นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังจากการเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า กรมชลประทานได้วางแผนพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ให้เป็นพื้นที่ชะลอน้ำและรองรับน้ำหลากในช่วงฤดูฝน สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ได้ในช่วงฤดูแล้ง พร้อมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติให้เป็นไปตามกรอบแนวทางการบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติและแม่น้ำลำคลองอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ได้มีการพิจารณาแนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ 11 แห่ง ได้แก่ 1.แนวทางการพัฒนาหนองช้างใหญ่ จ.อุบลราชธานี 2.แนวทางการพัฒนากว๊านพะเยา จ.พะเยา 3.แนวทางการพัฒนาหนองเล็งทราย จ.พะเยา 4.แนวทางการพัฒนาบึงราชนก จ.พิษณุโลก 5.แนวทางการพัฒนาบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ 6.แนวทางการฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตร จ.พิจิตร 7.แนวทางการพัฒนาหนองหาร จ.สกลนคร 8.แนวทางการพัฒนาเวียงหนองหล่ม จ.เชียงราย 9.แนวทางการพัฒนาแก่งน้ำต้อน จ.ขอนแก่น 10.แนวทางการพัฒนาแก่งละว้า จ.ขอนแก่น และ 11.แนวทางการพัฒนาบึงละหาน จ.ชัยภูมิ
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดทำข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำ Masterplan การดำเนินงาน ขั้นตอนการเตรียมความพร้อม ปริมาณงานที่ต้องดำเนินการ ระยะเวลาการดำเนินการ การขออนุญาตใช้พื้นที่ รวมถึงพิจารณากิจกรรมต่างๆ ให้สอดคล้องกับการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถทราบถึงภาพรวมและองค์ประกอบของโครงการ ส่งผลให้การวางแผนงานเป็นไปอย่างมีระบบและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนได้อย่างสูงสุด