บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด รับรางวัลยอดเยี่ยม Deal of the Year ด้านการระดมทุน ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ให้กับ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) โดยมี คุณภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ (ซ้ายสุด) ประธานกรรมการ บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้ง คุณชาญชัย กงทองลักษณ์ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้จำกัด และคุณสุธางค์ คนศิลป (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ร่วมรับมอบรางวัลจาก ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในงาน SET Awards 2020 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และวารสารการเงินธนาคาร เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา
ธุรกิจหล่อลื่น โออาร์ คว้า 2 รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ปี 2563
รายงานข่าว เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2563 (The Prime Minister’s Industry Award 2020) ให้แก่ นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ และนายชุมพล สิริปูชกะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น โออาร์ ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต โดยรางวัลนี้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมให้มีคุณภาพมาตรฐาน และเสริมสร้างความพร้อมในการแข่งขันระดับสากล โดยธุรกิจหล่อลื่นของ โออาร์ ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นใน 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทการบริหารงานคุณภาพ และประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน

นางสาวจิราพร เปิดเผยว่า โออาร์ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการองค์กรอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ สามารถติดตามและตรวจสอบได้ อีกทั้งยังเตรียมพร้อมกับทุกสถานการณ์ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพส่งถึงผู้บริโภค
ธุรกิจหล่อลื่น ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของ โออาร์ ที่ได้ดำเนินการมากกว่า 30 ปี ครองส่วนแบ่งตลาดในประเทศเป็นอันดับหนึ่งมาต่อเนื่องถึง 11 ปี และได้ขยายตลาดไปมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ได้มีการพัฒนาระบบบริหารงานคุณภาพ และการรวบรวมองค์ความรู้ ทั้งด้านต้นทุน เวลา และความปลอดภัย ตลอดจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังได้ปรับปรุงการบริหารจัดการกระบวนการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานให้มีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ การได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ โออาร์ ในการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวหน้า เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างยั่งยืน
ซีพีเอฟ ได้รับเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน เป็นปีที่ 6
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มอบโล่เกียรติคุณ สำหรับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2563 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) แก่ นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โดยซีพีเอฟได้รับคัดเลือกจาก SET ให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ภายในงาน SET AWARDS 2020
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า การได้เป็นหนึ่งในหุ้นยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ของซีพีเอฟ ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนที่ดีทางเศรษฐกิจและการเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ รายชื่อหุ้นยั่งยืนยังถูกใช้เพื่อเป็นเกณฑ์คำนวณดัชนี SETTHSI เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนพิจาณาลงทุนตามแนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืน ที่นำปัจจัยด้าน สิ่งแวดล้อม, สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) มาประกอบการตัดสินใจ

ซีพีเอฟ กำหนดกลยุทธ์ความยั่งยืนระยะยาวในการดำเนินธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์สู่ความยั่งยืน 3 เสาหลัก ประกอบด้วย อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ซีพีเอฟ ได้ร่วมรับผิดชอบต่อสังคมในหลายรูปแบบ เช่น การส่งมอบอาหารปลอดภัย ให้ประชาชนในประเทศไทยและประเทศที่ ซีพีเอฟ เข้าไปลงทุนอีก 16 ประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกันยังได้ยกระดับมาตรการป้องกันโรคในระดับสูงสุด เพื่อดูแลสุขภาพพนักงานทุกคนให้ปลอดภัยจากโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถส่งมอบอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภคทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้มีบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนทั้งสิ้น 124 บริษัท เป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET 114 บจ. และ mai 10 บจ. ซึ่งมาจากการเข้าร่วมตอบแบบประเมินความยั่งยืน ประกอบด้วยข้อคำถาม 19 หมวดครอบคลุมมิติเศรษฐกิจ (รวมบรรษัทภิบาล) สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นวัดผลในด้านกระบวนการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ประกอบด้วย การกำหนดนโยบาย การตั้งเป้าหมาย การนำนโยบายไปปฏิบัติ การวัดผลลัพธ์จากการดำเนินการ และการเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ซึ่งบริษัทที่ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนจะต้องมีคะแนนผ่านร้อยละ 50 ในทุกมิติ และผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
ทิพยประกันภัย คว้ารางวัล สินค้าและบริการกลุ่มประกันยอดเยี่ยมแห่งปี
รายงานข่าว เปิดเผยว่า บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลเกียรติยศ ประเภทสินค้าและบริการกลุ่มประกันยอดเยี่ยมแห่งปี กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกันภัยไวรัสโคโรนา หรือ Covid-19 ในงาน “BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2020”
โดยรางวัลนี้ พิจารณาคัดเลือกจากสินค้าและบริการที่มีการวิจัยพัฒนาและการวางแผนการตลาดที่ดีเพื่อให้ได้สินค้าและบริการที่ดีเยี่ยม และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยผ่านการคัดเลือกขั้นต้นจากทีมบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิ จากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล การให้คะแนนโดยการโหวตจากประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ รางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของผู้บริหารและพนักงาน ทิพยประกันภัย ที่ได้นำเสนอ Product ที่ตรงความต้องการของลูกค้า ประชาชน และทันต่อสถานการณ์
พิธีมอบรางวัล จัดขึ้นที่โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า บางกอก โดยมีนาย ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธี และดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทิพยประกันภัย เข้ารับรางวัลดังกล่าว
บีทีเอส ปรับการเดินรถเตรียมรับ 7 สถานีเปิดใหม่ สายสีเขียว หมอชิต-คูคต
รายงานข่าวจาก บริษัท บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับรูปแบบให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อเตรียมความพร้อมเปิด 7 สถานีใหม่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วง หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 59 สถานีสายหยุด สถานีสะพานใหม่ สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ สถานีแยก คปอ. และสถานีคูคต ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
โดยบริษัทฯ จะจัดรูปแบบการเดินรถ และแบ่งระยะเวลาการให้บริการเป็น 2 ช่วงหลักดังนี้
1. ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า ตั้งแต่เวลา 07.00 – 09.00 น. และช่วงเวลาเร่งด่วนเย็น ตั้งแต่เวลา 16.30 – 20.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ การให้บริการระหว่างสถานีหมอชิต (N8) ถึงสถานีสำโรง (E15) จะมีความถี่ระหว่างขบวน 2 นาที 40 วินาที ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสังเกตจากป้ายด้านหน้า และด้านข้างขบวนรถ เสียงประกาศบนชั้นชานชาลา ในขบวนรถ และจอประกาศบนสถานี
2. ช่วงนอกเวลาเร่งด่วนในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.30 น. และเวลา 20.00 น. จนถึงเวลาปิดให้บริการ ในวันเสาร์ และวันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รถทุกขบวนจะวิ่งตั้งแต่สถานีเคหะฯ ถึงสถานีคูคต โดยจะมีความถี่ 6 นาที 30 วินาทีส่วนการเดินรถไฟฟ้าสายสีลมนั้น รูปแบบและความถี่ในการเดินรถยังคงเหมือนเดิม โดยช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น จะมีความถี่ของการเดินรถ 3 นาที 45 วินาที

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส โทรศัพท์ 0 2617 6000 (ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 21.00 น.) Line official : bit.ly/2TUzZXH

AIS Fibre ตั้งเป้าขึ้น Top 3 ผู้นำอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไทย
ขึ้นแท่นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยอดเยี่ยมในเอเชีย-แปซิฟิกประจำปี 2020 กับรางวัล 2020 Asia-Pacific Fixed Broadband Service Provider of the Year การันตีโดย Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการวิจัยเชิงธุรกิจ
นายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส เปิดเผยว่า จากไลฟ์สไตล์คนไทยในยุคดิจิทัล ประกอบการการเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเติบโตในอัตราเร่งสูงขึ้น เห็นได้จากภาพรวมการให้บริการของ AIS Fibre แม้เผชิญปัจจัยเสี่ยงจากโควิด-19 แต่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นทั้งในด้านรายได้และจำนวนลูกค้า โดยในไตรมาส 3 มีจำนวนลูกค้าฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เติบโตแกร่งเหนือตลาดซึ่งโตเพียง 1.2% ด้วยแนวคิด “เร็วกว่า ดีกว่า ง่ายกว่า” ครอบคลุม 3 ด้านเพื่อมอบประสบการณ์เน็ตบ้านคุณภาพให้คนไทย ประกอบด้วย

– เร็วกว่า (Forward) นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดมาสร้างมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็วเป็นรายแรกและรายเดียวในไทยนับตั้งแต่วันเปิดให้บริการ ตั้งแต่การนำเทคโนโลยีไฟเบอร์แท้ 100% มาให้บริการ, เทคโนโลยี Dual Bandwidth แยก 2 เราเตอร์เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเล่นเกม, AIS Fibre WiFi6 Upgrade Kit อัปเกรดเครือข่าย Wi-Fi ในบ้านให้สปีดสูงขึ้น ใช้งานไม่มีสะดุด ลดสัญญาณรบกวน รายแรกในประเทศไทย พร้อมออกแพ็กใหม่กระแทกใจสายโปรกับ Power 4 Online Special Package แพ็กเน็ตบ้านแบบ BYOD ที่ให้ลูกค้าเลือกเราเตอร์ได้เองตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ
– ดีกว่า (Better) ยกระดับการให้บริการที่เหนือกว่า สร้างมาตรฐานใหม่ของเน็ตบ้านรายแรกของไทย ให้การใช้งาน Wi-Fi ดีทั้งบ้าน ตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้งด้วย AIS Fibre MESH WiFi – เน็ตเร็ว WiFi แรง ครอบคลุมทั่วบ้าน พร้อมออกบริการเสริม AIS Fibre MESH WiFi รายเดียวในไทยที่ให้ลูกค้าสามารถเพิ่ม MESH WiFi ได้สำหรับทุกแพคเก็จ และยังมีบริการเหนือระดับกับ เอไอเอส ไฟเบอร์ กูรู สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าก่อนติดตั้ง สามารถใช้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
– ง่ายกว่า (Simple) ให้ลูกค้าได้ใช้งานเทคโนโลยีทันสมัยได้ง่ายๆ อาทิ Speed Toggle ที่ลูกค้าเอไอเอส ไฟเบอร์ สามารถปรับสปีดอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตัวเอง รายแรกของไทย หรือการเปิดช่องทางติดต่อสื่อสารผ่าน AIS Fibre Line Connect ให้ลูกค้าทำรายการด้วยตนเอง และติดต่อง่ายกว่า ผ่านช่องทางออนไลน์ที่คุ้นเคย
ล่าสุด AIS Fibre ได้รับรางวัล 2020 Asia-Pacific Fixed Broadband Service Provider of the Year หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยอดเยี่ยมในเอเชีย-แปซิฟิกประจำปี 2020 การันตีโดย Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการวิจัยเชิงธุรกิจที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 50 ปี โดยเอไอเอส ไฟเบอร์ เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์รายแรกของไทยที่ได้รับรางวัลนี้ ทั้งยังได้คะแนนสุงสุดเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการอื่นๆ ในอีก 8 ประเทศของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

สำหรับปีหน้า 2021 เอไอเอส ไฟเบอร์ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพการบริการเพื่อมอบประสบการณ์เน็ตบ้านที่ดีที่สุดให้กับคนไทย ได้แก่ การขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มเติม ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทย อย่างตรงตามความต้องการจากการติดตามพฤติกรรมลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนไลฟ์สไตล์ดิจิทัลให้คนไทยเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตบ้านได้ง่ายกว่าเดิม รวมถึงขยายช่องทางจัดจำหน่ายร่วมกับเหล่าพันธมิตรชั้นนำ ทั้ง Telecom Shop และ None Telecom Shop อาทิ Jmart, TG, Powerbuy, PowerMall, iStudio, .life, AIS Corner @ Family Mart, AIS Corner@Tops Daily, AIS Corner@Mini BigC และไปรษณีย์ไทย ให้ลูกค้าสมัครใช้บริการเอไอเอส ไฟเบอร์ได้อย่างง่ายดายและสะดวกกว่าที่เคย, การดูแลการใช้งานแบบ Proactive เกาะติดทุกปัญหาของลูกค้าอย่างใกล้ชิดแบบบ้านต่อบ้านด้วยเทคโนโลยีทันสมัย พร้อมแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีในแบบที่ลูกค้าไม่ทันรู้ตัว, การนำเสนอบริการและนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์คุณภาพสูงอันดับ 1 ของไทย และการมอบบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดี ด้วยบริการจากทีมช่างคุณภาพ กับโครงการ Certification FTTx Course and Workers for Advanced Wireless Network โดยร่วมมือกับสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสาร ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า และศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษ เฉพาะด้านเทคโนโลยีไฟฟ้ากำลัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายแรกในไทย อีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้คุณภาพงานติดตั้งที่ได้มาตราฐาน และมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย

อินเตอร์เนชั่นแนลเพ็ทฟู้ด คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ปี 2563
รายงานข่าว เปิดเผยว่า บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเพ็ทฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสุนัขและแมว แบรนด์ “เจอร์ไฮ” “เคซี่” และ “จินนี่” ในกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2563 (The Prime Minister’s Industry Award 2020)
โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2563 ประเภทรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น การเพิ่มผลผลิต แก่ นายกิติศักดิ์ ลิ้มอำไพ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเพ็ทฟู้ด จำกัด
นายกิติศักดิ์ เปิดเผยว่า การได้รับรางวัลดังกล่าว สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไทยในตลาดโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้ในการผลิตอาหารสัตว์คุณภาพดี ปลอดภัย และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต ตอกย้ำความสำเร็จของผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงที่คว้ารางวัลระดับประเทศเป็นปีที่ 4

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2557 แบรนด์เจอร์ไฮ ของบริษัท ก็ได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award 2014 ประเภทแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ส่งออกไทยภายใต้ตราสินค้าตนเอง, ในปี 2560 ได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award 2017 ด้านสินค้านวัตกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม (Best Green Innovation Award) เป็นผลจากการพัฒนากระบวนการผลิตหรือการค้นหาวัสดุใหม่ๆ เพื่อลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตที่ส่งผลให้เป็นสินค้าอาหารสุนัขและแมวที่มีนวัตกรรมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และในปี 2562 ได้รับรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Prime Minister’s Export Award 2019 : (PM Export Award 2019) ประเภทผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter)
นอกจากนี้ แบรนด์ “เจอร์ไฮ” ยังได้รับคัดเลือกให้เข้ารับรางวัลในเวทีระดับโลก World Branding Awards 2017-2018 รางวัลแบรนด์ระดับโลก จากเวิลด์ แบรนดิ้ง ฟอรั่ม (World Branding Forum) ในประเภทธุรกิจผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง สาขาขนมสุนัข ณ Hofburg Palace กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย นับเป็นแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงรายแรกและรายเดียวของประเทศไทยที่สามารถคว้ารางวัลแบรนด์ระดับโลกนี้ได้

ผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขแบรนด์ เจอร์ไฮ สามารถครองแชมป์อันดับหนึ่งของตลาดขนมสุนัขในประเทศไทย และส่งออกไปจำหน่ายถึง 18 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศ ออสเตรเลียและอินเดีย มีวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ ห้าง Wal-Mart ในแคนาดา สหรัฐอเมริกา ห้าง Wool-Worth และ ห้าง Coles ในประเทศออสเตรเลีย ห้าง K-Mart ในเกาหลีใต้ และ Park’N Shop ในฮ่องกง
พีทีที สเตชั่น ปลื้ม ได้รางวัลองค์กรดีเด่นสนับสนุนการดำเนินงานด้านคนพิการ 2563
นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ รับรางวัล “สถานที่ดีเด่นที่เอื้อต่อคนพิการ ประจำปี 2563” ในฐานะองค์กรดีเด่นที่มีการสนับสนุนการดำเนินงานด้านคนพิการ รางวัลประเภท ดีเยี่ยม โดยสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น (PTT Station) ได้รับรางวัลจำนวน 3 แห่ง ได้แก่
- สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น สุวินทวงศ์ (ขาเข้า)
- สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น เทพรักษ์ (บางเขน) และ
- สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น พุทธมณฑลสาย 4
ส่วนรางวัลประเภท ชมเชย จำนวน 1 แห่ง คือ สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น วิภาวดีรังสิต 11 โดยได้รับเกียรติจาก นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้มอบรางวัล

ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมและกระตุ้นให้ภาครัฐและเอกชนจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ และเพื่อให้คนพิการได้รับความสะดวกในอุปกรณ์และบริการสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมเข้าอาคารสถานที่และบริการต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป ที่สอดคล้องกับความตั้งใจของ โออาร์ ที่มุ่งเน้น พัฒนา สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ในรูปแบบเฟรนด์ลี่ดีไซน์ เพื่อให้ผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพ สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่บริการของสถานีบริการน้ำมันฯ ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเท่าเทียม
ซีพีเอฟ ติดปีกเอสเอ็มอีคู่ค้าธุรกิจ สู้วิกฤติโควิด-19
คู่ค้าเอสเอ็มอี 6,000 ราย ซัพพลายเออร์ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ต่างได้รับประโยชน์จากโครงการชำระค่าสินค้าและบริการ เครดิตเทอมภายใน 30 วัน (Faster Payment) ปรับการบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มุ่งรักษาธุรกิจและการจ้างงานต่อเนื่อง ร่วมเป็นกลไลขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย
คู่ค้าหลายราย พึงพอใจในโครงการเครดิตเทอม 30 วันอย่างเต็มที่ โดยยอมรับว่านโยบายการลดระยะการจ่ายเงินค่าสินค้าของบริษัทฯ ช่วยให้มีกระแสเงินสดมาช่วยบริหารจัดการธุรกิจไม่หยุดชะงักและช่วยต่ออายุให้การดำเนินงานมีความคล่องตัวขึ้นและสามารถเดินหน้าธุรกิจได้รต่อเนื่อง แม้สถานการณ์โควิด-19 ยังต้องจับตาเฝ้าระวัง
นายเสกภณ บุญเตชะธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขอบคุณ 2562 ผู้จัดจำหน่ายสินค้าสำหรับห้องปฏิบัติการ จ.สระบุรี กล่าวว่า โครงการเครดิตเทอม 30 วันของซีพีเอฟ ช่วยสนับสนุนทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ SMEs ขนาดเล็กอย่างบริษัทขอบคุณ ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้สภาพคล่องของบริษัทดีขึ้นกว่าเดิม เอื้อให้บริษัทสามารถปรับเปลี่ยน การจัดจำหน่าย และวางแผนการนำเข้าสารเคมีได้คล่องตัวขึ้น ช่วยให้ต้นทุนในการนำเข้าสินค้าต่ำลง และมีความมั่นใจที่จะขยายธุรกิจต่อไปได

นายกฤษฎา สิงหเดชา บริษัท ไวภพ วิศวกรรม จำกัด บริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นคู่ค้า ซีพีเอฟ มานานหลายปี กล่าวว่า โครงการเครดิตเทอม 30 วัน ของ ซีพีเอฟ มีประโยชน์มากกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัว หลังปริมาณงานและยอดสั่งซื้อลดลงมาก การได้รับเงินเร็วขึ้นช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ มีเงินใช้จ่ายในธุรกิจและลงทุนมากขึ้นในช่วงสภาพที่เศรษฐกิจขาลง

นางสาวนฤมล แสงมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็มพี ยูนิฟอร์ม จำกัด อยู่จังหวัดสระบุรี ผู้ผลิตชุดยูนิฟอร์มให้อุตสาหกรรมอาหารทั่วประเทศ กล่าวว่า ซีพีเอฟเป็นหนึ่งในลูกค้าหลักในช่วงโควิด-19 และได้รัผลกระทบยอดสั่งซื้อลดลง ไม่ต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ขณะนี้แม้ว่ายอดสั่งซื้อจะเริ่มกลับมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่เท่ากับก่อนที่เกิดโควิด เพราะลูกค้าหลายรายพยายามลดต้นทุนการผลิตโดยไม่สั่งซื้อใหม่ การได้รับเครดิตเทอมที่เร็วขึ้นช่วยสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดสั่งซื้อและลูกค้าใหม่ๆ ได้โดยไม่ต้องกู้เงิน ไม่มีภาระดอกเบี้ย
ด้านนายพิชิต กาญจนประพิณ เจ้าของกิจการ หจก.ไทยรัตน์วัสดุภัณฑ์ (1997) ผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ใช้ในโรงงาน จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ยอดสั่งซื้อสินค้าของบริษัทลดลงมาก เครดิตเทอม 30 วันเป็นโครงการที่ดี ช่วยซัพพลายเออร์ เอสเอ็มอี ได้รับผลกระทบจากยอดขายลดลง การที่เอสเอ็มอีรายเล็กๆ มีเงินเข้ามาหมุนเวียนในธุรกิจเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน และมีกำลังในการรักษาธุรกิจให้เดินหน้าต่อได้ และสามารถรักษาคนงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อครอบครัวของลูกจ้างได้อีกด้วย
ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี เป็นหัวใจสำคัญในห่วงโซ่การผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพ ปลอดภัย มาตรฐานสากล แก่ผู้บริโภค ของ ซีพีเอฟ นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการผลิต การจ้างงาน การลงทุน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โครงการ Faster Payment จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ซีพีเอฟจับมือคู่ค้าเพื่อเดินหน้าฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้อย่างมั่นคงและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ที่สำคัญเป็นแนวทางช่วยหนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ซีพีเอฟ ร้านค้าและแบรนด์สินค้าในกลุ่มของซีพีเอฟ ทั้ง CP, CP Freshmart, ห้าดาว เชสเตอร์ ดัค กาลบี้ CP-HiLai เป็นต้น ประกาศชำระเงินค่าสินค้าภายใน 30 วัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นมา โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือคู่ค้า SMEs ที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท รวมทั้งคู่ค้าที่เป็นรายบุคคลกว่า 6,000 รายทั่วประเทศ เพื่อรักษาธุรกิจให้ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นการร่วมสนับสนุนฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล
พีทีที สเตชั่น มอบแอลกอฮอล์ล้างมือ ให้ 5 จังหวัดภาคเหนือ และราชบุรี สู้ภัยโควิด 19
รายงานข่าว เปิดเผยว่า จากการพบผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด 19 รายใหม่ในประเทศไทยอีกครั้ง ในพื้นที่ภาคเหนือและบางจังหวัดในภาคตะวันตก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ พร้อมด้วยผู้บริหาร สถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น ใน 5 จังหวัดภาคเหนือ และจังหวัดราชบุรี ร่วมส่งมอบแอลกอฮอล์แบบน้ำบรรจุขวดขนาด 1,000 มิลลิลิตร และแอลกอฮอล์แบบเจลบรรจุถุงขนาด 500 มิลลิลิตร รวมกว่า 8,100 ลิตร ให้แก่หน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พะเยา ตาก พิจิตร เชียงใหม่ และราชบุรี เพื่อกระจายแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ดังนี้

· สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย แอลกฮอล์รวมจำนวน 1,500 ลิตร ประกอบไปด้วยแอลกอฮอล์น้ำจำนวน 1,000 ลิตร และเจลแอลกอฮอล์จำนวน 500 ลิตร
· สาธารณะสุขจังหวัดพะเยา แอลกฮอล์รวมจำนวน 800 ลิตร ประกอบไปด้วยแอลกอฮอล์น้ำ จำนวน 500 ลิตร และเจลแอลกอฮอล์ จำนวน 300 ลิตร
· สาธารณสุขอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แอลกฮอล์รวมจำนวน 1,500 ลิตร ประกอบไปด้วยแอลกอฮอล์น้ำ จำนวน 1,000 ลิตร และเจลแอลกอฮอล์ จำนวน 500 ลิตร
· สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร แอลกฮอล์จำนวน 1,500 ลิตร ประกอบไปด้วยแอลกอฮอล์น้ำ จำนวน 1,000 ลิตรและเจลแอลกอฮอล์ จำนวน 500 ลิตร
· สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แอลกฮอล์แบบน้ำจำนวน 2,000 ลิตร
· สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี แอลกฮอล์รวมจำนวน 800 ลิตร ประกอบไปด้วยแอลกอฮอล์น้ำ จำนวน 500 ลิตร และเจลแอลกอฮอล์ จำนวน 300 ลิตร
ทั้งนี้ สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความสะอาดบริเวณสถานีบริการน้ำมัน และห้องน้ำ รวมทั้งการปฏิบัติงานของพนักงานหน้าลานและแม่บ้าน อาทิ การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ ให้พนักงานทุกคนล้างมือและสวมหน้ากากอนามัย ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และจัดให้มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค