Home Blog Page 374

แม็คโคร บิ๊กคลีนนิ่งทุกสาขา สู้โควิด-19 ยันสินค้ามีเพียงพอความต้องการ

0

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ห้างแม็คโครได้ปฏิบัติการเชิงรุกอย่างเข้มข้น โดยทำการบิ๊กคลีนนิ่ง ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในทุกสาขา รวมทั้งศูนย์กระจายสินค้า ตั้งแต่วันที่ 1-3 มกราคม ภายใต้คำแนะนำของกรมอนามัยและสาธารณสุุขจังหวัดทุกจังหวัด อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19

“แม็คโครได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในทุกวิถีทางที่ทำได้ เช่นเดียวกับการทำบิ๊กคลีนนิ่งและฆ่าเชื้อทุกสาขา หลังช่วงการจับจ่ายในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แม้ต้องมีค่าดำเนินการมากขึ้นก็ตาม แต่เราได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานอย่างสูงสุด ส่วนมาตรการอื่นๆ ยังปฏิบัติตามแนวทางของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดการภายในสาขาให้ปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสถานประกอบการปลอดภัยป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองจากกรมอนามัยในทุกสาขา”

นางศิริพร กล่าวว่า มาตรการหลักของแม็คโคร ประกอบด้วย การตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย, การกำหนดให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายในสาขา, การเพิ่มจุดวางแอลกอฮอล์เจลให้มากขึ้น, เพิ่มความถี่การทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อยด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 15 นาที อาทิ รถเข็น เคาท์เตอร์บริการต่างๆ โทรศัพท์ ตู้เอทีเอ็ม รถวิลแชร์สำหรับลูกค้า อีกทั้งยังได้เพิ่มมาตรการเสริม ประกอบด้วย

1. กำหนดจำนวนลูกค้าเข้าสาขา โดยการนับจำนวนคนเข้า-ออก และรายงานจำนวนคนที่อยู่ภายในสาขาทุกครึ่งชั่วโมง (1 คนต่อ 1 ตารางเมตร) พร้อมจัดที่นั่งรอห่างกัน 1 เมตรด้านหน้าสาขา เมื่อปริมาณคนในสาขาเกินจำนวนที่กำหนด

2. ตีเส้นรักษาระยะห่างที่พื้น (Social distancing grid) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการรักษาระยะห่างของแต่ละบุคคล ในจุดที่มีความหนาแน่น เช่น แผนกอาหารสด แผนกเนื้อสัตว์ และจุดชำระเงิน

3. จัดทีมรักษาระยะห่าง 3-5 คนต่อสาขา(Social distancing scouts) คอยเดินประกาศ ย้ำเตือนเรื่องการรักษาระยะห่างให้ลูกค้าเกิดความเคยชินและปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิตใหม่ (New normal)

4. เน้นบริการชำระเงินแบบ Cashless payment เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสดในทุกสาขา

ในส่วนของปริมาณสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ที่มีความต้องการจากประชาชนเป็นจำนวนมาก นางศิริพร กล่าวยืนยันว่า แม็คโครมีสินค้าเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงดำเนินการทุกวิถีทางในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อสุขอนามัยอย่างปลอดภัยขั้นสูงสุดของลูกค้า พนักงาน และสังคมโดยรวมเป็นสำคัญ

เอไอเอส เผยคนงดเดินทางช่วงปีใหม่ ดันเน็ตบ้านโตพุ่งกว่า 70% 

0

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส  เปิดเผยว่า รูปแบบการใช้งานบนเครือข่ายของลูกค้าเอไอเอสในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2564  พบว่า ประชาชนมีการเดินทางออกต่างจังหวัดน้อยลง กว่า 30% เนื่องจากการเฝ้าระวังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และหันมาใช้ดาต้าจากเน็ตบ้าน เพื่อสื่อสาร ส่งความสุข , รับชมความบันเทิง , ช็อปปิ้ง Online ตลอดจนทำงานแบบ Work From Home หรือ Work From Anywhere มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส

โดยการใช้งานดาต้าบน Wifi ของเน็ตบ้าน เพิ่มมากถึงกว่า 70% บนโซเชียลยอดนิยมอย่าง Facebook ที่มี Feature ตอบโจทย์ครบถ้วน ทั้ง LIVE และ VDO รวมถึงยังพบว่ามีการเข้าชม Content ประเภท VDO สูงสุด เนื่องจากในปีนี้หลายแห่งงดการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์และเปลี่ยนรูปแบบให้สามารถรับประสบการณ์ที่หลากหลายได้มากขึ้น ตั้งแต่ 4K, VR และ AR ผ่านทาง Device ทุกรูปแบบ โดยในส่วนของเอไอเอสเอง พบว่า การจัดงานคอนเสิร์ตรูปแบบ Virtual Reality (VR)  ในงาน AIS 5G The Future of Virtual Celebration 2021 ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง มียอดผู้เข้าชมผ่านทุกช่องทาง ทั้งแบบ 360° บนแอปพลิเคชัน AIS 5G PLAY VR, AIS PLAY, กล่อง AIS PLAY BOX  ตั้งแต่ 18.00 น. พร้อมรับชมผ่านช่อง 3 HD แบบไม่มีโฆษณาคั่น ตั้งแต่เวลา 22.20 น. เป็นต้นไป มากกว่า 5 ล้านคน

ตลอดปี 2563 การใช้งานดิจิทัลเติบโตอย่างยิ่ง โดยมีปริมาณการใช้งานดาต้าของลูกค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 17.2 กิกะไบต์ต่อเดือน ส่วนเน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ในไตรมาส 3 มีฐานลูกค้ารวม 1.26 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และถือว่าเติบโตแกร่งเหนือตลาดซึ่งโตเพียง 1.2%

แม็คโคร รับซื้อกุ้งจากเกษตรกร 200 ตันต่อสัปดาห์ สร้างความมั่่นใจกุ้งไทยปลอดภัย

0

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม็คโคร ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับซื้อกุ้งโดยตรงจากฟาร์มของเกษตรกร เพื่อเร่งระบายผลผลิตให้ทันเทศกาลเฉลิมฉลองแบบนิวนอร์มอลที่บ้าน หลังจากที่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศ ได้รับผลกระทบรุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ทั้งๆ ที่ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายปลายปีจะเป็นช่วงขายทำรายได้ของเกษตรกร แต่เมื่อประชาชนขาดความเชื่อมั่น กังวลด้านความปลอดภัย กุ้งก็ขายไม่ได้ เกษตรกรเดือดร้อนถ้วนหน้า

กิจกรรมความเชื่อมโยงและกระตุ้นการบริโภคสินค้ากุ้ง จัดขึ้นที่ แม็คโคร สาขานครอินทร์ โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยมอธิบดีกรมการค้าภายใน นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง ตลอดจนภาคีเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง สมาคมภัตตาคารไทย มาร่วมงานและร่วมออกบูธจำหนายเมนูอาหารปรุงสำเร็จจากกุ้งด้วย

นางศิริพร กล่าวว่า ในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแบบนิวนอร์มอล ที่ผู้คนหันมาทำอาหารทานเองที่บ้าน ผลผลิตกุ้งจากเกษตรกรไทยน่าจะได้รับการตอบรับดีขึ้น หลังจากภาครัฐและภาคีเครือข่าย มาช่วยกันสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งแม็คโครไม่ได้มองเพียงการช่วยเหลือในระยะสั้น แต่ยังมองถึงการต่อยอดการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน ดังพันธกิจเคียงข้างเกษตรกรไทย และการเป็นผู้นำอาหารสดปลอดภัยของแม็คโคร

ทั้งนี้ แม็คโครได้นำเสนอกุ้งราคาดีจากเกษตรกรให้ผู้บริโภคทั่วประเทศเข้าถึงและมั่นใจได้ โดยเฉพาะกุ้งขาว 3 ขนาดที่เป็นไฮไลท์ช่วงส่งท้ายปี ประกอบด้วย กุ้งขนาด 40-50 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 199 บาท กุ้งขนาด 31-40 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 239 บาท และกุ้งขนาด 70-75 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 189 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มกราคม 2564

ทิพยประกันภัย ออกประกันโควิด-19 จ่ายครึ่งเดียว เฉพาะเดือนม.ค.นี้เท่านั้น

0

โครงการ “คนละครึ่งสู้ภัยโควิด…รัฐไม่ต้องออกทิพยออกให้” ด่วน จำกัด 1,000,000 สิทธิ์ เพียงเดือนเดียวเท่านั้น

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า จากเหตุการณ์ ไวรัสโคโรนา (โควิด-19) สายพันธุ์ใหม่ ที่พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้ บริษัทจึงได้ทำโครงการ “คนละครึ่งสู้ภัยโควิด…รัฐไม่ต้องออกทิพยออกให้” เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการประกันภัยโควิด-19 เพื่อรองรับความเสี่ยงในราคาประหยัด และถือเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่จากทิพยประกันภัย โดยบริษัทจะช่วยออกค่าเบี้ยประกันภัยให้ครึ่งหนึ่ง ทุนประกันภัยสูงสุด 1 แสนบาท ทั้งนี้ ประชาชนสามารถซื้อประกันนี้ได้ในราคาเพียง 75 บาท จากปกติราคา 150 บาท โดยจำกัดสิทธิ์เพียง 1,000,000 สิทธิ์เท่านั้น เริ่มโครงการ 1 มกราคม ถึง 31 มกราคม 2564

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย

เอไอเอส สนับสนุนเครือข่ายสัญญาณเต็มที่ใน “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” ร่วมต้านภัยโควิด-19

0

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม  หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ความเสี่ยงสูง และเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” ที่เป็นจุดศูนย์กลางของการบริหารจัดการเพื่อดูแลและสกัดกั้นการระบาด ใน 3 แห่ง ประกอบด้วย สนามกีฬา จังหวัดสมุทรสาคร, อาคารและพื้นที่ปฏิบัติธรรม วัดโกรกกราก และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร แล้วนั้น  เพื่อเป็นการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการสื่อสาร และให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยได้มีโอกาสสื่อสารกับครอบครัวให้คลายความกังวล   ทีมวิศวกรเอไอเอส เดินหน้าติดตั้งและขยายเครือข่ายเพิ่มเติมในทั้ง 3 จุดดังกล่าวข้างต้นแล้วอย่างเร่งด่วน ประกอบด้วย

–         ขยายความสามารถในการรองรับการใช้งาน พร้อมความครอบคลุมของเครือข่าย AIS 5G

–         ติดตั้ง AIS Fiber พร้อมสัญญาณ WIFI

สายชล ทรัพย์มากอุดม  หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส

โดยก่อนหน้านี้ได้สนับสนุนซิมการ์ดแบบเติมเงิน พร้อมด้วยประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อโควิด-19 ให้แก่กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว – อสต. ที่กำลังลงพื้นที่อย่างหนัก เพื่อให้สามารถติดต่อประสานงานระหว่างกลุ่มแรงงานต่างชาติกับโรงพยาบาล ,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสภากาชาด ในการติดตาม, คัดกรอง, เฝ้าระวัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงน้ำดื่มให้แก่ทางจังหวัดไปแล้วอีกด้วย

 “ในฐานะภาคเอกชน เราขอเป็นตัวแทนขอบคุณ และส่งความห่วงใย พร้อมกำลังใจไปยังอาสาสมัคร ทั้ง อสต.และ อสม.ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ซึ่งได้เสียสละอย่างยิ่งในการปฏิบัติงาน เพื่อรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดรอบใหม่นี้อย่างเต็มที่  โดยเอไอเอสยืนยันร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำระบบสื่อสารเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้ประเทศไทยก้าวผ่านสภาวะการระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้อย่างดีที่สุด”

แกะกล่องของขวัญจากกรมชลประทานให้เกษตรกร

0

นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้สนองนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมจัดกิจกรรม “ส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปี พ.ศ.2564” ด้วยการส่งมอบโครงการชลประทานขนาดเล็ก และโครงการปรับปรุงถนนคันคลองชลประทาน ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เป็นของขวัญปีใหม่ 2564 ให้กับคนไทยทั้งประเทศ ดังนี้

ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ลู่บ้านผาแมว อำเภอแม่ทะ และฝายใหม่แม่สุกหนองกอก พร้อมระบบส่งน้ำ อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง , ฝายทุ่งอีแจ้พร้อมระบบส่งน้ำ อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา , อ่างเก็บน้ำห้วยหลาม อำเภอท่าวังผาและอ่างเก็บน้ำห้วยท่าง อำเภอปัว จังหวัดน่าน , สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พื้นที่ชลประทาน 2,000  ไร่ บ้านแม่พุงเหนือ อำเภอป่าแดด และ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย , การปรับปรุงคันคลองและกำจัดวัชพืชคลองชลประทาน ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด และปรับปรุงแก้มลิงและกำจัดวัชพืช โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ , การปรับปรุงคันคลอง ถนนคันคลองส่งน้ำสายใหญ่แม่ยมฝั่งขวา อำเภอสอง จังหวัดแพร่ , การส่งมอบสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ บ้านคลองหนองดง ให้กับ อบต.บางลาย อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร และซ่อมแซมคันคลองชลประทาน ระยะทาง 5.872 กิโลเมตร ตำบลทับยายเชียง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่โครงการแก้มลิงกุดอ้อพร้อมอาคารประกอบ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม สามารถเพิ่มความจุน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติบึง กุดอ้อ ได้อีก 0.41 ล้าน ลบ.ม. ส่งมอบอาคารท่อลอดรับน้ำ จำนวน 10 แห่ง และงานถนนลูกรังพร้อมบดอัดแน่น ปริมาณ 2,928 ลบ.ม. ให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม , โครงการฝายห้วยยาง พื้นที่รับประโยชน์ 500 ไร่ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม และฝายห้วยทราย พื้นที่รับประโยชน์ 825 ไร่ ตำบลคำบก อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร , การกำจัดวัชพืชบริเวณลำน้ำพอง และลำห้วยเสือเต้น จังหวัดขอนแก่น และการปรับปรุงคันคลอง/กำจัดวัชพืช ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น

ภาคตะวันออก โครงการชลประทานระยอง ได้ดำเนินการปรับปรุงคันคลอง ซ่อมแซมคอนกรีตดาด LMC – 1R-9R กม. 1+300 โครงการอาคารบังคับน้ำคลองใหญ่ ณ ตำบลชากบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง

ด้านภาคใต้ ได้มีการส่งมอบโครงการชลประทานต่างๆ อาทิ สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหาดแตง พื้นที่รับประโยชน์ 3,000 ไร่ ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร , โครงการฝายทดน้ำห้วยตะแกละ พื้นที่รับประโยชน์ 275 ไร่ ให้กับสำนักงานเทศบาลตำบลท่าแล้ง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี , โครงการอาคารบังคับน้ำบ้านบางสีกิ้ม พื้นที่ชลประทาน 2,000 ไร่ ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลทรายแดง อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง , ส่งมอบทำนบดินบางเตยพร้อมระบบส่งน้ำให้แก่ อบต.นบปริง อำเภอเมือง จังหวัดพังงา , โครงการฝายบ้านสะท้อนกลวง พื้นที่รับประโยชน์ 500 ไร่ ตำบลสินปุน อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ , โครงการฝายบ้านแม่ทะล่างและโครงการแก้มลิงสำนักสงฆ์แม่ทะล่าง ให้แก่ อบต.ประสงค์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

นอกจากนี้ ยังมีการส่งมอบโครงการก่อสร้างระบบประปา บ้านผัง 16 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลนิคมพัฒนา ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล การปรับปรุงคันคลองชลประทานเป็นแบบ PARA ASPHALT CONCRETE จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ คลองส่งน้ำสาย  LMC (ท่าแพร) ช่วงกิโลเมตร 0+000 – 2+920 ต.ควนโดน อ.ควนโดน , คลองส่งน้ำสาย 1L-LMC (ท่าแพร)ช่วงกิโลเมตร 2+500 – 5+200 ต.ควนโพธิ์ อ.เมือง และปรับปรุงคลองส่งน้ำสาย 1L-1L-LMC (ท่าแพร) ช่วงกิโลเมตร 10+000 ถึง 12+000 ต.ฉลุง อ.เมืองสะตูล

ด้านภาคใต้ตอนล่าง ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และปัตตานี มีการมอบความสุขปีใหม่ให้กับประชาชน เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 3 โครงการ และการปรับปรุงคันคลองชลประทาน 29 โครงการ โดยที่จังหวัดปัตตานี มีการส่งมอบโครงการพนังกั้นน้ำบ้านท่าช้างระยะ 2 อำเภอไม้แก่น และคันกั้นน้ำบ้านตือระ อำเภอยะหริ่ง ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส   มีการปรับปรุงคันคลองบ้านร่มเย็น และคลองศูนย์ราชการป้องกันน้ำท่วม อำเภอเมืองนราธิวาส และที่จังหวัดยะลา มีการขุดลอกบริเวณเหนือเขื่อนปัตตานี และการขุดลอกคลองระบายน้ำ D7 ตำบลตาเซะ อำเภอเมืองยะลา

สิงห์ปาร์คฯ ชวนเที่ยวเทศกาลประดับไฟ สุดยิ่งใหญ่ในอาเซียน

0

สิงห์ปาร์ค เชียงราย จัดงาน “Village of illumination” เทศกาลประดับไฟ สุดตระการตาใหญ่สุดในอาเซียน กระตุ้นเศรษฐกิจเมืองเชียงราย ต้อนรับปี 2021

สิงห์ปาร์ค เชียงราย ร่วมกับ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) จัดงาน Village of illumination เทศกาลประดับไฟฤดูหนาว ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง เป็นครั้งแรกในไทย ชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมส่งบรรยากาศแห่งความสุขช่วงต้นปี พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองเชียงรายให้คึกคัก รับปี 2021

โดยงาน “Village Of Illumination Festival” ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย เนรมิตรพื้นที่กว่า 100 ไร่ ให้เป็นงานแสดงแสง สี เสียง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยไฟกว่าล้านดวง ผสมผสานเรื่องศิลปะ ดนตรี ดิจิทัล และเทคโนโลยี เข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้แนวคิด Falling From The Sky ปรากฎการณ์จากฟากฟ้า พบกับ 7 โซนไฟ ที่จะส่องแสงสว่างไสวพร้อมกับความประทับใจที่ทุกคนจะได้รับที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ประกอบด้วย MAYA ต้นไม้อวตารศักดิ์สิทธิ์ ที่จะชวนให้คุณหลงอยู่ในห้วงแห่งมายา, Star Meadow ทุ่งดวงดาวกว่าล้านดวง, Milky Way อุโมงค์มิติเรืองแสง, Galaxy Ocean ห้วงมหาสมุทรแห่งจินตนาการ, Forest Light ป่าลึกลับแห่งความพิศวง, PEA Village หมู่บ้านไฟกับการแสดงไฟในห้องแห่งแสง และThe New World ลูกโลกแห่งมิติใหม่ของฟากฟ้า

งาน “Village of illumination” เทศกาลประดับไฟฤดูหนาว จัดที่สิงห์ปาร์คเชียงราย ยาวต่อเนื่องระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. โดยงานนี้ได้จำกัดคนเข้าชมจำนวน 6,500 คนต่อวัน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญตามมาตรการการเว้นระยะห่าง ทั้งนี้ภายในงาน มีมาตรการป้องกันโรคโควิดเต็มรูปแบบ ซึ่งได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในจังหวัด รวมถึง สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทุกคน

สามารถซื้อบัตรเข้างานได้ที่ All ticket / 7-eleven ทุกสาขา / หน้างาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call center Village of illumination 083-989-6926 หรือดูข้อมูลได้ที่ facebook : Index Creative Village

ส.กุ้งตะวันออกไทย จับมือจังหวัดจันทบุรี จัดกิจกรรมกินอาหารทะเลปลอดภัย

0

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัด สมาคมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย ชมรมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจันทบุรีแปลงใหญ่ปูทะเลเขาตาหน่วย-หนองชิ่ม และบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด(มหาชน) ร่วมจัดกิจกรรม”สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ลี้ยงสัตว์น้ำจันทบุรี จากสถานการณ์โควิด-19″ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.63 ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรี โดยนำสินคำจากเกษตรกรผู้เลี้ยงมาจำหน่ายและจัดให้มีตัวอย่างมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสัตว์น้ำจันท์ปลอดโควิด-19 ทั้งนี้จังหวัดจันทบุรีซึ่งเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล มีเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ชาวประมง และผู้ประกอบกิจการสัตว์น้ำอยู่จำนวนมาก โดยนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน ร่วมให้กำลังใจและเลือกซื้ออาหารทะเลที่มาออกร้านจำหน่าย อาทิ กุ้งทะเล ปลากะพง ปูทะเล ทั้งสดและปรุงสุกเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ

นพ.อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี กล่าวยืนยันว่า อาหารทะเลไม่ใช่พาหะในการแพร่เชื้อโควิด -19 แต่การจับอาหารทะเลสดขอให้สวมใส่ถุงมือ หรือ ภาชนะเพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนและควรรับประทานอาหารด้วยการปรุงสุกเพื่อความปลอดภัย

ด้านนางสาวพัชรินทร์ จินดาพรรณ นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งมีกระบวนการป้องกันการปนเปื้อนอย่างเข้มงวด

ซีพีเอฟ ไม่ทอดทิ้งแรงงานต่างด้าว ส่งมอบอาหารจากใจ ฝ่าโควิด-19

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ นำผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย มอบให้มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (Labour Protection Network : LPN) ภายใต้โครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” เพื่อนำไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องแรงงานต่างด้าวและประชาชนที่ต้องกักตัวในหอพักที่ตลาดกลางกุ้ง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้บริโภคอาหารปลอดภัยอย่างเพียงพอ และร่วมสนับสนุนจังหวัดสมุทรสาครกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว 

โดยการส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารและไข่ไก่ จัดขึ้นที่สำนักงานมูลนิธิ LPN ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์อาหาร 30,800 แพ็ค และไข่ไก่สด 10,000 ฟอง โดยมีนายสมพงค์ สระแก้ว ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้งมูลนิธิ LPN เป็นผู้รับมอบจาก นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และนายศรกฤษณ์ วัตตศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส  ด้านบริหารงานทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ

นายสมพงค์ กล่าวว่า อาหารที่ได้รับการสนับสนุนจาก ซีพีเอฟ เป็นอีกหนึ่งความช่วยเหลือที่สำคัญในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับแรงงานที่ต้องกักตัวและประชาชนที่อยู่ในบริเวณตลาดกลางกุ้ง มหาชัย รวมทั้งผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการประมาณ 4,000 คน ซึ่งได้รับความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิตประจำวันจากการหยุดงานเป็นระยะยาว และไม่สามารถออกจากพื้นที่ควบคุมได้จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย ได้เข้าถึงอาหารปลอดภัยอย่างเพียงพอ ในช่วงเวลาที่พื้นที่ดังกล่าวถูกจัดให้เป็นพื้นที่สีแดงที่ต้องควบคุมและเฝ้าระวังการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ตามมาตรการของจังหวัดสมุทรสาคร 

“การร่วมสนับสนุนของ ซีพีเอฟ ครั้งนี้ แสดงถึงความเอื้ออาทรของคนไทยที่มีต่อแรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางของสังคมได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม นอกจากจะส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศแล้ว ยังตอกย้ำการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ” นายสมพงค์กล่าว 
 
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ ตระหนักในการทำหน้าที่พลเมืองดีของสังคม (Good Corporate Citizen) และในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีการจ้างแรงงานต่างด้าวเพื่อสนับสนุนการผลิตอาหารปลอดภัยของบริษัทฯ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดขยายวงกว้างขึ้น ซีพีเอฟ ถือเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบต่อสังคมในการมีส่วนร่วม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องแรงงานต่างด้าวที่ถูกกักตัวสามารถเข้าถึงอาหารปลอดภัยได้อย่างเพียงพอ

“ซีพีเอฟ ใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของการเป็นผู้ผลิตอาหารชั้นนำ ส่งมอบอาหารคุณภาพดีให้กับคนไทย และพี่น้องแรงงานทุกคนทั้งในยามปกติและทุกสถานการณ์วิกฤต ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราเชื่อว่าความรับผิดชอบต่อสังคมและการร่วมแรงร่วมใจกันของคนไทย จะช่วยให้ประเทศสามารถควบคุมการระบาดของโรคและผ่านวิกฤตได้อย่างรวดเร็ว” นายประสิทธิ์ กล่าว 

ซีพีเอฟ ส่งกุ้ง CP Pacific ให้นักรบเสื้อกาวน์สู้โควิดรอบใหม่ ตอกย้ำกุ้งไทยกินได้ปลอดภัย

0

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ได้มอบผลิตภัณฑ์กุ้ง CP Pacific จำนวน 300 กิโลกรัม ให้ทีมแพทย์-พยาบาล และบุคลากรทางแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ในสถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่

กิจกรรมนี้ อยู่ในโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ มั่นใจกุ้งซีพี แปซิฟิก” ที่นอกจากจะช่วยเป็นเสบียงหนุนทัพนักรบเสื้อกาวน์ในการรับมือสถานการณ์โควิดรอบใหม่แล้ว ยังถือเป็นการตอกย้ำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์กุ้งของไทยมีความปลอดภัย ทุกคนสามารถรับประทานได้อย่างมั่นใจ

“สถานการณ์โควิดรอบนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ตลาดกุ้งและอาหารทะเล จึงอาจทำให้หลายคนวิตกกังวลกับการรับประทาน ซีพีเอฟเป็นหนึ่งในผู้ผลิตกุ้งชั้นนำของโลก ขอยืนยันว่าทุกคนสามารถบริโภคกุ้งปรุงสุกได้อย่างปลอดภัย ขอให้คลายกังวลและกลับมาบริโภคกุ้งกันตามปกติ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่กำลังได้รับผลกระทบจากการที่แหล่งจำหน่ายถูกล็อคดาวน์ด้วย” นายประสิทธิ์กล่าว

สำหรับ “กุ้งซีพี แปซิฟิก” ของบริษัทฯ เป็นกุ้งที่เลี้ยงด้วยระบบไบโอซีเคียวริตี้ (Biosecurity) และนวัตกรรม 3 สะอาด ควบคู่ไปกับมาตรการ GAP โดยบริษัทได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การเลี้ยงสัตว์น้ำตามหลักวิชาการให้กับเกษตรกร เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ปลอดภัย ปราศจากโรค และการปนเปื้อน ส่งตรงจากฟาร์มสู่โรงงานแปรรูปในพื้นที่ด้วยระบบขนส่งห้องเย็นที่ทันสมัย ลดการสัมผัสมือ ทำให้กุ้งสด สะอาด ปลอดภัย ไม่มีจากสิ่งปนเปื้อน ผู้บริโภคนำไปปรุงสุกด้วยความร้อนตามคำแนะนำของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญและโภชนากร และรับประทานได้อย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนับสนุนช่องทางการตลาดเพื่อจำหน่ายกุ้งจากฟาร์มถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ณ ร้านซีพี เฟรชมาร์ทและแม็คโคร ทุกสาขา เพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในภาวะวิกฤตโควิด-19 รอบใหม่นี้