Home Blog Page 68

เอไอเอส ชวนเป็นเจ้าของเสื้อยืดรุ่นลิมิเต็ด ลายอุ่นใจ X น้องหมูเด้ง

0

รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์

องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS จัดโครงการ อุ่นใจ x หมูเด้ง ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม และเพื่อสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ โดยชวนลูกค้าและคนไทยเป็นเจ้าของเสื้อยืดคอลเล็คชันพิเศษ “อุ่นใจ x หมูเด้ง สุดน่ารัก จำนวนจำกัดเพียง 20,000 ตัว โดยใช้ AIS Points 500 คะแนน เป็นสิทธิแลกซื้อเสื้อ 1 ตัว ผ่านแอป myAIS หรือสั่งซื้อผ่านทาง AIS Online Store ที่ https://www.ais.th/อุ่นใจxหมูเด้ง ในราคาตัวละ 250 บาท สั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. – 30 พ.ย.67 (เริ่มทยอยจัดส่งเสื้อตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.67 เป็นต้นไป) ส่วนสติกเกอร์ไลน์คอลเลคชัน อุ่นใจ x หมูเด้ง ใช้ AIS Points 30 คะแนนแลกได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.67 – 30 เม.ย.68  โดยทุก 100 บาท จากการจำหน่ายเสื้อยืด 1 ตัว และทุก 10 บาทจากการแลกสติกเกอร์ไลน์คอลเลคชันพิเศษจะเป็นการร่วมบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ต่อไป

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “จากการทำงานร่วมกันในฐานะพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิดกับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการมอบสิทธิพิเศษส่วนลดให้กับลูกค้าเข้าชมสวนสัตว์ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ทั้ง 6 แห่งทั่วประเทศ มากว่า 11 ปี  ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าชมความน่ารักของเพื่อนสัตว์ได้มากขึ้น   และแน่นอนว่า จากความร้อนแรงของน้องหมูเด้งดาวดวงใหม่ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนเดินทางมาเข้าชมสวนสัตว์เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นที่มาของความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่าง AIS และ องค์การสวนสัตว์ เพื่อร่วมกันสร้างประโยชน์ให้กับสังคมภายใต้ โครงการ อุ่นใจ x หมูเด้ง ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม และดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ เราจึงได้ร่วมกันออกแบบเสื้อยืดลายพิเศษ และสติกเกอร์ไลน์มาให้ลูกค้าและคนไทยได้ร่วมเป็นเจ้าของ และมีส่วนร่วมกับการส่งต่อประโยชน์ไปยังสังคมผ่านการนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไปมอบให้กับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ต่อไป”

นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “ในฐานะรัฐวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มุ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์สัตว์ และการท่องเที่ยวสวนสัตว์ของประเทศ เราพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนเจตนารมณ์ขององค์การสวนสัตว์ โดยเฉพาะความร่วมมือกับภาคเอกชนอย่าง AIS ในครั้งนี้ที่จะเป็นการต่อยอดการทำงานจากการให้ส่วนลดบัตรผ่านเข้าประตูสวนสัตว์ทั้ง 6 แห่ง สู่การนำพาหมูเด้งมาสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับ อุ่นใจ จาก AIS เป็นเสื้อยืด และสติกเกอร์ไลน์ ให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อส่งต่อพลังไปยังผู้ประสบอุทกภัยและการดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์”

สำหรับกราฟฟิค “อุ่นใจ x หมูเด้ง” ถูกออกแบบโดย ครีเอเตอร์คนไทย หลากหลายลวดลายสุดน่ารัก โดยเสื้อยืดผลิตด้วยผ้าไมโครสปอร์ตที่เบาสบาย ระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับใส่ออกกำลังกาย มีให้เลือก 2 สี คือ สีเทาและสีดำ และมี 3 ขนาด 38 ,44 และ 48 นิ้ว พิเศษสุดมีจำนวนจำกัดเพียง 20,000 ตัวเท่านั้น โดยสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. – 30 พ.ย.67 โดยใช้ AIS Points 500 คะแนน รับสิทธิแลกซื้อเสื้อได้ 1 ตัว มูลค่า 250 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าจัดส่งแล้ว) ผ่านแอป myAIS จะเริ่มทยอยจัดส่งตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.67 เป็นต้นไป หรือสั่งซื้อผ่านทาง AIS Online Store ที่ https://www.ais.th/อุ่นใจxหมูเด้ง ในราคาตัวละ 250 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าจัดส่งแล้ว) ส่วนสติกเกอร์ไลน์คอลเลคชันพิเศษ อุ่นใจ x หมูเด้ง จะเริ่มใช้ AIS Points 30 คะแนนแลกได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.67 – 30 เม.ย.68 

ทั้งนี้ทุก 100 บาท จากการจำหน่ายเสื้อยืด 1 ตัว และทุก 10 บาท จากการแลกสติกเกอร์ไลน์คอลเลคชันพิเศษจะเป็นการร่วมบริจาคโดยเอไอเอสจะนำไปมอบให้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยน้ำท่วมและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์ต่อไป

AIS ผนึก Huawei เปิดตัวโปรแกรม RAN Intelligence Pioneers พัฒนาสุดยอดเครือข่ายไร้สายอัจฉริยะ

0

AIS ผู้ให้บริการดิจิทัลอันดับ 1 ของไทย และ Huawei ได้ร่วมเปิดตัวโปรแกรม RAN (Radio Access Network) Intelligence Pioneers ซึ่งเป็นความร่วมมือที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนนวัตกรรม และพัฒนาสุดยอดเครือข่ายไร้สายอัจฉริยะเพื่อยกระดับการสื่อสารไทยไปอีกขั้น

จากการที่ AIS ได้ตั้งเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนา Autonomous Networks (AN) ระดับ 4 (L4) ภายในปี 2025 โดยร่วมมือกับ Huawei ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะไร้สาย ซึ่งตลอดสองปีที่ผ่านมา ความร่วมมือนี้ทำให้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สำคัญ เช่น การตรวจจับและชดเชยกรณีการขัดข้องของสถานีฐาน และการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการการจราจรของข้อมูลในช่วงเวลาที่มีปริมาณสูงอย่างชาญฉลาด นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของเครือข่ายและเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้เป็นอย่างมาก ทำให้ AIS บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในระดับ AN L3 ได้อย่างทันต่อสถานการณ์และความต้องการใช้งานระบบสื่อสารไร้สายของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง

โปรแกรม RAN Intelligence Pioneers ได้รวมผู้ประกอบการโทรคมนาคมและพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันเครือข่ายไร้สายอัจฉริยะที่ล้ำสมัยและรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ โดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะขั้นสูง เช่น โมเดลพื้นฐาน (Foundation Model) และดิจิทัลทวิน (Digital Twin) ทั้งนี้เป้าหมายของโปรแกรม คือการค้นหาโอกาสทางธุรกิจ, การปรับปรุงการให้บริการมีประสิทธิภาพมากที่สุด และการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจใหม่ และในกลุ่มนี้ AIS ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญของโปรแกรมนี้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์สู่ Autonomous Network ระดับ 4 ซึ่งสามารถใช้ระบบในการบริหารจัดการเครือข่ายได้ด้วยตัวเองเกือบ 100%

AIS และ Huawei ได้ประกาศความร่วมมือใน 3 หัวข้อสำคัญ ดังนี้

  1. มีการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อใช้ในการตัดสินใจจัดการโครงข่าย เพื่อมอบประสบการณ์ที่เชื่อถือได้และไม่เหมือนใครสำหรับผู้ใช้ 5G และ 5G-A ในอนาคต
  2. มีการนำวิธีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทวิน (Digital Twin) เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูแลระบบโครงข่ายแบบ near realtime, การจำลองการให้บริการ และนำไปใช้ในการตัดสินใจ ในการจัดการโครงข่าย โดยมีเป้าหมายหลายประการ เช่น การประหยัดพลังงานอย่างชาญฉลาด ควบคู่กับการรักษาประสิทธิภาพสูงสุด
  3. มีการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้การสร้างสรรค์ (Generative AI) เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานและการบำรุงรักษาเครือข่ายในแก้ไขปัญหา จากประสบการณ์ร่วมกับทางวิเคราะห์ข้อมูล และให้คำแนะนำสำหรับการแก้ปัญหา และรวมทั้งการคาดการณ์ล่วงหน้า

นายกิตติ งามเจตนรมณ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี AIS กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่าง AIS กับ Huawei ทำให้แผนงานของเรามีพัฒนาการอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำ Autonomous Networks (AN) มาประยุกต์ใช้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเข้าร่วมโปรแกรม RAN Intelligence Pioneers ครั้งนี้ ทำให้เราสามารถยกระดับการดำเนินงานด้านเครือข่าย มอบประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้แก่ลูกค้าได้อย่างตรงใจ พร้อมเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ Autonomous Network ระดับ 4 ที่จะพลิกโฉมจากผู้ให้บริการการสื่อสารแบบดั้งเดิม ไปสู่การเป็นผู้นำในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์”

นาย Calvin Zhao ประธาน Huawei Wireless Network MAE Product Line กล่าวว่า “Huawei มุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการและพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่าย และค้นพบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านโปรแกรม RAN Intelligence Pioneers เราจะสนับสนุน AIS ในการกำหนดมาตรฐานใหม่ของ AN L4 ในการเปิดตัวเครือข่าย 5G ขับเคลื่อนการปฏิวัติทางปัญญาไร้สายร่วมกัน”

โปรแกรม RAN Intelligence Pioneers ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้ให้บริการตั้งแต่เปิดตัวในงาน MWC Shanghai เมื่อเดือนมิถุนายน 2024 ด้วยความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างผู้ให้บริการและพันธมิตรในอุตสาหกรรม โปรแกรมนี้จะขับเคลื่อนนวัตกรรมทางปัญญาในอุตสาหกรรม และสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายไร้สายอัจฉริยะทั่วโลก

สมเด็จหนาดีนะ

0

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย

ช่วงนี้เจอพระอาจารย์บ่อย ได้ทบทวนความรู้และนำพระไปเสนอพระอาจารย์เป็นการหาความรู้ พระอาจารย์ไม่ค่อยได้เดินหาพระ งานเยอะ และอายุท่านมาก เราลูกศิษย์ก็ต้องเดินหามาให้ท่าน เดี๋ยวตามไม่ทันพระเก๊ฝีมือดี “สำคัญที่สุดได้ทบทวนความรู้กับผู้รู้จริง ดูพระด้วยตาตามสภาพพระตรงหน้าที่ได้เห็น” อย่าดูพระด้วยหูนะเธอพระอาจารย์บอก เดี๋ยวจะหลงประวัติความเป็นมาที่คนขายแต่งขึ้นมาบอกบอกเรา “ดูพระตามความเป็นจริงตรงหน้าที่ได้สัมผัส เก๊แท้ตัดสินตรงนี้ไม่ใช่ที่มาของพระ ใครก็สร้างประวัติที่มาได้เดี๋ยวจะหลงทาง”

มาดูสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่หนามากมากวันนี้ ดูด้านหน้าด้านหลัง ก็พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ธรรมดา เก่าเนื้อจัด รอยยุบแยกบนเนื้อพระ มวลสารครบก้อนดำ เม็ดแดงมีให้เห็น หน้าองค์พระถูกสัมผัสเห็นมวลสาร “ไหล่ซ้ายองค์พระทรุดตัว เป็นจุดที่เซียนใหญ่ชี้ว่ามีแบบนี้ถึงแท้ ไว้ดูเป็นจุดจ่ายตังค์” รอยลานจากการตอกตัดด้านหลังแทบไม่เห็นรอยปริ มีดลื่นยุบบนผิวพระให้เห็น แบบนี้เรียกหลังที่อ “แต่ดูด้านข้าง หนาเป็น2เท่าของพระสมเด็จ” พระอาจารย์เคยเล่าให้ฟัง ท่านเคยเห็นพระสมเด็จของเจ้านายท่าน หนามากเนื้อจัดสมบรูณ์เป็นสมเด็จวัดระฆังแท้ง่ายๆองค์หนึ่ง พระอาจารย์สอนมา “เราได้ยินสมเด็จบางนางหนา”จริงแท้ไม่แน่เสมอไป พระทำมืออะไรก็เกิดขึ้นได้ “ถ้าเธอเจอสมเด็จหนานางบาง อย่าปล่อยให้หลุดมือนะเธอ”มีโอกาศได้พระสมเด็จแท้สูงมาก

อย่าลืมนะเจอพระสมเด็จหนาอย่าปล่อยให้หลุดมือ เดี๋ยวจะหาว่าเซียนเจี๊ยบไม่บอก

เจี๊ยบบางกรวยเดินตามรอยพระอาจารย์ 087 0030897

สมเด็จแท้ได้เก๊ได้ ดูด้วยใจ

0

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย

วันก่อนพระอาจารย์โทรไลน์มาหา คุยเรื่องพระสมเด็จที่จัดไปให้พระอาจารย์1กล่องเล็ก มีองค์นึงถูกใจมากมีชาดแดง ดูทีแรกบอกมีลุ้น พอเอาไปล้าง เห็นรอยเลี่ยมใช้แบบหลังเปิด แสดงว่าเจ้าของเก่าเคยเลี่ยมใช้เปิดหลังมานาน พุดถึงชาดแดงสมัยก่อนพระอาจารย์ไม่เล่น มาคอนหลังมีองค์ดัง ราคาร่วมร้อยล้าน พระหน้าใหม่เข้ามาหลังจากนั้นพระอาจารย์เริ่มชอบ บอกถ้าเป็นสมัยก่อนคือพระแช่ด่างทับทิมล้างแล้ว สีจางหลุดหมด แต่ชาดแดงจะแห้งเกาะติดเนื้อพระ เหมือนรักดำ แต่จริงๆแล้วรักอันเดียวกันบางแดง ทาหนาดำ ดูได้จากรักบางทีเห็นชั้นในแดง ชั้นกลางน้ำตาลเข้ม หนาเลยดำ จำไว้นะเธอ

มาดูสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่วันนี้ ซื้อมาในเวป เป็นปีแล้วตอนซื้อดูรูปแท้ เกินแท้ พอได้พระแกะออกจากกล่อง ไม่เหมือนที่เห็นในรูป เก็บไว้ไม่กล้าทิ้ง ซื้อแพงองค์นี้ รอเวลาจนถึงวันนี้ ล้างน้ำอุ่นหลายรอบ พระแห้งไม่สนิท จากการเปลี่ยนมือหลายคน ขายไม่ได้คนขายพระเลยเอาน้ำยาทามา ทำให้ดูยาก แท้ได้เก๊ได้ ดูตอนแช่น้ำอุ่นพระสีน้ำตาลเข้มมาก ยังงัยก็แท้ น้ำแห้งผิวขาวแป้งโรบพิมพ์ หรือจริงๆคือธรรมชาติ ของปูนเปลือกหอยที่เป็นโครงสร้างหลัก ของพระสมเด็จวัดระฆัง เนื้อตอนแห้งอมเหลือง “เรียกได้ว่าเนื้อ3มิติ มีเฉพาะพระแท้เท่านั้นพระอาจารย์สอนไว้จำไว้นะเธอ”

แต่พระสมเด็จองค์นี้ถูกน้ำยาทามา ต้องใช้ทินเนอร์บาดให้แห้ง เรียกฝ่าขาวขึ้น พระสมเด็จอายุเป็นร้อยปีต้องแห้งเหมือนปูนกำแพงวัดเก่าๆ ร่อนกระเทาะเป็นชั้นๆ ต้องเอาพระสภาพเดิมกลับมา ล้างคราบใหม่ที่ติดไปในเนื้อพระออก จะได้เห็นเนื้อพระในสภาพเดิม พระยิ่งล้างยิ่งเก่านะ พอเห็นเนื้อเดิมจริง “พระสมเด็จองค์นี้จากเก๊ได้แท้ได้ เป็นพระสมเด็จแท้ แบบสมบรูณ์อีกหนึ่งองค์”

เจี๊ยบบางกรวยเดินตามรอยพระอาจารย์ 087 0030897

เรียนรู้สมเด็จแท้จากพระชำรุด

0

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย

วันนี้มาดูพระสมเด็จแท้ จากพระชำรุด พระอาจารย์เล่าให้เซียนเจี๊ยบฟัง สมัยบวชเป็นสามเณรน้อย หลวงพี่เล่าให้ฟังมีพระสมเด็จวัดระฆังอยู่ชิ้นเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยเลี่ยมติดตัวไว้ตลอด วันหนึ่งมีงานใหญ่ที่วัด หลังจากอาราธนาพระปริตรจบท่านเป็นพระรูปที่ ๓ จะกล่าวบทชุมนุมเทวดา ท่านเกิดปวดท้องขณะนั้นจะรุกเข้าห้องน้ำก็ไม่ได้ ทำอะรัยไม่ถูกนึกถึงพระสมเด็จวัดระฆังชิ้นน้อยที่ติดในอังสะ หยิบขึ้นอาราธนาของบารมี”จุ่มในแก้วน้ำแล้วยกดื่ม” สัมผัสแรกที่น้ำลงคอ ร้อนวูบจากคอถึงกระเพาะที่ปวดท้องหายเป็นปิดทิ้ง สวดต่อในพิธีจนจบ เอาตัวรอดมาได้ บอกเณรน้อยสมเด็จวัดระฆังท่านศักดิ์สิทธิ์นะเณร ท่านช่วยเราได้ในยามวิกิจมีเหตุเภทภัยนึกถึงท่านท่านมาช่วยจริงจริงนะ

ดูพระสมเด็จวัดระฆังปิ่นวันนี้ ทำมัยเซียนเจี๊ยบถึงนำพระสมเด้จปิ่นมาให้ชม ย้อนไปตอนเจอพระอาจารย์ใหม่ๆ เซียนเจี๊ยบหนุ่มน้อยชอบพระสมเด็จ ได้พบพระอาจารย์ บอกอยากได้พระสมเด็จวัดระฆังสักองค์ พระอาจารย์ให้ไปหาดูสมเด็จพระครูมูลวัดสุทัศน์ สมเด็จพระครูสังฆ์วัดอินทร์ ดูเนื้อเสียก่อน เริ่มเรียนจากประถม แล้วค่อยหาหลวงหลวงปู่ภูวัดอินทร์เลื่อนเป็นมัทธยม เพื่อเธอจะได้มีพื้นฐานในการดูพระสมเด็จ ถ้าเจอเศษตะไบของพระครูสังวัดสุทัศน์ มีเศษเนื้อโลหะผสมอยู่ พระครูมูลเนื้อจัดออกขาวมีส่วนผสมของพระสมเด็จบางขุนพรหม หลวงปู่ภู เป็นศิษย์ใกล้ชิดกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมื่อครั้งที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จัดสร้างพระเครื่องที่วัดบางขุนพรหม ก็ได้มาพักอยู่กับหลวงปู่ภู และได้สร้าง ‘พระศรีอาริยเมตไตรย์ (พระหลวงพ่อโต)’ ไว้ที่วัดอินทร์แห่งนี้ โดยมี หลวงปู่ภู เป็นกำลังสำคัญ พระของหลวงปู่ภูเนื้อใก้ลเคียงสมเด็จวัดระฆังมากที่สุด เพียงแต่ความเก่ารอยยุบแยกมวลสาร ยังไม่จัดเท่าวัดระฆังบางขุนพรหม พระอาจารย์สอน พื้นฐานไม่แน่นอยากเรียนมหาลัยเลยนะเธอ เดี๋ยวได้เจอพระเก๊สบายไป พิมพ์ทรงเนื้อหาต้องจำให้แม่น มวลสารสำคัญต้องมี มีดีกว่าไม่มีเพาะชี้ขาดได้ว่าเป็นพระสมเด็จของใครสร้าง จะได้ไม่พลาดเวลาไปเจอพระแกะมาที่เนื้อเก่าสึกช้ำพระใช้มาเนื้อจัดๆ จะได้แยกออก

เซียนเจี๊ยบเรียนข้ามขั้น วิชาไม่แน่นพอ แต่พอหาพระใช้แขวนคอได้ “ได้พระสมเด็จปิ่นแท้ดูง่ายเดิมๆมาให้ชม” ปิ่นด้านบนด้านล่าง พระยังอยู่เต็มองค์ คมชัดลึก ดูได้เป็นสมเด็จพิมพ์ใหญ่วัดระฆัง ง่ายๆองค์นี้ภ้าไม่ปิ่นอยู่มือเซียนหายล้าน แต่สภาพนี้ก็หลายแสนอยู่นะ ถ้าอยู่กับเซียน มาดูรอยปิ่นทุกส่วนยังคมแม้จะปิ่นเก่าถูกทิ้งมานาน” ความแข็งคือคุณสมบัติของพระสมเด็จ”ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนต้องมีความแข็ง แกร่งถ้าอ่อนไม่ใช่แน่นอน รอยปิ่นกระเทาะเป็นชั้นๆมีให้เห็น “นี่คือปูนย์เปือกหอยเป็นส่วนผสมหลักในเนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง” พระผิวหิ้ง คือพระที่ถูกทิ้งไว้เดิมๆ ไม่ได้ทำความสะอาดเจอมาอย่างงัยเอาไว้อย่างนั้น อย่าล้างนะจะดูได้ง่ายกว่า แบบนี้ขายเซียนได้เลย เซียนชอบ รอยลานหรือเรียกรอยแตกลายงา ไม่เสมอเท่ากันทั้งองค์ ถ้าเจอแตกลายงาเสมอกันทั้งองค์ใช้วิธีอบให้เก่านะต้องระวัง คราบรักเก่าผุในซอกแขวนและรอบองค์พระเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ขี้กรุนะ มีไข่ยุงหรือเม็ดเล็กๆขาวอยู่ทั่วไป เสริมให้ดูง่ายแบบแท้ตาเปล่า พลิกดูด้านหลังมีรอยเนื้อหลุดเห็นเป็นชั้น รอยรักเก่าแห้งติดเนื้อขอบทั้งองค์พระยุบจนไม่เหลือความคม ดูข้างเห็นขอบตัด มวลสารเป็นก้อน เนื้อหลุดเป็นชั้นๆ นี่เรียกปูนย์หมดยาง เปรียบได้เหมือนกำแพงโบสถ์เก่าๆ ปูนจะไม่ค่อยยึดเกาะกัน ดูมวลสารกับปูนเกาะกันหลวมๆ ด้านบนอมเหลืองหักเดิมสภาพเหมือนด้านหน้า ด้านล่างสีขาวหักใหม่เห็นมวลสารเป็นก้อนๆเกาะกันหลวมๆ ขอบเป็นขอบตอกตัดเรียบ มีรักเก่าให้เห็นตรงที่ไม่ปิ่น สมเด็จองค์นี้ลงรักปิดทองทั้งองค์ แต่เจ้าของเดิมใช้มาเยอะ เลยเหลือถึงมือได้เท่านี้ แต่พระสมเด็จสภาพเดิมๆได้เท่านี้ก็มีบุญมากแล้ว ถ้าเดินเจอสมเด็จหักปิ่นชิ้นน้อยเนื้อจัด ต้องเก็บเลี่ยมไว้ดูให้เจนตา เพาะราคาไม่แพงและไม่เกร็งกัน มีโอกาสได้พระสมเด็จแท้สูง มีสมเด็จชิ้นเล็กเป็นเชื้อแล้วเดี๋ยวเต็มเต็มองค์ก็มาเอง อย่าหยุดเดินนะ พระสมเด็จรอท่านอยู่

“ดูสมเด็จปิ่นองค์นี้ให้ชินตา เริ่มนับหนึ่งแล้วท่านจะได้สมเด็จแท้ๆขึ้นคอ”

เจี๊ยบบางกรวยเดินตามรอยพระอาจารย์ 087 0030897

ลงทุนทองคำ!!

0

บทความ “รู้เก็บรู้ออมฯ” โดย คุณนายพารวย หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวคดีหลอกลวงซื้อขายทองออนไลน์กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่ผู้คนให้ความสนใจและติดตามข่าว เพราะมีตัวละครเกี่ยวข้องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหาย เซเลบ-อินฟลูฯ คนดังที่ถูกจ้างให้มาร่วมไลฟ์ขายของ และสุดท้ายตัวพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เองที่เมื่อความจริงปรากฏ ความปลอมก็โผล่ออกมาให้เห็น!!

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้เสียหายจากการโดนเจ้าแม่บ้านออมทองโกง หรือเว็บหลอกเทรดทอง แต่ครั้งนี้เป็นการหลอกขายทองที่มีเปอร์เซ็นต์ทองต่ำกว่ามาตรฐาน โฆษณาชวนเชื่อ ให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน จนทำให้คนหลงเชื่อหรือนำไปสู่ความเข้าใจผิด ตลอดจนหลอกว่าเป็นทองแท้แต่ที่แท้คือกระดาษสีทอง จนมีคนสูญเสียเงินทองและทรัพย์สินจำนวนมาก!!

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ www.setinvestnow.com บอกว่า การลงทุนทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย เพราะนอกจากทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่ควรมีติดพอร์ตลงทุนไว้แล้ว ยังเป็นทางเลือกการลงทุนที่ช่วยกระจายความเสี่ยง และยังเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคง ไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา

เหตุผลที่ควรลงทุนทองคำ คือ ทองคำให้ผลตอบแทนระยะยาวและเอาชนะเงินเฟ้อ, มีความปลอดภัยในช่วงวิกฤติ จัดเป็นสินทรัพย์แห่งความปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำ, สภาพคล่องสูง เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้ทั่วโลก และ รูปแบบการลงทุนมีหลากหลาย ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น

นักลงทุนที่สนใจลงทุนทองคำสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งทองคำแท่ง, กองทุนรวมทองคำ, ETFs ทองคำต่างประเทศ หรือสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า!!

นอกจากนี้ยังเลือกลงทุนได้ทั้งระยะสั้นเก็งกำไร และแบบถือยาว โดยนักลงทุนระยะสั้น ควรกำหนดจุดซื้อและจุดขายทองคำให้ชัดเจน หากราคาลงมาต่ำกว่าต้นทุนก็ต้องกล้าขายตัดขาดทุน ส่วนนักลงทุนทองแบบถือยาว ก็สามารถลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ซื้อทองคำแบบสม่ำเสมอทุกเดือนด้วยจำนวนเงินที่เท่าๆกัน เป็นการสร้างวินัยในการลงทุนและช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนทองคำได้

นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล ทั้งปัจจัยหรือสัญญาณต่างๆที่ส่งผลกับราคาทองคำ เพื่อจะได้วางกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้

ที่สำคัญ ต้องติดต่อซื้อขายกับแหล่งที่น่าเชื่อถือ เป็นร้านทองหรือสถาบันที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจถูกกฎหมาย หากซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ ก็ต้องมีใบรับรองประกันคุณภาพจากผู้ขาย อย่าซื้อเพราะแค่เป็นเอฟซีของพ่อค้าแม่ค้า หรือหลงเชื่อโฆษณาเกินจริง จะได้ไม่ต้องมาเสียใจ และเสียทรัพย์สินเงินทองกันทีหลัง!!

คุณนายพารวย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ คว้ารางวัล “Thailand Employee Experience of the Year” จาก Asian Experience Awards 2024

0

รายงานข่าวเปิดเผยว่า จิตติยา ธรรมสรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้าสายงานทรัพยากรบุคคลและพัฒนาองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนรับรางวัล “Thailand Employee Experience of the Year” ประเภทธุรกิจ Financial Services จากงาน Asian Experience Awards 2024 จัดโดยนิตยสาร The Asian Business Review สิงคโปร์ ซึ่งมอบแก่องค์กรที่มีการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลที่โดดเด่น โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน เป็นการตอกย้ำการบริหารทรัพยากรบุคคลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ให้ความสำคัญกับพนักงาน ซึ่งเป็นหนึ่งใน stakeholder ที่สำคัญขององค์กร

ออมสิน ช่วยลูกหนี้รับมือน้ำท่วมระลอกใหม่ ขยายเวลาพักหนี้ออโต้ 6 เดือน พร้อมเพิ่มชื่อผู้ได้รับสิทธิ์พักหนี้เป็น 140,000 บัญชี

0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารออมสิน รับมอบนโยบายจากรัฐบาลโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ขยายระยะเวลามาตรการพักหนี้อัตโนมัติ จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน เพื่อกระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึงลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในปัจจุบัน ที่ล่าสุดได้เพิ่มรายชื่อจังหวัดและพื้นที่ได้รับผลกระทบกินบริเวณกว้างมากขึ้นเป็น 43 จังหวัด 5,515 หมู่บ้าน (จากเดิม 41 จังหวัด 4,000 หมู่บ้าน) และมีจุดที่ต้องประสบภัยน้ำท่วมซ้ำเติมอีกระลอก จนทำให้ผู้ได้รับผลกระทบมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ธนาคารจึงดำเนินการตามนโยบายให้ขยายระยะเวลาพักหนี้อัตโนมัติ จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน และเพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์พักหนี้ตามมาตรการนี้ จากเดิม 110,000 บัญชี เป็น 140,000 บัญชี คิดเป็นเม็ดเงินที่ธนาคารลดดอกเบี้ยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ได้รับผลกระทบ เป็นจำนวนเงินกว่า 2,000 ล้านบาท

สำหรับการขยายระยะเวลามาตรการพักหนี้อัตโนมัติ จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน ใช้หลักเกณฑ์เดิมคือให้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบพักจ่ายเงินต้น และธนาคารไม่คิดดอกเบี้ย มีผลทันทีตั้งแต่งวดเดือนตุลาคม 2567 ถึงงวดเดือนมีนาคม 2568 ครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อรายย่อย สินเชื่อบุคคล และ SMEs วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท (ยกเว้นสินเชื่อชีวิตสุขสันต์และสินเชื่อตามนโยบายรัฐ : PSA) โดยธนาคารจะส่ง SMS หรือ จดหมายแจ้งเพื่อทราบการพักชำระหนี้ไปยังลูกหนี้ตามรายชื่อผู้มีสิทธิ์ร่วมมาตรการฯ ซึ่งมีภูมิลำเนา ที่อยู่ หรือที่ประกอบอาชีพ ในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศฯ ในปัจจุบัน (ประกาศฯ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567) และหลังจากสิ้นสุดมาตรการฯ ให้ลูกหนี้กลับมาชำระหนี้ตามสัญญาเดิมตั้งแต่งวดเดือนเมษายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ลูกหนี้สถานะปกติที่มีการชำระหนี้ในช่วงเวลาของมาตรการฯ ธนาคารจะนำไปตัดลดต้นเงินของลูกหนี้ต่อไป ธนาคารออมสินขอส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัยสามารถผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากนี้ในเร็ววัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการฯ ได้ที่ GSB Contact Center โทร.1115 หรือที่ Facebook : GSB Society

AIS ปลื้ม กวาด 3 รางวัลเวที HR Asia 2024 ด้านบริหารบุคลากรระดับโลก 6 ปีซ้อน

0

AIS ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญด้วยการคว้า 3 รางวัลอันทรงเกียรติจากเวที HR Asia Best Companies To Work For In Asia Awards 2024 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรและบุคลากรแบบองค์รวมอย่างยั่งยืน โดยเสริมสร้างและพัฒนาบุุคลากรให้มีความพร้อมต่อการรองรับการขยายตัวของธุุรกิจและเป้าหมายตามวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะหรือ Cognitive Tech-Co นอกจากนี้ AIS ยังเป็นองค์กรเดียวในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่ได้รับการยกย่องในฐานะ Best Companies to Work for in Asia 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ

  1. รางวัล Best Companies to Work for in Asia 2024 นับเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันที่เอไอเอสได้รับการยกย่องให้เป็นองค์กรที่น่าร่วมงานที่สุดในเอเชีย และเป็นองค์กรเดียวในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยที่ได้รับรางวัลนี้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงศักยภาพด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลของ AIS ที่มุ่งเน้นการดูแลพนักงานในทุกมิติ
  2. รางวัล HR Asia DEI Award อีกหนึ่งรางวัลที่สะท้อนถึงความสำเร็จในการวางนโยบายด้านการบริหารคนอย่างรอบด้าน เพื่อส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่าง (Diversity, Equity, and Inclusion: DEI) ภายในองค์กร
  3. รางวัล HR Asia Sustainable Workplace Award ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดย AIS ยังได้ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืนและนวัตกรรมภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง

นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรมหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคลกลุ่มบริษัท AIS กล่าวว่า “รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของ AIS ในการเป็นองค์กรชั้นนำด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมการเติบโตของพนักงานทุกคนอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ปีนี้ AIS ได้รับรางวัล Best Companies to Work for in Asia ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 รวมทั้งได้รับรางวัลด้าน DEI และความยั่งยืน อีก 2 รางวัล ซึ่งตอกย้ำถึงการปลูกฝังแนวคิดการยอมรับความหลากหลายและความแตกต่างของบุคลากร จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร รวมทั้งการนำหลัก DEI มาประยุกต์ใช้ในทุกภาคส่วนขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการด้านการพัฒนาทักษะ ความรู้ และทัศนคติ รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานอย่างมีความสุข อาทิ การปรับสวัสดิการให้สอดคล้องกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม และสิทธิวันลาผ่าตัดแปลงเพศ

“นอกจากนี้ AIS ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืนและนวัตกรรมโดยการสนับสนุนให้พนักงาน AIS ที่มี ‘หัวใจอาสา’ และมีทักษะความรู้ที่หลากหลายมารวมตัวในนาม “อุ่นใจอาสา” เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ โครงการภารกิจคิดเผื่อ อุ่นใจอาสาพัฒนาอาชีพ ที่มุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ หรือโครงการ Jump Thailand Hackathon 2024 ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาพัฒนาไอเดียสร้างสรรค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและคนพิการ โดยมีอุ่นใจอาสารับหน้าที่พี่เลี้ยงและที่ปรึกษาตลอดโครงการ ความสำเร็จทั้งหมดนี้จึงเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกคนที่เชื่อมั่นและเติบโตไปพร้อมกับองค์กร เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน และช่วยทำให้วิสัยทัศน์ที่เรากำลังจะก้าวสู่การเป็น Cognitive Tech-Co สำเร็จได้ตามเป้าหมาย”

เมืองไทยประกันชีวิต  เปิดตัวประกันออนไลน์ “ออมจุใจ 10/3” เบี้ยสั้น ลดหย่อนภาษีได้ มีเงินคืนทุกปี โดนใจคนรักการออม

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้ารุกตลาดประกันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง บนความมุ่งมั่นในการสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกๆ คนในสังคม (Democratizing Insurance) พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ของการออมในรูปแบบการประกันชีวิต เปิดตัวประกันออมทรัพย์ “ออมจุใจ 10/3”  ประกันออนไลน์    ใหม่ล่าสุดจากเมืองไทยประกันชีวิต ตอบโจทย์คนรักการออมแบบจุใจ เหมาะกับคนมองหาประกันออมทรัพย์ลดหย่อนภาษี 

โดยความโดดเด่นของ ประกันออมทรัพย์ “ออมจุใจ 10/3” อยู่ที่การตอบโจทย์ความต้องการแบบจุใจทั้งด้านการออม ผลประโยชน์ทางภาษี และความคุ้มครองชีวิต ด้วยผลประโยชน์รวมสูงสุด 333%(1) จ่ายเบี้ย   สั้น ๆ 3 ปี แต่คุ้มครองยาวถึง 10 ปี ลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท  รับเงินคืนทุกปีกรมธรรม์ปีละ 1%(1)  ซื้อออนไลน์ ไม่ต้องตรวจและไม่ต้องคำถามสุขภาพ(2)  ซื้อได้ตั้งแต่อายุ  20-80 ปี  สะดวกในการเลือกซื้อเพียงเข้าไปที่ webmtl.co/47yeSNn มีให้เลือกได้จุใจถึง 5 แผน เลือกได้ในแบบที่เป็นคุณ

พิเศษ!! สำหรับผู้ที่ซื้อแบบประกันภัย “ออมจุใจ 10/3” บนช่องทาง Online Sale และ แอปพลิเคชัน MTL Click รับทันที 2 ต่อ

ต่อที่  1:  รับส่วนลดเบี้ยปีแรกทันที 5%(3) เพียงกรอกโค้ด ONLINEMTL ที่ขั้นตอนการชำระเงิน

ต่อที่  2: ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 6 เดือน(4) เฉพาะการชำระเบี้ยประกันภัยรายปีปีแรก เบี้ยประกันภัยขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยท่านสามารถรับโปรโมชันผ่อน 0% นาน 6 เดือน เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต และธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือผ่อน 0% นาน 3 เดือน เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารยูโอบี ธนาคารทหารไทยธนชาตและธนาคารกรุงไทย ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่  1 ตุลาคม 2567 – 30 พฤศจิกายน 2567

“เรายังคงมุ่งมั่นในการดำเนินนโยบาย “Happiness, Your Way เพราะความสุขคือทุกอย่าง…ความสุขสไตล์คุณคือที่สุดของทุกสิ่ง”  ในฐานะคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่คุณวางใจ (No. 1 Most Trusted Partner in Life & Health Planning) พร้อมเดินหน้าออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างตรงใจ ซึ่งแบบประกันภัย ออมจุใจ 10/3 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบบประกันดี ๆ ที่เหมาะสมได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น และยังสามารถสร้างหลักประกันชีวิตไปพร้อมกับการออมในรูปแบบการประกันชีวิตไปพร้อมกันได้อีกด้วย” นายสาระ กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเลือกซื้อประกัน “ออมจุใจ 10/3”  จากเมืองไทยประกันชีวิต ทางช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง  หรือศึกษารายละเอียดแบบประกันภัย โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ได้ที่webmtl.co/47yeSNn