ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 65 สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ ได้ร่วมกับบริษัท เชียงใหม่เบเวอเรช จำกัด บริษัทในเครือฯ ผนึกกำลังเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสา 10 สถาบันภาคเหนือ ได้แก่ ม.เชียงใหม่ ม.ราชภัฏเชียงใหม่ ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่ ม.มหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา ม.แม่ฟ้าหลวง ม.ราชภัฏเชียงราย ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย ม.ราชภัฏลำปาง และ ม.พะเยา รวมถึงหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 จ.เชียงใหม่, อุทยานแห่งชาติ ศรีลานนา, 10 สถาบันการศึกษาภาคเหนือ, กู้ภัยอุทยาน และมูลนิธิรวมใจ อปพร.เมืองเชียงใหม่ จัดโครงการ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า” เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ดับไฟป่า อาหารและน้ำดื่ม พร้อมอบรมอาสาสมัครจาก 7 หมู่บ้าน ใน ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ณ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจ วางมาตรการป้องกัน โดยแต่ละหมู่บ้านจะจัดทีมอาสาสมัครเพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ไฟป่า และถ่ายทอดความรู้ ผลกระทบจากไฟป่า การควบคุม ป้องกันไฟป่าได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยแก่หมู่บ้านตนเอง ทั้งยังมีแนวทางปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ในกรณีที่เกิดไฟป่า ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาหมอกควันในเขตภาคเหนือ
ทั้งนี้ โครงการ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า” ได้จัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยร่วมกับเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสา 10 สถาบันภาคเหนือ และหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ลงพื้นที่สนับสนุนป้องกันไฟป่า มอบอุปกรณ์ดับไฟป่า เช่น ถังฉีดน้ำ ไม้ตบไฟ ครอบ คราดสปริง รองเท้าเซฟตี้ดับไฟป่าสำหรับอาสาสมัคร พร้อมด้วยเสบียงอาหาร ทั้งอาหารพร้อมทาน (ข้าวรีทอร์ท) และน้ำดื่ม ส่งความช่วยเหลือในชุมชนต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังไฟป่า ร่วมกันรักษาป่าต้นน้ำ ลดปัญหาฝุ่นควันที่เกิดจากปัญหาไฟป่า รวมถึงให้การอบรมทำแนวกันไฟ ให้กับคนในชุมชนพื้นที่เสี่ยงไฟป่า 124 ชุมชน จาก 11 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออก ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงไฟป่าทั่วประเทศ ประกอบด้วย เชียงใหม่ ,เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, พะเยา, ลำปาง, ลำพูน, แพร่, น่าน, ตาก, นครนายก และปราจีนบุรี เริ่มที่แรกที่จังหวัดเชียงใหม่
สิงห์อาสา ยังร่วมกับคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และศูนย์วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดทำห้องเรียนปลอดฝุ่น (PM2.5 Cleanroom) แห่งแรก ให้โรงเรียนชุมชนวัดช่อแล บ้านช่อแล ต.ช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในหมู่บ้านกลุ่มเสี่ยงจากปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ให้ปลอดภัยจากฝุ่นละอองและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
คุณประโภชน์ เกิดเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่เบเวอเรช จำกัด กล่าวว่า “ปัญหาไฟป่าและวิกฤติหมอกควันในพื้นที่เชียงใหม่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เราต้องเผชิญทุกปีในช่วงฤดูร้อน ซึ่งส่งผลต่อทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาสุขภาพของประชาชนในภาคเหนือ ดังนั้น การทำงานร่วมกันชุมชน หน่วยงานภาครัฐที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังฯ ในรูปแบบของการป้องกัน ทำให้การจัดการเรื่องไฟป่าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อสนับสนุนการทำงานดับไฟป่าของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร บริษัท เชียงใหม่เบเวอเรช จำกัด ได้เป็นแม่ข่ายในการระดมรองเท้าเซฟตี้ มากกว่า 500 คู่จากทุกโรงงานในเครือของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ทั่วประเทศ นำมาแจกจ่ายให้กับอาสาสมัครใน 124 จุด ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ดับไฟป่า แต่มีราคาค่อนข้างสูงและยังขาดแคลน”
คุณอรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผู้จัดการฝ่ายงานกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า “ปัญหาไฟป่า ถือเป็นอีกหนึ่งภัยพิบัติตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นปี ทั้งในพื้นที่ป่าต้นน้ำของภาคเหนือและภาคตะวันออก ซึ่งแต่ละปีส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย “สิงห์อาสา” ได้ร่วมมือกับเครือข่ายนักศึกษาฯ 10 สถาบัน, มูลนิธิฯ อาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและชาวบ้านในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังในจุดเสี่ยงและจัดการอย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้ไฟป่าลุกลามขยายวงกว้าง ซึ่งในครั้งนี้นอกจากจะจัดทบทวนทักษะความรู้ในการดับไฟแล้ว “สิงห์อาสา”ยังได้มอบอุปกรณ์ที่ใช้ในการดับไปและเสบียงอาหารสำหรับการเข้าพื้นที่เร่งด่วน เพื่อให้แต่ละชุมชนมีความพร้อมในการดูแลพื้นที่ชุมชนของตนควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2562 สิงห์อาสาได้สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่า ทั้งในเรื่องของน้ำดื่ม ข้าวสารและอุปกรณ์ดับไฟป่ามาอย่างต่อเนื่อง ได้จัดตั้งศูนย์สนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับไฟป่ากว่า 20 จุด ขึ้นในหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในปีนี้เตรียมลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่าจากชุมชนที่เกิดไฟป่าบ่อยครั้ง เพื่อส่งมอบอุปกรณ์ดับไฟป่า เสบียงอาหาร น้ำดื่ม รวมถึงจัดอบรมแก่ประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างการตระหนักถึงปัญหาไฟป่าและหมอกควันและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป