ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้ให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ เฝ้าระวังน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ และสงขลา โดยเน้นย้ำให้เฝ้าระวังติดตามและตรวจสอบอาคารชลประทานให้มีสภาพพร้อมใช้งาน รวมไปถึงบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ หากเกิดกรณีฝนตกหนัก หรือลมกระโชกแรงส่งผลกระทบต่ออาคารชลประทาน และทรัพย์สินของทางราชการ ให้เร่งเข้าไปดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ในทันที
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานชลประทานที่ 14,15,16 และโครงการชลประทานในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแจ้งเตือนประชาชนให้พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ รถแบคโฮ/รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำ ไว้ในพื้นที่เสี่ยงแล้ว สามารถนำไปช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมได้ตลอดเวลา เพื่อลดความเสียหายและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้มากที่สุดต่อไป