Home Blog Page 162

ซีพีเอฟเพาะกล้า “ผักสวนครัว” จากใจ …หนุนน้องๆ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน วัดดาวดึงษาราม เข้าถึงผักปลอดภัย

0

ด้านหลังศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน วัดดาวดึงษาราม เขตบางพลัด บริเวณแปลงผักขนาด 5 ตารางเมตร ที่ถูกแบ่งเป็นมุมปลูกไว้อย่างเป็นระเบียบ ฟากหนึ่งเป็นแปลงผักพืชสมุนไพร ทั้งกะเพรา โหระพา พริกขี้หนู ข้างๆกันเป็นแปลงปลูกฟักทองที่กำลังติดออกดอกออกผล

อีกมุมเป็นกระบะเพาะพันธุ์ผัก มีคะน้าต้นอ่อนกำลังแข่งกันโต โดยมีน้องๆก่อนวัยเรียน ที่ต่างง่วนกับการเก็บต้นอ่อนคะน้าสำหรับเมนูกลางวัน ข้าวผัดไก่กับไข่ใส่ผักคะน้า ที่น้องๆเรียกว่า เบบี้คะน้า ทุกคนแย่งกันเล่าว่าชอบกินเบบี้คะน้ามากๆ เพราะไม่มีรสขมเลย บางวันครูปัทแม่ครัวคนเก่ง ก็ทำบะหมี่ผัดใส่ไส้กรอกกับคะน้าแสนอร่อยให้ทานด้วย

น้องมะนาว บอกว่า หนูได้ปลูกผักเองสนุกมาก ได้พาเพื่อนๆมาดูแลแปลงผักของพวกเรา และมีความสุขที่ได้กินผักที่ปลูกเอง หนูชอบกินข้าวผัดใส่ผักคะน้าอร่อยมาก กินด้วยความสุข เพราะเป็นผักปลอดสาร ปลอดภัย ขอบคุณครูเชาว์ที่หาผักปลูกให้เรา ทำให้เราได้กินผักสะอาด หนูจะรักษาแปลงผักนี้ไว้ และขอบคุณพี่ๆที่มาปลูกผักนี้ให้พวกหนู

“ครูเชาว์-เชาวลิต สาดสมัย” ครูอาสาศูนย์สร้างโอกาสสะพานพระราม 8 และครูผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน วัดดาวดึงษาราม บอกว่า ขอบคุณทางซีพีเอฟ โดยทีมจิตอาสาจากชมรมบำเพ็ญประโยชน์ มาช่วยกันปรับปรุงพื้นที่จากตรงนี้เป็นที่ดินว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย บริษัทก็มาช่วยทำแปลงผัก อย่างน้อยก็ทำให้เด็กได้ลงมือ การให้เขาได้รู้จักว่าผักมาจากไหน ทำไมเราถึงปลูกผักเอง และเวลาได้เห็นพวกเขามาเก็บผักกันเองก็รู้สึกว่าพวกเขามีความสุข ที่ได้เก็บเกี่ยวในสิ่งที่เขาปลูกและดูแลเอง และสามารถนำไปทำให้เกิดประโยชน์ นำไปปรุงอาหารให้เด็กๆทั้ง 30 คน ได้รับประทาน

“สิ่งสำคัญคือ ผมอยากให้เด็กๆได้รู้ว่า ผักที่นำมาทำเป็นอาหาร ให้เขาได้ทานในทุกวันนั้น เมื่อก่อนเราเคยซื้อจากตลาด แต่เราไม่รู้ว่าผักนั้นปลอดภัยไหม เพราะไม่รู้แหล่งที่มา ซึ่งก่อนนี้เราไม่ได้สอนให้เด็กๆปลูกผักหรือได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมว่าทุกวันนี้สิ่งที่ขาดหายไปคือ “การลงมือทำ” ต่อเมื่อพอได้ทำแล้ว ผลสุดท้ายได้เกิดประโยชน์ นี่คือความภูมิใจของครูทุกคน วันนี้เมื่อมีแปลงผักที่ซีพีเอฟสนับสนุน เด็กๆก็ได้มีโอกาสปลูกผักเอง เมื่อเขาได้ทำเอง ได้ชวนเพื่อนจูงมือกันมาถอนหญ้า รดน้ำ และสามารถเก็บผักต้นไหนก็ได้ตามแต่ที่เขาต้องการ ให้เป็นธรรมชาติของเขา หลังเก็บผักเขาจะถามทันทีว่าเป็นผักอะไร ถือเป็นการเรียนรู้เรื่องชนิดเรื่องพันธุ์ผักอีกทางหนึ่งด้วย” ครูเชาว์บอก

ครูเชาว์เล่าที่มาของแปลงผักปลอดภัยนี้ว่า หลังจากพิจารณาดูว่า ที่ศูนย์ฯมีพื้นที่ว่าง น่าจะทำประโยชน์ได้ สุดท้ายจึงเสนอกับซีพีเอฟ ที่มีโครงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนฯ และสร้างห้องซักผ้าให้ศูนย์สร้างโอกาสพระราม 8 อยู่แล้ว เพื่อให้ทำแปลงผักเพิ่ม เพื่อให้เด็กๆได้ทำด้วยตัวเอง ให้พวกเขาได้รู้ว่า สิ่งที่ปลูกนั้นรับประทานได้ และมีความปลอดภัยด้วย สุดท้ายเด็กก็ได้เรียนรู้ ได้สัมผัสสิ่งที่ตัวเองปลูก ขณะเดียวกันครูเองก็ได้ลงมือพร้อมกันและได้สอนเด็กๆ ครูทั้งสามคนก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย

ผักสวนครัวที่เติบโตจนสามารถเก็บผลผลิตได้นี้ เกิดจากพลังและความตั้งใจของผู้บริหารและทีมงานจิตอาสา ที่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ร่วมกันเพาะกล้าจากใจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมช่วยเหลือสังคม และการส่งมอบกำลังใจเพื่อสนับสนุนการทำงานและความตั้งใจของ ครูเชาว์-เชาวลิต สาดสมัย และทีมงานที่ดูแล เด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุและคนพิการใน 12 ชุมชนบริเวณสะพานพระราม 8 ซึ่งบริษัทจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมดีๆเช่นนี้ต่อไป เพื่อให้น้องๆ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน วัดดาวดึงษาราม ได้เข้าถึงผักปลอดภัยจากฝีมือของพวกเขาเอง

AIS จับมือตำรวจไซเบอร์-กสทช. ทลายแก๊งมิจฉาชีพ ใช้เครือข่ายปลอมผิดกฎหมาย ส่ง SMS หลอกลวงประชาชน

0

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ร่วมกับทีมวิศวกรของ AIS เข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มขบวนการส่งข้อความสั้น (SMS) ในลักษณะลิงก์ปลอม อ้างชื่อเป็นสถาบันการเงิน หลอกดูดเงินผู้เสียหาย โดยจับกุม ผู้ต้องหากับพวก รวม 6 คน ในข้อหา
• ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 6 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498
• ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตตามมาตรา 11 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498
• ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ตามมาตรา 67(3) ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม, เป็นอั้งยี่หรือซ่องโจรตามประมวลกฎหมายอาญา

โดยเข้าทำการจับกุมกลุ่มขบวนการมิจฉาชีพในครั้งนี้ ได้กระจายกำลังเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาหลายจุด ได้แก่ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อในซอยบางแวก 33 บนถนนราชพฤกษ์ในขณะที่รถกำลังแล่นออกไปเพื่อส่งสัญญาณ ตรวจยึดรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) จำนวน 4 คัน พร้อมอุปกรณ์ 4 ชุด
จากข้อมูลพบว่าคนร้ายจะกระทำโดยนำเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ใส่ไว้ในรถแล้วขับออกไปยังสถานที่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยหากแล่นรถผ่านไปทางใดก็จะส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แล้วส่งข้อความสั้น (SMS) ในลักษณะลิงก์ปลอมอ้างชื่อเป็นสถาบันการเงิน หรือ หน่วยงานต่างๆ เป็นต้น โดยหากประชาชนหลงเชื่อและกดลิงก์ดังกล่าว ก็จะถูกให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นควบคุมเครื่องระยะไกล โดยสามารถโอนเงินจากบัญชีธนาคารที่เครื่องโทรศัพท์นั้นติดตั้งแอพพลิเคชั่นประเภท Mobile Banking ทั้งนี้พบข้อมูลจากระบบการรับแจ้งความออนไลน์ในห้วงเดือน เม.ย.-พ.ค.2566 ที่มีการแจ้งความออนไลน์ รวมค่าเสียหาย 124,896,689.84 บาท

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “จากกรณีปัญหามิจฉาชีพละเมิดการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชน ได้สร้างความเดือดร้อน รำคาญ ไปจนถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งปัจจุบันเกิดเพิ่มขึ้นตามลำดับ ดังนั้นในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล ที่มีเป้าหมายสูงสุดคือ การปกป้องข้อมูลและการใช้งานระบบสื่อสารของลูกค้า ที่ผ่านมานอกเหนือจากการพัฒนาดิจิทัลเซอร์วิสเพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์ อาทิ AIS Secure Net , Google Family Link ที่สามารถดูแลการใช้งานโทรศัพท์มือถือให้อยู่บนความปลอดภัยจากสแปม,ฟิชชิ่ง,ไวรัสแล้ว เรายังได้ร่วมทำงานกับภาครัฐ ผ่านบริการสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2565 ที่ผ่านมา”

“อย่างไรก็ตาม อย่างที่ทราบกันว่า มิจฉาชีพเองก็มี การพลิกแพลงรูปแบบการละเมิดเพิ่มเติมขึ้น อย่างกรณี การส่ง SMS จากเครือข่ายปลอมด้วยอุปกรณ์ผิดกฎหมายไปยังมือถือประชาชน ที่เรียกว่า False Base Station (FBS) หรือ Fake Base Station โดยใช้ชื่อผู้ส่ง (Sender name) ปลอมแปลงในนามขององค์กรต่างๆ อาทิ ธนาคาร, บริการประเภทต่างๆ เพื่อหลอกให้ประชาชนที่ได้รับข้อความหลงเชื่อว่าเป็น SMS จากหน่วยงานนั้นๆจริง และล่อลวงให้กดลิงก์, แอดไลน์ และอื่นๆ จนก่อให้เกิดความเสียหาย ทั้งทรัพย์สิน หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่ง AIS ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่าย ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติ และทีมวิศวกร ได้ร่วมทำงานกับฝ่ายความมั่นคงอย่างเต็มกำลังมาแล้วระยะหนึ่ง ในการเฝ้าดูและติดตามพฤติกรรมของมิจฉาชีพตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเทคโนโลยี Tracking& Monitoring จนสามารถคำนวณเส้นทางการเคลื่อนตัวอย่างละเอียดเพื่อค้นหาให้ถึงตัวแหล่งกบดานของกลุ่มนี้ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภารกิจการทลายแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้สำเร็จลงได้”

นายวรุณเทพ กล่าวต่อไปว่า “AIS มุ่งมั่นอย่างยิ่งในการเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจนี้เพราะเป็นหน้าที่หลักของเราเช่นกันในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่ต้องใช้งานดิจิทัลตลอดเวลา อย่างไรก็ตามภัยจากดิจิทัล ยังคงมีอยู่รอบตัวในหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นจึงอยากเตือนประชาชนเมื่อได้รับข้อความทั้งจาก SMS, LINE หรือ ทุกช่องทาง อยากขอให้กรุณาตรวจสอบกับเจ้าของบริการให้ชัดเจน ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ในส่วนของ AIS เอง ก็จะยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในการแก้ไข ป้องกัน กรณีนี้อย่างเต็มที่ รวมถึงติดตาม เฝ้าระวังกรณีอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคตต่อไป”

AIS Serenade เอาใจลูกค้าสายอาหารญี่ปุ่น มอบส่วนลดพิเศษกว่า 50% ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ

0

AIS Serenade จัดเต็มมอบสิทธิพิเศษ เอาใจลูกค้า – คนรักอาหารญี่ปุ่น ให้อิ่มครบ ฟินคุ้ม กับร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ หลากหลายกว่า 11 แบรนด์ 276 สาขาทั่วประเทศ อาทิ โออิชิ แกรนด์, โออิชิ อีทเทอเรียม, โออิชิ บุฟเฟต์, ชาบูชิ, โออิชิ ราเมน และอีกมากมาย พร้อมสิทธิพิเศษที่หลากหลาย อาทิ รับส่วนลดพิเศษกว่า 50%, รับส่วนลดพิเศษ 100 บาท หรือรับฟรีเมนูพิเศษ ได้แก่ เกี๊ยวซ่าทอด หรือกุ้งเทมปุระ เพื่อมอบความพิเศษให้กับลูกค้า AIS Serenade ตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ดิจิทัล

นางสาวลิตา ภัทรภากรกุล หัวหน้าส่วนงานบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า AIS เปิดเผยว่า AIS Serenade เดินหน้าจับมือร่วมกับแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำอย่าง โออิชิ ผู้นำธุรกิจอาหารญี่ปุ่นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่ครอบคลุมหลากหลายรูปแบบของบริการ บุฟเฟต์และอะลาคาร์ท และความหลากหลายของประเภทอาหาร ไม่ว่าจะเป็นชาบู – ชาบู ยากินิกุ ราเมน หรือดงบุริ ตอบโจทย์ในทุกโอกาสไม่ว่าจะเป็นอาหารจานเดียวในวันที่เร่งรีบ มื้อพิเศษในวันสำคัญ มื้อสำคัญในการเจรจาธุรกิจ มื้อสังสรรค์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง อีกทั้งยังมีสาขาที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศทั้งในห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์ประชุม อาคารสำนักงาน สถานีบริการน้ำมัน สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของ AIS ได้ครบถ้วน จึงเป็นที่มาของการยกทัพสิทธิพิเศษแบบจัดหนัก จัดเต็ม กับร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำในเครือโออิชิ ประกอบด้วย โออิชิ แกรนด์, โฮว ยู, ซาคาเอะ, โออิชิ อีทเทอเรียม, โออิชิ บุฟเฟต์, นิกุยะ, ชาบู บาย โออิชิ, ชาบูชิ, โออิชิ ราเมน, คาคาชิ และโออิชิ บิซโทโระ ทุกสาขาทั่วประเทศ เอาใจลูกค้าตัวจริงเรื่องอาหารญี่ปุ่น รับส่วนลดพิเศษกว่า 50% (เฉพาะเมนูและสาขาที่ร่วมรายการ), รับส่วนลดพิเศษ 100 บาท ทั้งบุฟเฟต์และอะลาคาร์ท หรือรับฟรีเมนูพิเศษ เกี๊ยวซ่าทอด (จากร้าน โออิชิ ราเมน) หรือกุ้งเทมปุระ (จากร้าน คาคาชิ) ให้ลูกค้าได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่ต้องไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่น

“AIS Serenade พร้อมขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทุกท่าน เดินหน้าออกแบบสิทธิพิเศษใหม่ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคนสำคัญ เพื่อสร้างความประทับใจและก้าวเข้าไปอยู่ในหัวใจของลูกค้า เพราะความสุขและรอยยิ้มของท่าน เป็นพลังให้เราเดินหน้าสร้างความพิเศษต่อไป” นางสาวลิตา กล่าวทิ้งท้าย

ลูกค้า AIS Serenade สามารถดูรายละเอียดการรับสิทธิ์ได้ที่ www.ais.th/serenade และแอปพลิเคชัน myAIS เริ่มรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 กรกฎาคม 2566 นี้

เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมบรรยายพิเศษ “โครงการอบรมหลักสูตร YEC Connect สัญจร ปี 2566 ภาคใต้” สอดคล้องนโยบาย ESG

0

เมืองไทยประกันชีวิต สนับสนุนกิจกรรมหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมบรรยายพิเศษ “โครงการอบรมหลักสูตร YEC Connect สัญจร ปี 2566 ภาคใต้” สอดคล้องนโยบายบริษัทฯ ด้าน ESG ในการส่งต่อความสุขสู่สังคมอย่างครบถ้วนทุกมิติ

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ เปิดเผยว่า ในปี 2566 ยังคงมุ่งเน้นในการอยู่เคียงข้างสร้างรอยยิ้มแก่คนไทยครบ 72 ปี พร้อมกำหนดทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัทฯ ด้วยการตั้งเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง…ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต โดยตั้งเป้าหมายเป็นอันดับหนึ่งในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ (No.1 Most Trusted Life & Health Partner) ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกๆคน (Democratizing Insurance) โดยบริษัทฯ มุ่งดำเนินงานผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ บุคลากร (People) พาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) ลูกค้า (Customers) และ นอกเหนือจากลูกค้า (Beyond Our Customers)

ล่าสุด บริษัทฯ ดำเนินงานผ่านแกนสำคัญคือพาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) ด้วยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โอกาสที่ปี 2566 เป็นปีที่หอการค้าไทยครบรอบ 90 ปีแห่งการก่อตั้ง ซึ่งหนึ่งในการสนับสนุนนี้มีกิจกรรมที่สำคัญเพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของไทยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ “โครงการอบรมหลักสูตร YEC Connect สัญจร ปี 2566” เพื่อเป็นการเชื่อมโยงการทำงาน ภาครัฐ เอกชน และประชาชน การส่งเสริมด้านการแข่งขันเพื่อมุ่งเน้นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และ Sustainable มุ่งสู่องค์กรที่ยั่งยืน เพื่อเศรษฐกิจไทยที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ นายสาระได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ “CEO New Gen Sharing YEC” จังหวัดตรัง โดยการสนับสนุนกิจกรรมด้านพัฒนาคุณภาพบุคลากรนี้เพื่อให้ตอบรับกับนโยบายและเป้าหมายของบริษัทฯ ด้าน ESG ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ เพื่อปลูกฝังค่านิยมในการมีจิตสาธารณะ โดยมีการจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่สังคมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้เป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในต่างจังหวัดซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานในรูปแบบต่างๆ นับตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทฯ รวมถึงการส่งต่อความสุขสู่สังคมอย่างครบถ้วนทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม ด้านธรรมาภิบาล และด้านเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความสุขอย่างยั่งยืนกับทั้งบริษัทและสังคมโดยรวมต่อไป

การบรรยายพิเศษครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ให้ผู้เข้าอบรมที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในภาคใต้ ได้ทราบถึงวิธีคิด วิธีการทำงาน สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมและการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน รวมถึงในอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ความรู้ต่างๆ นั้นจะสามารถนำไปปรับใช้ในการต่อยอดธุรกิจให้มีความเข้มแข็งและมีพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแนวทาง Connect the dots ของหอการค้าไทยต่อไป โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมอบรมที่เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดจำนวนประมาณ 200 คน

“เมืองไทยประกันชีวิต เป็นตัวแทนของภาคเอกชน ที่มีความมุ่งมั่นในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และส่งมอบความสุขให้กับสังคมด้วยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมของพาร์ทเนอร์ โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรในทุกๆ มิติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะช่วยยกเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการเชื่อมต่อการส่งมอบความสุขไปยังลูกค้า ผ่านการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมกิจกรรมที่จะสามารถตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายสาระ กล่าว

ออมสิน จัดโปรฯเด็ด เกษียณแล้วเงินมีใช้ กับ “สินเชื่อสวัสดิการสำหรับข้าราชการบำนาญและลูกจ้างประจำ โดยใช้บำเหน็จตกทอดเป็นหลักประกัน”

0

??‍???‍ โปรโมชันดี ๆ แบบนี้รอช้าไม่ได้ เกษียณแล้วเงินมีใช้ อยากไปเที่ยวที่ไหน ต้องได้ไป กับสินเชื่อสวัสดิการสำหรับข้าราชการบำนาญและลูกจ้างประจำ โดยใช้บำเหน็จตกทอดเป็นหลักประกัน (ที่มีหนังสือรับรองสิทธิบำเหน็จตกทอด ที่ออกโดยกรมบัญชีกลาง/สำนักงานคลังจังหวัด)

?พิเศษสุด? สำหรับลูกค้ารายใหม่อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 พ.ค. 66 รับของสมนาคุณดังนี้
? วงเงินกู้ 200,001 – 499,999 บาท รับฟรี กระเป๋าพับได้ GSB (มูลค่าใบละ 99 บาท) จำนวน 1 ใบ (จำกัด 500 รายแรก)
⛱️ วงเงินกู้ 500,000 – 999,999 บาท รับฟรี ร่มไม้เท้า GSB (มูลค่าคันละ 250 บาท) จำนวน 1 คัน (จำกัด 200 รายแรก)
⏲️ วงเงินกู้ 1 ล้านบาท ขึ้นไป รับฟรี เครื่องชั่งน้ำหนักวัดดัชนีมวลกาย (มูลค่าเครื่องละ 1,200 บาท) จำนวน 1 เครื่อง (จำกัด 250 รายแรก)

คุณสมบัติผู้กู้

  • เป็นข้าราชการบำนาญ ที่ได้รับหนังสือรับรองสิทธิบำเหน็จตกทอด ที่ออกให้โดยกรมบัญชีกลาง/สำนักงานคลังจังหวัด หรือ เป็นลูกจ้างประจำ ที่ได้รับหนังสือรับรองสิทธิบำเหน็จตกทอดของผู้รับบำเหน็จรายเดือนที่ ออกให้โดยกรมบัญชีกลาง/สำนักงานคลังจังหวัด
  • เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่แน่นอน สามารถติดต่อได้
  • เป็นผู้ฝากเงินประเภทเผื่อเรียกของธนาคาร

หลักประกัน จำนวนเงินบำเหน็จตกทอดตามหนังสือรับรองสิทธิที่ออกโดยกรมบัญชีกลาง/สำนักงานคลังจังหวัด โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้

  • เป็นของผู้กู้
  • เป็นหนังสือรับรองสิทธิบำเหน็จตกทอดเพื่อใช้เป็นหลักประกันการกู้เงินฉบับจริง

✅️ อัตราดอกเบี้ย 4.240% ต่อปี (MRR-2.505%)
✅️ วงเงินกู้สูงสุด 100% ของวงเงินบำเหน็จตกทอด
✅️ ฟรี ค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ
⏰ ระยะเวลาโปรโมชันอัตราดอกเบี้ย ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธ.ค. 66

? สนใจติดต่อธนาคารออมสินทุกสาขา

รายละเอียดเพิ่มเติม > https://bit.ly/431QLUh
? เงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ?

CPF ยืนหนึ่ง! ผู้นำนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 ก้าวสู่ ‘ศูนย์กลางด้านอาหารของโลก’

0

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดย บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS ร่วมแสดงนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพระดับโลก ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 ตอบโจทย์เทรนด์การบริโภคอย่างยั่งยืนในอนาคต ภายใต้แนวคิด “RE-IMAGINE THE FUTURE FOOD” โดยปีนี้ ไส้กรอกอกไก่พริกไทยดำ “CP FI-IT” (ฟิ-อิต) สามารถคว้ารางวัล “สุดยอดนวัตกรรมอาหาร” หรือ THAIFEX – Anuga Taste Innovation Show 2023 ขณะเดียวกัน ยังได้รับรางวัล “สุดยอดรสชาติอาหารระดับโลก ประจำปี 2023” หรือ Superior Taste Award 2023 จากสถาบันชั้นนำของโลก International Taste Institute ประเทศเบลเยี่ยม

นายสุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ CPFGS กล่าวว่า CPFGS หนึ่งในผู้นำด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหาร รวมถึงกิจการร้านอาหาร ธุรกิจขนมสัตว์เลี้ยง และเป็นช่องทางให้บริการด้านอาหารแบบครบวงจร (Food Solutions) เพื่อคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้อาหารแต่ละคำที่รับประทานมีคุณค่ามากกว่าอาหารทั่วไป พร้อมทั้งดูแลสุขภาพเชิงรุกแก่ประชากรโลก ครั้งนี้ได้นำผลิตภัณฑ์นำเข้าและส่งออกแบรนด์ต่างๆ ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่สด รวมถึงอาหารพร้อมรับประทานหลากหลายเมนู เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และกลุ่มเครื่องปรุงรสจากซีพี มาจัดแสดงต่อคู่ค้า พันธมิตร และจำหน่ายแก่ผู้บริโภค มุ่งสู่การบริโภคอย่างยั่งยืน ตาม 3 เสาหลัก ได้แก่ นวัตกรรม (INNOVATION) สุขภาพ (WELLNESS) และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโลก (PLANET) เพื่อก้าวสู่ “ศูนย์กลางด้านอาหารของโลก”

สำหรับ เสาหลักด้านนวัตกรรม (INNOVATION) CPFGS เชื่อว่า อาหารที่ดีคือการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดี อย่าง ไส้กรอกอกไก่พริกไทยดำ แบรนด์ CP FI-IT เป็นการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อาหารที่ทันสมัยผนวกกับหลักโภชนาการที่ถูกต้อง คัดสรรเนื้ออกไก่คุณภาพเป็นวัตถุดิบหลัก ให้โปรตีนสูง เทียบเท่ากับไข่ขาว 5 ฟอง ไขมันและโซเดียมลดลง รวมถึง MEAT ZERO ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช 100% ด้วยนวัตกรรม Plant-Tec เทคนิคการสร้างรสสัมผัสเสมือนเนื้อสัตว์จริง

ด้านสุขภาพ (WELLNESS) บริษัทฯ ให้ความใส่ใจต่ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค ตามแนวคิด “กินอาหารให้เป็นยา” ด้วยการเพิ่มสารอาหารจากธรรมชาติ อาทิ นวัตกรรมโปรไบโอติก พลัส เสริมภูมิคุ้มกันให้สัตว์แข็งแรงตามธรรมชาติ 100% ปลอดสาร ปลอดภัย ยกระดับความปลอดภัยของเนื้อไก่ เนื้อหมู และไข่สด “CP SELECTION” พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ กลุ่มอาหารทางการแพทย์ แบรนด์ INNOWENESS “นูทริแม็กซ์” (Nutrimax) ซุปไก่ผสมฟักทองและไข่ ที่พัฒนาสูตรร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ มีโปรตีนจากอกไก่และไข่ อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ 20 ชนิด และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ไฟโต เพียวเร่” (Fito Puree) น้ำผักและผลไม้รวมผสมวิตามิน มีสารอาหารกลุ่มไฟโตนิวเทรียท์ จากผักผลไม้ 5 สี 26 ชนิด มีวิตามินเอ ซี อี ดี และไฟเบอร์จากธรรมชาติ

นอกจากนี้ CPFGS ยังนำผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (PLANET) โดยให้ความสำคัญกับการส่งมอบอาหารคาร์บอนต่ำมากกว่า 800 รายการ รวมทั้งการใช้บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน มาจากกระบวนการผลิตที่ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100% และใช้วัตถุดิบที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมุ่งสู่เป้าหมาย Net-Zero ปี 2050

CPFGS สนับสนุนให้ผู้บริโภคทั่วโลกเข้าถึงอาหารคุณภาพปลอดภัยควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับเอเชีย THAIFEX – Anuga Asia 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2566 โดยวันที่ 23-26 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. เปิดให้คู่ค้าและพันธมิตรด้านอาหารจากทั่วโลกร่วมเจรจาธุรกิจ และวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. บริษัทฯ จะนำสินค้าคุณภาพดีมาวางจำหน่ายในราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชันจัดเต็มแก่ประชาชนทั่วไป ที่บูธ CPF หมายเลข S01-S15 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 ศูนย์การค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี

“แค่มีบ้าน ทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่ายๆ” ด้วยสินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน

0

“บ้าน” เป็นสินทรัพย์ที่คนจำนวนมากอยากเป็นเจ้าของ หลายคนฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อวางรากฐานให้กับตัวเอง หรือ เริ่มต้นชีวิตครอบครัว  

มีคนจำนวนไม่น้อยต้องทำงานหนัก และใช้เวลาหลายปี เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของสมบัติชิ้นนี้  นอกจากจะเป็นภาคภูมิใจในตัวเอง  และความมั่งคงด้านชีวิตความเป็นอยู่แล้ว การมีบ้านเป็นของตัวเอง ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงด้านการเงินด้วย เพราะ บ้าน นับเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้น เช่นเดียวกับ ห้องชุดคอนโดมีเนียม, ที่ดิน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเงินของทุกคนนั้น สามารถเกิดวิกฤตขึ้นได้โดยมีสัญญาณเตือนล่วงหน้า และเมื่อถึงเวลาต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเงิน  สินทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย คือ “บ้าน” ก็ยังเป็นทางออกให้กับเจ้าของ ช่วยให้ผ่านพ้นปัญหาด้านการเงินไปได้    สามารถกล่าวได้ว่า แค่มีบ้าน ทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่ายๆ” 

“ธนาคารออมสิน” เข้าใจ และตระหนักดีถึงปัญหาการเงินที่หลายคนต้องเผชิญ จึงออกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน “สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน” ช่วยตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีความจำเป็น ต้องการใช้เงิน

“สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน”เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ ที่จะเปลี่ยน “บ้าน” ให้เป็น “เงิน” สำหรับไว้เป็นค่าใช้จ่ายอเนกประสงค์ เช่น เพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น (ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการอุปโภคบริโภค) ตลอดจนเพื่อนำไปชำระหนี้สินรายย่อยประเภทอื่น โดยที่ “บ้านยังอยู่” เจ้าของและสมาชิกในบ้าน ยังสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในบ้านอย่างปกติสุขได้เช่นเดิม

จุดเด่นของสินเชื่อนี้ คือ ให้วงเงินสูงสุดถึง 10 ล้านบาท  กำหนดระยะเวลาผ่อนนานสูงสุดถึง 30 ปี   นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนต่ำแสนละ 399 บาท/เดือน นาน 3 เดือนแรก  และอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ต่อปี (3 เดือนเเรก)

“สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน” พร้อมแล้วสำหรับผู้สนใจและมีคุณสมบัติดังนี้ คือ

  1. เป็นบุคคลที่มีอาชีพและรายได้แน่นอน
  2. มีอายุครบ 20 ปีขึ้นไป 
  3. กรณีเป็นผู้มีรายได้ประจำ เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ ต้องไม่เกิน 65 ปี และต้องมีอายุงานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หรือกรณีผู้ประกอบอาชีพอิสระ/เจ้าของกิจการ เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ ต้องไม่เกิน 70 ปี และต้องดำเนินกิจการมาแล้วตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป

สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ https://bit.ly/3m2pJfn

ผู้สนใจตรวจสอบคุณสมบัติ และจัดเตรียมเอกสารประกอบการกู้ยืมให้ครบถ้วน แล้วยื่นสมัครสินเชื่อได้เลยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 โดยสามารถสมัครทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน หรือติดต่อที่ธนาคารออมสินได้ทุกสาขา

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือ GSB Contact Center โทร. 1115 และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.gsb.or.th และ Facebook: GSB Society

#สินเชื่อบ้านแลกเงิน #บ้านยังอยู่

รู้เก็บรู้ออม : รอรัฐบาลใหม่

0

ผ่านไปแล้วสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งล่าสุด 14 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการเลือกตั้งครั้งที่คนไทยให้ความสำคัญ และมีความตื่นตัวทางการเมืองอย่างมาก ส่วนผลการเลือกตั้ง คนที่รัก และพรรคที่ชอบ จะเป็นคนไหน พรรคอะไร จนถึงตอนนี้ ทุกคนก็ได้ทราบกันแล้ว

สำหรับนักลงทุนตอนนี้ก็คงต้องจับตา เฝ้าติดตามเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อย่างใจจดใจจ่อ ว่าจะมีพรรคการเมืองใดเข้าร่วมรัฐบาล จะใช้ระยะเวลานานเท่าไรในการจัดตั้ง และผ่านไปได้ด้วยดีหรือไม่

เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า การเมืองเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อการลงทุน การเลือกตั้งย่อมมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น ตลอดจนบรรยากาศการลงทุน

จากผลการศึกษาผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยช่วงก่อนและหลังวันเลือกตั้ง พบว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้นและหุ้นรายกลุ่มอุตสาหกรรมก่อนและหลังเลือกตั้งมีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจพอสมควร ดังนั้น หากนักลงทุนสามารถวางกลยุทธ์ลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ อาจสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่น่าประทับใจ

ผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยช่วงก่อนและหลังวันเลือกตั้งที่ดีที่สุดในปี 2544-2562 พบว่า ดัชนีหุ้นไทยมักให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งเฉลี่ย 3.90% รองลงมาได้แก่ ก่อนเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.09% ขณะที่หลังการเลือกตั้งไปแล้ว 1 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.81% และหลังการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.55%

หุ้นกลุ่มที่มักจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดโดยรวมในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มไอซีที สื่อและสิ่งพิมพ์ พาณิชย์ อาหารและเครื่องดื่ม เงินทุนและหลักทรัพย์ โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 9.40%, 7.80%, 6.40%, 5.50% และ 5.20% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาปัจจัยอื่นที่อาจกดดันบรรยากาศการลงทุนร่วมด้วย เช่น ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน นโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือปัจจัยภายนอกที่ถ่วงเศรษฐกิจโลก นักลงทุนควรเลือกหุ้นอย่างพิถีพิถัน เน้นหุ้นปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งที่ราคายังปรับขึ้นไม่มาก

ส่วนหลังการเลือกตั้ง ตลาดหุ้นจะมีความเคลื่อนไหว และปฏิกิริยาอย่างไรนั้น จะเห็นภาพชัดขึ้นก็ต้องรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้นว่าจะเป็นอย่างไร และมีเสถียรภาพมากน้อยแค่ไหนเสียก่อน

จนถึงตอนนี้ นักลงทุนคงกำลังรอฟังแนวคิดผู้นำคนใหม่ และนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อจะได้นำไปวางกลยุทธ์ และปรับแนวทางการลงทุนให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

ช่วงรอรัฐบาลใหม่ “คุณนายพารวย” อยากชวนให้นักลงทุนและผู้สนใจ มาเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องแนวทางการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการลงทุนรายกลุ่มอุตสาหกรรม เจาะลึกเทคนิคการจับจังหวะเปลี่ยนกลุ่มลงทุน ไว้เพิ่มโอกาสทำกำไรจากการลงทุน โดยเรียนฟรี ผ่าน e-Learning หลักสูตร “Sector Rotation” ที่นี่ https://elearning.set.or.th/SETGroup/courses/376/info

คุณนายพารวย

ที่มา คอลัมน์ "รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง"  หน้าเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

อยากลงทุนมางานนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร จ.ชลบุรี “เดินหน้าหาโอกาส ในตลาดหุ้นไทย”

0

อยากลงทุนให้มางานนี้

ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร ชวนชาวชลบุรี และใกล้เคียง “เดินหน้าหาโอกาส ในตลาดหุ้นไทย”

ลงทะเบียนล่วงหน้า รับสิทธิพิเศษ ที่ลิงค์นี้
https://forms.office.com/r/vMvafNYGSH

เสาร์ที่ 27 พ.ค. 66 เวลา 09:00 -17:00 น. โรงแรมโนโวเทล มารีน่า ศรีราชา จ.ชลบุรี

งานเดียวครบ อัดแน่นเต็มวัน มากันได้ตลอด !!!!
เหมาะกับทุกคน เพียงสนใจลงทุน
พบสัมมนา เสวนา จากนักลงทุน นักวิเคราะห์ ชั้นนำ

อธิป กีรติพิชญ์ เพจนิ้วโป้ง Fundamental VI
“เทคนิคลงทุนแบบมือใหม่”
โอกาสสร้างผลตอบแทนในหุ้น ฉบับ VI
เริ่มง่าย ทำได้จริง เงินล้านสร้างได้ พบวิธีออม-ลงทุนให้ถึงเป้าหมาย

สมเกียรติ สุขเสรีกุล เพจ iSalaryman
จากมนุษย์เงินเดือนที่ผันตัวเองมาเป็นผู้ลงทุน
ไม่ตกเทรนด์กับเครื่องมือโดนใจ แนะการใช้งานแบบ Step to Step

เฟิร์น ศิรัถยา อิศรภักดี เพจ Wealth Me Up
เจ้าของแนวคิด “ใช้แรงทำเงิน ให้เงินทำงาน”

สร้างพอร์ตตามสไตล์ ให้เหมาะกับตัวเอง เริ่มแบบไหน

ลงทุนเท่าไหร่ ในอะไร ทำความรู้จักสินค้าใหม่น่าลงทุน

ห้ามพลาดกิจกรรม
+เจาะหุ้นเด็ดมือใหม่ หุ้นธีมเด่น ปันผลดี หุ้นเมกะเทรนด์ หุ้นยั่งยืน หุ้นเติบโตรับ EEC ใน Investment Game Show
+20 บูธโบรกเกอร์ บริการเปิดบัญชี ฟรีโปรโมชั่นมากมาย

CPF ขับเคลื่อนพันธกิจ”รักษ์โลก” 22 พ.ค. วันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ

0
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความยั่งยืน และร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายประชาคมโลกในการปกป้อง ฟื้นฟู และลดภัยคุกคามต่อการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ สอดคล้องตามแนวทาง SDGs แห่งสหประชาชาติ และกรอบความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกคุนหมิง-มอนทรีออล เดินหน้าบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 22 พฤษภาคมของทุกปี เป็น “วันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ” หรือ International Day for Biological Diversity ซึ่งปี 2023 กำหนดแนวทางจากข้อตกลงสู่การลงมือปฏิบัติ ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ (From Agreement to Action: Build Back Biodiversity)เป็นการต่อยอดจากผลลัพธ์จากการยอมรับกรอบความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกคุนหมิง-มอนทรีออล ในการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพครั้งที่ 15 (COP 15) ซึ่งประเทศไทยมีส่วนร่วมกับเป้าหมายในระดับโลก ด้วยการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการปกป้องและดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ เช่นเดียวกับภาคเอกชนอย่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร ที่ตระหนักและให้ความสำคัญเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพตลอดห่วงโซ่การผลิตต้นน้ำถึงปลายน้ำ

นายสุธี สมุทระประภูต ผู้อำนวยการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและปกป้องฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ หน่วยงานความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร ได้ประกาศเป้าหมายสู่ความยั่งยืน CPF 2030 Sustainability in Action กระตุ้นการลงมือทำอย่างจริงจังในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญปัจจัยท้าทายดังกล่าว ซีพีเอฟได้กำหนดให้ประเด็นด้านความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ เป็น 1 ใน 7 หัวข้อหลักด้านความยั่งยืนที่ต้องให้ความสำคัญ สอดคล้องกับแนวทาง SDGs (Sustainability Development Goals : SDGs)ของสหประชาชาติ

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนกรอบความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกคุนหมิง-มอนทรีออล ทั้งการลดภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ฟื้นฟูและเพิ่มพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ อาทิ ได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์มุ่งมั่นบริหารจัดการ กำหนดนโยบายและใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการปกป้องคุ้มครองพื้นที่บนบกและทะเลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในปี ค.ศ. 2030 จากปัจจุบันที่ไทยมีพื้นที่คุ้มครองทางทะเล 5-7% ทางบก 15 % ซีพีเอฟดำเนินโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในฟาร์มและโรงงานกว่า 5,000 ไร่ โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ “ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง” ที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี กว่า 7,000 ไร่ และโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน “ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” กว่า 2,700 ไร่ ใน และดำเนินโครงการ Restore The Ocean เพื่อลดขยะพลาสติกซึ่งเป็นมลพิษต่อระบบนิเวศทางทะเล เป็นต้น

นอกจากนี้ มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการใช้ประโยชน์และแบ่งปันผลประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน ผ่านการดำเนินโครงการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน อาทิ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่ชุมชน ต่อยอดจากโครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ที่ตำบลบางหญ้าแพรก จังหวัดสมุทรสาคร และ ตำบลปากน้ำประแส จังหวัดระยอง การสร้างแหล่งอาหารที่ปลอดภัยและจัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ผักพื้นบ้านตามวิถีธรรมชาติ ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ ต่อยอดจากโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ซึ่งทุกโครงการสามารถวัดผลสัมฤทธิ์ทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต สร้างผลกระทบเชิงบวกทางสังคม

“ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นเรื่องที่มีผลกระทบในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ของเราทุกคน ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน และเร่งลงมือทำเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ” ผอ.ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและปกป้องฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ ซีพีเอฟ กล่าว

ซีพีเอฟ ยังได้สนับสนุนและดำเนินงานด้านการปกป้องและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพสอดคล้องกับกรอบคุนหมิง-มอนทรีออล(Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework) ว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก มุ่งเน้นสร้างสมดุลในการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง BCG Model โดยข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพ อาทิ เปิดเผยข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพสอดคล้องตาม GRI-Standard และดัชนีชี้วัดต่างๆ สนับสนุนข้อมูลความหลากหลายของชนิดพันธุ์พืช สัตว์ นก ผีเสื้อ เห็ด ในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า และสนับสนุนงานวิจัยการกักเก็บน้ำในดินจากโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่า เป็นต้น