Home Blog Page 7

รู้เก็บรู้ออม : TSD e–Document

0
ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน...สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อขายหลักทรัพย์ คงจะรู้จักคุ้นเคยกับชื่อของ TSD เป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่เป็นนักลงทุนมือใหม่ หรือยังไม่รู้จัก TSD ต้องได้ทำความรู้จักกันแน่นอน เพราะเอกสารต่างๆที่ต้องส่งตรงให้นักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้น, แจ้งเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร และสิทธิประโยชน์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับหุ้นที่เราลงทุน ล้วนเป็นงานของ TSD หรือชื่อเต็มว่า บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยธุรกรรมต่างๆที่นักลงทุนต้องใช้บริการจาก TSD จะครอบคลุมตั้งแต่บริการฝาก ถอน โอนหุ้น ตลอดจนบริการด้านข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่างๆของหลักทรัพย์

ตลอดเวลาที่ผ่านมา TSD ได้มีการพัฒนาและยกระดับงานบริการเพื่อให้เป็นระบบที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน และสอดคล้องกับการลงทุนในยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบริการ e-service ต่างๆ อาทิ การส่งเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Document แทนการส่งไปรษณีย์ และยังชวนให้บริษัทจดทะเบียนใช้ QR Code Sealer ในการส่งหนังสือ เชิญประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งคุณนายพารวยเคยพูดถึงเรื่องนี้ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

สำหรับบริการ TSD e–Document ถือเป็นบริการที่เป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุน ขณะเดียวกันก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากการช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษ ด้านนักลงทุนเองก็จะได้รับ เอกสารสิทธิประโยชน์ เกี่ยวกับหุ้นอย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย รวดเร็ว แต่ที่ดีกว่าเดิม คือ หมดปัญหาเรื่องเอกสารสูญหายระหว่างทาง หรือได้รับแล้วแต่ไม่รู้ไปเก็บไว้ที่ไหน เวลาต้องการใช้ก็หาไม่เจอ จนอาจทำให้พลาดสิทธิประโยชน์ หรือข่าวสารที่สำคัญ

นักลงทุนจะได้รับเอกสารสำคัญต่างๆที่เป็นสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นผ่านทางอีเมลโดยตรง ต้องการดูเอกสารเมื่อไหร่ ตอนไหน ก็เปิดอีเมลดูเอกสารได้เลยทุกที่ทุกเวลา สามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบตรงเวลาและปลอดภัย เรียกได้ว่าดีต่อเราและดีต่อโลก นอกจากนี้ ในภาพรวม ยังเป็นการทำให้ตลาดทุนเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายขึ้นต่อนักลงทุน

สำหรับเอกสารที่นักลงทุนจะได้รับผ่านบริการ TSD e–Document อาทิ รายงานการถือหุ้นที่อยู่ในบัญชีบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ แจ้งให้เรารู้ว่าถือหุ้นอะไรอยู่ และมีอยู่จำนวนเท่าไร, หนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้น และเอกสารประกอบการประชุมในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน QR Code ที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายดาย ผู้ถือหุ้นอย่างเราๆท่านๆ ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าของบริษัท จะได้ไม่พลาดการประชุม เพื่อร่วมตัดสินใจเรื่องสำคัญต่างๆ หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ตลอดจนการแจ้งข่าวดีสำหรับนักลงทุนอย่างหนังสือแจ้งโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร หรือ e–Dividend

นักลงทุนที่สนใจอยากใช้บริการ TSD e-Document สามารถสมัครใช้บริการฟรีได้ที่เว็บไซต์ http://www.set.or.th/tsd   

สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย แถมเอกสารไม่หาย ไม่ลืม แบบนี้ ต้องรีบสมัครกันแล้ว!

คุณนายพารวย

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย “ปิดตาวัดทองยันต์น่อง ”

0

พระอาจารย์สอนเซียนเจี๊ยบดูพระปิดตาวัดทอง มีหลายเนื้อ สำริดดำ แดง เหลือง ตะกั่ว กระทั่งเนื้อชินหรือเนื้อดีบุก ไปจนถึงเนื้อผง แต่ ตลาดแทบไม่พูดถึงเนื้ออื่น เนื้อเหลือง ไม่เล่น เล่นแต่เนื้อดำนะเธอ ถ้าเจอเนื้อเหลืองมักแท้ไม่ค่อยรู้กัน หวานเจี๊ยบเสร็จเรา

มาดูปิดตาวัดทองยันต์หน่องวันนี้เนื้อเหลืองเก่าจัด คราบขี้เบ้าดำ มีให้เห็นในซอกแขน ในยันต์เก่าจัดเป็นธรรมชาติ ยันต์ต้องเดินเส้นสายไม่ขาดเหมือนเส้นขนมจีนม้วนกลมไปตลอด แบบนี้ใช่เลย จุดจ่ายตังค์ ด้านก้น นอกจากสองมือสอดประสานรองก้นแล้ว รอบสองมือ จะมีร่องรอยแต่งชนวนบางๆ ถ้ามีรอยตะไบหนัก หรือรอยแต่งไม่เรียบร้อย ไม่เก่าเป็นธรรมชาติรอยเหี่ยวย่นไม่มี ไม่ดีนะเธอ

พระอาจารย์สอนเซียนเจี๊ยบบอกต่อ หวานเจี๊ยบ

เจี๊ยบบางกรวยเดินตามรอยพระอาจารย์ 087 0030897

“สิงห์อาสา” เร่งช่วยชาวอุตรดิตถ์! ผนึกกำลังมูลนิธิเพชรเกษม ฝ่าน้ำท่วมจาก ‘พายุบัวลอย’

0

สิงห์อาสา ร่วมกับ เครือข่ายกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม พร้อมด้วยตัวแทนจำหน่าย บริษัท อุตรดิตถ์เล็กย่งหลี จำกัด เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอุตรดิตถ์กว่า 2,500 ครัวเรือน หลังพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักจากอิทธิพลของพายุ “บัวลอย” อย่างรุนแรง ลงพื้นที่แรกช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลลาก หมู่ 2 ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 300 หลังคาเรือน และมอบน้ำดื่มสนับสนุนทีมแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลตรอน จ. อุตรดิตถ์ จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ ที่ว่าการอำเภอตรอน จ.อุตรดิตถ์

ผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “บัวลอย” ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ในริมแม่น้ำท้ายเขื่อนสิริกิติ์, ริมคลองตรอน, อ่างห้วยแมง และริมแม่น้ำน่าน ที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว พร้อมสนับสนุนอาสาสมัครกู้ภัยในการอพยพผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และประชาชนในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว

โดยจากข้อมูลล่าสุดเมื่อ พบว่ามีประชาชนกว่า 2,500 ครัวเรือน ในหลายตำบลของอำเภอน้ำปาด อำเภอทองแสนขัน อำเภอท่าปลา และอำเภอตรอน ได้รับผลกระทบมากที่สุด บ้านเรือนหลายร้อยหลังถูกน้ำท่วมสูงเกิน 1–2 เมตร ถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรด้วยรถยนต์ได้ ส่งผลให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก รวมไปถึงพื้นที่การเกษตรหลายพันไร่ ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างหนัก และยังมีรายงานผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงจำนวนมากต้องอาศัยการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยและทีมอาสาสมัครเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เช่น อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และสุโขทัย ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากอีกครั้ง

สิงห์อาสา ยืนยันพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกพื้นที่ภัยพิบัติ และจะยังคง ปักหลักสนับสนุน เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างทันท่วงที และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวอุตรดิตถ์ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียงที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เปิดรายชื่อ 19 ซีอีโอเข้าชิงรางวัล SET Awards 2568 ประกาศผล 30 ต.ค. นี้ 

0

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร ยกระดับคุณภาพตลาดทุนไทย สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน จัดงาน SET Awards ประจำปี 2568 เชิดชูองค์กรและผู้นำธุรกิจที่มีความโดดเด่น โดยปีนี้มี 19 ซีอีโอเข้าชิงรางวัล CEO Awards และ 92 บริษัทเข้าชิงกลุ่มรางวัล Business Excellence และ 45 บริษัทเข้าชิงกลุ่มรางวัล Sustainability Excellence สะท้อนถึงความสามารถ ความแข็งแกร่ง และการปรับตัวขององค์กรท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน และความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของภาคธุรกิจไทย ประกาศผลและมอบรางวัล 30 ต.ค. นี้

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า งาน SET Awards เป็นเวทีสำคัญที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อยกย่องเชิดชูบริษัทจดทะเบียน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และผู้บริหารสูงสุดของบริษัทจดทะเบียน ที่มีความโดดเด่นในด้านต่าง ๆ ให้เป็นต้นแบบแก่ภาคธุรกิจในการพัฒนาองค์กร สร้างนวัตกรรม และสร้างผลประกอบการที่ดี ควบคู่กับการดำเนินงานที่รับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

“SET Awards ในปีนี้ มีผู้บริหารระดับสูง 19 ราย และบริษัทที่เข้าชิงทั้งกลุ่มรางวัล Business Excellence 92 บริษัท และกลุ่มรางวัล Sustainability Excellence 45 บริษัท ซึ่งภายใต้กลุ่มรางวัล Business Excellence บริษัทจดทะเบียนให้ความสนใจในด้านนวัตกรรมและการจัดการนวัตกรรมภายในองค์กร รวมทั้งพัฒนาการด้านนักลงทุนสัมพันธ์ โดยได้มีการสมัครรับการพิจารณารางวัลมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา สะท้อนการให้ความสำคัญกับการยกระดับการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ ภายใต้การทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลอด 50 ปี ยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมและขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยและผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุนพัฒนาไปข้างหน้าไปพร้อมๆ กัน”  นายอัสสเดชกล่าว

นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร ผู้ร่วมก่อตั้งรางวัล SET Awards และหนึ่งในคณะทำงานผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า รางวัล SET Awards ได้รับความสนใจจากบริษัทในตลาดทุนที่สมัครเข้าชิงรางวัลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและการยอมรับรางวัล SET Awards จากทุกภาคส่วนในตลาดทุน เชื่อว่ารางวัล SET Awards จะเป็นแรงจูงใจที่สำคัญให้บริษัทในทุกภาคส่วนพัฒนาความเป็นเลิศทางด้านธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาความยั่งยืนในทุกมิติต่อไป และในปีนี้ได้เพิ่มรางวัลใหม่ด้านการให้บริการ Digital Wealth Service ภายใต้รางวัล Best Securities Company Awards เพื่อยกย่องบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นด้านการให้บริการแก่ผู้ลงทุนรายบุคคลผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้ลงทุนยุคใหม่

รางวัล SET Awards แบ่งเป็น 2 กลุ่มรางวัล ได้แก่ กลุ่มรางวัล Business Excellence สำหรับบริษัทที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจ และมีกลไกในการสร้างนวัตกรรมภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงธุรกรรมทางการเงินในตลาดทุนที่โดดเด่น และกลุ่มรางวัล Sustainability Excellence สำหรับบริษัทที่มุ่งสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ที่สำคัญยังมีรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จ SET Awards of Honor สำหรับบริษัทหรือบุคคลที่สามารถรักษาความยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป

พิธีประกาศผลและมอบรางวัล SET Awards ประจำปี 2568 จะจัดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป      ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้สนใจสามารถรับชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ Facebook & Youtube: SET Thailand ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.set.or.th/setawards

ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ต้อนรับ บมจ. 88(ไทยแลนด์) (88TH) เริ่มซื้อขาย 3 ต.ค. นี้

0

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. 88(ไทยแลนด์) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “88TH” ในวันที่ 3 ตุลาคม 2568

ประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)

88TH ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม แบ่งเป็น 1) ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ลดผมร่วง ปิดผมขาว ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดสมุนไพร “ไลโอ” 2) ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว “โฮน” และ 3) เครื่องสำอาง “เวอร์.88” โดยจัดหาผลิตภัณฑ์ผ่านการว่าจ้างบริษัทย่อยและผู้รับจ้างผลิตรายอื่น ทั้งนี้ บริษัทย่อยที่ 88TH ถือหุ้น 100% มีโรงงานตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ดำเนินธุรกิจสนับสนุนการผลิตผลิตภัณฑ์ให้บริษัท ตลอดจนรับจ้างผลิตแก่ลูกค้าภายนอก บริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 80 ราย ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ 14 ราย กว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ โฮมชอปปิ้ง และช่องทางออนไลน์ สำหรับครึ่งแรกปี 2568 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม : ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว : เครื่องสำอางและอื่นๆ ในสัดส่วน 91 : 6 : 3 ตามลำดับ โดยมีสัดส่วนการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย : ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ : โฮมชอปปิ้ง : ช่องทางออนไลน์ ในสัดส่วน 44 : 30 : 4 : 22

88TH มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 212.5 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 170 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 42.5 ล้านหุ้น โดยมีหุ้นจัดจำหน่ายรวม 59.5 ล้านหุ้น จากหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว และหุ้นเดิม 17 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และผู้ลงทุนสถาบัน ไม่น้อยกว่า 48.875 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 6.375 ล้านหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย ไม่เกิน 4.25 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 25-29 กันยายน 2568 ในราคาหุ้นละ 5.45 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 324.275 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,158.125 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ประมาณ 12.91 เท่า คำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งเท่ากับ 89.72 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.42 บาท โดยมีบริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

นางณัฐฐินี ชวนะนิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. 88(ไทยแลนด์) (88TH) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ตามแผนในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนใช้เป็นค่าใช้จ่ายการตลาด การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ

 88TH มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ นายล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ ถือหุ้น 32.67% Ilkano Pte. Ltd. ถือหุ้น 8.0% และนางสาวนพรัตน์ มาลัยวงค์ ถือหุ้น 8.0% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับบริษัท

 ผู้ลงทุนและผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.88thailand.co.th และ www.set.or.th

ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับจดทะเบียน 10 DR ใหม่ อ้างอิงหุ้นสหรัฐฯ ออกโดย PI เริ่มซื้อขาย 1 ต.ค. นี้

0

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รับจดทะเบียน DR 10 หลักทรัพย์ใหม่ อ้างอิงหุ้นชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (NASDAQ) และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) สหรัฐอเมริกา ออกโดย บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) (PI) เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทย 1 ตุลาคม 2568 นี้

ชื่อย่อ DRหลักทรัพย์อ้างอิงรายละเอียดธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ ที่จดทะเบียน
AAPL03Apple Inc. (AAPL)บริษัทเทคโนโลยีที่ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริม รวมถึงซอฟต์แวร์และบริการดิจิทัลครบวงจรNASDAQ
ADBE03Adobe, Inc. (ADBE)ผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัลโดยนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมการสร้างสรรค์คอนเทนต์ การตลาด และการบริหารประสบการณ์ลูกค้าอย่างครบวงจร
BKNG03Booking Holdings Inc. (BKNG)ผู้นำด้านบริการจองออนไลน์ในธุรกิจท่องเที่ยว เน้นใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อมอบประสบการณ์ที่ครบวงจรให้ผู้ใช้ทั่วโลก อาทิ Booking.com และ Agoda
GOOGL03Alphabet Inc. (GOOGL)ผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่ช่วยจัดระเบียบข้อมูลให้เข้าถึงง่าย อาทิ Google Search, Google Map, YouTube ยังเป็นผู้นำด้าน AI และ Cloud Computing
NVDA03NVIDIA Corporation (NVDA)บริษัทที่ออกแบบและพัฒนา GPU สำหรับเกม คอมพิวเตอร์มืออาชีพ และดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะด้าน AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง
PLTR03Palantir Technologies Inc. (PLTR)บริษัทซอฟต์แวร์ที่เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยมีลูกค้าหลักทั้งภาครัฐ หน่วยงานความมั่นคง และองค์กรเอกชน
TSLA03Tesla Inc. (TSLA)ผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมการออกแบบ พัฒนา ผลิต และจำหน่าย รวมทั้งนำเสนอโซลูชันด้านการผลิตและกักเก็บพลังงาน
BAC03Bank of America Corporation (BAC)สถาบันการเงินชั้นนำที่มีเครือข่ายการดำเนินงานทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ให้บริการทางการเงินครบวงจร ในรูปแบบแบงก์และนอนแบงก์NYSE
JNJ03Johnson & Johnson (JNJ)บริษัทด้านสุขภาพที่ดำเนินธุรกิจ 2 กลุ่มหลัก คือ Pharmaceutical และ MedTech ครอบคลุมการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
ONON03On Holding AG (ONON)บริษัทกีฬาชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์ เชี่ยวชาญด้าน รองเท้าวิ่งและเสื้อผ้ากีฬา ได้รับความนิยมทั่วโลกด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีการรองรับแรงกระแทกที่เป็นเอกลักษณ์

ผู้สนใจศึกษารายละเอียด DR ใหม่ได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต. www.sec.or.th หรือบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์คือ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) www.pi.financial หรือศึกษาผลิตภัณฑ์ DR เพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/dr

เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ CareCover Clinic มอบบริการพิเศษ พบแพทย์ออนไลน์ พร้อมรอรับยาที่บ้าน ฟรี! สำหรับลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพรายบุคคล

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้กับลูกค้าคนสำคัญอย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและมอบความห่วงใยให้กับลูกค้าในยามเจ็บป่วย บริษัทฯ ได้ร่วมกับ “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก (CareCover Clinic)” มอบบริการพิเศษ พบแพทย์ออนไลน์ พร้อมรับยาที่บ้านฟรี จำนวน 3 ครั้ง แก่ลูกค้าของเมืองไทยประกันชีวิตที่ถือกรมธรรม์สุขภาพรายเดี่ยว (ไม่รวมลูกค้าสัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายวันการเข้ารักษาในโรงพยาบาล)

โดยลูกค้าที่ต้องใช้บริการพิเศษดังกล่าว สามารถเข้าไปกดรับสิทธิ์ ที่แอปพลิเคชัน MTL Click เพื่อรับคูปองสำหรับใช้บริการพิเศษ พบแพทย์ออนไลน์ พร้อมรับยาที่บ้านฟรี ซึ่งจะครอบคลุมค่าปรึกษาแพทย์ ค่ายา และค่าส่งยาถึงบ้าน จำกัดสิทธิ์ 3 ครั้งต่อลูกค้า 1 ท่าน แม้ว่าลูกค้าท่านนั้นจะถือกรมธรรม์สุขภาพหลายกรมธรรม์ และเป็นผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น รวมถึงไม่สามารถใช้รักษาโรคเรื้อรังได้ โดยใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2568 (หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด)

บริการพบแพทย์ออนไลน์ ถือเป็นส่วนช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพเบื้องต้น เมื่อไม่สะดวกเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิก ผ่านระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัย ลูกค้าสามารถปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผ่านหน้าจอ ได้คำแนะนำการรักษา และรับยาส่งถึงบ้านอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรค ลดเวลารอคอยที่โรงพยาบาล และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำให้ลูกค้าได้รับการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างสะดวก รวดเร็ว และประหยัด ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการใช้บริการดิจิทัลเฮลธ์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายสาระ กล่าวเสริมว่า “เมืองไทยประกันชีวิตมุ่งมั่นพัฒนาบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล ความร่วมมือครั้งนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายช่องทางการให้บริการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการดูแลสุขภาพที่มากขึ้น การให้บริการพบแพทย์ออนไลน์นี้ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าให้ดีขึ้น และเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็นผู้นำด้านการประกันชีวิตที่ใส่ใจลูกค้าเป็นอันดับแรกเสมอ”

 สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ MTL Customer Contact Center 1766 หรือ Health buddy 02-290-2424  กด 3  

เอไอเอส ฉลอง 35 ปี ประกาศนำทัพผู้นำดิจิทัล ใช้ AI พลิกพลังสร้างชาติจัดแคมเปญยักษ์ขอบคุณลูกค้า 1 พอยท์แลกความว้าวยาว 12 สัปดาห์พร้อมเดินหน้าภารกิจคิดเผื่อเคียงข้างสังคมไทย

0

เอไอเอส ฉลองครบรอบ 35 ปี ประกาศก้าวใหม่ในฐานะผู้นำดิจิทัลของไทย เดินหน้ายกระดับประเทศด้วยพลัง AI เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความยั่งยืนให้สังคมไทย ภายใต้การนำทัพของคณะผู้บริหารหัวใจดิจิทัลที่พร้อมผลักดันองค์กรสู่วิสัยทัศน์แห่งอนาคต พร้อมเปิดตัวแคมเปญยักษ์ใหญ่ ‘AIS 1 Point 12 Weeks 12 Wow’ ขอบคุณลูกค้ากว่า 51 ล้านรายทั่วประเทศ ใช้เพียง 1 พอยท์ เตรียมแลกรับสิทธิพิเศษสุดว้าวได้ต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ ตลอด 3 เดือนเต็ม นับจาก 1 ตุลาคม 2568 นี้ ประเดิมแจกใหญ่ รถยนต์สัปดาห์แรก นอกจากการดูแลลูกค้าแล้ว เอไอเอสยังตอกย้ำพันธกิจเพื่อความยั่งยืน ผ่านสัมมนายกระดับทักษะดิจิทัลคนไทย AIS ACADEMY for THAIs พร้อมสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล เพื่อขยายโอกาสด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า “ ตลอดกว่า 35 ปีที่ผ่านมา เอไอเอสได้ร่วมวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ จนกลายเป็นเสาหลักสำคัญที่ผลักดันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล เราไม่ได้หยุดอยู่เพียงบทบาทของผู้ให้บริการสัญญาณ แต่เติบโตสู่การเป็น Cognitive Tech-Co อย่างเต็มรูปแบบ ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ยกระดับคุณภาพชีวิตและขับเคลื่อนธุรกิจของคนไทย

วันนี้ เอไอเอสเปิดฉากบทใหม่ด้วยพลังของ AI ภายใต้แนวคิด “AI for Sustainable Nation” ที่จะเชื่อมทุกภาคส่วนให้เติบโตไปด้วยกัน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำยุคใหม่ ที่พร้อมพาองค์กรทะยานสู่อนาคต โดยมี 3 แม่ทัพดิจิทัลรุ่นใหม่ นำทีมเติมไฟความเป็นผู้นำดิจิทัลของไทยให้เด่นชัดและทรงพลัง

นายปรัธนา ลีลพนัง – รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านปฏิบัติการ แม่ทัพแนวหน้า ผู้วางรากฐานธุรกิจหลักให้มั่นคง ทั้งบริการสื่อสารและอินเทอร์เน็ต ให้พร้อมรองรับทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของคนไทย ภายใต้การขับเคลื่อนของเขา เครือข่ายจึงไม่ใช่แค่โครงสร้างพื้นฐาน แต่คือ “พลังรองรับการเติบโตของชาติ” ที่เชื่อถือได้ทุกวัน

นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ – รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการเงิน ผู้นำวิสัยทัศน์อนาคต ผู้วางยุทธศาสตร์องค์กรสู่ Next S-Curve ผลักดันธุรกิจใหม่ให้เดินหน้า เติบโตยั่งยืน ด้วยกรอบคิดที่สมดุล เพื่อพาเอไอเอสก้าวสู่ “มิติธุรกิจใหม่” อย่างมั่นคง

นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม – รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร ผู้นำเบื้องหลังพลังคน สร้างรากฐาน “คน–วัฒนธรรม–ความยั่งยืน” ให้แข็งแกร่ง วางยุทธศาสตร์คนและองค์กรที่ขับเคลื่อนต่อเนื่อง ต่อยอดสู่แนวทางความยั่งยืนคู่สังคม ให้ทุกความสำเร็จของเอไอเอสสะท้อนกลับไปเป็นโอกาสของสังคมไทย

ด้วย 35 ปีแห่งความแข็งแกร่งนี้ เอไอเอสจึงพร้อมก้าวต่อไปใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ ธุรกิจ ลูกค้า และสังคมไทย เพื่อเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับประเทศ ดังนี้

  1. 35 ปี แห่งการเติบโตทางธุรกิจ จากความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต ตลอด 35 ปีที่ผ่านมา วันนี้ AIS ก้าวสู่การวิวัฒน์ใหม่ ขยายสู่อนาคตด้วย 3 เสาหลักธุรกิจ ได้แก่ Retail Tech ที่ยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ครบวงจร, Entertainment Platform อย่าง AIS PLAY ที่รวมที่สุดแห่งความบันเทิงและกีฬา และ Digital Finance ขับเคลื่อนอนาคตการเงินดิจิทัลของประเทศ โดยจับมือ OR และ KTB เพื่อเตรียมร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ Virtual Bank เปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างทั่วถึง สร้างอนาคตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับสังคมไทย
  2. 35 ปี แห่งความไว้วางใจของลูกค้า  AIS ขอขอบคุณจากใจ ด้วยการยกขบวนความพิเศษครั้งยิ่งใหญ่ผ่านแคมเปญ ‘AIS 1 Point 12 Weeks 12 Wow’ ที่ใช้เพียง 1 พอยท์ เตรียมแลกรับสิทธิพิเศษ หรือแลกสิทธิ์ลุ้นรางวัลสุดว้าวได้ทุกสัปดาห์ ต่อเนื่องตลอด 3 เดือนเต็ม ประเดิมความว้าวแรก 1 ตุลาคม 2568 1 พอยท์ แลก 1 สิทธิ์ ลุ้นรับรางวัลใหญ่ อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทอง และอีกมากมาย และยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟในแต่ละสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลแพ็กเกจสุดคุ้ม หรือคอนเทนต์บันเทิงระดับพรีเมียม ที่จะมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้ากว่า 51 ล้านรายทั่วประเทศ ติดตามได้บน myAIS
  3. 35 ปี แห่งการเคียงข้างสังคมไทย ที่รากฐานสำคัญ คือ ‘คน’ พลังของคนเอไอเอสไม่เพียงสร้างคุณค่าให้ลูกค้า แต่ยังยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม พร้อมสานต่อ ‘ภารกิจคิดเผื่อ’ ที่ยึดมั่นการเติบโตไปด้วยกันทั้งองค์กรและสังคมไทย ปีนี้ AIS จึงเดินหน้าจัดสัมมนาใหญ่ AIS ACADEMY for THAIs ที่มุ่งยกระดับทักษะดิจิทัลเพื่อคนไทย พร้อมส่งต่อพลังแห่งหัวใจ สนับสนุนเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้สังคมไทยเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

“และนับจากวันนี้ไป AIS จะไม่เพียงเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม แต่จะเป็นกำลังสำคัญในการวางรากฐานดิจิทัลของไทยที่ใช้พลังของ AI และนวัตกรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงความก้าวหน้าอย่างเท่าเทียม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกกลุ่ม เพื่อร่วมกันผลักดันประเทศสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน” นายสมชัย กล่าวปิดท้าย

รู้เก็บรู้ออม : SET e–Learning เรียนฟรี มีใบเซอร์

0
ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน...สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เดี๋ยวนี้ ความรู้แขนงต่างๆ อยู่รอบตัวเรา ไม่ได้อยู่แค่ในตำรา และต้องเข้าไปเล่าเรียนในสถานศึกษาเหมือนสมัยก่อน หากเปรียบว่าความรู้อยู่ในอากาศ ก็คงไม่ผิดความจริงนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่แตกต่างไปจากเดิม คือ ความสำเร็จของการเรียน ต้องอาศัยความใฝ่เพียรเรียนรู้ มุ่งมั่น และตั้งใจจริง

ความรู้เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจของประชาชน  จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่า  มีผู้ลงทุนและผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลการลงทุน เข้ามาเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนผู้ใช้งานเว็บไซต์ และจำนวนผู้ติดตามช่องทางโซเชียลมีเดีย สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในเรื่องการลงทุนของคนไทย

“คุณนายพารวย” เห็นว่าเป็นเรื่องดีสำหรับคนไทยและนักลงทุนในปัจจุบันที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่ทำให้การเข้าถึงความรู้เรื่องการลงทุน  เป็นไปอย่างสะดวกและง่ายกว่าแต่ก่อน  ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ เองก็ได้ทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการให้ความรู้เรื่องการลงทุนอย่างเต็มที่ เห็นได้จากการพัฒนาหลักสูตร SET e-Learning  มาโดยตลอด  เพื่อให้เป็นแหล่งความรู้เรื่องการเงินและการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย

ล่าสุด SET e-Learning เพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใช้งานใหม่ที่จะช่วยทำให้การเรียนรู้เรื่องการเงินการลงทุนยิ่งง่ายและสะดวกต่อผู้เรียนมากขึ้น นั่นคือ 1. ตัวช่วยค้นหาหลักสูตรที่เหมาะกับผู้สนใจ  2. ฟังก์ชัน Playlist  ให้เลือกช้อปปิ้งหลักสูตรที่สนใจแล้วหยิบใส่ตะกร้าได้เลย สามารถเรียนได้ทันที หรือเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยเรียนภายหลังก็ได้ และ  3. ระบบ Notification ไว้สำหรับคอยช่วยเตือนและปลุกไฟในการเรียน

ปัจจุบัน  มีหลักสูตร SET e-Learning เปิดให้เรียนฟรี มากกว่า 200 หลักสูตรแล้ว  ครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่หลักสูตรพื้นฐาน ไปจนถึงหลักสูตรความรู้เชิงลึก  โดยแต่ละหลักสูตรจะแบ่งเป็นบทเรียนย่อยๆ  เข้าใจง่าย พร้อมกับบททดสอบหลังเรียนเสร็จ ถ้าสอบผ่านก็จะได้รับใบเซอร์  เป็นวุฒิบัตรเพื่อแสดงว่า เราเรียนจบและผ่านครบถ้วนตามหลักสูตรแล้ว

คนที่สนใจเรื่องลงทุน อยากศึกษา หรือ อัพเดทความรู้เพิ่มเติม สามารถเรียนได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา  โดยเราสามารถเรียนหลักสูตร SET e-Learning บนอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลากหลาย รองรับทั้งมือถือ , โน้ตบุ๊ค หรือ คอมพิวเตอร์พีซี  ผู้สนใจสามารถคลิกเข้าเรียนบนเว็บไซต์ www.set.or.th/elearning   หรือผ่านแอป Happy Money  ที่มีให้ดาวน์โหลดฟรีทั้งระบบ iOS และ Android เพียงค้นหาคำว่า SET HAPPY MONEY

เห็นได้ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ  ช่วยทำให้การเข้าถึงแหล่งความรู้เรื่องการลงทุนง่ายขึ้น ด้วยการพัฒนาให้ SET e-Learning สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และเข้าถึงได้ทุก Generation  ผู้สนใจเรื่องการลงทุน ต้องไม่พลาดโอกาสดีของการศึกษากับหลักสูตร SET e-learning ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ให้เรียนฟรี และมีใบเซอร์ ให้อีกต่ากหาก เลิศจริงๆ ค่ะ

คุณนายพารวย

#บิ๊กเกรียน เตือนภัยหลอกลงทุน

0

มิจฉาชีพมาในรูปแบบปลอมเป็นองค์กรหรือหน่วยงาน ตลอดจนทำเว็บปลอม ไลน์กลุ่ม เอาไว้ดักนักลงทุน หรือผู้สนใจเรื่องการลงทุน ติดกับ

คนที่เล่นโซเชียลมีเดีย ต้องเคยผ่านหูผ่านตาโพสที่มีเนื้อหาเชิญชวนให้เข้าร่วมเรียนคอร์สสอนการลงทุน หรือสอนเทคนิคการเล่นหุ้น การันตีเสร็จสรรพว่า จะรวยจากการเทรดหุ้นได้กำไรภายในเวลาสั้นๆ หรือมีข้อมูลวงใน รู้กันเฉพาะในกลุ่มลับ อะไรประมาณนี้ รู้ตัวอีกที จากนักลงทุนก็กลายเป็นผู้ประสบภัยโดนหลอกลงทุน และเสียเงินเสียทอง

การรู้ทันกลโกงพวกนี้จะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ