Home Blog Page 15

เอไอเอส พร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่และประชาชนในสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เดินหน้าภารกิจเครือข่ายเคียงข้างคนไทย

0

เอไอเอสขอส่งความห่วงใยและกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา สนับสนุนระบบสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง โดยให้ลูกค้าเอไอเอสที่โรมมิ่งอยู่ในกัมพูชาสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ฟรี ดังนี้

  • สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทร. +855 975 749 682
  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทร. +855 8660 8999
  • AIS Call Center โทร. +66 2 078 9000 (ให้บริการ 24 ชั่วโมง)

ระหว่างวันที่ 24 – 31 กรกฎาคม 2568

พร้อมทั้ง ระดมพนักงานเอไอเอส อุ่นใจอาสาร่วมแรงร่วมใจ จัดเตรียมถุงยังชีพ เพื่อส่งมอบให้ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ เป็นอีกหนึ่งพลังเล็ก ๆ ที่สะท้อนเจตนารมณ์ขององค์กรในการยืนหยัดเคียงข้างสังคมในยามเกิดวิกฤต

ที่ประชุมวิสามัญสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติเลือกตั้ง 2 กรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ

0

เนื่องจากกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สมาชิกเลือกตั้งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 จำนวน 2 ท่าน ได้แก่ นายธิติ ตันติกุลานันท์ และนายศุภโชค ศุภบัณฑิต ดังนั้น ในการประชุมวิสามัญสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่ประชุมจึงได้มีมติเลือก นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และ นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ให้เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ รายใหม่ โดยทั้ง 2 ท่านจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

สำหรับรายชื่อกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งหมด 11 ท่าน ที่จะปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ได้แก่ (เรียงลำดับตามตัวอักษร)

  1. นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์
  2. นายคมกฤช เกียรติดุริยกุล
  3. ม.ล. ทองมกุฎ ทองใหญ่
  4. นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ
  5. นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย
  6. นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม
  7. นายไพบูลย์ นลินทรางกูร
  8. นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์
  9. นายวราห์ สุจริตกุล
  10. นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์
  11. นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมความรู้ความมั่นคงทางไซเบอร์ให้แก่บริษัทจดทะเบียน

0

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงาน ก.ล.ต. จัดสัมมนา “IT VISION 2025 : AI x Cyber Security : Smart Defense Against Cyber Threats” ให้แก่บุคลากรสายงาน IT ของบริษัทจดทะเบียน เพื่ออัปเดตความรู้และแนวทางรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี ถิรพันธุ์ สรรพกิจ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ จอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วย พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ อรพร ตั้งศรีวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านความปลอดภัยไซเบอร์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และ วรนล เวชมณีศรี Splunk Senior Sales Engineer บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นวิทยากรให้ข้อมูล โดยสัมมนาจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ มีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าฟังกว่า 360 คน

AIS เดินหน้าภารกิจจัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณถนนงามวงศ์วาน

0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ สำนักงาน กสทช. ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร, การไฟฟ้านครหลวง และสมาคมโทรคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณถนนงามวงศ์วาน ทั้งบริเวณแยกแครายจนถึงถนนวิภาวดี เมื่อวันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2568 นั้น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ได้ส่งทีมวิศวกร ลงพื้นที่ดำเนินงานตามแผนจัดระเบียบสายสื่อสาร เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเล็งเห็นถึงผลประโยชน์เรื่องของความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุของประชาชนเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างทัศนียภาพที่ดีให้กับพื้นที่อีกด้วย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดสัญจร หาดใหญ่ 2 ส.ค. นี้ ยกทัพกูรูนักวิเคราะห์เดินสายให้ข้อมูลผู้ลงทุน

0

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินสายจัด “ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร หาดใหญ่” ยกทัพนักวิเคราะห์ นักลงทุน กูรูผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูล อัปเดตสถานการณ์ แลกเปลี่ยนมุมมอง พร้อมแนะแนวทางลงทุนครบวงจร ทั้งหุ้นไทย หุ้นนอก ฟิวเจอร์ส ออปชัน เหมาะทั้งกับมือใหม่และมือโปร ด้วยเนื้อหาจัดเต็มตลอดวันกับสัมมนาถึง 4 หัวข้อ ได้แก่ “ลงทุนต้องรู้.. เปิดเคล็ด(ไม่)ลับ ฉบับมือใหม่”  “สแกนตลาด จัดพอร์ตหุ้นไทย vs หุ้นนอก”  “เจาะกลยุทธ์ VI ทำกำไรช่วงวิกฤติ” และ “ลงทุนให้รอด เสริมพอร์ตด้วยฟิวเจอร์ส vs ออปชัน” พร้อมอัปสกิลเทรด เรียนรู้ทางเลือก เครื่องมือยุคใหม่ หาไอเดียเทรดวางแผนการลงทุน รับคำปรึกษาจากกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ชั้นนำ เข้าร่วมสัมมนาฟรี! มีโปรโมชันมากมายภายในงาน ชวนเพื่อนพี่น้องชาวใต้ แล้วมาเจอกัน!

พบกันวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568 เวลา 9:00-17:00 น. ณ ห้อง Grand Ballroom โรงแรมบุรีศรีภู หาดใหญ่ จ. สงขลา ลงทะเบียนล่วงหน้า ที่ www.setinvestnow.com/th/set-road-show-hatyai-2025 รับฟรี! Gift Set กระเป๋า #investnow และ หนังสือ #WealthDesign

นอกจากนี้ ยังมีสัมมนาสำหรับผู้ประกอบการ หัวข้อ “ฝ่าวิกฤต คว้าโอกาสให้ธุรกิจ เอาชนะค่าเงินผันผวนด้วย TFEX” รับฟังมุมมองเศรษฐกิจ-การค้า-ค่าเงิน แบบเจาะลึก วิเคราะห์ความเสี่ยง โอกาส และความท้าทายที่ธุรกิจต้องเผชิญ พร้อมเรียนรู้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน “TFEX Currency Futures” ที่จะช่วยเสริมแกร่งให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออก พบกันวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 12.00-16.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทารา หาดใหญ่ จ. สงขลา ดูรายละเอียดที่ www.TFEX.co.th สอบถาม 0 2009 9999

กรุงไทย-แอกซ่า ออกหนังสือชี้แจง พร้อมยกเลิกจดหมายที่ส่งให้ลูกค้าแจ้งเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและปรับเพิ่มเบี้ยประกัน

0

บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือชี้แจงกรณีการบริหารจัดการธุรกิจประกันสุขภาพ มีเนื้อหาดังนี้ ตามที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการส่งจดหมายให้กับลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพส่วนหนึ่งแล้วนั้น จากกระแสตอบรับและข้อเสนอแนะจากหลายฝ่าย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ ได้มีการทบทวนการบริหารจัดการธุรกิจประกันสุขภาพ และเงื่อนไขการมีส่วนร่วมจ่าย (Co-Payment) และการปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยนั้น

บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า กลุ่มลูกค้าประกันสุขภาพที่มีอัตราการเคลมสินไหมในโรคทั่วไปที่สูงกว่าปกติ และได้รับจดหมายก่อนหน้านี้ ทางบริษัทฯ ขอยกเลิกจดหมายแจ้งข้อเสนอในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขข้อตกลงความคุ้มครอง และจดหมายแจ้งปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยฉบับดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้พิจารณามอบสิทธิประโยชน์พิเศษตามเงื่อนไขของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่

– ส่วนลดเบี้ยประกันสุขภาพ 10% ในปีกรมธรรม์ถัดไป หากไม่มีการเคลมสินไหม โดยไม่นับรวมการตรวจสุขภาพประจำปี และการฉีดวัคซีน

– ปรับเพิ่มสถานะสิทธิ์พิเศษในโครงการ Privilege Plus+ อีกหนึ่งระดับ

สำหรับลูกค้าทุกท่าน ที่ได้รับจดหมายแจ้ง หรือชำระเบี้ยประกันมาก่อนหน้านี้ บริษัทฯ จะดำเนินการปรับเบี้ยและคืนส่วนต่างให้กับลูกค้าในกรณีที่ชำระเบี้ยเกินในลำดับต่อไป รวมถึงคงเงื่อนไขและได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษตามที่ระบุไว้ข้างต้น

อนึ่ง จากกรณีที่มีการกล่าวอ้างในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องนั้น ทางบริษัทฯ ขอชี้แจง และให้ข้อมูลดังนี้

1.จำนวนผู้ถือกรมธรรม์ที่ได้รับจดหมายข้างต้น ณ ขณะนี้ มีจำนวนเพียงหลักพันกรมธรรม์เท่านั้น ดังนั้นตามที่ได้มีการกล่าวอ้างในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีจำนวนหลักแสนนั้น จึงไม่เป็นความจริง

2.บริษัทฯ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเพจ หรือแอดมินของเพจ รวมถึงบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ส่วนตัว ดังนั้นบริษัทฯ ไม่มีนโยบาย และไม่สามารถลบโพสต์ หรือปิดกั้นข้อความความคิดเห็นของลูกค้าหรือสาธารณชนได้

3.ตามที่ได้มีการกล่าวอ้างเรื่องที่บริษัทฯ ยกเลิกกรมธรรม์ ละทิ้งลูกค้าที่ป่วยจากโรคร้ายแรง และอยู่ในระหว่างการรักษา หรือเคยมีประวัติการรักษาโรคร้ายแรง (50 โรค) โรคเรื้อรัง การผ่าตัดใหญ่จากอุบัติเหตุ และหัตถการที่ทำครั้งเดียวนั้น บริษัทฯ ขอยืนยันว่า การกล่าวอ้างข้างต้นไม่เป็นความจริง

4.บริษัทฯ ตรวจสอบและติดตามในสื่อสังคมออนไลน์ และสื่อต่างๆ อย่างใกล้ชิด หากมีการกระทำที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย บริษัทฯ จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันในการดำเนินธุรกิจบนหลักธรรมาภิบาล และดำรงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ และขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจบริษัทฯ เสมอมา

สำหรับลูกค้าที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรมธรรม์ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1159

คปภ. เรียกบ.ประกันภัยเข้าชี้แจง กรณีปัญหาการปรับเบี้ยประกันภัย หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขความคุ้มครอง ย้ำต้องไม่กระทบสิทธิผู้เอาประกัน

0

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข้อร้องเรียนจากประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัยของแบบประกันสุขภาพ และผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้เอาประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย ได้ติดตามและตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด

 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) สั่งการให้ นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ และ นายอาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการ ด้านกำกับธุรกิจประกันภัย มีคำสั่งให้ บริษัทผู้เสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพดังกล่าว เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ได้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์แนวทางบริหารความเสี่ยง การบริหารค่าสินไหมทดแทน และจำนวนผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว รวมถึงแนวทางการสื่อสารกับผู้เอาประกันภัยในประเด็นการปรับแผนความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัย

โดยสำนักงาน คปภ. กำชับให้บริษัทหยุดการดำเนินงานที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เป็นอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งได้ให้ข้อสังเกตในประเด็นสำคัญ อาทิ ความชัดเจนและความเหมาะสมของข้อมูลในขั้นตอนการเสนอขายผลิตภัณฑ์ การพิจารณาเบี้ยประกันภัยให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยง ตลอดจนการบริหารจัดการความคาดหวังของผู้เอาประกันภัยในกลุ่มที่มีทุนประกันภัยสูง รวมถึงผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของบริษัทภายใต้ระบบ Early Warning System (EWS) พร้อมกำชับให้บริษัทฯ ต้องจัดทำและนำส่งแผนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมระบุเป้าหมายในการลดจำนวนข้อร้องเรียน โดยให้คณะกรรมการผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทเป็นผู้ลงนามรับรอง และแจ้งผลการดำเนินการต่อสำนักงาน คปภ. ภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการในลำดับต่อไป

 และเน้นย้ำให้บริษัทประกันดำเนินการอย่างรวดเร็วและรอบคอบ โดยมิให้ผู้เอาประกันภัยได้รับผลกระทบจากกระบวนการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้

สำนักงาน คปภ. ขอให้ความมั่นใจว่า จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้วยความเป็นกลาง รอบคอบ และเคร่งครัด โดยยึดประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นหลักสูงสุด หากตรวจพบว่าบริษัทประกันภัยรายใดดำเนินการไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ สำนักงานจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเด็ดขาด เพื่อให้ระบบประกันภัยของประเทศยังคงมีเสถียรภาพ โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนในระยะยาว

เมืองไทยประกันชีวิต เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Fit Rewards” บนแอปฯ MTL Click แลกคะแนน Fit Point เป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัย

0

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต ยังคงเดินหน้าเพื่อตอกย้ำถึงเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบรอยยิ้มและความสุข พร้อมสร้างสังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่ “Fit Rewards” บนแอปพลิเคชัน MTL Click  เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพดี และมอบสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าคนสำคัญไปพร้อม ๆ กัน 

โดย “Fit Rewards” เป็นฟีเจอร์ใหม่บนแอปพลิเคชัน MTL Click  ที่เน้นส่งเสริมการดูแลสุขภาพ สามารถนำผลบันทึกจากการออกกำลังกายในกิจกรรมที่ทำได้เป็นประจำ ทั้งการสะสมก้าวเดิน การสะสมนาทีออกกำลังกาย และผลการตรวจสุขภาพ รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นคะแนน Fit Point  และนำมาแลกเป็นส่วนลดเบี้ยประกันปีต่ออายุได้โดยอัตโนมัติ สูงสุดถึง 15% (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด)

ทั้งนี้ ผู้สมัคร Fit Rewards เพื่อรับส่วนลดเบี้ยประกันปีต่ออายุ เพียงเป็นผู้เอาประกันภัยที่ถือผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพหรือโรคร้ายแรงของเมืองไทยประกันชีวิตที่เข้าร่วมโครงการ  อาทิ สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส  สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ พลัส  สัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง ดี แคร์ สัญญาเพิ่มเติม แคร์ พลัส และสัญญาเพิ่มเติม ซีไอ เพอร์เฟค แคร์ เป็นต้น โดยมีมูลค่าเบี้ยรวมขั้นต่ำทั้งหมด เท่ากับ 2,000 บาทขึ้นไป ต่อผู้เอาประกันภัยแต่ละราย และมีอายุ 18 ปีขึ้นไป

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าใช้งานฟีเจอร์  Fit Rewards สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MTL Click  ฟรี ทั้งระบบปฏิบัติการ  iOS และ Android  หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน MTL Click อยู่แล้ว เพียงอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด  โดยมีวิธีเชื่อมต่ออุปกรณ์ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1  กดเข้าฟีเจอร์ Fit Rewards บนแอปพลิเคชัน MTL Click

ขั้นตอนที่ 2  กดเชื่อมต่ออุปกรณ์

ขั้นตอนที่ 3  กดเลือกอุปกรณ์ 

            ขั้นตอนที่ 4 เลือกยี่ห้ออุปกรณ์

– ผู้ที่มี Smartwatch ยี่ห้อที่รองรับ ได้แก่ Apple Watch Fitbit Garmin และ Suunto 

– ผู้ที่ไม่มี Smartwatch เชื่อมต่อผ่านทาง  Apple Health สำหรับผู้ใช้งาน iOS หรือ Health Connect สำหรับผู้ใช้งาน Android

            ขั้นตอนที่ 5 เชื่อมต่อข้อมูล

โดยลูกค้าที่มีกรมธรรม์ที่เข้าร่วมโครงการ Fit Rewards (สถานะ Health User) จะสามารถนำ Fit Point มาแลกเป็นส่วนลดเบี้ยประกันปีต่ออายุได้ สำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์อื่นๆ นอกเหนือจากที่ร่วมโครงการ (สถานะ Insurance user) และ ผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่มีกรมธรรม์กับเมืองไทยประกันชีวิต (สถานะ Guest User) จะสามารถเปลี่ยน Fit Point ที่สะสมไว้มาแลกเป็นส่วนลดเบี้ยประกันปีต่ออายุได้ เมื่อซื้อกรมธรรม์ที่เข้าร่วมโครงการ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.muangthai.co.th/th/fitrewards หรือโทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง #MuangThaiLife

Restart ดอกเบี้ยใหม่ กับ สินเชื่อเคหะ Refinance จากออมสิน ดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก ตั้งแต่วันนี้ – 15 ต.ค. 68

0

ดอกเบี้ยบ้านลด อนาคตก็สดใส แค่ย้ายบ้านมาอยู่กับออมสิน กับสินเชื่อเคหะ Refinance

สำหรับวงเงินกู้สินเชื่อเคหะตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
✔️ รับอัตราดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 2.85% ต่อปี (กรณีเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบไม่สนับสนุนค่าจดจำนอง)
✔️ สนับสนุนค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ ตามที่จ่ายจริง ไม่เกินรายละ 5,000 บาท
✔️ สนับสนุนค่าจดจำนอง ตามที่จ่ายจริง ไม่เกินรายละ 30,000 บาท (กรณีเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบสนับสนุนค่าจดจำนอง)

ยื่นกู้ได้ตั้งแต่ 16 ก.ค. 68 – 15 ต.ค. 68 อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญา ภายใน 15 พ.ย. 68

  • ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.545% ต่อปี (ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป) ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น หรือลดลงได้
  • อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Rate) อยู่ระหว่าง 1.380% – 6.295% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา (EIR) กรณีวงเงินกู้สินเชื่อเคหะตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ระหว่าง 4.655% – 5.290% ต่อปี คำนวณจากวงเงินกู้ 1.5 ล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี แบบผ่อนชำระเท่ากันทุกงวด

สมัครขอสินเชื่อ คลิก >> https://to.gsb.or.th/q6751P6
หรือผ่าน MyMo
⚠️ รู้ก่อนกู้…กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
⚠️ เงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

AIS ผนึกกระทรวงเกษตรฯ เดินหน้า “คนไทยไร้ E-Waste” ปักหมุดจุดทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไทย ช่วยรักษาระบบนิเวศและเกษตรกรรมไทย

0

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” มุ่งสร้างความตระหนักรู้และขยายผลการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ด้วยการติดตั้งจุดรับทิ้ง E-Waste ในหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนและเกษตรกรเข้าถึงช่องทางการจัดการขยะ E-Waste ได้ง่ายขึ้น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ AIS ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการเกษตรที่เปราะบางต่อผลกระทบจากสารพิษ เช่น แคดเมียม ปรอท และตะกั่ว ซึ่งอาจปนเปื้อนในดิน น้ำ และอากาศ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพผลผลิตและสุขภาพของประชาชนในระยะยาว

“การขับเคลื่อนโครงการคนไทยไร้ E-Waste จึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงฯ รวมถึงประชาชนและเกษตรกรมีพฤติกรรมการจัดการขยะที่ถูกต้องและปลอดภัย” และโครงการดังกล่าว ยังมีความสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องของการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Go Green) และ BCG Model อีกด้วย นายประยูรกล่าว

ด้านนางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “AIS ยึดมั่นในบทบาทองค์กรที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืน โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านแนวคิดการจัดการทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ โดยตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมา โครงการคนไทยไร้ E-Waste ได้พัฒนาและขยายผลอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดยกระดับเป็น “AIS HUB of E-Waste” ศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย เราต้องการเปลี่ยนมุมมองของคนไทยที่มองว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นเรื่องไกลตัว เพราะในความจริง ขยะเหล่านี้มีผลกระทบลึกซึ้งต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตประจำวัน หากไม่จัดการอย่างถูกวิธี สารพิษในขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจย้อนกลับมาสร้างปัญหาทั้งในระบบนิเวศและปัจจัยการผลิตในอนาคต”

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะดำเนินการติดตั้งถังขยะ E-Waste ในหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 22 หน่วยงาน พร้อมขยายจุดรับทิ้งไปยังสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยยึดหลักการทิ้งอย่างถูกวิธีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์และสื่อสารสร้างความเข้าใจผ่านช่องทางต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรฯ และ AIS เพื่อปลุกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่ประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่อาจได้รับผลกระทบจากการสะสมของสารพิษในดินและน้ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตหรือคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร

ทั้งนี้ โครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” จึงไม่เพียงเป็นการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่อสร้างสังคมไทยที่มีความรู้ ความเข้าใจ และมีพฤติกรรมการจัดการขยะอย่างยั่งยืน อันจะนำไปสู่การลดคาร์บอนและมลพิษในภาพรวมของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม