แม้ว่า ตอนนี้จะมีความชัดเจนเรื่องวันเปิดภาคเรียนปีการศึกษาใหม่ เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 แล้วก็ตาม แต่สำหรับในด้านของวิธีการเรียนการสอน และความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นใหม่หลังจากนี้ ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดสักเท่าไร
แน่นอน เราทราบว่า ปีการศึกษาหน้า ตารางเรียนคงแน่นมาก และระยะเวลาปิดเทอมทั้งปิดเทอมเล็กและใหญ่ ก็ต้องร่นเวลาเหลือน้อยลง หรืออาจไม่มีเลย
แต่สิ่งที่ผู้ปกครองต้องการทราบถึงความชัดเจน ณ ตอนนี้ คือ แต่ละโรงเรียน จะมีวิธีบริหารจัดการการเรียนการสอนอย่างไรสำหรับเด็ก เพื่อให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจหลักสูตรการเรียนได้เหมือนตอนสถานการณ์ปกติ
หลาายโรงเรียนเตรียมพร้อมรับมือแต่เนิ่นๆ มีการตระเตรียมหลักสูตรออนไลน์สำหรับเด็กไว้รอแล้ว ซึ่งบุคลากรของโรงเรียนที่จะมีบทบาทสำคัญ และต้องปรับตัวเช่นกัน คือ คุณครูของเด็กๆ นั่นเอง ตอนนี้ก็ต้องมีการจัดเตรียมวิชาความรู้เพื่อเตรียมถ่ายทอดให้นักเรียนในช่องทางใหม่ที่อาจไม่คุ้นชิน และแตกต่างจากสถานการณ์ปกติ ซึ่งคุณครูเองก็จำเป็นต้องพ้ฒนาความรู้ และเพิ่มทักษะการใช้งานเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้เช่นกัน
ขณะที่ด้านของตัวเด็กเอง หากเป็นเด็กโตที่คุ้นชินกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ ช่องทางโซเชียลมีเดีย และแอปใช้งานต่างๆ แล้ว ก็ดูไม่น่ามีปัญหานอกเหนือไปกว่าการรักษาวินัยในการเรียนออนไลน์ ไม่ให้หย่อนยานไปกว่าตอนเรียนปกติ
ที่อาจมีปัญหา ก็คือ เด็กเล็ก ซึ่งก็ต้องอาศัยผู้ปกครองเป็นผู้ช่วยคอยดูแล ตระเตรียมอุปกรณ์ และสอนวิธีใช้ให้ แน่นอน พ่อแม่ก็ต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน ทั้งเรื่องเวลา และการทำความรู้จักเครื่องมือเหล่านี้
ขณะที่ทางด้านโรงเรียนเอง ตอนนี้มีหลายโรงเรียนเดินหน้าเตรียมตัวเปิดให้นักเรียนเรียนออนไลน์กันแล้ว ตัวอย่างเช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และ โรงเรียนอัสสัมชัญ สองโรงเรียนเอกชนชื่อดังย่านสาทร และบางรัก ตามลำดับ
ทั้งสองโรงเรียนเริ่มแจ้งข่าวสารถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ให้ผู้ปกครองรับทราบ ผ่านทางช่องทางติดต่ออย่างไลน์กลุ่มผู้ปกครอง โดยรร.อัสสัมชัญ ประกาศว่าจะเปิดเรียนออนไลน์ ผ่านทาง Google Classroom ตั้งแต่ 18 พ.ค.- 30 มิ.ย. โดยมีทั้งที่นร.ต้องเรียนด้วยตัวเองทางออนไลน์ กับที่คุณครูจัดการสอนออนไลน์ให้นร. ถือว่าเป็นรร.ที่ประกาศให้ผู้ปกครองทราบได้ชัดเจนมาก มีการกำหนดวันสอบทั้งกลางภาคและปลายภาครอไว้แล้วทีเดียว โดยการเรียนการสอนจะดำเนินต่อเนื่องจากเนื้อหาออนไลน์เมื่อเปิดเทอมวันที่ 1 ก.ค.
ขณะที่รร.กรุงเทพคริสเตียนเอง ก็มีการตระเตรียมเรียนออนไลน์เช่นเดียวกัน โดยมีการแจ้งผ่านกลุ่มเครือข่ายผู้ปกครอง ให้กระจ่ายข่าวสารไปยังผู้ปกครองในระดับชั้นแต่ละชั้น เพื่อให้เตรียมตัวเด็ก และอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการเรียนออนไลน์ผ่านทาง Facebook Group โดยมีกำหนดจะเริ่มเปิดสอนออนไลน์ในเดือนพฤษภาคมนี้เช่นเดียวกัน
ท้้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาต่อเด็ก และการปรับตัวใหัทันรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายส่วน ทั้งรร. บุคคลากรของรร. ผุ้ปกครอง และตัวเด็กเอง ที่ต้องทุกส่วน ต้องปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลง ให้เข้าถึงวิชาความรู้ อันเป็นสิ่งจำเป็นต่อกระบวนการเรียนรู้ของชีวิตของทุกคน