ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันยังส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง การฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงมีความจำเป็นอย่างมากในการป้องกันการแพร่ระบาด และลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการติดเชื้อ ซึ่งภาครัฐได้กำหนดแผนการเร่งฉีดวัคซีนตามแนวทางการขยายหน่วยบริการ โดยสนับสนุนให้องค์กร หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการจัดบริการฉีดวัคซีน ณ จุดบริการนอกโรงพยาบาล/สถานพยาบาลเวชกรรม เช่น จุดบริการในห้างสรรพสินค้า หรือมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและการเข้าถึงวัคซีนของประชาชน รวมทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ การฉีดวัคซีนให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และทั่วถึง
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย การแพ้วัคซีนโควิด-19 เพื่อเป็นเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยการประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 จะให้ความคุ้มครอง หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีอาการแพ้ หรือผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งในปัจจุบันมีผลประโยชน์ความคุ้มครองหลายรูปแบบให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อได้ อาทิ เช่น ผลประโยชน์การเกิดเจ็บป่วยระยะสุดท้าย และ/หรือภาวะโคม่า และ/หรือภาวะสมองตายและระบบประสาทล้มเหลว ผลประโยชน์การรักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน และผลประโยชน์เงินชดเชยรายวันจากการเป็นผู้ป่วยใน เป็นต้น โดยบริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขผลประโยชน์ที่ระบุไว้ และโดยปกติจะเป็นการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลทั่วไป
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า เพื่อรองรับนโยบายของภาครัฐและสนับสนุนแผนดำเนินการของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ในการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยง รวมทั้งเพื่อให้ผู้เอาประกันภัยที่ซื้อความคุ้มครองผลกระทบจากการฉีดวัคซีน โควิด-19 ยังคงได้รับความคุ้มครองเช่นเดิมตามเงื่อนไขทั่วไปของกรมธรรม์ประกันภัย ดังนั้น ตนในฐานะนายทะเบียนจึงได้ออกคำสั่ง นายทะเบียนที่ 26/2564 เรื่อง การให้ความคุ้มครองกรณีได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือสัญญาเพิ่มเติม สําหรับบริษัทประกันชีวิต และคำสั่งนายทะเบียนที่ 27/2564 เรื่อง การให้ความคุ้มครองกรณีได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือเอกสารแนบท้าย สําหรับบริษัทประกันวินาศภัย ซึ่งคำสั่งนายทะเบียนทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว กำหนดให้บริษัทประกันภัย ให้ความคุ้มครองผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่กระทำการโดยแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรที่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย ไม่ว่าจะดําเนินการ ณ สถานที่ใดก็ตาม ผู้เอาประกันภัยจะยังได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไข ของกรมธรรม์ประกันภัย เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลทั่วไป
จากข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2564 มีบริษัทประกันภัยได้รับความเห็นชอบกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 25 บริษัท และมี 10 บริษัทที่จำหน่ายแก่บุคคลทั่วไปแล้ว โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2564 มียอดซื้อประกันภัยรวมทั้งสิ้น 800,269 ฉบับ เบี้ยประกันภัย 96,931,810 บาท และมียอดการจ่าย ค่าสินไหมทดแทน 105,190 บาท
“สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงขยายวงกว้าง และเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆ ในหลายพื้นที่ รวมถึงมีการติดเชื้อ โควิด-19 ที่เป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ ด้วย ดังนั้น ทุกคนต้องระมัดระวังและช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาด อีกทั้งเตรียมความพร้อม ในการเข้ารับฉีดวัคซีน ในขณะเดียวกันเมื่อได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ระบบประกันภัยก็พร้อมเข้าไปช่วยเยียวยา ได้อย่างเต็มที่ในทุกมิติ จึงหวังว่าการออกคำสั่งนายทะเบียนทั้งสองฉบับนี้จะช่วยลดข้อโต้แย้ง และเป็นการดูแลประชาชน ผู้ทำประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 มีความมั่นใจยิ่งขึ้นว่า เมื่อเกิดอาการไม่พึ่งประสงค์จากการแพ้วัคซีนที่มีการฉีดในสถานที่ใด ๆ ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ก็จะได้รับความคุ้มครองจากสัญญาประกันภัยที่ทำไว้ทุกประการ โดยสำนักงาน คปภ. พร้อมที่จะดูแล ด้านการประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ Add Line Official @oicconnect” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย