Home Blog Page 46

รู้เก็บรู้ออม : เทคนิคจัดสรรเงินแบบเริ่มต้นใหม่

0
ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ปัญหาใหญ่ที่หลายคนต้องเจอเวลาอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งเป้าหมายใหม่ในชีวิต คือ การเริ่มต้น ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเมื่อไหร่และอย่างไร คนที่วางเป้าหมายเรื่องวางแผนการเงิน ก็ย่อมจะประสบปัญหานี้เหมือนกัน

“คุณนายพารวย” อ่านเจอบทความในเว็บ SET investnow ที่พูดถึงการเริ่มต้นวางแผนการเงิน โดยใช้เทคนิคการจัดสรรเงินแบบ Zero-Based Budgeting หรือ “การทำงบประมาณแบบเริ่มจากศูนย์” ซึ่งเป็นวิธีจัดสรรเงินที่มีประสิทธิภาพสูง

เทคนิคนี้ใช้แนวคิดการวางแผนการเงินโดยเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ทุกเดือน และพิจารณาทุกรายการใช้จ่ายใหม่ตั้งแต่ต้น โดยจัดสรรรายได้ทั้งหมดให้กับค่าใช้จ่ายต่างๆจนเหลือศูนย์ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงที่ช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน เพราะให้ความสำคัญเรื่องการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางการเงินแบบชัดเจน สมาคมวางแผนการเงินได้ศึกษา พบว่า การเริ่มจัดสรรงบทันทีที่ได้รับเงินเดือนจะช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จในการบริหารการเงินสูงถึง 80%

ขั้นตอนของการทำงบ Zero-Based ที่เราสามารถลงมือทำได้ทันที เริ่มต้นด้วย 1.การรวบรวมรายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน รายได้จากงานพิเศษ โบนัส หรือผลตอบแทนจากการลงทุนต่างๆ เพื่อทำให้เรารู้ตัวเลขรายได้ที่แท้จริง จะได้นำไปใช้วางแผนการใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ

2.การจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่าย ให้จัดสรรเงินตามหลัก 50/30/20 โดย 50% สำหรับความจำเป็นพื้นฐาน เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ, 30% สำหรับความต้องการ เช่น ท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง และที่เหลือ 20% สำหรับการออมและการลงทุน เช่น เงินออมฉุกเฉิน ชำระหนี้ การลงทุนเพื่อวัยเกษียณ

วิธี Zero-Based ไม่ใช่วางแผนทีเดียวจบแล้วจบเลย แต่ต้องมีการติดตามและปรับแผนอย่างสม่ำเสมอ ต้องทบทวนค่าใช้จ่ายทุกสัปดาห์ว่ามีรายการไหนที่เกินหรือต่ำกว่าแผน เพื่อนำไปปรับแผนใหม่ในเดือนถัดไป รวมทั้งการวิเคราะห์ภาพรวมเป็นรายเดือนและไตรมาส เพื่อปรับกลยุทธ์การเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริง นอกจากนี้ ยังต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เช่น แอปฯบริหารจัดการเงิน เพื่อช่วยให้งบ Zero-Based ของเราบรรลุเป้าหมาย

เรายังสามารถนำวิธี Zero-Based มาปรับให้เข้ากับคนไทย เพราะการทำงบใหม่จากศูนย์และพิจารณาทุกรายการใช้จ่ายใหม่ ทำให้เราสามารถวางแผนรับมือค่าใช้จ่ายพิเศษในเทศกาลสำคัญต่างๆ ตลอดจนสามารถจัดสรรงบสำหรับการดูแลพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว

ใครที่ตั้งเป้าหมายอยากมีอิสรภาพทางการเงิน ลองนำเทคนิคการจัดสรรเงินแบบเริ่มต้นใหม่มาใช้บริหารจัดการเงินแบบมีประสิทธิภาพ และช่วยวางรากฐานการเงินที่แข็งแกร่งในอนาคต.


คุณนายพารวย

เมืองไทยประกันชีวิต จัดสัมมนา MUANGTHAI WEALTH MASTER 2025  เปิดมุมมอง “โอกาสและความเสี่ยง ในยุคของการเปลี่ยนแปลง”

0

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวอุมาพันธุ์ เจริญยิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ  จัดงานสัมมนา MUANGTHAI WEALTH MASTER 2025 หัวข้อ “โอกาสและความเสี่ยง ในยุคของการเปลี่ยนแปลง”  ในรูปแบบออนไลน์ Live Streaming ผ่านทาง Facebook : Muang Thai Life  เพื่ออัปเดต   ภาวะเศรษฐกิจ มุมมองการลงทุนทั่วโลก พร้อมชี้โอกาสและความเสี่ยงการลงทุนในปี 2025 โดยได้รับเกียรติจาก นายวิน พรหมแพทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด และนายชนกานต์ ตั่งธนาพร  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดมุมมองและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุน โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังผ่านระบบออนไลน์อย่างคับคั่ง. 

AIS ผนึกภาคีเครือข่าย จัดระเบียบสายสื่อสารย่านถนนวิทยุ

0

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล พร้อมสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ทุกภาคส่วน อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง, กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งทีมวิศวกรลงพื้นที่เพื่อดำเนินงานรื้อสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดินบริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่งของถนน ด้วยเล็งเห็นถึงความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุประชาชนเป็นสำคัญและเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างทัศนยภาพที่สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นโดยรอบ 

CPF – มูลนิธิซีพี เดินหน้าส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน สร้างความมั่นคงทางอาหารให้รร.ในพื้นที่ห่างไกล

0

เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ร่วมส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน แก่โรงเรียนบ้านห้วยไม้หก และโรงเรียนบ้านยางครก เพื่อสร้างเสริมภาวะโภชนาการและสุขภาพของเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร หนุนนักเรียนได้เรียนรู้ทักษะอาชีพติดตัว พร้อมสร้างคลังอาหารยั่งยืนในโรงเรียนและชุมชน โดยมี นายปรีชาพล พูลทวี นายอำเภออมก๋อย เป็นประธานในพิธี ณ โรงเรียนบ้านห้วยไม้หก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่

นายจอมกิตติ ศิริกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ มูลนิธิซีพี และซีพีเอฟ มุ่งขยายโอกาสให้โรงเรียนทั่วประเทศเข้าถึงแหล่งอาหารโปรตีนที่เพียงพอ เพื่อให้นักเรียนมีโภชนาการที่เหมาะสม อันเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตอย่างแข็งแรงและพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดหาอาหารกลางวันจากไข่ไก่ที่สดใหม่ มีคุณภาพ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย โดยโครงการฯ ไม่เพียงมุ่งเน้นการจัดหาอาหารกลางวัน ยังเป็นสื่อการเรียนรู้พัฒนาทักษะอาชีพด้านเกษตร ผ่านการเลี้ยงไก่ไข่ การบริหารจัดการฟาร์มขนาดเล็ก และการนำผลผลิตไข่ไก่มาจำหน่ายให้แก่ชุมชนในราคาที่เหมาะสม ไปจนถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไก่ไข่เพื่อใช้บริโภคภายในโรงเรียนเพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนกลับคืนสู่โรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืน (Social Enterprise)

ทางด้าน นายสมคิด วรรณลุกขี ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ นี้อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 37 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯมุ่งมั่นนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในฐานะผู้นำด้านอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร มาถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้แก่นักเรียนและคณะครู เพื่อให้สามารถบริหารจัดการโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยสนับสนุนงบประมาณและบุคลากรอย่างเต็มที่ในการติดตาม ดูแล และให้คำแนะนำด้านวิชาการ ทั้งการเลี้ยงไก่ไข่ตั้งแต่เริ่มต้นเลี้ยงจนถึงปลดแม่ไก่ การจัดการผลผลิต การขายและการตลาดเพื่อให้โรงเรียนสามารถบริหารงานให้มีเงินทุนส่งให้รุ่นต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง

“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ดำเนินการก้าวเข้าสู่ปีที่ 37 และยังคงมุ่งผนึกกำลังร่วมกับภาครัฐและเอกชน ขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งโภชนาการโปรตีนคุณภาพกับโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในเครือฯ อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เจียไต๋ ซีพีเอฟ ซีพี ออลล์ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ทั้ง Makro และ Lotus’s และ ทรู เพื่อส่งต่อคุณค่า สร้างประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 988 แห่งทั่วประเทศ มีนักเรียนกว่า 223,000 คน และบุคลากรทางการศึกษากว่า 16,500 คน ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ

ภายในงานมีหน่วยงานร่วมกิจกรรม อาทิ นายประจักษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 5, นายกฤษฎากานต์ จี๋มะลิ ผู้อำนวยการ รร.บ้านห้วยไม้หก, นางสาวปราณี ก๋ายอด ผู้อำนวยการ รร.บ้านยางครก ตลอดจนผู้บริหารหน่วยงานราชการ คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน โดยมีกิจกรรม “CP KIDS CHEF” แข่งขันทำอาหารจากวัตถุดิบไข่ไก่ โดยมี 4 โรงเรียนในพื้นที่ เข้าร่วมแข่งขัน ได้แก่ รร.บ้านห้วยไม้หก รร.บ้านยางครก รร.บ้านห้วยน้ำขาว และ รร.บ้านมูเซอ ทำให้นักเรียนได้คิดสร้างสรรค์เมนูไข่ที่หลากหลาย ช่วยต่อยอดทักษะทางด้านอาชีพแก่นักเรียน.

จ.ชลบุรีปล่อยปลานักล่าพื้นถิ่น เสริมแกร่งปราการป้องกันปลาหมอคางดำ รักษาความหลากหลายทางชีวภาพ

0

สำนักงานประมงจังหวัดชลบุรี ชูจุดแข็งระบบนิเวศตามแนวชายฝั่งของจังหวัดมีความหลากหลายทางชีวภาพ ในแม่น้ำบางปะกงมีปลานักล่าพื้นถิ่นอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งปลาอีกง และปลากะพง ถือเป็นปราการหลักสำคัญทางธรรมชาติที่ช่วยให้จังหวัดชลบุรีพบปลาหมอคางดำในปริมาณน้อยและควบคุมได้ พร้อมเดินหน้าร่วมกับเกษตรกรและชาวประมงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และปล่อยปลาพันธุ์ปลากะพงลงในคลองอ้อมใหญ่เสริมความแข็งแกร่งแนวกันชนคุมปลาหมอคางดำ และรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ

จังหวัดชลบุรี นำโดย นายณัฐพงค์ วรรณพัฒน์ ประมงจังหวัดชลบุรี ประมงอำเภอพานทอง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน รวมทั้งครูและนักเรียนจากโรงเรียนวัดบางหัก และตัวแทนซีพีเอฟ ร่วมกันปล่อยลูกพันธุ์ปลากะพงขาวจำนวน 2,000 ตัวลงในคลองอ้อมใหญ่ ( ณ วัดชลธีบุญญาวาส (บางหัก) ต.บางหัก อ.พานทอง เพื่อเพิ่มประชากรปลานักล่าพื้นถิ่น เป็นแนวกันชนป้องกันปลาหมอคางดำในพื้นที่เสี่ยง และเป็นการช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำของจังหวัดชลบุรีให้คงอยู่ต่อไป

นายณัฐพงค์ กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีพบปลาหมอคางดำอยู่ในเฉพาะอำเภอเมือง แต่พบปลาในปริมาณน้อยและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ อย่างไรก็ตาม จังหวัดไม่นิ่งนอนใจยังดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปัจจุบัน สำหรับคลองอ้อมใหญ่เป็นคลองเชื่อมกับแม่น้ำบางปะกงติดต่อกับจังหวัดฉะเชิงเทรา และเกษตรกรสูบน้ำจากคลองอ้อมใหญ่ลงนาข้าว เลี้ยงปูทะเล และปลากะพง การเพิ่มจำนวนปลานักล่าในแหล่งน้ำช่วยเสริมสร้างปราการป้องกันปลาหมอคางดำที่อาจจะหลุดเข้าสู่พื้นที่และบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในอำเภอพานทองและอำเภอพนัสนิคมอีกด้วย

จังหวัดชลบุรี ยังดำเนินมาตรการควบคุมประชากรปลาหมอคางดำหลักๆ เป็นการให้ความรู้ความเข้าใจให้เกษตรกรและชาวประมงช่วยกันติดตามและเฝ้าระวัง ตามแนวทาง “เจอ แจ้ง จับ” ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่พร้อมให้ความร่วมมือแจ้งประมงจังหวัดในทันทีที่พบเห็นปลา และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาทรัพยากรทางน้ำและสนับสนุนการอนุรักษ์สัตว์น้ำในถิ่นที่อาศัยของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง

เมืองไทยประกันชีวิต มอบผ้าห่มอัพไซคลิงแก่รร.ไทยรัฐวิทยา79 (บ้านหนองอาบช้าง) และรร.บ้านน้ำตกแม่กลาง จ. เชียงใหม่

0

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวนิรัตน์ บูชาสุข รองกรรมการผู้จัดการ จัดกิจกรรม “โครงการอบอุ่นกับเมืองไทยประกันชีวิต” เพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่นักเรียน และอาจารย์ ในโรงเรียน พื้นที่เขตดอยอินทนนท์  โดยได้มอบผ้าห่มอัพไซคลิง (Upcycling) ให้แก่ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 79 (บ้านหนองอาบช้าง)  และโรงเรียนบ้านน้ำตกแม่กลาง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่   พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬา  เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพให้แก่นักเรียน  โดยมีนายปณตพงศ์ กุลชนเสถียร ผู้อำนวยการ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 79 (บ้านหนองอาบช้าง) นายประวิทย์  ก้อนสุรินทร์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านน้ำตกแม่กลาง และนายดนัยณัฐ  ธิเขียว ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ เป็นตัวแทนรับมอบ  กิจกรรมจัดขึ้น ณ  โรงเรียนไทยรัฐวิทยา79 (บ้านหนองอาบช้าง)

ทั้งนี้การจัดทำผ้าห่มอัพไซคลิง เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นในการสร้างความสุขและรอยยิ้ม ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกก้าว  โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม     และมิติบรรษัทภิบาล (ESG)  รวมถึงเป็นการขานรับนโยบายภาครัฐในการลดขยะพลาสติกที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยผ้าห่ม 1 ผืน  ผลิตจากขวดพลาสติกที่ใช้แล้วขนาด 1.5 ลิตร  จำนวน  11 ขวด   ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับการนำวัสดุที่ไม่ได้ใช้แล้วกลับมามีคุณค่า ในการใช้งานอีกครั้งอย่างมีคุณภาพมากขึ้น และยังสามารถส่งต่อความอบอุ่นให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี 

ไข่ไก่สหรัฐฯ แพงจัดจากไข้หวัดนก ไทยต้องระวังการนำเข้าสัตว์ปีก

0
บทความโดย อิสระ คงยินดี

เรื่องของกลไกตลาดที่มีปริมาณผลผลิตกับความต้องการบริโภคเป็นตัวถ่วงดุลซึ่งกันและกัน เมื่อใดที่ทั้งสองฝั่งนี้ขาดความสมดุล ก็จะเกิดผลกระทบตามมา เช่น ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่มากเกินความต้องการใช้หรือบริโภค ราคาสินค้าชนิดนั้นจะตกต่ำลง เกษตรกรผู้ผลิตก็อาจจะขาดทุน ในทางกลับกันหากผลผลิตขาดแคลนไม่เพียงพอ ราคาสินค้าก็จะสูงขึ้น เกษตรกรอาจได้กำไรเพิ่มขึ้น แต่ก็ยากในการหาหรือผลิตสินค้าออกมาขายได้ทันการณ์ กล่าวได้ว่าการรักษาปริมาณผลผลิตให้สมดุลกับความต้องการจะนำไปสู่ “เสถียรภาพราคา” ของสินค้านั้นๆ ในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องวางแผน

ยิ่งถ้าเป็นสินค้าเกษตรที่มีความอ่อนไหวสูงอย่าง “ไข่ไก่” ความสมดุลของกลไกตลาดก็ยิ่งมีความสำคัญมาก ในเชิงวิชาการการสร้างผลผลิตไข่ไก่ตลอดทั้งปีให้สมดุลกับผู้บริโภคชาวไทยทั้งประเทศ จะอยู่ที่การใช้พ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ 4.4 แสนตัว/ปี เป็นจำนวนที่ช่วยคุมให้ซัพพลายไข่ไก่เหมาะสมกับดีมานด์ ส่วนในระหว่างปี ไข่ไก่ก็จะมีปัจจัยเข้ามากระทบตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภค เทศกาลกินเจ เปิดเทอม-ปิดเทอม หรืออุณหภูมิร้อน-หนาวก็มีผลต่อการออกไข่ของแม่ไก่ ทำให้ดีมานด์และซัพพลายแกว่งขึ้น-ลงอยู่ตลอดเวลา การควบคุมที่ต้นน้ำหรือการวางแผนจำนวนพ่อแม่พันธุ์ให้เหมาะสม จึงมีส่วนช่วยให้การแกว่งขึ้นลงของซัพพลาย-ดีมานด์ อยู่ในกรอบที่พอเหมาะสมได้

ปัจจุบันไข่ไก่มีราคาประกาศอยู่ที่ 3.40 บาท/ฟองจากการบริโภคที่ชะลอตัว ขณะที่ต้นทุนการผลิตไข่ไก่จากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) อยู่ที่ 3.45 บาท/ฟอง แสดงให้เห็นว่าเกษตรกรยังขาดทุนอยู่ และแนวโน้มราคายังอยู่ในทิศทางขาลง ทั้ง ๆ ที่มีการจำกัดจำนวนพ่อแม่พันธุ์อยู่เท่าเดิม หากมีเพิ่มพ่อแม่พันธุ์เข้าสู่ระบบอีก จะมีการผลิตแม่ไก่สาวอีกจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้มีผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ระบบอีกปีละนับร้อยล้านฟอง เมื่อผนวกกับปริมาณผลผลิตเดิมที่มี ย่อมสูงเกินความต้องการบริโภค จะเป็นสาเหตุหลักให้เสถียรภาพราคาไข่ไก่สั่นคลอนและตกต่ำลง เดือดร้อนกันไปทั้งห่วงโซ่ … แล้วแบบนี้เกษตรกรจะอยู่รอดได้อย่างไร

ไม่เพียงเท่านั้น เรื่องของ “โรคระบาด” ก็น่ากังวล เพราะยังมีผู้ประกอบการหลายรายที่ต้องนำเข้าพ่อแม่พันธุ์จากต่างประเทศ ขณะที่ปัจจุบันประเทศผู้ผลิตพ่อแม่พันธุ์ไก่ อาทิ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศ ล้วนกำลังเผชิญกับปัญหาไข้หวัดนก การอนุญาตให้นำเข้าสัตว์ปีกมีชีวิตย่อมความเสี่ยงในการนำโรคระบาดสัตว์เข้ามาด้วย แม้ภาครัฐของไทยจะต้องพิจารณาสั่งห้ามนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ตามองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (Office International des Epizooties; OIE) ก็อาจทำให้ผู้ประกอบการไทยพยายามสรรหาแม่พันธุ์จากประเทศอื่นๆ ที่ยังไม่ประกาศโรคระบาด ซึ่งนับว่ายังคงมีความเสี่ยงมากอยู่ดี สิ่งที่ต้องคิดต่อคือ ทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการไก่ไข่ของไทย จะสามารถลดการพึ่งพาพ่อแม่พันธุ์จากต่างประเทศ และดำเนินธุรกิจต่อไปได้โดยไม่สะดุด

หากไทยต้องเผชิญกับโรคระบาดอีกครั้ง จากการหย่อนยานละเลยมาตรการป้องกันโรค จะนำไปสู่หายนะอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หรือคนไทยอาจต้องกินไข่ฟองละ 30 บาท เช่นเดียวกบที่สหรัฐฯกำลังเผชิญปัญหาไข่ไก่ขาดแคลนในขณะนี้ ซึ่งบางรัฐก็รุนแรงถึงขั้นลักขโมยไข่ไก่กันนับแสนฟอง

การทำเกษตร-ปศุสัตว์ในยุคนี้ไม่ง่าย ต้องพิจารณาหลากหลายประเด็นอย่างรอบคอบ สุดท้ายก็เพื่อความปลอดภัยของเกษตรกรที่จะสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน เป็นผู้ผลิตอาหารให้ผู้บริโภครับประทานอย่างปลอดภัยและเพียงพอในราคาที่เข้าถึงได้ หรือที่เรียกว่า ความมั่นคงทางอาหาร นั่นเอง.

“ไก่ทอด” อร่อย ปลอดภัย แนะรับประทานอาหารให้หลากหลาย

0

เนื้อไก่ แหล่งโปรตีนคุณภาพดี ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับเด็กที่กำลังเจริญเติบโต และผู้ที่รักษาสุขภาพ โดยควรรับประทานไก่ที่มีวิธีปรุงหลากหลาย เช่น ไก่ต้ม ไก่อบ ไก่ย่าง สลัดไก่ ส่วนเมนูยอดฮิต “ไก่ทอด” สามารถกินได้อย่างปลอดภัย ในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากวิธีการทอดจะทำให้ได้รับไขมันเพิ่มขึ้นมากกว่าวิธีปรุงแบบอื่น นอกจากนี้ควรรับประทานควบคู่กับอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้มีสารอาหารที่ครบถ้วน

อ.สพ.ญ. พัชราภรณ์ ขำพิมพ์ อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ไก่ทอด เป็นอาหารยอดนิยมของหลายๆ คนรวมถึงเด็กๆ ที่สามารถกินได้อย่างปลอดภัย แต่พฤติกรรมการบริโภคอาหารประเภททอดที่ใช้น้ำมัน หรืออาหารไขมันสูงเป็นประจำ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะอ้วนและไขมันในเลือดสูงได้

อ.สพ.ญ. พัชราภรณ์ ขำพิมพ์

ยกตัวอย่างความเข้าใจผิดในข่าวต่างประเทศที่เชื่อมโยงการบริโภคไก่ทอดกับโรคไต ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่เกิดจากตัวไก่ แต่เกิดจากกระบวนการทอดที่ใช้ไขมันและความร้อนสูง โดยในข่าวระบุด้วยว่าผู้ป่วยกินทุกวันติดต่อกันเป็นปี ซึ่งในวิถีปกติไม่มีใครกินอะไรซ้ำกันทุกวันได้นานเป็นปีๆเช่นนั้น

ทั้งนี้ โรคที่เกิดจากไขมันสูง สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลเรื่องโภชนาการ กินอาหารให้เหมาะสมและหลากหลาย หลีกเลี่ยงการกินอาหารทอด และอาหารที่มีไขมันสูงทุกมื้อ ไม่ใช่งดไก่ทอดเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ลดฟาสต์ฟู้ดและอาหารทอดอื่นๆ ก็ยังทำให้อ้วนได้ ขณะเดียวกัน การปรับเปลี่ยนวิธีการปรุงอาหารจากทอดเป็นต้ม หรืออบ ก็จะดีต่อสุขภาพมากขึ้น

สำหรับอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ของไทยนั้น มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล ส่งออกติดอันดับโลก ซึ่งไก่ที่เลี้ยงในระบบอุตสาหกรรมมีหลายปัจจัยที่ส่งเสริมให้ไก่เติบโตได้ดี โดยไม่ต้องใช้ฮอร์โมนเร่งโต ซึ่งที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายเลย เช่น การคัดเลือกสายพันธุ์ไก่ การเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดที่มีระบบการป้องกันโรคที่ดี และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม รวมทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตอาหารให้ได้สารอาหารตรงตามความต้องการที่เหมาะกับทุกช่วงวัยของไก่

อ.สพ.ญ. พัชราภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื้อไก่ เป็นโปรตีนเนื้อขาว แหล่งโปรตีนคุณภาพดี ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เป็นที่นิยมรับประทานมากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กๆ และผู้ออกกำลังกาย-รักษาสุขภาพ ทั้งยังราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ และสามารถรับประทานได้ทุกชาติศาสนา และขอยืนยันว่า กินไก่ได้ปลอดภัย เพียงใส่ใจวิธีการปรุง ก็ไม่ต้องกังวลกับปริมาณไขมันที่จะได้รับ และดีต่อสุขภาพแน่นอน.

บอร์ดตลท. ไฟเขียวแนวทางปรับปรุงมาตรการเพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุน และสร้างเสถียรภาพตลาดหุ้น

0

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติเห็นชอบแนวทางปรับปรุงมาตรการเพื่อยกระดับความเชื่อมั่น ที่ได้เริ่มใช้บังคับในช่วงปี 2567 โดยได้พิจารณาแนวทางและมาตรการอย่างรอบด้านเพื่อให้เกิดความเหมาะสมของการใช้มาตรการตามสถานการณ์ มุ่งหวังที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุน และสร้างเสถียรภาพตลาดหุ้นไทย โดยหลังจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะใช้บังคับได้ประมาณปลายไตรมาส 2 ปีนี้

สำหรับการปรับปรุงในครั้งนี้ สามารถสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

  • การกำกับดูแลการขายชอร์ต
  • ปรับปรุงคุณสมบัติของหลักทรัพย์ที่สามารถขายชอร์ตได้ ให้เป็นหลักทรัพย์เฉพาะในกลุ่ม SET100 จากเดิมที่กำหนดให้เป็นหลักทรัพย์ในกลุ่ม SET100 และ non-SET100 ที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง (คือ มี Market Capitalization เฉลี่ย 3 เดือน ไม่น้อยกว่า 7,500 ล้านบาท และมี Monthly Turnover ในรอบ 12 เดือน ไม่น้อยกว่า 2% รวมทั้งมีการกระจาย Free Float ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้ว)
  • กำหนดให้ใช้เกณฑ์ Uptick เมื่อจำเป็น คือ กรณีปกติสามารถใช้เกณฑ์ Zero-Plus Tick สำหรับการขายชอร์ตได้ เว้นแต่เมื่อหลักทรัพย์ใดมีราคาลดลงถึงระดับที่กำหนด (เช่น X% จากราคาปิดของวันก่อนหน้า) จึงจะต้องขายชอร์ตหลักทรัพย์นั้นด้วยเกณฑ์ Uptick ในวันทำการถัดไป
  • การกำกับดูแล HFT
  • กำหนดให้ผู้ลงทุนที่ขึ้นทะเบียนส่งคำสั่งซื้อขายแบบ High Frequency Trading (HFT) สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้เฉพาะหลักทรัพย์ในกลุ่ม SET100 ทั้งนี้ไม่รวม Market Maker และหลักทรัพย์บางประเภท
  • การผ่อนคลายมาตรการที่ได้ประกาศใช้เมื่อปี 2567
  • ยกเลิกเกณฑ์กำหนดเวลาขั้นต่ำของคำสั่งซื้อขาย (order) ก่อนที่จะสามารถยกเลิกคำสั่ง (Minimum Resting Time)
  • เลื่อนการบังคับใช้เกณฑ์การกำหนดกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band เป็นรายหลักทรัพย์ Phase 2 ออกไป

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในเชิงนโยบาย ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะคงมาตรการต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิม และที่จะมีการปรับปรุงในครั้งนี้ให้มีการใช้อย่างต่อเนื่อง โดยจะทบทวนอีกครั้งในปี 2569  

TFEX มอบรางวัล TFEX Best Award 2024 แก่บริษัทสมาชิกที่มีผลงานโดดเด่น

0

นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) กล่าวว่า TFEX มอบรางวัล TFEX Best Award เป็นประจำทุกปีเพื่อประกาศเกียรติคุณแก่บริษัทสมาชิกที่มีการดำเนินงานโดดเด่นในด้านต่าง ๆ ซึ่งความร่วมมือและแรงสนับสนุนของบริษัทสมาชิกนั้นถือว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมการเติบโตของตลาดอนุพันธ์ในประเทศไทย

บริษัทสมาชิกที่ได้รับรางวัล TFEX Best Award ประจำปี 2024 มีดังนี้

  • รางวัล “TFEX Best Award of Honor” เป็นรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จสำหรับบริษัทที่สามารถรักษาความยอดเยี่ยมและครองอันดับหนึ่งในด้านใดด้านหนึ่งต่อเนื่องตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ซึ่งในปีนี้มอบแก่ 3 บริษัท
    • บริษัท เอ็มทีเอส แคปปิตอล จำกัด (MTSGF) รักษาความยอดเยี่ยมในด้าน Market Maker Best Performance หรือด้านการทำหน้าที่ผู้ดูแลสภาพคล่องการซื้อขายของสินค้า อันดับหนึ่งตั้งแต่ปี 2018-2024
    • บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) (PI) รักษาความยอดเยี่ยมในด้าน Active Agent อันดับหนึ่งตั้งแต่ปี 2020-2024
    • บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI) รักษาความยอดเยี่ยมได้ 2 ด้าน ได้แก่ ด้าน Most Active House อันดับหนึ่งตั้งแต่ปี 2021-2024 และด้าน Active Prop-Trading ตั้งแต่ปี 2022-2024
  • รางวัลMost Active House” สำหรับบริษัทสมาชิกที่มีปริมาณการซื้อขายอนุพันธ์รวมสูง มอบแก่ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) (PI)*
  • รางวัล “Active Agent” สำหรับบริษัทสมาชิกที่มีปริมาณการซื้อขายอนุพันธ์รวมสูงในส่วนบัญชีลูกค้าบุคคล มอบแก่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (YUANTA)*
  • รางวัล “Popular Agent” สำหรับบริษัทสมาชิกที่สามารถขยายฐานผู้ลงทุนใหม่ใน TFEX ได้โดดเด่น มอบแก่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX)
  • รางวัล “Active Prop-Trading” สำหรับบริษัทสมาชิกที่มีปริมาณการซื้อขายอนุพันธ์รวมสูงในส่วนบัญชีเพื่อบริษัท (Proprietary Trading) มอบแก่ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด (CAF)*
  • รางวัล “Market Maker Best Performance” สำหรับบริษัทสมาชิกที่มีผลงานโดดเด่นด้านการทำหน้าที่ผู้ดูแลสภาพคล่องของ TFEX โดยพิจารณารวมทุกประเภทสินค้ามอบแก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI)*

ผู้สนใจซื้อขายสามารถติดต่อบริษัทสมาชิก TFEX หรือดูรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า ข้อมูลการซื้อขาย กิจกรรมสัมมนา และความรู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ www.TFEX.co.th สอบถามโทร 0 2009 9999