Home Blog Page 172

จุดสังเกตหุ้นร้อน หุ้นผันผวน ลักษณะแบบไหนที่ควรชั่งใจ

0
ฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมความรู้ตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

หลายคนเชื่อว่า หากได้จองซื้อหุ้นตอน IPO จะได้เปรียบเพราะคิดว่าเป็นราคาเริ่มต้นที่เข้ามาซื้อขาย จึงน่าจะเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว จริง ๆ ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะทันทีที่หุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดรอง หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ทั้งขึ้นและลง และเมื่อหุ้นนั้นซื้อขายในตลาดไประยะหนึ่ง ผู้ลงทุนอาจสังเกตเห็นว่าหุ้นบางตัวราคาค่อย ๆ ขึ้นลง หรือราคานิ่ง ๆ ในขณะที่หุ้นบางตัวขึ้นลงอย่างหวือหวาในเวลาสั้น ๆ เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ผู้ลงทุนควรจะเข้าไปรับความเสี่ยงหรือควรจะหลีกเลี่ยงดี ?

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า โดยทั่วไปมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาหุ้น เช่น บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น มีแผนธุรกิจที่ชัดเจนว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ราคาหุ้นก็ขึ้น หรือกรณีมีปัจจัยพิเศษอย่างโควิด-19 อาจมีผลกระทบด้านลบต่อธุรกิจท่องเที่ยวหรือเดินทาง แต่เป็นบวกกับธุรกิจออนไลน์และโรงพยาบาล ลักษณะเช่นนี้ เรียกว่า ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยพื้นฐาน

แต่ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบางตัว อาจมาจากการสร้างราคา/ปริมาณหลักทรัพย์ หรือที่รู้จักกันคุ้นหูว่า “การปั่นหุ้น” สังเกตเบื้องต้นได้จากการที่ราคา/ปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ อาจมีข่าวที่ไม่ทราบที่มา ไม่ได้รับการยืนยันจากบริษัท ทำให้ราคาหุ้นขึ้นหรือลง มีสภาพการซื้อขายผิดไปจากปกติ ซึ่งอาจเป็นการซื้อขายที่มาจากกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ผู้ลงทุนรายย่อยควรสังเกตและระมัดระวังเพื่อไม่ให้เข้าไปซื้อขายในช่วงนั้น ซึ่งอาจทำให้เข้าไปซื้อหุ้นในราคาที่ไม่ปกติ ตกเป็นเหยื่อการปั่นหุ้น ส่วนผู้ลงทุนที่ชอบหุ้นที่หวือหวาความเสี่ยงสูง ก็ต้องระวังและจำกัดความเสี่ยงด้วย

ลักษณะของหุ้นที่ถูกปั่นได้ง่าย มักเป็นหุ้นที่มีมูลค่าทางตลาดต่ำเพราะใช้เงินทุนจำนวนน้อย มีสภาพคล่องการซื้อขายน้อย ปัจจัยพื้นฐานไม่ค่อยดี หรือมีจำนวนหุ้นหมุนเวียน (free float)* ต่ำ

การปั่นหุ้น มีทั้งกรณีการส่งคำสั่งซื้อขายที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิด และการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกันโดยมุ่งหมายทำให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งอาจมีพฤติกรรมหลายลักษณะ อาทิ ทำราคาเปิด-ปิด จับคู่ซื้อขายกันเอง ผลักดันชี้นำราคา แตกย่อยคำสั่ง หรือเสนอขายโดยระบุราคาที่ไม่น่าจะขายได้ ขณะเดียวกัน เพื่อจะทำให้การปั่นหุ้นสำเร็จ อาจจะมีการปล่อยข่าวเท็จเสริมเข้าไปอีก เช่น สร้างข่าวว่าหุ้นตัวนี้จะมีข่าวดี ทำให้ผู้ลงทุนรายอื่นเข้าใจผิด เป็นต้น

การปั่นหุ้น อาจเป็นการทำให้ราคาสูงขึ้น ทำราคาลดลง หรือการพยุงราคา โดยมีเหตุจูงใจแตกต่างกันออกไป เช่น ทำให้ราคาสูงขึ้นเพื่อทำกำไรจากการซื้อขาย หรือหลีกเลี่ยงการถูกเรียกประกันเพิ่มในกรณีที่ใช้หุ้นเป็นหลักประกันในธุรกรรมต่าง ๆ ต้องการขายหุ้นแก่ผู้อื่น (นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ) ให้ได้ราคาตามที่ต้องการ ต้องการทำกำไรจากการลงทุนในตลาดอื่น เป็นต้น

ทั้งนี้ การดูแลการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นนั้น ปกติแล้วตลาดหลักทรัพย์ฯ ในฐานะเป็นด่านหน้า (Front-line Regulator) ดูแลการซื้อขายหุ้นในตลาดรองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยถูกต้องตามกฎกติกา จะมีเกณฑ์ดูแล** เช่น เกณฑ์ Ceiling & Floor ที่ดูแลไม่ให้ราคาซื้อขายมีความผันผวนมากเกินไปและป้องกันการทำราคาหุ้นผิดปกติ โดยกำหนดระดับราคาเสนอซื้อ/เสนอขายสูงสุดและต่ำสุด เปลี่ยนแปลงได้ไม่เกิน 30% จากราคาปิด
วันก่อนหน้า แต่ก็ยกเว้นกรณีการซื้อขายหุ้น IPO วันแรก และวันแรกที่ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD (Excluding Dividend) XR (Excluding Right) XA (Excluding All)

อย่างไรก็ดี เมื่อมีข้อมูลข่าวสารหรือเกิดกรณีที่อาจกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์หรือต่อการตัดสินใจในการลงทุน หรือกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงราคา ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่ได้รับรายงานจากบริษัท ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาขึ้นเครื่องหมาย เช่น H (Halt) หรือ SP (Trading Suspension) เพื่อหยุดการซื้อขายชั่วคราวรอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลให้ชัดเจน และหากพบว่ามีการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด*** ก็จะมีมาตรการ เช่น การประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย (Turnover list) ที่กำหนดให้ผู้ลงทุนต้องวางเงินสดเต็มจำนวนในการซื้อขาย (Cash balance) มาตรการห้ามหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์ในวันเดียวกัน เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีแนวทางการปฏิบัติงานของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) กรณีที่พบว่า ลูกค้ามีพฤติกรรมซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะที่อาจไม่เหมาะสม ซึ่งมีผลให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่เปลี่ยนแปลงอันไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด (false market) หรือตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีข้อสังเกต ASCO ก็จะมีมาตรการดูแล เช่น การตักเตือน หรือการปรับลดวงเงินซื้อขายของลูกค้ารายนั้น

เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ พบลักษณะการซื้อขายที่มีความผิดปกติ และแจ้งมายังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีเหตุเชื่อได้ว่ามีการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น การปั่นหุ้น ทาง ก.ล.ต. จะดำเนินการโดยจะประสานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อติดตามสภาพการซื้อขายอย่างใกล้ชิด รวมทั้งบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในกรณีที่มีความจำเป็น เพื่อตรวจสอบ รวบรวมข้อเท็จจริง และสืบสวนสอบสวน รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด โดยมีกระบวนการพิจารณาเป็นไปอย่างรอบคอบและรัดกุม สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาได้จากลิงก์นี้ https://www.sec.or.th/TH/Documents/Enforcement/InvestigationandEnforcementMeasures_TH.pdf

สำหรับผู้ลงทุน เมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ผิดปกติ หรือได้รับข่าวสาร ควรหาข้อมูลหรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญ และต้องชั่งใจก่อน เพื่อปกป้องตนเองจากขบวนการที่ไม่หวังดีและเอารัดเอาเปรียบอย่างไม่เป็นธรรม

“รู้ทันปากท้อง” กับตลาดหลักทรัพย์ ตอน “ทำงานหลายอย่าง ไม่รู้จะเริ่มอะไรก่อน แยกแยะสติยังไงดี”

0

พระราชวัชรบัณฑิต (ประนอม ธมฺมาลงฺกาโร) เจ้าอาวาสวัดจากแดง
กูรูกู้ใจ บอกว่า เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง พอเสร็จเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว จะมีกำลังใจ ให้คิดว่าเราทำได้เสมอ

สิทธิผู้ถือหุ้นที่ไม่ควรละเลย

0
บทความโดย ฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมความรู้ตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ผู้ถือหุ้นไม่ได้เป็นเพียง “ผู้ลงทุน” ที่มีหน้าที่ลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ผู้ถือหุ้นมีสิทธิในฐานะเป็นเจ้าของกิจการร่วมด้วย จึงมีหน้าที่ในการปกป้องดูแลสิทธิของตนเองด้วย

สิทธิของผู้ถือหุ้น อาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. สิทธิก่อนตัดสินใจลงทุน หมายถึงสิทธิในการรับข้อมูลข่าวสาร เพื่อจะวิเคราะห์และตัดสินใจว่าจะลงทุนในหุ้นของบริษัทหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดแรก หรือ หุ้น IPO ที่ผู้ลงทุนต้องสามารถศึกษาขั้นตอนและวิธีการจองซื้อหุ้นจากหนังสือชี้ชวน หรือ ไฟลิ่ง (Filing) เพื่อให้เข้าใจธุรกิจ ความเสี่ยง โครงสร้างบริหารจัดการ ระบบควบคุมภายใน และงบการเงิน และการลงทุนในตลาดรอง หรือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ผู้ลงทุนมีสิทธิได้ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ เช่น จาก one report (แบบ 56-1) งบการเงิน และข่าวสารข้อมูลที่บริษัทจดทะเบียนที่เปิดเผยผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น
  2. สิทธิเมื่อเป็นผู้ถือหุ้น ประกอบด้วย สิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ถือหุ้นจะมีสิทธิได้รับเงินปันผล ได้รับข้อมูลข่าวสารของกิจการอย่างต่อเนื่อง ได้เข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนน ได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นออกใหม่ และสิทธิในการบริหารบริษัท อาทิ เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น เสนอเพิ่มวาระการประชุม เพิกถอนมติที่ประชุม ติดตามและตรวจสอบการทำงานของกรรมการ เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังมีสิทธิในการร้องเรียนและฟ้องร้อง เรียกค่าเสียหายและผลประโยชน์คืนให้กับบริษัท หากกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัททำหน้าที่ไม่เหมาะสม เช่น ขาดความระมัดระวัง หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริตจนส่งผลให้บริษัทได้รับความเสียหาย

สิทธิหนึ่งที่ผู้ถือหุ้นอาจละเลย คือ การประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งอาจเพราะคิดว่าผู้ถือหุ้นรายย่อย ไปโหวตอย่างไรก็แพ้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ดี ซึ่งไม่อยากให้คิดแบบนั้น เพราะในฐานะที่ร่วมเป็นเจ้าของบริษัท ควรไปร่วมรับผิดชอบและรับรู้การดำเนินงานของบริษัท ใช้สิทธิออกเสียงหากไม่เห็นด้วย และซักถามข้อสงสัย เพื่อให้กระจ่างในวาระที่ต้องการเสียงสนับสนุน หากไม่ว่างจริง ๆ ควรมอบฉันทะให้แก่ผู้ที่ไว้ใจได้ หรือจะมอบฉันทะให้แก่กรรมการอิสระ/กรรมการตรวจสอบ ก็ได้

การเตรียมตัวไปประชุมผู้ถือหุ้น ต้องศึกษาวาระการประชุม เพื่อเตรียมตั้งคำถามในประเด็นที่สงสัย โดยวาระการประชุมจะมี 2 ประเภท ได้แก่ (1) วาระปกติ ที่เป็นเรื่องการดำเนินงานโดยทั่วไป อาทิ การรับรองงบการเงิน การรับรองรายงานการประชุมครั้งก่อน การพิจารณาจ่ายปันผล หรือการแต่งตั้งคณะกรรมการ เป็นต้น และ (2) วาระพิเศษ ที่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอื่น ๆ อาทิ การออกหุ้นเพิ่มทุน การทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน การได้มา/จำหน่ายสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญ การควบรวมบริษัท เป็นต้น

โดยเฉพาะวาระพิเศษ ผู้ถือหุ้นต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะอาจจะมีผลต่อการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท และอนาคตของผู้ถือหุ้นด้วย ควรศึกษาข้อมูลก่อนเข้าร่วมประชุม และเข้าไปสอบถามเพื่อความชัดเจนถึงวัตถุประสงค์ ตัวอย่างเช่น

  • วาระออกหุ้นเพิ่มทุน ควรสอบถามว่า “บริษัทต้องการเงินทุนไปทำอะไร หรือราคาหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายใช้เกณฑ์ใดในการกำหนด จะเสนอขายแบบใด เป็นการขายให้บุคคลโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) ขายให้ประชาชนทั่วไป (Public Offering) หรือเป็นการขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) และผลกระทบจากการเพิ่มทุน (dilution effect) ภายหลังการเสนอขาย ซึ่งกรณีขายแบบ Private Placement (PP) ที่อาจมีการให้ราคาที่ต่ำกว่าตลาด ควรพิจารณาว่า ผู้ที่ได้หุ้น PP ดังกล่าวเป็นใคร จะเข้ามาช่วยเหลือหรือทำประโยชน์ให้บริษัทอย่างไร” เป็นต้น
  • วาระการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ควรสอบถามว่า “ความจำเป็นของการทำรายการกับคนที่เกี่ยวโยง ราคาและเงื่อนไขที่ให้กับคนที่เกี่ยวโยงเป็นธรรมกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดหรือไม่ เป็นราคาและเงื่อนไขที่จะให้/ได้เงื่อนไขเช่นเดียวกับทำกับคนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร บริษัทจะมีภาระผูกพันใดหรือไม่ รวมถึงความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร กับการทำธุรกรรมดังกล่าว”
  • วาระการได้มา/จำหน่ายสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญ ควรสอบถามว่า “รายการที่ได้มา/จำหน่าย สมเหตุสมผลหรือไม่ ภายหลังการได้มา/จำหน่ายไปจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างไร ใช้เกณฑ์อะไรในการประเมินราคา หรือการได้มา/จำหน่ายสินทรัพย์นั้นมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์หรือไม่” เป็นต้น
  • วาระการควบรวมบริษัท ควรสอบถามว่า “การควบรวมบริษัทมีความสมเหตุสมผลหรือไม่ ที่ปรึกษาการเงินมีความเห็นอย่างไร สถานะการเงินของบริษัทที่จะมาควบรวมเป็นอย่างไร ภายหลังจากการควบรวมแล้ว บริษัทจะมีทิศทางดำเนินงานอย่างไร และสิทธิของผู้ถือหุ้นที่ไม่เห็นด้วยกับการทำรายการควบรวม” เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นยังมีที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (Independent Financial Adviser : IFA) ช่วยดูแลสิทธิในกรณีที่บริษัทมีการทำรายการสำคัญ อย่างการได้มา/จำหน่ายสินทรัพย์ และทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ที่กำหนดให้ต้องมีความเห็นของ IFA ด้วย โดยกรณีที่ IFA มีความเห็นแย้งกับสิ่งที่บริษัทเสนอขอมติที่ประชุม ซึ่งมีนัยสำคัญต่อผู้ถือหุ้น IFA ก็จะมีรายงานการให้ความเห็นและคำเตือนออกมา ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. จะมีการออกข่าวเตือนผู้ถือหุ้นให้ไปใช้สิทธิออกเสียงในวาระการประชุมที่ IFA มีประเด็น

กรณีที่กรรมการหรือผู้บริหารทำหน้าที่ไม่เหมาะสม เกิดความไม่เป็นธรรม และสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนมาก ก็มีมาตรการดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ซึ่งเป็นการดำเนินคดีแพ่งที่บุคคลคนหนึ่งหรือหลายคน ได้ดำเนินคดีแพ่งเพื่อตนเองและเพื่อกลุ่มบุคคลที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีแก่ผู้เสียหายโดยรวม และสามารถอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหายได้จำนวนมาก ในการดำเนินคดีครั้งเดียว รวมทั้งลดภาระขององค์กรในกระบวนการยุติธรรมอีกด้วย

เมืองไทยประกันชีวิต จัดพิธีรดน้ำ ขอพรจาก “นายโพธิพงษ์ และนางยุพา” โอกาสวันสงกรานต์ 2566

0

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยนายกฤษฎา ล่ำซำ รองประธานกรรมการ นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย กรรมการ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยผู้บริหาร จัดพิธีรดน้ำ ขอพรจากนายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการ และนางยุพา ล่ำซำ เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ และวันขึ้นปีใหม่ไทย ประจำปี 2566 เพื่อความเป็นสิริมงคล และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทยที่มีมาแต่โบราณ สร้างวัฒนธรรมอันดีงามขององค์กร ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยพิธีจัดขึ้น ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่

‘ซี.พี.เวียดนาม’ ร้อยเรียงใจ แสดงความกตัญญูและสืบสานประเพณีสงกรานต์ 2566

0

บริษัท ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น หรือ ซี.พี.เวียดนาม กิจการต่างประเทศในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ จัดกิจกรรมวันสงกรานต์ ประจำปี 2566 ณ สำนักงานใหญ่เบียนฮวา-ด่องนาย พร้อมถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ไปยังทุกสาขาทั่วประเทศ โดยมี นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ รองประธานกรรมการบริหาร ซีพีเอฟ ร่วมอวยพรให้กับพนักงานทุกคน และกล่าวชื่นชมยินดีในความสามัคคี การแบ่งปัน และความรักของชาว ซี.พี.เวียดนาม

“ปี 2566 จะเป็นปีแห่งความท้าทายมากขึ้น แต่ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของทุกคน เชื่อว่า ซี.พี.เวียดนาม จะเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายสุขสันต์ กล่าว

ด้าน นายมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี กรรมการผู้จัดการ ซี.พี.เวียดนาม นำคณะผู้บริหาร พนักงาน พร้อมด้วยคุณลุงคุณป้าจากชมรมครอบครัว ซี.พี.เวียดนาม จากรุ่นสู่รุ่น ร่วมกันถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์พระมหากษัตริย์ไทย และสักการะท่านโฮจิมินห์ (ลุงโฮ) ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พร้อมจัดพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ เพื่อสืบสานประเพณีที่งดงามและแสดงความกตัญญูกตเวที สอดคล้องตามค่านิยมองค์กร (CPF Way) ในการนี้ นายมนตรีได้ร่วมอวยพรปีใหม่ให้ทุกคนโชคดี มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และเจริญรุ่งเรือง เนื่องในวันปีใหม่ไทย

ซีพีเอฟ ถ่ายทอดโมเดล BCG หนุนสร้างงานและรายได้ให้ “ชุมชนกับดักขยะทะเล” จ.สมุทรสาคร

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จับมือ Precious plastic Bangkok สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับชุมชนกับดักขยะทะเล ตำบลบางหญ้าแพรก จังหวัดสมุทรสาคร นำโมเดลเศรษฐกิจ BCG ถ่ายทอดและประยุกต์ใช้สู่ระดับชุมชน หนุนกิจกรรม Recycle & Upcycling แปรรูปฝาขวดน้ำพลาสติก สร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน รณรงค์และสร้างความตระหนัก เก็บ คัดแยกขยะ เพื่อลดปัญหาขยะในทะเล ร่วมดูแลระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นางกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กรและลงทุนสัมพันธ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการดูแลชุมชนรอบสถานประกอบการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมทั้งได้นำโมเดลเศรษกิจ BCG ที่บริษัทฯยึดเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน ถ่ายทอดและประยุกต์ใช้ในระดับชุมชนผ่านการทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ โดยล่าสุด ซีพีเอฟ ร่วมมือกับ Precious plastic Bangkok สนับสนุนกิจกรรม Recycle & Upcycling แปรรูปฝาขวดน้ำพลาสติก สร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายเป็นสินค้าชุมชน เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อลดปัญหาขยะในทะเล ภายใต้ ” โครงการกับดักขยะทะเล” (Trap the sea Trash) โดยการรวมตัวของชุมชนต.บางหญ้าแพรก หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 เก็บ ดักขยะ ในคลองสาธารณะ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำบริเวณปากอ่าวและทะเลอ่าวไทยตอนบน

“กิจกรรม Recycle & Upcycling สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนร่วมแก้ปัญหาขยะ และสร้างความตระหนักในการดูแลระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากกิจกรรมใกล้ตัว คือ เก็บ คัดแยกขยะ และจัดการขยะ เป็นการนำแนวทาง BCG มาใช้กับชุมชน โดยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับฝาขวดน้ำพลาสติก พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ สำหรับเสียบปากกา กระถางต้นไม้ เพื่อจำหน่ายเป็นรายได้ของกลุ่มสมาชิกฯ”นางกอบบุญ กล่าว

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ได้เปิดจุดรับบริจาคฝาขวดน้ำพลาสติก 15 จุด ทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อให้ประชาชนและผู้ที่สนใจร่วมบริจาคโดยจุดรับบริจาคในกรุงเทพฯ ได้แก่ สำนักงานใหญ่ ซี.พี.ทาวเวอร์ สีลม สำนักงานซีพีเอฟตรอกจันทน์ กระทรวงแรงงาน และค ณะแพทยศาสตร์วชิระพยาบาล (ผ่านการทำกิจกรรมโดยนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า บ้านราชดำริ ปปร.26) จุดรับบริจาคในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ได้แก่ โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำมหาชัยของซีพีเอฟ สำนักงานเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก สำนักงานแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ศูนย์ราชการจังหวัดสมุทรสาคร สถานีเรือไม้จำลองบางหญ้าแพรก ร้านอาหารครัวเจ้าพระยา และจุดอื่น ๆ ที่โรงงานอาหารสัตว์ซีพีเอฟราชบุรี ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565- มีนาคม 2566 ซีพีเอฟ ได้ส่งมอบฝาขวดน้ำพลาสติกให้ชุมชนฯไปแล้วรวม 155 กิโลกรัม หรือประมาณ 77,500 ฝา ซึ่งส่วนหนึ่งได้นำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ Upcycled แล้ว ประมาณ 1,000 ชิ้น ผู้สนใจลิตภัณฑ์แปรรูปจากขวดน้ำพลาสติกของชุมชนกับดักขยะทะเล ติดต่อได้ที่ ป้าตุ้ม มือถือ 083-697-2978

โครงการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนกลยุทธ์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ เพื่อมุ่งสร้างความั่นคงทางอาหาร ด้วยวิสัยทัศน์เป็น “ครัวของโลก” ซึ่งซีพีเอฟตระหนักถึงการมีส่วนร่วมดูแลทรัพยากรธรรมชาติทั้งป่าต้นน้ำและป่าชายเลน กิจกรรม Recycle & Upcycling เป็นกิจกรรมต่อยอดจากโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน ” ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน” ที่มีเป้าหมายอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าใหม่ ในพื้นที่ ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร รวม 870 ไร่ โดยระยะที่หนึ่ง (ปี 2557-2561)ดำเนินการไปแล้ว 604 ไร่ และระยะที่สอง (ปี 2562-2566) มีเป้าหมายดำเนินการเพิ่มเติมอีก 266 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปกป้องและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์ นอกจากความหลากหลายทางชีวภาพที่กลับมาพร้อมกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้แล้ว ซีพีเอฟยังได้สนุบสนุนการรวมตัวของชาวชุมชนต.บางหญ้าแพรก พัฒนาพื้นที่ต.บางหญ้าแพรก สู่การเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศวิถีชุมชน ซึ่งมีทั้งหมด 4 ฐาน ประกอบด้วย ฐานนาเกลือ ฐานสถานีส่งเสริมอาชีพชุมชน ฐานขนมไทย และ ฐานเรือจำลอง ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้เสริมให้กับคนในชุมชนอย่างยั่งยืน

ซีพีเอฟ เปิดตัวบริษัทร่วมทุน ‘ซีพี-อูโอริกิ’ นำเข้าปลาสดจากญี่ปุ่น

0

CPFGS ประเดิมธุรกิจร่วมทุนจัดตั้ง “บริษัท ซีพี-อูโอริกิ จำกัด” กับ บริษัท อูโอริกิ จำกัด ผู้จำหน่ายปลารายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น นำเข้าปลาสดหลากหลายสายพันธุ์ จากตลาดปลาทั่วประเทศญี่ปุ่น ให้คนไทยได้ลิ้มลอง เปิดบริการสาขาแรก ที่ โลตัส สุขุมวิท 50 ภายใน สิงหาคม 2566

บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS ผู้จัดจำหน่ายอาหารสดและอาหารแปรรูป ในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และ บริษัท อูโอริกิ จำกัด ผู้จำหน่ายปลารายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ร่วมทุนจัดตั้ง “บริษัท ซีพี-อูโอริกิ จำกัด” เพื่อนำเข้าปลาสดหลากหลายสายพันธุ์ จากตลาดปลาทั่วประเทศญี่ปุ่น มาให้คนไทยได้ลิ้มลองความอร่อย สดใหม่ เหมือนรับประทานที่ญี่ปุ่น โดยมี นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ และกรรมการ CPFGS และ นายมาซายูกิ มายาดะ (Mr.Masayuki Yamada) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อูโอริกิ จำกัด ร่วมลงนาม พร้อมด้วย นายสุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ CPFGS ตลอดจนผู้บริหารทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมงาน ณ อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ สีลม

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ และกรรมการ CPFGS กล่าวว่า ซีพีเอฟมุ่งมั่นที่จะส่งมอบอาหารที่ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพที่ดีของคนไทย โดย ‘เมนูปลา’ ถือเป็นโปรตีนตัวเลือกแรกที่ต้องคิดถึง และปลาที่ดีที่สุดของโลกคือปลาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนปลาดิบ กลายเป็นแหล่งรวมความหลากหลายของชนิดปลามากที่สุดในโลก ขอขอบคุณทาง อูโอริกิ และ คุณมาซายูกิ ยามาดะ ที่ไว้วางใจทำความร่วมมือกับ CPFGS ในครั้งนี้ ในการนำวัฒนธรรมการทานอาหารญี่ปุ่นที่ดี ถูกต้อง รวมถึงกระบวนการจัดการซูชิและสินค้าอื่นๆ ที่ได้มาตรฐานของญี่ปุ่น มานำเสนอให้คนไทยได้ลิ้มลองรสชาติแบบฉบับคนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

“ซีพี-อูโอริกิ เป็นการผนึกกำลังด้านโครงข่ายการจัดจำหน่ายอาหารของ CPFGS กับความเชี่ยวชาญด้านปลาสดและอาหารทะเลมาราวร้อยปีของ อูโอริกิ เข้าด้วยกัน เพื่อส่งมอบประสบการณ์หลากหลายในการรับประทานเนื้อปลาและอาหารทะเลคุณภาพสูงให้คนไทย โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น ภายใต้วิถีแห่งความยั่งยืน และขยายธุรกิจไปด้วยกันทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในอนาคต” นายประสิทธิ์กล่าว

ด้วยความมุ่นมั่นในการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ‘ซีพี-อูโอริกิ’ จึงส่งมอบอาหารทะเลจากญี่ปุ่นด้วยวิถีญี่ปุ่นแท้ๆ โดยจะนำเข้าปลาตามฤดูกาล สร้างประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานปลาที่หลากหลาย ทั้งนี้ยังสนับสนุนการรับซื้อปลาจากชาวประมงโดยตรง เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาปลา พร้อมทั้งส่งเสริมการรับประทานปลาตามฤดูกาล เพื่อสร้างสมดุลทางธรรมชาติให้ปลาแต่ละชนิดมีระยะเวลาในการเติบโต

ด้าน นายมาซายูกิ ยามาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อูโอริกิ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเนื้อปลาสด และอาหารทะเลชั้นนำที่เก่าแก่ราว 100 ปีของญี่ปุ่น มีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกปลาสดเเละมีคุณภาพดีที่สุด ด้วยประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น เปิดเผยว่า การร่วมมือครั้งนี้ เป็นความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่าง อูโอริกิ กับ CPFGS สองบริษัทชั้นนำ ในการส่งสินค้าอาหารทะเลสดจากประเทศญี่ปุ่นไปยังผู้บริโภคทั่วไทย เป็นช่องทางที่ดีให้คนไทยเข้าถึงการรับประทานปลาสด สะอาด และอร่อย ส่งตรงจากทะเลญี่ปุ่น ควบคู่กับการเรียนรู้วัฒนธรรมการรับประทานซูชิตามต้นฉบับ โดยเฉพาะมากุโระหรือทูน่าญี่ปุ่น ซึ่งอูโอริกิให้ความใส่ใจการควบคุมอุณหภูมิตลอดกระบวนการผลิต จนถึงการขนส่ง ทั้งแบบแช่แข็งและแช่เย็น คนไทยจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับประทานปลาสดอย่างแท้จริง

บริษัท ซีพี-อูโอริกิ จำกัด จะให้บริการจัดจำหน่ายสินค้าอาหารทะเลสดแช่เย็น-แช่แข็ง ซูชิ ซาชิมิ มากิ และเครื่องปรุงรสต่างๆ รวมถึง สินค้าแปรรูปจากอาหารทะเล โดยมีแผนเปิดบริการสาขาแรก ที่ โลตัส สุขุมวิท 50 ในเดือนสิงหาคม 2566 และอีก 4 สาขาภายในปี 2566 รวมถึงตั้งเป้าหมายขยายมากกว่า 20 สาขาในปี 2567

AIS จับมือ Blizzard Entertainment สร้างคอมมูนิตี้เกมเมอร์ ยกระดับวงการเกมและอีสปอร์ตไทย

0

AIS ตอกย้ำภารกิจขับเคลื่อนการเติบโตของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ต โดยผนึกความร่วมมือกับผู้พัฒนาเกมระดับโลกอย่าง Blizzard Entertainment ในการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ให้กับเหล่าเกมเมอร์พร้อมเปิดพื้นที่ให้สาวกได้โชว์ความสามารถกับเวทีการแข่งขันระดับโลกกับเกม Overwatch 2 ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงกลางปีนี้ โดยความพิเศษของความร่วมมือครั้งนี้ยังสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญที่จะมาเขย่าวงการเกมให้สั่นสะเทือนอีกครั้ง กับการเปิดตัวซีซันใหม่ที่มาพร้อมกับตัวฮีโร่คนไทยในเกมตัวแรกในโลก Overwatch 2 กับ “นิรันดร์ พฤกษามณี” ฮีโร่สายซัพพอร์ต “สัญชาติไทย” ที่ลูกค้า AIS จะได้รับสุดยอดไอเทมและประสบการณ์ความพิเศษแบบจัดเต็มตลอดทั้งซีซัน 4

นางสาวรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการพันธมิตรธุรกิจด้านบันเทิงและคอนเทนต์ AIS กล่าวว่า “หลังจากความร่วมมือกับ Blizzard Entertainment ในปีที่ผ่านมากับการจัดเวทีการแข่งขัน AIS eSports OPEN: Overwatch 2 Thailand Community ซึ่งได้ผลตอบรับจากเหล่าเกมเมอร์มากกว่า 276 ทีม ทำให้เราเห็นเทรนด์ของเกมใน Segment เกม PC หรือ เกมคอมพิวเตอร์ อย่าง Overwatch 2 ที่วันนี้มีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้น และกำลังเป็นที่นิยมของเหล่านักเล่นเกมทั่วโลก โดยมีผู้เล่นมากกว่า 35 ล้านคนในเดือนแรกหลังจากเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

จึงเป็นที่มากับการทำงานร่วมกับ Blizzard Entertainment อย่างต่อเนื่องในปีนี้ที่จะเป็นการขยายผลความร่วมมือ สู่การส่งเสริมและผลักดันอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตให้มีความแข็งแกร่งในทุกมิติพร้อมเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งในเรื่องของการสร้างคอมมูนิตี้ของเหล่าเกมเมอร์ผ่านการสร้างกิจกรรมและคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ รวมถึงยังคงเดินหน้าจัดการแข่งขันอีสปอร์ตซึ่งจะเป็นการตอกย้ำถึงความยิ่งใหญ่ที่จะเฟ้นหาตัวแทนประเทศเพื่อเข้าสู่การแข่งขันในเวทีโลกต่อไป พร้อมกันนี้เรายังมีสิทธิพิเศษมากมายมามอบให้กับลูกค้า AIS อีกด้วย”

สำหรับการทำงานร่วมกันครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงความร่วมมือในการจัดการแข่งขันเท่านั้น แต่เป็นการทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตในทุกมิติ ตั้งแต่ การมอบสิทธิพิเศษแพ็กเกจ สำหรับลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่ หรือ เป็นลูกค้า AIS ZEED และ GOMO จะได้รับ Hero Pack และ Battle Pass Tier Skip (5 Levels) รวมถึงลูกค้า AIS ยังสามารถใช้คะแนน AIS Points เพื่อแลกรับ Battle Pass เกรดต่างๆ ได้อีกด้วย

นอกเหนือจากเรื่องสิทธิพิเศษที่จัดเต็มแล้ว AIS และ Blizzard Entertainment ยังร่วมกันสร้าง Engagement ผ่านกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งบนออนไลน์ และออนกราวน์เพื่อให้เกิดคอมมูนิตี้ของเหล่าเกมเมอร์ อาทิ งาน มหรสพบัวเขียว (Lifeweaver Day) ที่จะเปิดโอกาสให้เหล่าแฟนๆ เกม Overwatch2 ได้มาพบปะ และร่วมแข่งขันเกมไปกับอินฟลูเอนเซอร์แถวหน้าของวงการเกม-อีสปอร์ต อาทิ oPuTo และ Teetawat ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2566 ณ AIS eSport Studio สามย่านมิตรทาวน์ (13.00-18.00 น.) รวมถึงยังเตรียมจัดเวทีการแข่งขันอีสปอร์ตกับเกม Overwatch2 ตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงเกมเมอร์ระดับมืออาชีพอีกด้วย

โดยพื้นเพของ “นิรันดร์ พฤกษามณี” Lifeweaver หรือ ฮีโร่สายซัพพอร์ตสัญชาติไทย มาจากทางเชียงใหม่ เป็นฮีโร่คนที่ 37 ของเกม Overwatch 2 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมไทยและยังเปิดตัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีความสามารถในเรื่อง biolight technology ซึ่งเทคโนโลยีนี้ที่ได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นสกิลการซัพพอร์ตรูปแบบต่างๆ ที่น่าตื่นเต้น เชื่อได้เลยว่าเหล่าเกมเมอร์จะค้นพบวิธีการเล่นใหม่ๆ ที่จะยกระดับประสบการณ์ไปอีกขั้นแน่นอน

นายพอล เฉิน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ Blizzard กล่าวเสริมว่า “นอกเหนือจาก Overwatch ที่ได้รับความนิยมจากเหล่าเกมเมอร์ในไทยอย่างล้นหลามแล้ว เรายังมีเกมอื่นๆ ที่ได้กระแสตอบรับดีเช่นกันไม่ว่าจะเป็น Call of Duty® และ Diablo® โดยเรายังคงเดินหน้าส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงของการเล่นเกม โดยความร่วมมือกับ AIS ในครั้งนี้ร่วมกันเปิดตัวฮีโร่คาแรคเตอร์สัญชาติไทยคนแรกกับ Overwatch 2 ซีซัน 4 เอาใจเหล่าเกมเมอร์ชาวไทย”

เมืองไทยประกันชีวิต – AIS มอบประกันอุบัติเหตุลูกค้าฟรี! ต้อนรับสงกรานต์ 2566 ผ่าน “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มแฮปปี้สงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)”

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จับมือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส โดย นางรพีพรรณ แนวบุญเนียร หัวหน้าส่วนงานบริหารบริการประกันภัยและสินเชื่อดิจิทัล ร่วมส่งมอบความห่วงใยให้กับประชาชนและลูกค้าเอไอเอสทั้งมือถือและเน็ตบ้าน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2566 เพื่อสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการส่งเสริมให้ประชาชนมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุให้กับตนเองและครอบครัว สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากระบบการประกันภัย เพื่อบริหารความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้สะดวก เข้าถึงได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่าน “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มแฮปปี้สงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มที่ให้ความคุ้มครอง เพื่อมอบความอุ่นใจมากขึ้น

ลูกค้าเอไอเอสที่ได้รับสิทธิ์ฟรี “กรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มแฮปปี้สงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” จะได้รับวงเงินความคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท นาน 30 วัน คุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลก! ได้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2566 – วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ถือสัญชาติไทยเท่านั้น และมีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย สำหรับข้อตกลงความคุ้มครองที่ลูกค้าและ ประชาชนทั่วไปจะได้ประกอบด้วย

  • ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท
  • ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท
  • ผลประโยชน์ค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย (ยกเว้นกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยภายใน 14 วันแรก นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาประกันภัย) จำนวนเงินเอาประกันภัย 5,000 บาท
  • ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริง ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจ้างพยาบาลพิเศษ อุปกรณ์ค้ำยันต่าง ๆ (ยกเว้นไม้ค้ำยัน) รถเข็นผู้ป่วยอวัยวะเทียมภายนอกร่างกาย ค่ารักษาพยาบาลโดยแพทย์ทางเลือก (Alternative medicine) การฝังเข็มสูงสุด 5,000 บาท

นางรพีพรรณ แนวบุญเนียร หัวหน้าส่วนงานบริหารบริการประกันภัยและสินเชื่อดิจิทัล เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอส ร่วมส่งเสริมความคุ้มครองด้านประกันภัยกับสำนักงาน คปภ. และ เมืองไทยประกันชีวิต ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 สนับสนุนให้คนไทยมีความคุ้มครองที่เพียงพอและครอบคลุม โดยเฉพาะความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุ

เอไอเอส ยินดีที่จะมอบความห่วงใยให้กับคนไทย ด้วยกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มแฮปปี้สงกรานต์ (ไมโคร อินชัวรันส์) เพื่อให้คนไทยสามารถเดินทาง ท่องเที่ยว พักผ่อนในวันหยุดได้อย่างอุ่นใจ เพียงใช้ AIS Points 10 คะแนน แลกรับสิทธิ์ได้ผ่านทางแอป myAIS หรือกด 5503374# โทรออก โดยหลังจากแลกรับสิทธิ์และลงทะเบียนแล้ว จะได้รับ SMS ยืนยันการได้รับความคุ้มครอง พร้อมลิงก์เพื่อดูรายละเอียดของกรมธรรม์ และเงื่อนไขความคุ้มครอง ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2566 ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มได้ที่แอปพลิเคชัน myAIS และ www.ais.co.th/privilege

ซีพีเอฟ ปลูกฝังค่านิยม “กตัญญู” สร้างสุขและเติมรอยยิ้มให้ผู้สูงวัย เทศกาลปีใหม่ไทย 2566

0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ นอกจากจัดกิจกรรมสรงน้ำพระ และรดน้ำขอพรจากผู้บริหารระดับสูง เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ หรือ ปีใหม่ไทย 2566 ซึ่งตรงกับ”วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” 13 เมษายนของทุกปี

กิจกรรมหลักในทุกๆปี พนักงานของฟาร์มและโรงงาน ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ทั้งเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ลงพื้นที่รอบสถานประกอบการของซีพีเอฟทั่วประเทศ เพื่อเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้สูงวัย ในโครงการ”กองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย” เป็นการแสดงความกตัญญู ซึ่งเป็นค่านิยมที่ซีพีเอฟปลูกฝังและสร้างความตระหนักให้กับพนักงานในองค์กร เสมือนเป็นลูกหลานในครอบครัวของผู้สูงวัย เติมรอยยิ้มและสร้างความสุขให้แก่ผู้สูงวัย

ซีพีเอฟ ดำเนินโครงการ “กองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย” มาตั้งแต่ปี 2554 ดูแลผู้สูงวัยรอบสถานประกอบการทั่วประเทศของบริษัท ที่ไร้ลูกหลานดูแล ไม่สามารถพึ่งพิงตนเองได้ ไม่มีรายได้ในการเลี้ยงชีพ โดยตลอด 12 ปี ( ปี 2554 – 2566) ที่ผ่านมาของการดำเนินโครงการ ฯ ให้การช่วยเหลือดูแลผู้สูงวัยรอบฟาร์มและโรงงานไปแล้วทั้งหมดรวมเกือบ 900 ราย ขณะที่ ในปี 2566 นี้ มีจำนวนผู้สูงวัยในโครงการฯอยู่ที่ 284 ราย

โครงการ “กองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย” เป็นโครงการให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยรอบสถานประกอบการของซีพีเอฟทั่วประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป อาศัยในพื้นที่ห่างจากโรงงานและฟาร์มไม่เกิน 5 กิโลเมตร ไม่มีรายได้ ไม่มีลูกหลานดูแล หรือไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยผู้สูงวัยจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกๆเดือน เดือนละ 2,000 บาท และได้รับการดูแลไปจนกว่าผู้สูงอายุจะถึงแก่กรรม หรือมีเหตุให้ต้องออกจากกองทุน ฯ อาทิ ลูกหลานรับกลับไปดูแล ย้ายถิ่นฐาน ผิดระเบียบกองทุนฯ เป็นต้น

ทั้งนี้ โครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย เป็นโครงการภายใต้กลยุทธ์สังคมพึ่งตน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืนของซีพีเอฟ คือ “อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่” เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้สูงวัยรอบสถานประกอบการของบริษัทฯ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และร่วมสร้างสังคมแห่งความกตัญญู สอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน