รู้เก็บรู้ออม : หุ้นยั่งยืนไทยสู่มาตรฐานโลก

0
ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน...สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

นักลงทุนที่สนใจการลงทุนอย่างยั่งยืน หรือลงทุนในหุ้นยั่งยืน ต้องติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของการจัดอันดับเรตติ้ง ESG ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการจัดทำและประกาศรายชื่อ บจ.ที่ติดอันดับ SET ESG Ratings หรือหุ้นยั่งยืนประจำทุกปี

เทรนด์การลงทุนแบบยั่งยืนยังคงเป็นที่สนใจของนักลงทุน เพราะหุ้นที่เลือกลงทุน หากเป็นหุ้นดี ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม มีธรรมาภิบาล ย่อมหมายถึงการมีโอกาสที่จะเติบโตแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจ ผู้ถือหุ้นและตลาดทุนไทย

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯกำลังยกระดับการประเมินหุ้นยั่งยืนไทย จาก SET ESG Ratings ไปใช้ FTSE Russell ESG Scores ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลก

ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ที่จะส่งผลให้หุ้นไทยอยู่ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้น สร้างความน่าสนใจให้ตลาดทุนไทยมากขึ้น

การใช้คะแนน FTSE Russell ESG Scores จะเริ่มอย่างเป็นทางการเดือน ธ.ค.69 และใช้อ้างอิงสำหรับกองทุน Thai ESG ปี 70 โดยมีช่วงทดลองประเมิน FTSE Russell ESG Scores 2 ปี ตั้งแต่ปี 67-68 ซึ่งปี 67 มี 225 บจ.เข้าร่วม และปี 68 เพิ่มขึ้นเป็น 310 บจ.

FTSE Russell ESG Scores จะเป็นการเปิดตัวให้หุ้นยั่งยืนไทย อยู่ในสายตาของนักลงทุนโลก เพราะการที่หุ้นไทยถูกประเมินด้วยมาตรฐานนี้ ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักลงทุนสถาบันทั่วโลก จะทำให้หุ้นไทยโดดเด่น เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่ๆ

การประเมิน FTSE Russell ESG Scores จะประเมินการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของ บจ.จาก Public Disclosures (ข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยต่อสาธารณะ) เท่านั้น ทำให้ข้อมูลที่นำมาใช้โปร่งใส ตรวจสอบได้ น่าเชื่อถือ เป็นการยกระดับ ESG ของ บจ.ไทยให้เทียบเท่าสากล โดยผลคะแนนที่ได้สามารถนำไปเปรียบเทียบกับบริษัทในได้ แสดงให้เห็นว่า บจ.ไทยไม่ได้ยั่งยืนแค่ในประเทศ แต่มีการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วย

บริษัทที่สามารถเข้าร่วมประเมิน FTSE Russell ESG Scores ได้แก่ 1.บจ.ที่อยู่ในหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปีใดปีหนึ่ง ระหว่างปี 66-68, 2.บจ.ที่อยู่ใน SET 100 รอบใดรอบหนึ่ง ในเดือน ธ.ค.65-ธ.ค.68 3.กลุ่มสมัครใจ เป็น บจ.ใน SET และ mai หรือ

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) โดยบจ.กลุ่มที่ 3 ต้องสมัครเข้าร่วมและผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนดก่อน ซึ่ง บจ.ที่ได้รับการประเมิน FTSE Russell ESG Scores ต้องเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องและไม่ถูกทางการตัดสินเรื่อง Controversial issue เช่น อินไซเดอร์เทรดดิ้งหรือฉ้อโกง

นักลงทุนที่สนใจลงทุนแบบยั่งยืน ต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะสามารถใช้ผลประเมินเป็นเครื่องมือในการคัดกรองหุ้น และพิจารณาลงทุนได้รอบด้านมากขึ้น แต่ผลประเมิน ESG ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จ สิ่งที่นักลงทุนควรทำเพิ่มเติม คือ การพิจารณาข้อมูลอื่นประกอบด้วย ทั้งผลการดำเนินงาน สถานะการเงิน การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลกิจการ และกลยุทธ์ระยะยาว เพื่อให้การวิเคราะห์หุ้นครบถ้วนรอบด้าน.

คุณนายพารวย