และสถานีคลองสาน (G3) ระบบรถไฟฟ้าเป็นระบบ Automated Guideway Transit (AGT) หรือระบบขนส่งมวลชนแบบนำทางอัตโนมัติ หรือรถไฟฟ้าระบบ Automated People Mover (APM) เป็นระบบล้อยาง โดยรถที่นำมาใช้เป็นรถไฟฟ้ารุ่น Bombardier Innovia APM 300 ความเร็วสูงสุดที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง จำนวน 3 ขบวน ขบวนละ 2 ตู้ ความจุผู้โดยสาร 138 คน/ตู้ ตู้รถไฟฟ้ามีความกว้าง 2.8 เมตร ความยาว 12.75 เมตร ความสูง 3.5 เมตร ประตูมีความกว้าง 1.9 เมตร ความสูงของพื้นรถ 1.1 เมตร คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารเมื่อเปิดให้บริการ อยู่ที่ประมาณ 42,000 เที่ยว-คน/วัน