ก.พาณิชย์ฯ เผยตัวเลขปราบนอมินี 820 ราย ออกม.ป้องกัน ใช้ระบบติดตามธุรกิจ-ตรวจสอบที่อยู่ ตัดวงจรสวมรอยจดทะเบียนนิติบุคคล

เผยตัวเลขการปราบปรามผู้กระทำผิดในรูปแบบนอมีนี รวม 820 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 12,495 ล้านบาท เร่งพัฒนาระบบ IBAS ที่ใช้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของธุรกิจ และเปิดระบบการตรวจสอบที่อยู่เพื่อป้องกันการใช้ที่อยู่ประชาชนมาสวมรอยในการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมชงเพิ่มฐานความผิดนอมินีในกฎหมาย ป.ป.ง. เตรียมจัดชุดสายตรวจปูพรมลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจนอมินีและสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ 

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ครั้งที่ 3 ว่า เพื่อติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานภายใต้ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าวอย่างจริงจัง เพราะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงาน เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมการจัดหางาน กรมการท่องเที่ยว กรมที่ดิน และกรมสรรพากร จับกุมและดำเนินคดีกับนอมินีที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย รวมทั้งสิ้น 820 ราย มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 12,495 ล้านบาท (ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 – 31 มกราคม 2568) 

image

แบ่งเป็น 4 ประเภทธุรกิจ 1.ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง จำนวน 104 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 596 ล้านบาท  2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเกี่ยวเนื่อง จำนวน 228 ราย มูลค่าความเสียหาย 8,890 ล้านบาท 3. ธุรกิจขนส่งทางบก จำนวน 11 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 32 ล้านบาท และ 4.ธุรกิจอื่นๆ จำนวน 477 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2,976 ล้านบาท 
 
นายนภินทร กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้พัฒนาระบบติดตามตรวจสอบธุรกิจที่มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของธุรกิจ ได้แก่ ระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล Intelligence Business Analytic System (IBAS) ซึ่งขณะนี้ กรมฯ ได้เร่งพัฒนาและจะแล้วเสร็จใช้งานได้ในไม่ช้า พร้อมกันนี้ สำนักงาน ปปง. จะเร่งปรับปรุงกฎหมายกำหนดให้ความผิดนอมินีเป็นมูลฐานความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อีกด้วย
         
ที่ประชุมยังได้เตรียมจัดตั้ง ‘คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย’ ขึ้น เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจนอมินีและสินค้าที่ไม่มีคุณภาพร่วมกัน และเตรียมตั้งคณะทำงานชุดเฉพาะกิจเพื่อร่วมกันสืบสวน สอบสวน จับกุม และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในพื้นที่ทั่วประเทศร่วมกันต่อไป  

กระทรวงพาณิชย์ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนช่วยกันตรวจสอบที่อยู่ของท่าน โดยปัจจุบันท่านสามารถนำที่อยู่ของตนเองไปตรวจสอบการสวมรอยแอบอ้างไปจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อไปกระทำความผิด โดยตรวจสอบได้ทาง Website กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หากพบความผิดปกติ ขอให้ท่านแจ้งไปยังสายด่วน 1570 
ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะได้เร่งดำเนินการต่อไปเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้” นายนภินทร กล่าวทิ้งท้าย