Home Blog Page 22

พระขุนแผน5เหลี่ยมอกใหญ่ กรุบ้านกร่าง

0

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย

สวัสดีปีใหม่ ส่งความสุขความโชคดี ให้ทุกท่านครับ วันอาทิตย์ส่งท้ายปีเก่า มีโอกาสได้เดินซื้อพระกับพระอาจารย์ในรอบ5ปี ที่เคยเดินหาพระในตลาดสนามพระหลังอตก. ศูนย์รวมเซียนน้อยๆ เดินหาซื้อพระไปขายต่อเซียนใหญ่ เพราะมีคนขายพระมาจากทั้วประเทศ บรรยากาศเงียบเหงานิดนึง อาจเพราะใก้ลปีใหม่และเป็นวันอาทิตย์ ช่วงบ่ายด้วย ส่วนมากคนแน่นๆวันเสาร์เช้าไปจนถึงเที่ยง เช้ามืดเซียนมาก่อน สายหน่อยเซียนน้อยๆ หรือที่คนขายพระมักเรียกเราว่าอาจารย์ให้เกียรติคนซื้อ แต่ในใจหมูมาแล้ว ส่วนเราก็เอาภูมิความรู้มาตัดสินใจซื้อ อย่าฟังประวัติที่คนขายพระเล่าชักจูงให้เชื่อ ใช้ตาดู ดมกลิ่น น้ำหนักพระ สภาพแวดล้อมเก่าเป็นธรรมชาติ พิมพ์ เนื้อพระที่อยู่ตรงหน้าแล้วตัดสินใจ  อย่าโลภให้มองว่าเราซื้อพระมาลุ้นมีโอกาสแท้ ทำใจเป็นกลาง แต่ถ้าเรามั่นใจได้พระแท้ง่ายๆ กลับมาบ้านเป็นพระเก๊เราจะได้ไม่

สียใจ  ถามคนขายพระบอกเงียบอยู่ แต่ดีกว่าหลังโควิต อีกอย่างคนซื้อทางเว็บไซค์ ก็เยอะด้วยพ่อค้าบอก แต่เซียนเจี๊ยบขอบอกตามตรง การได้เดินซื้อพระได้ส่องได้จับ องค์เป็นๆตรงหน้าเรา ดีกว่าในเวปไซค์มาก จบเลยไม่ต้องลุ้นแท้เก๊ตรงนี้เลย ถ้าซื้อในเวป ลุ้นตั้งแต่ซื้อ จะส่งมั้ย  ขนาดองค์พระที่ดูไว้ ไม่เท่าองค์ที่ส่งมา สีไม่ตรงกับองค์ที่เห็น สรุปไม่ตรงปก ไม่จำเป็นหลีกเลี่ยงการซื้อพระทางเวปไซค์นะครับ
มาดู”พระขุนแผน5เหลี่ยมอกใหญ่ กรุบ้านกร่าง”องค์ปีใหม่เดินซื้อได้ในสนามพระ กับพระอาจารย์ถือว่าโชคดีมากในรอบ5ปี ที่เพิ่งเดินดูพระในสนามครั้งแรก พระอาจารย์บอกประวัติศาสคร์สุวรรณภูมิยิ่งใหญ่สุด อยู่ที่สุพรรณบุรี พระกรุบ้านกร่างพระนเรศวรสร้างแจกให้ทหารเป็นกำลังใจในการออกรบ ขุนแผนบ้านกร่างองค์นี้ เนื้อหยาบปานกลาง เนื้อพระจะพบเมล็ดแร่เล็กใหญ่ สามสี ดำ ขาวแดง ประปรายด้านหน้ามี”หลุมว่านหลุด”ให้เห็นด้านหลังปรากฏ “ร่อง” ที่เกิดจากเมล็ดทรายหลุด  “หลุมว่านหลุด” หลายรอย เป็นเคล็ดลับที่พระอาจารย์ สอนไว้วิธีดูพระขุนแผนบ้านกร่าง ต้องมีแบบนี้ถึงแท้นะเธอ ส่องดูดองค์นี้ครบจบบริบรูณ์

ปีใหม่นี้”เซียนเจี๊ยบบางกรวยโชคดี”ได้พระขุนแผน5เหลี่ยมอกใหญ่ มาโปรด อยากบอกเพื่อนว่าเดินเถอะยังมีพระแท้พระหลุดตาเซียนอีกมากมายให้เราเก็บใช้ขึ้นคอ
” เดินตลาดนะเพื่อนๆพระแท้รอท่านอยู่” จะได้โชคดีปีใหม่ได้พระแท้แบบเซียนเจี๊ยบบางกรวย

เจี๊ยบบางกรวยเดินตามรอยพระอาจารย์ 087 0030897

ประมงสมุทรสงครามยกโครงการ “สิบหยิบหนึ่ง” คืบหน้าช่วยเกษตรกรแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ

0

สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม โชว์ความคืบหน้าโครงการ “สิบหยิบหนึ่ง” นวัตกรรมการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ ด้วยการสนับสนุน “ปลานักล่า” ให้เกษตรกรใช้ควบคุมปลาหมอคางดำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ส่งผลให้เกษตรกรมีผลผลิตเพิ่มขึ้น พร้อมยังสร้างความยั่งยืนโดยเกษตรกรจะส่งคืนปลานักล่า 10% (สิบหยิบหนึ่ง) ให้กับประมงสมุทรสงคราม เพื่อนำไปปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ สร้างสมดุลระบบนิเวศและนำโมเดลขยายผลสู่พื้นที่อื่นต่อไป

นายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า กิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” เป็นโมเดลเป็นโครงการที่ประสานความร่วมมือ 3 ฝ่ายระหว่างรัฐ เอกชน และเกษตรกร เพื่อช่วยเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพิ่มผลผลิตโดยควบคุมปลาหมอคางดำที่เป็นศัตรูในบ่อเลี้ยงที่ริเริ่มของประมงสมุทรสงครามโดยบูรณาการแนวทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน โดยสนับสนุนลูกพันธุ์ปลากะพงขาวให้เกษตรกรที่ร่วมโครงการนำไปปล่อยช่วยกำจัดปลาหมอคางดำในบ่อเลี้ยงเกษตรกร และสร้างความยั่งยืนให้กับระบบ เกษตรกรจะคืนปลานักล่าบางส่วน เพื่อให้ประมงจังหวัดเพื่อนำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป

“สิบหยิบหนึ่ง” สะท้อนแนวคิดการคืนปลานักล่า 10% หรือ 1 ใน 10 ส่วนหมุนเวียนกลับคืนสู่ระบบ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ซึ่ง นอกจากนี้ ปลากะพงขาว เป็นปลาเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจชุมชน ปัจจุบัน ประมงสมุทรสงครามได้สนับสนุนปลากะพงขาวแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไปแล้ว 3 รุ่นแล้ว โดย เกษตรกรกลุ่มแรกภายใต้กิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ได้รับการสนับสนุนปลานักล่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาครบกำหนดเวลานำปลานักล่ามาคืนแก่ประมงจังหวัดแล้ว และสำหรับเกษตรกรรุ่นที่สอง ประมงจังหวัดสมุทรสาครได้แจกจ่ายปลากะพงขาว 10,000 ตัวที่ได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟเพื่อแบ่งให้เกษตรกรในพื้นที่ตำบลบางแก้ว และตำบลยี่สารรวม 55 ราย ปล่อยลงบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2567 สำหรับรุ่นที่ 3 ประมงสมุทรสงครามนำปลากะพงขาวรวม 5,000 ตัว แจกจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 25 รายนำไปปล่อยลงในบ่อเลี้ยงรายละ 200 ตัว ซึ่งผลจากดำเนินการได้รับการตอบรับที่ดีจากเกษตรกร

นายสมศักดิ์ แสงสุริยา เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เข้าร่วมกิจกรรมรุ่นแรก กล่าวว่า กิจกรรมสิบหยิบหนึ่งเป็นแนวทางที่ดีมาก ขอบคุณประมงสมุทรสงครามที่คิดแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรจัดการปัญหาปลาหมอคางดำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งได้ลูกพันธุ์ปลากะพงขาว 1,000 ตัวปล่อยลงสู่บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ตอนนี้กำลังทยอยจับปลากะพงขาวมาคืนประมงจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้หน่วยงานรัฐอีกทางหนึ่ง

นายพิศาล วงศ์วัฒนา เกษตรกรที่ร่วมกิจกรรม สิบหยิบหนึ่งรุ่นแรก กล่าวว่า ที่บ่อเลี้ยงกุ้ง ปู และปลากะพง ที่ผ่านมาผลผลิตลดลงได้รับผลกระทบจากการระบาดของปลาหมอคางดำ ขอขอบคุณหน่วยงานราชการ ประมงจังหวัด อบต. และซีพีเอฟ ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนพันธุ์ปลากะพงขาว ซึ่งช่วยกำจัดลูกปลาหมอคางดำในบ่อได้ส่วนหนึ่ง ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมาในเกณฑ์ที่พึงพอใจ

นายบัณฑิต กล่าวเสริมว่า “สิบหยิบหนึ่ง” เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ประมงจังหวัดสมุทรสงครามบูรณาการเพื่อช่วยเกษตรกรควบคุมศัตรูของสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง นอกจากนี้ ประมงสมุทรสงครามยังได้จัดตั้ง ‘กองทุนกากชา’ ขึ้นเพื่อช่วยให้เกษตรกรยืมกากชาฟรีเพื่อนำไปใช้กำจัดปลาหมอคางดำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต และได้ผลผลิตอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาประมงสมุทรสงครามเดินหน้าเต็มกำลังในการจัดการปริมาณปลาหมอคางดำ ผ่านการจัดกิจกรรมลงแขก ลงคลอง ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ปลาหมอคางดำ โดยร่วมมือกับเรือนจำกลางสมุทรสงครามทำน้ำปลาตรา “หับเผย แม่กลอง” สนับสนุนกลุ่มเกษตรกรนำปลาหมอคางดำแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ปลาร้า ปลาส้ม สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร จากการดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างเต็มกำลังของประมงสมุทรสงคราม ส่งผลให้ในแหล่งน้ำธรรมชาติพบปลาหมอคางดำขนาดใหญ่ หรือปลาที่เป็นพ่อแม่พันธุ์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับปี 2568 นี้ ประมงสมุทรสงครามยังคงเดินหน้าดำเนินกิจกรรมจัดการปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นการส่งเสริมปลาหมอคางดำมาใช้ประโยชน์และแปรรูปเป็นอาหาร ควบคู่กับการควบคุมปลาหมอคางดำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร เพื่อการจัดการปลาหมอคางดำอย่างครบวงจรและยั่งยืน.

AIS PLAY ยิงสดศึกอาเซียน คัพ 2024 ร่วมส่งใจเชียร์ทีมชาติไทยคว้าแชมป์ ชมสดดูฟรีผ่าน AIS PLAY

0

AIS PLAY ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางการรับชมคอนเทนต์กีฬาและความบันเทิงระดับพรีเมียม พร้อมเชื่อมต่อประสบการณ์​การรับชมศึกการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ASEAN Mitsubishi Electric Cup™ 2024 เอาใจแฟนบอลชาวไทยให้ส่งแรงใจเชียร์ทัพช้างศึกสายเลือดใหม่คว้าแชมป์ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนัดที่ 2 กับทีมชาติเวียดนาม วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2568 AIS PLAY เตรียมยิงสดพร้อมกันเวลา 20.00 น. พิเศษสำหรับลูกค้า AIS ทั้งมือถือและเน็ตบ้าน AIS 3BB FIBRE3 และลูกค้า 3BB GIGA TV ชมสดฟรี พร้อมไฮไลต์และรีรัน

นางสาวรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ หัวหน้าส่วนงาน AIS PLAY กล่าวว่า “การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนในปีนี้ ทีมชาติไทยสามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเข้าสู่การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ในฐานะที่ AIS ทำงานร่วมกับวงการฟุตบอลไทยมาอย่างต่อเนื่อง เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบประสบการณ์ในศึกการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนนัดชิงชนะเลิศที่เราจะเปิดบ้านรับทีมชาติเวียดนามให้แฟนบอลชาวไทยได้ร่วมรับชมและส่งแรงใจเชียร์ทัพช้างศึกคว้าแชมป์เป็นที่ 1 ตัวจริงในอาเซียนแบบติดขอบจอที่ AIS PLAY”

สำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศของ ศึกชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน ASEAN Mitsubishi Electric Cup™ 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการแข่งขันนัดที่ 2 กับทีมชาติเวียดนาม หลังจากที่ทีมชาติไทยบุกไปเยือนที่ สนามเวียต ตรี สเตเดียม เมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา โดยนัดนี้ทีมชาติไทยต้องการชัยชนะอย่างน้อย 2 ประตู เพื่อคว้าแชมป์ ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ตัวจริงในอาเซียน”

ร่วมส่งแรงใจเชียร์ทัพช้างศึกชมสด พร้อมไฮไลต์และรีรัน ได้ทาง AIS PLAY  ลูกค้าเอไอเอส ทั้งมือถือและเน็ตบ้าน AIS 3BB FIBRE3 ชมฟรี ได้ทุกแพลตฟอร์ม ทั้งบนแอปพลิเคชัน AIS PLAY, กล่อง AIS PLAYBOX, Website https://aisplay.ais.co.th/portal, Smart TV, Apple TV พร้อมกัน 5 มกราคม เวลา 20.00 น. และยังถ่ายทอดสดให้ลูกค้า 3BB GIGA TV ได้รับชมอีกด้วย

ตลาดหุ้นไทยวันแรกของปี 68 ปิดตลาด ลบ 20.36

0

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในวันแรกของการซื้อขาย 2568 (2 มกราคม 2568) ปิดที่ 1,379.85 จุด ปรับตัวลดลง 20.36 จุด หรือ 1.45% มีมูลค่าการซื้อขาย 36,852.83 ล้านบาท เป็นไปในทิศทางเดียวกับหลายๆ ตลาดในภูมิภาค, เช่น ดัชนี CSI300 ในตลาดหุ้นจีน ปรับตัวลดลง 2.91% ดัชนี Hang Seng ในตลาดหุ้นฮ่องกง ปรับตัวลดลง 2.18% ดัชนี TAIEX ในตลาดหุ้นไต้หวัน ปรับตัวลดลง 0.88% และตลาดหุ้นยุโรปเปิดในทิศทางขาลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมทั้งความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านภาษีระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ดัชนี SET50FF ที่ถ่วงน้ำหนักด้วยสัดส่วนการกระจายหุ้น (free-float adjusted) ปรับตัวค่อนข้างมีเสถียรภาพมากกว่า โดยปรับตัวลดลงเพียง 0.81% แม้ดัชนีจะมีความผันผวนในระยะสั้นตามปัจจัยความไม่แน่นอนในตลาดทุนโลก นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์และพิจารณาปัจจัยสำคัญประกอบการลงทุนอย่างใกล้ชิด เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น

“พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ยักคิ้วมีตาจมูกโด่ง”

0

ตามรอยเซียน โดย เจี๊ยบ บางกรวย

พระอาจารย์บอก”คนรู้มากอาจไม่รู้เลย คนไม่รู้เลยอาจรู้มาก”นะเธอจำไว้นะ เชื่อว่าสิ่งที่เห็นถูกต้องแน่ๆของเรา อาจไม่ถูกต้องของคนอื่นก็ได้ “ถ้าไม่ใช่กฎธรรมชาติของพระพุทธเจ้า”ที่เป็นกฎจักรวาล เรื่องพระเครื่องเช่นเดียวกัน อย่าเชื่อมั่นในตัวเองมีมาตราฐานสากล เราต้องยึดไว้ ตามที่เค้าซื้อขายเล่นกันเป็นมาตราฐาน

วันนี้ชม”พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ยักคิ้วมีตาจมูกโด่ง” เห็นแล้วก็ยิ้มหวานไปด้วย หูตากระพริบได้ แจ่มจัด ผิวแห้งเดิมๆ เจอแบบนี้ห้ามล้าง แท้ตาเปล่า หลังเรียบมีหลุมบ่อนิดหน่อยพองาม ข้างตอกตัดมีเม็ดแดงแจ่มๆ    เห็นแล้วเซียนเจี๊ยบชอบเลย จมูกโด่งตาคมช่วยให้ดูแล้วมีความสุข พระผิวแห้งสนิทเดิมๆ ทิ้งสภาพพระเก่าร้อยปีให้เห็น   ส่งให้พระอาจารย์ชม บอกองค์นี้ติดชัดมีหน้าตา “เก๊ได้แท้ได้นะเธอ” ระวังอย่าคิดว่าของปลอมไม่ทำกัน มีหมดนะระวังให้ดี ให้ได้เต็มที่2พัน  “เราก็อมยิ้มหวานหวาน”เก็บเลยซิครับแท้แน่ๆ “พระสมเด็จมีหน้าตา จมูก ปาก ครบพระอาจารย์สอนไว้” ยึดคำสอนพระอาจารย์ พระสมเด็จมีหน้าตาทุกองค์ แต่หดยุบ ด้วยส่วนผสมของตังอิ๋วทำให้หน้าตาหายไป เหลือให้เห็นแต่ใบหน้า แต่ก็มีองค์สวยแชมป์ที่มีหน้าตาหลายองค์ ในสมเด็จพิมพ์เกศบัวตูม

ชอบสไตส์เซียนเจี๊ยบพระสมเด็จวัดระฆังต้องตอกตัดนะจ๊ะเธอ

เจี๊ยบบางกรวยเดินตามรอยพระอาจารย์ 087 0030897

กรมสรรพากร เชิญชวนยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90/91 ปีภาษี 2567 ภายในกำหนดเวลา

0

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสามารถยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด 91 ประจำปีภาษี 2567 ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถยื่นแบบฯ ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th และแอปพลิเคชัน RD Smart Tax ซึ่งมีความสะดวก รองรับการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง และจะทำให้ผู้เสียภาษีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคืนภาษีได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

กรณียื่นแบบฯ ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร สามารถยื่นแบบฯ ผ่านระบบ e-filing และระบบ D-MyTax (Digital MyTax) ซึ่งเป็นระบบที่ยกระดับการให้บริการ โดยรวมระบบให้บริการทางภาษีต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน ท่านสามารถยื่นแบบฯ ทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 8 เมษายน 2568 และหากยื่นแบบฯ ด้วยกระดาษ สามารถยื่นได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ทั้งนี้ การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผู้เสียภาษี ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ สำหรับผู้ที่มีภาษีต้องชำระตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป สามารถขอผ่อนชำระภาษีได้ 3 งวด” อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมสรรพากรให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการรายใหม่ที่ประกอบธุรกิจในรูปแบบของบุคคลธรรมดา โดยเฉพาะการขายสินค้าออนไลน์ (e-commerce) เมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด มีหน้าที่ยื่นแบบฯ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีให้ถูกต้อง ไม่เพียงช่วยลดภาระค่าปรับและเงินเพิ่ม แต่ยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ”

​สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศหรือที่ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161

AIS เปิดพฤติกรรมผู้ใช้ช่วงปีใหม่ 2025 เฟสบุ๊คครองแชมป์แพลตฟอร์มอวยพรปีใหม่ ยอดใช้งานคืนข้ามปีดัน 5G โตก้าวกระโดด 5 เท่า

0

AIS เผยข้อมูลการใช้งานดาต้าบนมือถือและอินเทอร์เน็ตบ้านของลูกค้าและคนไทยในช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปี ที่ในปีนี้มีการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์อย่างยิ่งใหญ่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงความคึกคักจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และการเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อใช้เวลากับครอบครัว โดยยอดการใช้งาน 5G ของลูกค้า เติบโตพุ่งกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบช่วงเทศกาลปีใหม่ในปีทีผ่านมา แน่นอนว่ากรุงเทพมหานครยังคงยอดการใช้งานดาต้าสูงสุด และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook ครองแชมป์คนไทยใช้งานช่วงคืนข้ามปีมากที่สุด

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า จากการเตรียมความพร้อมศักยภาพโครงข่ายสื่อสารอย่างเต็มกำลังของ AIS ทำให้ลูกค้าสามารถอัปโหลด โพสต์ แชร์คำอวยพร เพื่อส่งต่อความสุขได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด โดยพบสถิติการใช้งานระบบสื่อสารของลูกค้าและคนไทยในช่วงเทศกาลที่น่าสนใจ ดังนี้

  • สถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯที่มีการใช้งานดาต้าสูงสุด ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ได้แก่ ท่าเรือและเส้นทางเรือแม่น้ำเจ้าพระยา, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ศูนย์การค้าไอคอนสยาม, Wonder World, สะพานตากสิน
  • สถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ในต่างจังหวัดที่มีการใช้งานดาต้าสูงสุด ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ได้แก่ หาดพัทยา, ถนนข้าวหลาม หาดบางแสน, ริมหาดสมิหลา จ.สงขลา, ลานหน้าสนามช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์, ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามลำดับ
  • แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่คนไทยใช้งานสูงสุด ในช่วงวันหยุด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 – 31 ธันวาคม 2567 ได้แก่ Facebook, YouTube, TikTok, IG, LINE ตามลำดับ
  • ช่วงเวลา 21:00 – 22:00 คือช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานมือถือและเน็ตบ้านสูงสุดในคืนข้ามปี ตั้งแต่ช่วง 18.00 – 24.00 วันที่ 31ธ.ค.67
  • Top 5 จังหวัดที่มีการใช้งานดาต้าผ่านมือถือสูงสุด ในช่วงวันหยุด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 – 31 ธันวาคม 2567 ได้แก่ 1 กรุงเทพมหานคร 2 นครราชสีมา 3 เชียงใหม่ 4 กาญจนบุรี 5 ชลบุรี
  • Top 5 จังหวัดที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตบ้านสูงสุด ในช่วงวันหยุด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 – 31 ธันวาคม 2567 ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร 2.นนทบุรี 3.ชลบุรี 4.ปทุมธานี 5.สมุทรปราการ
  • จากข้อมูลการใช้งานยังพบไฮไลท์ที่น่าจับตาคือ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของยอดสตรีมมิงคอนเทนต์ผ่าน AIS PLAY ในช่วงวันหยุดยาว โดยคอนเทนต์ที่คนไทยที่นิยมรับชมมากที่สุดคือ Movie – Series, Kids – Family และ Entertainment สะท้อนเทรนด์ผู้บริโภคในช่วงเทศกาลที่ใช้เวลาเฉลิมฉลองกับครอบครัวที่บ้านมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าลูกค้าใช้ AIS Points แลกรับสิทธิพิเศษสูงสุดได้แก่ 1) แลกพอยท์ ลุ้นโชครางวัลใหญ่ รถไฟฟ้ามินิ The New Electric Mini Cooper SE มูลค่า1.72 ล้านบาท (โค้งสุดท้าย รีบแลกได้ถึง 31 มกราคม 2568) 2) แลกฟรีแพ็กเกจเล่นเน็ต 3) แลกส่วนลด หรือรับฟรี ขนม เครื่องดื่ม จากร้านแบรนด์ดัง อาทิ Auntie Anne’s ตามลำดับ

“AIS ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกประสบการณ์ดิจิทัลให้กับคนไทย ด้วยการนำข้อมูลอินไซต์การใช้งานมาวิเคราะห์และพัฒนาโครงข่ายอัจฉริยะ 5G และบรอดแบนด์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ลูกค้าและคนไทยทุกคนได้มีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในทุกเทศกาล” นายปรัธนา กล่าวทิ้งท้าย

เมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ออกหน่วยบริการตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุต่อเนื่อง ปีที่ 6

0

เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม และร้านหอแว่น จัดกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการออกหน่วยตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุ ปีที่ 6 เพื่อส่งเสริมสุขภาพสายตาและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงผู้สูงอายุในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ในการดูแลของกรมกิจการผู้สูงอายุ  เป้าหมาย 10,000 รายในปี 2568

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม และหอแว่น  จัดกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมสุขภาพสายตาและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาจากร้านหอแว่นร่วมตรวจวัดและให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสายตา พร้อมมอบแว่นตาที่เหมาะสมให้กับผู้สูงอายุแต่ละราย ดวงตาและการมองเห็นที่ดีขึ้นไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การหกล้ม แต่ยังสนับสนุนการอ่านหนังสือและกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงจากโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม เป้าหมายหลักของการมองเห็นที่ชัดเจนในผู้สูงอายุ คือ ทำให้สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน “มอง อ่าน เขียน” ได้ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูชะลอความเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุเป็นการรักษาที่ “ไม่ใช้ยา”  อีกทั้งยังส่งเสริมความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้สูงอายุ

นอกจากประโยชน์ที่ได้รับโดยตรงต่อผู้สูงอายุ กิจกรรมครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเมืองไทยประกันชีวิตในการทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาสังคม ผ่านโครงการเพื่อสังคมที่สร้างผลกระทบเชิงบวก ทั้งในด้านสุขภาพ สังคม และจิตใจ โดยการร่วมมือกับพันธมิตรอย่างร้านหอแว่นและหน่วยงานในท้องถิ่น

ทั้งนี้การดูแลสุขภาพสายตาถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสุขภาพที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ เมืองไทยประกันชีวิตมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล และผู้สูงอายุที่อาศัยในบ้านพักคนชรา การที่พวกเขาได้รับโอกาสในการตรวจสายตาและแว่นตาที่เหมาะสม เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข  ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้  เราได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ได้ออกหน่วยบริการตรวจวัดสายตาและมอบแว่นตาให้ผู้สูงอายุ ไปแล้ว จำนวน 62 หน่วย มอบแว่นสายตาให้ผู้สูงอายุไปแล้ว 8,267 อัน

และกิจกรรมล่าสุด ณ บ้านพักคนชราบางละมุง ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยครั้งนี้ถือเป็นหน่วยบริการลำดับที่ 62 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้สูงอายุ   ทั้งนี้ในการกิจกรรมดังกล่าวบริษัทได้นำทีมงานในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเป็นจิตอาสาพร้อมสร้างเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการปลูกจิตสำนึกให้บุคลากรของบริษัทรู้จักการเสียสละและมีใจในการช่วยเหลือสังคม

“เมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้มยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายในการสร้างสังคมที่แข็งแกร่ง ยั่งยืน ด้วยความสุขสำหรับทุกคน พร้อมทั้งขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่ ตอกย้ำความตั้งใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนความสุขและความมั่นคงให้กับสังคมในระยะยาว” นายสาระ กล่าวสรุป

CONNEXT ED หนุน รร.บ้านหนองกระทุ่ม ชัยภูมิ เรียนรู้โค้ดดิ้ง “Amazing Coding By Micro bit”

0

โค้ดดิ้ง (Coding) เป็นหลักสูตรที่นักเรียนทั่วประเทศต้องเรียนตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา เริ่มเรียนตั้งแต่ชั้น ป.1 เป็นต้นไป โดยให้ Coding เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรวิทยาการคำนวณที่บรรจุอยู่ในสาระเทคโนโลยี กลุ่มสาระเรียนรู้วิทยาศาสตร์เป้าหมาย เพื่อปูพื้นฐานให้นักเรียนฝึกคิดอย่างเป็นระบบ ค้นเจอปัญหาและเงื่อนไข รู้เหตุและผล เข้าใจกระบวนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นทักษะสำคัญและจำเป็นสำหรับเด็กในศตวรรษใหม่

อย่างไรก็ตาม โรงเรียนที่มีความพร้อมในเรื่องวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เรื่อง Coding เป็นสิ่งที่นักเรียนสามารถเรียนรู้และเข้าถึงองค์ความรู้ได้โดยง่าย แต่โรงเรียนบางแห่งอาจไม่มีความพร้อมสำหรับเรื่องนี้ โรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม ต.ชีบน อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ โรงเรียนขนาดกลาง สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 2 – ประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ไม่มีความพร้อมในการจัดหาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การเรียนดังกล่าวให้เพียงพอกับนักเรียนทั้ง 131 คน

นายพิทรัตน์ บรรจงงาม ผู้อำนวยการ รร.บ้านหนองกระทุ่ม เล่าว่า โรงเรียนฯมีครูคอมพิวเตอร์ แต่กลับมีคอมพิวเตอร์ไม่พอสำหรับเด็กๆ ครูจึงทำโครงการ “Amazing Coding By Micro bit” เสนอต่อมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา หรือ CONNEXT ED โดยมีซีพีเอฟให้การสนับสนุนคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ จนถึงปัจจุบันสอนเป็นรุ่นที่ 2 มีนักเรียนชั้นป. 4 – 5 – 6 รวม 55 คน ที่เข้าเรียนในชั่วโมงชุมนุม ส่วนน้องๆป.1 – 2 -3 ให้เรียนปรับพื้นฐานไปก่อน

“เด็กๆทุกคนตื่นเต้นมากที่ได้เรียน Coding ได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆที่ไม่เคยได้เรียน เขาจึงอยากเรียนรู้ ตั้งใจเรียน สนใจดูคู่มือ พร้อมที่จะลงมือทำ และต่อยอดสร้างสรรค์ บางคนถึงกับขอเพิ่มชั่วโมงชุมนุม ตอนนี้เรายังทำการสอนแบบกลุ่ม และหวังว่าในอนาคตจะสอนตัวต่อตัว อยากให้ได้ลงมือทำลองปฏิบัติกับอุปกรณ์และคอมพิวเตอร์จริงๆ ขอขอบคุณซีพีเอฟ ที่ส่งเสริมการพัฒนานักเรียนของเรามาตลอด ก่อนหน้านี้ก็สนับสนุนชุมนุมประดิษฐ์ดอกไม้ ซึ่งเป็นกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ ให้เด็กๆประดิษฐ์ดอกไม้ทำพวงหรีด เป็นเสริมรายได้ให้พวกเขา ต่อยอดไปถึงการแกะสลักในงานศิลปะหัตถกรรมต่างๆ กลายเป็นพื้นฐานให้นักเรียนนำไปใช้และต่อยอดเป็นอาชีพได้” ผอ.พิทรัตน์ กล่าว

ดญ.พิชญดา จันทร์บุญ นักเรียนชั้น ป.6 บอกว่า Coding ทำให้การเรียนของหนูสนุกขึ้น หนูชอบที่ได้ลองผิดลองถูกได้ทำกิจกรรมที่แปลกใหม่ ท้าทายความสามารถ และยังทำให้มีกระบวนการคิดที่ดีขึ้น คิดอย่างมีขั้นตอน มีเหตุผล และทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถนำความรู้ไปต่อยอดเป็นอาชีพ เช่น การทำระบบรดน้ำอัจฉริยะ และระบบให้อาหารไก่อัตโนมัติ ส่วน ดช.ณัฐนันท์ พันธ์สูงเนิน นักเรียนชั้นเดียวกัน ฝากขอขอบคุณซีพีเอฟที่มอบโอกาสให้นักเรียนได้สัมผัสการเรียนรู้ใหม่ๆ ผมชอบการเรียนรู้ผ่านไมโครบิทมากๆ เพราะได้ฝึกการคิดแก้ปัญหา เป็นการเรียนรู้ที่น่าสนใจมากๆ

ด้าน ดญ.ชมพูนุช วรรณมาตย์ นักเรียนชั้น ป.5 ที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ และเป็นโอกาสดีที่ได้ฝึกกระบวนการทำงานต่างๆของไมโครบิท ที่ทำให้มีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี พร้อมพัฒนาศักยภาพและความสามารถด้านเทคโนโลยีมากขึ้นไปอีก และยังได้ฝึกสมาธิ มีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบผลงาน นักเรียนทุกคนต่างสนุกกับการเรียน ขอขอบคุณทางซีพีเอฟที่สนับสนุนโครงการดีดีแบบนี้

“Amezing Coding by Micro bit” การเรียนรู้ผ่านแผงควบคุมเล็กๆ ที่ออกแบบให้สามารถสั่งงานได้ด้วยการเขียนโปรแกรมสไตล์ Block-based programming เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้และการใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐานของน้องๆนักเรียน รร.บ้านหนองกระทุ่ม ที่จะกลายเป็นการจุดประกายให้กับพวกเขา นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ต่อยอดสู่อาชีพ และอาจกลายเป็นผู้สร้างนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต .

ปิดฉากเวที AIS 5G eSports U Series Thailand Championship 2024 by Red Bull สุดยิ่งใหญ่ ศึกตีป้อมระดับมหาวิทยาลัยรวม 60 สถาบัน 300 ทีม ทั่วประเทศ

0

จบไปแล้วกับเวทีการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตระดับมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย AIS 5G eSports U Series Thailand Championship 2024 by Red Bull ที่ในปีนี้มีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการแข่งขันถึง 60 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โดยมีทีมลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้งสิ้นกว่า 300 ทีม ชิงทุนการศึกษารวม 150,000 บาท งานนี้น้องๆ นักกีฬาอีสปอร์ต ทีม Death Masks จากมหาวิทยาลัยรังสิตโชว์สกิลโหดคว้าแชมป์ รับถ้วยรางวัลและทุนการศึกษาได้สำเร็จ

นางสาวรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ รักษาการหัวหน้าแผนกงานบริหารธุรกิจเกม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “ขอขอบคุณ Red Bull และพาร์ทเนอร์ชั้นนำทั้ง มาม่า ทรอส พร้อมด้วย บีลิงค์ มีเดีย รวมถึงน้องๆ จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ที่มาร่วมกันขับเคลื่อนวงการให้ยกระดับสู่สากลและเฟ้นหาเยาวชนที่มีฝันในการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพตัวจริง ในเวที AIS 5G eSports U Series Thailand Championship 2024 by Red Bull ที่เราตั้งใจเปิดพื้นที่ให้น้องๆ ระดับมหาวิทยาลัยซึ่งมีใจรักในการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตได้แสดงความสามารถกันอย่างเต็มที่”

ขอแสดงความยินดีกับ น้องๆ ทีม Death Masks จากมหาวิทยาลัยรังสิต ที่สามารถฝ่าฟันการแข่งขันในแต่ละรอบจนเข้ามาคว้าแชมป์ได้สำเร็จในปีนี้ รวมถึงน้องๆ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รางวัลอันดับที่ 4, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) รางวัลอันดับที่ 5-6 ร่วม, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ รางวัลอันดับที่ 7-8 ร่วม, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ – มหาวิทยาลัยมหิดล – มหาวิทยาลัยศรีปทุม- มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา – มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี – สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง – มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ – มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับรางวัลอันดับที่ 9-16 ร่วม

“เราเชื่อว่าเวที AIS 5G eSports U Series Thailand Championship 2024 by Red Bull จะเป็นจุดเริ่มต้นในการช่วยสร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาทักษะการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพให้กับเยาวชน เพื่อที่จะก้าวสู่การแข่งขันในเวทีระดับโลกต่อไป”  นางสาวรุ่งทิพย์ กล่าวทิ้งท้าย