รู้เก็บรู้ออม : THAI ESG ประหยัดภาษีส่งท้ายปี

0
ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน...สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

“คุณนายพารวย” เห็นปฏิทินแล้วตกใจ!! อีกเดือนเดียวจะหมดปี 2568 สำหรับคนทำงานแล้ว ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ นอกจากจะต้องเร่งสะสางงานให้เสร็จทันก่อนช่วงวันหยุดยาว ยังเป็นเวลาสำหรับการทบทวนและวางแผนงานปีหน้าอีกด้วย ซึ่งการวางแผนภาษีก็เป็นลิสต์ต้นๆของสิ่งที่เราต้องเตรียมตัวทำเป็นประจำทุกปี

คนที่มีการวางแผนภาษี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และทยอยซื้อกองทุนประหยัดภาษีมาตั้งแต่ต้นปี รวมทั้งใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น EASY E-receipt, การโยกหน่วยลงทุนจาก LTF มา THAI ESGX หรือลงทุนใหม่ใน THAI ESGX รวมถึงโครงการส่งท้ายปีอย่างเที่ยวดีมีคืน ถึงตอนนี้ ก็คงเบาตัวได้ ส่วนคนที่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย จำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้เวลาที่เหลือก่อนสิ้นปีมาวางแผนภาษีเพื่อการยื่นแบบในปีหน้า

ที่ผ่านมา เรามักเห็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหมดปี เป็นช่วงเวลาทองของการซื้อกองทุนประหยัดภาษี ซึ่งหากเราวางแผนจัดการเงินไว้ดีก็คงไม่มีปัญหา แต่ก็มีอีกหลายคนที่ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป จนทำให้พลาดโอกาสที่จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีไปอย่างน่าเสียดาย หรือไม่ก็เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน จนต้องฉลองปีใหม่กันแบบกร่อยๆ

สำหรับผู้ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี กองทุน THAI ESG หรือกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของการประหยัดภาษี โดยเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ในประเทศด้วยแนวคิด ESG คือ รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาล คนที่ซื้อกองทุน THAI ESG จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีแบบจัดเต็ม คือสูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยต้องถือไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ

คนที่ต้องการลงทุนในธีม ESG และได้ลดหย่อนภาษีด้วย สามารถซื้อกองทุน Thai ESG ให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ คนที่รับความเสี่ยงได้สูง ก็เลือกลงทุนกอง Thai ESG ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นหรือกองทุนแบบผสม สำหรับคนที่มีภูมิต้านทานความเสี่ยงต่ำ กองที่ลงทุนในตราสารหนี้ หรือพันธบัตรรัฐบาลน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะกับตัวเอง

ส่วนจะซื้อกอง THAI ESG เท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายลดหย่อนภาษีของแต่ละคน โดยพิจารณาจากเงินได้และฐานภาษีของนักลงทุน แต่สามารถซื้อได้สูงสุด 30% 

ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 300,000 บาท ไม่นับรวมกับวงเงินกองทุนการออมเพื่อเกษียณ เช่น กองทุน SSF, RMF, เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ, กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ดังนั้น หากซื้อ THAI ESG เต็มสิทธิแล้ว แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายภาษี เราก็สามารถซื้อกองทุนประหยัดภาษีตัวอื่นเพิ่มเติมได้

อย่างไรก็ตาม การซื้อกองทุนประหยัดภาษี ต้องคำนึงถึงเงินในกระเป๋าของตัวเองด้วย ซื้อเท่าที่ตัวเองไหว ไม่ใช่ทุ่มซื้อเพื่อหวังลดภาษีมากที่สุด แต่ทำให้ตัวเองขาดสภาพคล่องการเงิน และต้องหมั่นติดตามข่าวสารเพื่ออัปเดตสิทธิลดหย่อนภาษีในแต่ละปี เพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเต็มที่ และเหมาะกับสุขภาพการเงินของตัวเอง.

คุณนายพารวย