ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ยังคงมีพัฒนาการด้านความยั่งยืนที่โดดเด่นในระดับสากล ในปี 2565 นี้ บจ. ไทย 26 แห่ง ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ได้แก่ ADVANC, AOT, BANPU, BDMS, BJC, BTS, CPALL, CPF, CPN, CRC, DELTA, EGCO, GPSC, HMPRO, IRPC, IVL, KBANK, MINT, PTT, PTTGC, SCB, SCC, SCGP, TOP, TRUE และ TU ในจำนวนนี้ มี บจ. ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าใหม่ 3 บริษัท ได้แก่ CRC, GPSC และ SCGP โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่มี บจ. ได้รับคัดเลือกสูงสุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 สะท้อนถึง บจ. ไทยมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างสมดุลทั้งธุรกิจและสังคม สร้างความเชื่อมั่นในสายตาผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน (Sustainable Capital Market) เป็นภารกิจที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญ โดยส่งเสริมให้ผู้ลงทุนตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนที่ยั่งยืน รวมทั้งสนับสนุนให้ บจ. ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของกิจการให้เติบโตอย่างสมดุล โดยที่ผ่านมา บจ. ไทยได้รับเชิญให้เข้าร่วมประเมินความยั่งยืนในระดับสากลทั้งจาก MSCI, FTSE และ S&P Global มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับผลการคัดเลือกหุ้นเข้าสู่ดัชนีความยั่งยืน DJSI ประจำปี 2565 โดย S&P Global พบว่ามี บจ. ไทยถึง 26 บริษัท ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในขณะที่ดัชนี FTSE4Good Index และ MSCI ESG Universal Index มี บจ. อยู่ในดัชนีฯ จำนวน 40 และ 42 บริษัทตามลำดับ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในอาเซียนเช่นเดียวกัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและการให้ความสำคัญของ บจ. ในการดำเนินงานด้านความยั่งยืน โดยที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เตรียมความพร้อมให้บริษัทก้าวไปสู่ดัชนีสากลเพื่อสร้างความน่าสนใจในการลงทุน รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูล ESG Information ของผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนระดับโลก (Sustainability Rating Agencies) ให้ผู้ลงทุนไทยสามารถติดตามข้อมูลได้โดยสะดวก
“การดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง ESG นอกจากจะเป็นการบริหารความเสี่ยงซึ่งถือเป็นเกราะป้องกันธุรกิจให้ก้าวผ่านวิกฤตต่างๆ ได้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสและเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอีกด้วย การที่ บจ. ไทยได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืน DJSI เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจให้ความสำคัญทั้งการสร้างผลประกอบการที่ดีควบคู่ไปกับการดำเนินงานด้าน ESG ซึ่งการประเมินปีล่าสุด S&P Global ได้ยกระดับมาตรฐานหลายประเด็น เช่น การดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่การลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Commitment) การเปิดเผยข้อมูลเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามมาตรฐาน Task Force on Climate-Related Financial Disclosures (TCFD) และการดำเนินงานโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เป็นต้น ดังนั้น บริษัทที่มีการปรับตัวในกระบวนการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทานให้สอดรับกับประเด็นดังกล่าว นอกจากจะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับตัวธุรกิจเองแล้ว ยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจของตลาดทุนไทยและความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย” นายภากรกล่าว
บจ. ไทย 26 แห่งที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืน DJSI ได้แก่ ADVANC, AOT, BANPU, BDMS, BJC, BTS, CPALL, CPF, CPN, CRC, DELTA, EGCO, GPSC, HMPRO, IRPC, IVL, KBANK, MINT, PTT, PTTGC, SCB, SCC, SCGP, TOP, TRUE, และ TU ในจำนวนนี้มี บจ. ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ CRC, GPSC และ SCGP และ 11 แห่ง อยู่ในดัชนีกลุ่ม DJSI World ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีศักยภาพทั้งในด้านขนาดและผลการประเมินความยั่งยืน ได้แก่ ADVANC, AOT, CPALL, CPN, DELTA, IVL, KBANK, PTT, PTTGC, SCB และ SCC ทั้งนี้ การประกาศรายชื่อสมาชิกในกลุ่ม DJSI ในครั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป