รายงานข่าวเปิดเผยว่า สิงห์อาสา โดยมูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วยซีล) จัดอบรม “หลักสูตรกู้ภัยทางน้ำ ประจำปี 2564” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อเสริมศักยภาพให้กับทีมอาสากู้ภัยทางน้ำ ให้มีความเชี่ยวชาญและมีความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำได้อย่างปลอดภัยและทันท่วงทีในพื้นที่ของตน
สำหรับหลักสูตรกู้ภัยทางน้ำ ประจำปี 2564 จัดที่ศูนย์ฝึกสงครามพิเศษทางเรือ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ สัตหีบ โดยมีอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้แม่น้ำและทะเล มีสถิติการเกิดอุบัติภัยทางน้ำจำนวนมาก เข้ารับการฝึกทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยหลักสูตรการฝึก ประกอบด้วย การขับเรือยางเพื่อช่วยผู้ประสบภัยที่ในสายงานกู้ภัยพบเจอเป็นประจำ, ทักษะการจัดการเหตุฉุกเฉินซึ่งจะช่วยให้อาสาสมัครกู้ภัยที่กำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยใต้น้ำสามารถขึ้นถึงพื้นผิวได้อย่างปลอดภัยด้วยตัวเอง หรือ CESA (Control Emergency Swimming Ascent), การดำน้ำค้นหาผู้ประสบภัยใต้น้ำและบนผิวน้ำแบบเป็นทีม, การฝึก Skills Scuba และการถอด-แต่งกาย Scuba ใต้น้ำและบนผิวน้ำ
พล.ร.ต.ศุภชัย ธนสารสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ อธิบายว่า หลักสูตรกู้ภัยทางน้ำร่วมกับสิงห์อาสา ได้จัดอบรมต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว ซึ่งทางซีลมีทีมครูฝึกที่เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยทางน้ำที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของทีมอาสาสมัครกู้ภัยให้สามารถเข้าช่วยชีวิตผู้ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งทีมอาสากู้ภัยถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จำเป็นที่จะต้องมีทีมอาสาเหล่านี้เข้าช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที การอบรมหลักสูตรกู้ภัยทางน้ำจึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้เหล่าอาสาสมัครก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจ
คุณอรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผู้จัดการส่วนงานกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สิงห์อาสาได้ทำงานร่วมกับกลุ่มอาสาสมัครกู้ภัยทั่วประเทศ ในการช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งในยามที่เกิดอุบัติภัยอาสาสมัครกู้ภัยคือกลุ่มคนสำคัญที่พร้อมเสียสละตนเองเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน การสนับสนุนให้กลุ่มอาสาสมัครกู้ภัยมีทักษะการกู้ชีพและกู้ภัยขั้นสูง จะช่วยให้ทีมกู้ภัยสามารถรับมือและแก้ไขสถานการณ์วิกฤตได้อย่างดี ผู้ประสบภัยมีโอกาสรอดชีวิตสูงขึ้น ลดการบาดเจ็บและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับทีมกู้ภัยเองด้วย ซึ่งตลอด 4 ปี ต้องขอขอบคุณหน่วยซีลที่ร่วมกันจัดอบรมจนสร้างทีมอาสาสมัครกู้ภัยมากกว่า 100 คน ที่จะเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้อย่างทันท่วงที