รายงานข่าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 คณะกรรมการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มีมติอนุมัติให้เสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้บริษัทย่อยในประเทศจีนเข้าซื้อธุรกิจสุกรในจีนจำนวน 43 บริษัท โดยบริษัทย่อยจะออกหุ้นใหม่เป็นการชำระราคาให้แก่ผู้ขายเพื่อควบรวมธุรกิจขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทสุกรชั้นนำในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดสุกรใหญ่ที่สุดในโลกที่มีมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 8.3 ต่อปี ใน 10 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2553 ถึง 2562
Chia Tai Investment Co., Ltd. หรือ CTI ประกอบธุรกิจหลักคือการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของซีพีเอฟผ่าน C.P. Pokphand Co., Ltd. หรือ CPPที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ต้องการควบรวมธุรกิจอาหารสัตว์เข้ากับธุรกิจสุกรในสาธารณรัฐประชาชนจีนของ Chia Tai Animal Husbandry Investment (Beijing) Co., Ltd. หรือ “ผู้ขาย”ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ CPGโดยเป็นการเข้าซื้อกิจการบริษัทจำนวน 43 บริษัทมีมูลค่ารวมประมาณ 28,140 ล้านเรนมินบิ (หรือเทียบเท่ากับประมาณ 4,109ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 131,287 ล้านบาท) โดย CTI จะออกหุ้นใหม่ให้แก่ผู้ขายเพื่อเป็นการชำระราคา ซึ่งทำให้การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ไม่มีภาระต้นทุนทางการเงินจากการเข้าซื้อเพิ่มขึ้น
การเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสให้ CTIได้ขยายการประกอบธุรกิจเข้าสู่ตลาดสุกรของสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตเป็นการรวมการดำเนินธุรกิจในแนวดิ่ง (Vertical Integration) ซึ่งจะทำให้ CTI เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสุกรครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสุกร โรงชำแหละและแปรรูปสุกร ซึ่งจะทำให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และมีการประสานประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของทั้งห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เพื่อให้ธุรกิจของบริษัทครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบและขยายธุรกิจออกไปได้มากขึ้น
หากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้สำเร็จ จะทำให้ CTI มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นจากธุรกิจสุกรที่มีผลกำไรที่ดี มีต้นทุนและประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น และจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อการขยายธุรกิจในอนาคต เนื่องจากการควบรวมธุรกิจครั้งนี้เป็นรายการเกี่ยวโยงกัน การอนุมัติการเข้าทำรายการจะต้องได้รับการอนุมัติโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยซีพีเอฟได้กำหนดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 ปี 2563 ขึ้นเพื่อเสนอขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในวันที่ 27 ตุลาคมนี้